หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1112 อึดอัดวางตัวไม่ถูก

แชร์

บทที่ 1112 อึดอัดวางตัวไม่ถูก

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-15 16:00:00
ซึ่งคนชุดดำสวมหน้ากากขนนกคืออินชิงเสวียน ที่กำลังสำรวจอิ๋นเฉิงในยามวิกาล

เดิมทีอยากจะมาหาเบาะแสที่ห้องตำรา แต่บังเอิญมาเจอฉากนี้

การที่ลูกสาวแอบฟังพ่อแท้ๆ อยู่ที่ข้างกำแพง ช่างเป็นสถานการณ์น่าอึดอัดวางตัวไม่ถูกมาก จนอินชิงเสวียนต้องรีบชิ่งหนีไปทันที

ความประทับใจของนางที่มีต่อเฮ่อยวนเปลี่ยนไปแล้ว แต่คราวนี้กลับตกต่ำลงอีกครั้ง

ฮูหยินของตัวเองอยู่ใกล้ๆ แต่ยังมีคลอเคลียพัวพันอยู่กับหญิงอื่น ไม่ใช่คนดีอะไรเลยจริงๆ

อินชิงเสวียนถ่มน้ำลายเงียบๆ และเหาะออกจากเรือนหลังเล็กไป

อิ๋นเฉิงไม่ตรวจตราเข้มงวดเท่ากับสำนักอื่น เหมือนจะเป็นสำนักที่อยู่กันอย่างสงบสุข

อินชิงเสวียนยืนอยู่บนหอคอยที่สูงที่สุดในอิ๋นเฉิง มองลงไปยังดินแดนเบื้องล่าง ครั้นเห็นแสงไฟค่อยๆ หรี่ดับลงทีละดวง ก็รู้สึกเหมือนได้กลับมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในวัยเด็ก

ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเมืองน่าผิดหวังมาก

ผู้ชายประเภทนี้ ไม่คู่ควรให้เหมยชิงเกอชอบจริงๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อดูสภาพในตอนนี้ของเหมยชิงเกอ นางก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเฮ่อยวนเช่นกัน บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเขา ก็ให้พวกเขาคลี่คลายเองก็แล้วกัน

ตอนนี้ยังสืบไม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1113 นวลนางสะคราญเอ๋ย

    ดวงตาของฉีอวิ๋นจื่อเป็นประกายไหววูบอีกครั้ง“ข้าออกมาจากตำหนักเทพนานแล้ว รู้ไม่มากนัก รู้แค่ว่าเขาเก่งในการบงการจิตใจคน ไม่ใช่คนมีเมตตา”อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“เรื่องเหล่านี้ยังไม่พอ ต้องมีหลักฐานเพียงพอที่จะโค่นล้มเขาลงได้”“ข้าอยากช่วยแต่ก็จนปัญญา ที่ข้ามาที่นี่ก็แค่เพื่อบอกเจ้าว่า ถ้าต้องการฆ่าเฮ่อยวน ช่วงนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ประเดี๋ยวคนอื่นจะมาพบเข้า ข้าอยู่นานไม่ได้ ต้องกลับไปก่อนแล้ว”หลังจากพูดจบฉีอวิ๋นจื่อก็เปิดประตูเดินออกไปอินชิงเสวียนไตร่ตรองถึงสีหน้าท่าทางที่หลากหลายของนางอย่างระมัดระวัง ฉีอวิ๋นจื่อน่าจะมีเรื่องปิดบังซ่อนเร้นมากมายคนผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือเท่ากับฉุยอวี้กับเฟิงเอ้อร์เหนียง และนอกจากนี้ ตัวเองก็ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม อินชิงเสวียนแค่นึกดูหมิ่นถิ่นแคลนพฤติกรรมของเฮ่อยวนเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นเกลียดชัง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือฆ่าเขาแม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะยืนอยู่ที่นี่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพ่อของตัวเอง ตอนนี้กำลังรอข่าวจากฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงเท่านั้นในขณะที่อินชิงเสวียนกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉีอวิ๋นจื่อก็ออกจากเรือนหลังเล็กโดยไม่มีใครสังเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1114 พูดจาแทะโลม

    อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว คิดในใจว่า ไอ้บ้าตัณหาที่ไหนกัน ในที่สาธารณะแบบนี้ ยังกล้ามาพูดจากะลิ้มกะเหลี่ยในใจคิดอยากจะสั่งสอนเขาสักสองสามคำ แต่ร้อนใจอยากตามหาฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงเร็วๆ เพราะไม่อยากสร้างปัญหาแทรกซ้อนที่ไม่จำเป็นจริงๆจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เตรียมจะหลีกเลี่ยงคนผู้นี้ไป๋เสวี่ยเดินตามอยู่ข้างหลังอินชิงเสวียน ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองไปที่ชายตรงหน้าตลอดเวลา จมูกฟุดฟิดตลอดเวลา ดมกลิ่นบนเสื้อคลุมของเขาขึ้นๆ ลงๆดวงตาแจ่มใสของเจ้าสุนัขค่อยๆ ฉายแววประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ และเห่าขึ้นอย่างอดไม่ได้เจ้าสุนัขมีรูปร่างใหญ่โตท่าทางดุดัน เมื่อเดินบนถนนก็ดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษ อินชิงเสวียนไม่อยากให้มันทำให้คนอื่นตกใจกลัว จึงดุมันทันที“อย่าทำให้คนเขากลัว ไปกันเถอะ”คนผู้นั้นก้าวไปข้างหน้า ขวางหน้าอินชิงเสวียนไว้เขาพูดด้วยรอยยิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม “ผู้คนมักบอกว่าการพบกันคือโชคชะตา ข้าได้พบกับแม่นางท่ามกลางผู้คนมากล้น ย่อมมีวาสนาต่อกันไม่เบา ไยไม่หยุดมาดื่มชาพูดคุยเรื่องราวชีวิตของเรากันเล่า”ใบหน้าของอินชิงเสวียนมืดมนลง“ข้าเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว ขืนคุณชายยังกล่าววาจาเช่นนี้ อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1115 โธ่เอ๊ยเป็นข้าเอง

    ขณะที่ลงมือ อินชิงเสวียนยังใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับคนผู้นั้นในหัวพลันปรากฏหลายสิ่งหลายอย่าง เมื่อเห็นท่าวรยุทธ์เหล่านั้น อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจวรยุทธ์ของคนตงหลิว หรือว่าเขาเป็นคนตงหลิว?คิดไม่ถึงว่าในเทือกเขาเชื่อมเมฆา จะยังหลงเหลือชาวตงหลิว ในเมื่อถูกนางพบเข้าแล้ว งั้นก็ถือว่าเป็นโชคร้ายของเขาแล้ว“สามารถพูดภาษาต้าโจวได้อย่างคล่องแคล่วเช่นนี้ เจ้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากสินะ น่าเสียดายที่มาเจอกับข้า วันนี้ในปีหน้า จะเป็นวันเซ่นไหว้เจ้า”ดวงตาของอินชิงเสวียนคมกริบราวกับมีด การขับเคลื่อนของชี่รอบตัวเปลี่ยนไป เจตนาฆ่าอันรุนแรงพุ่งออกมาจากร่างผอมเพรียวนั้น ชุดกระโปรงสั่นพลิ้วเองโดยไม่ได้เกิดจากลม ส่งเป็นเสียงพึ่บพั่บรุนแรง คนผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไป“อย่า เราอย่าจริงจังกันนักเลย”“เลิกพล่ามซะ”อินชิงเสวียนตวาด มือทั้งสองข้างซัดใส่โจมตีไปยังคนผู้นั้น“โธ่เอ๊ย เป็นข้าเอง!”คนผู้นั้นเหาะถอยหลังอย่างรวดเร็ว พลางโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร”การเคลื่อนไหวของอินชิงเสวียนรวดเร็วราวกับสายฟ้า นางก็มาถึงหน้าคนผู้นั้นแล้วคนผู้นั้นทำท่าฝ่ามือแบบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1116 ไม่ได้ล้อเล่น

    อินชิงเสวียนปฏิเสธทันควัน“เสี่ยวหนานเฟิงอยู่ในมิติ ข้าก็สามารถออกจากตำหนักเทพได้ตลอดเวลา น้ำโคลนนี้เจ้าอย่าเข้ามาแปดเปื้อนดีกว่า หากไม่มีธุระอะไรแล้ว เจ้ารีบกลับเมืองหลวงไปดีกว่า”เย่จิ่งหลานสั่นศีรษะราวกับสั่นกลองป๋องแป๋ง“ทำแบบนั้นได้อย่างไร อุตส่าห์ได้ออกมาทั้งที มีแต่คนโง่เท่านั้นถึงจะกลับไป”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ตำหนักเทพหอทองคำนั้นไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด อย่าไปเลย”“ทำแบบนั้นไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าต่อสู้คนเดียวได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นอันตกลงตามนี้แหละ ที่จริงถึงแม้ไม่มีเจ้า ข้าก็ยังต้องไปที่ตำหนักเทพหอทองคำดูหน่อย ถึงอย่างไรก็ต้องให้ฮั่วเทียนเฉิงมีคำตอบไปรายงาน”เย่จิ่งหลานถือถ้วยชาในมือ สีหน้าท่าทางไม่กริ่งเกรงแม้แต่น้อยอินชิงเสวียนพูดอย่างจนปัญญา “ในเมื่อเจ้าได้ดูดซับกำลังภายในทั้งหมดของโมริตะคาวาสึบาเมะแล้ว แม้แต่ฮั่วเทียนเฉิงก็ไม่สามารถหยุดเจ้าไว้ได้ แล้วทำไมต้องทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย”“ข้ายังมีเรื่องส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องทำให้กระจ่าง สรุปแล้วก็คือ ข้าจำเป็นต้องไปตำหนักเทพ”เย่จิ่งหลานเหยียดนิ้วออกวาด น้ำเสียงหนักแน่นยิ่งนักได้รู้จักเขามาเป็นนานขนาด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1117 แลกเปลี่ยนข้อมูล

    อินชิงเสวียนออกจากโรงน้ำชาอย่างอารมณ์ดีตงหลิวถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ราษฎรชาวเป่ยไห่ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาจากการถูกศัตรูรุกรานอีกต่อไปเย่จิ่งหลานก็กลับมาแล้ว กลายเป็นแบบที่ตัวเขาต้องการ ในที่สุดก็สามารถเริ่มต้นชีวิตที่แสนวิเศษของเขาได้อาศัยแค่รูปลักษณ์ที่หล่อเหลานี้เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้แม่นางน้อยใหญ่วัยออกเรือนและยังไม่ออกเรือนหลงเสน่ห์ได้เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดเผยตัวตนก่อน ให้ตายอินชิงเสวียนก็คงไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มรูปงามในตอนนี้ คือเด็กน้อยที่เล่นขลุ่ยดินเผาในวังหลวงวันนั้นอย่างไรก็ตาม อินชิงเสวียนชอบเย่จิ่งหลานรูปลักษณ์ที่เป็นเด็กมากกว่า นึกอยากจะบีบแก้มก็ทำได้ ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้นนางหัวเราะเบาๆ เจ้าสุนัขก็หยุดที่ประตูโรงเตี๊ยมชื่อฝูไหล กระดิกหางปุกปุยใหญ่โตไปมา และเห่าบอกอินชิงเสวียน“อยู่ที่นี่งั้นหรือ”อินชิงเสวียนหยุดเดิน ลูบหัวมันเบาๆไป๋เสวี่ยเห่าอีกครั้ง ราวกับเป็นการยืนยัน“รอข้าข้างนอกนะ”อินชิงเสวียนกำชับ แล้วเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมทันทีที่เข้าไปในประตูก็เห็นฉุย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1118 เจรจาล้มเหลว

    เมื่อนึกถึงใบหน้าที่มีความสุขของเหมยชิงเกอ เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ถอนหายใจเบาๆ “แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไป”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ไปสืบดูสถานที่ที่ผู้อาวุโสทั้งสองกล่าวถึงก่อนก็ได้ ดูว่าสามารถหาเบาะแสที่อยู่ของผู้อาวุโสได้หรือไม่ ถ้าไม่พบสิ่งใด เราก็ทำได้เพียงแค่กลับไปที่ตำหนักเทพเท่านั้น”ฉุยเฟิงพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นลุกขึ้นจ่ายเงิน และไปหาญาติของผู้อาวุโสสามสิบนาทีต่อมา ทั้งสามคนก็มาถึงหน้าเรือนเล็กๆ เมื่อมองดูเรือนที่ทรุดโทรม หญ้าเหี่ยวเฉาที่สูงพอๆ กับบ้าน ก็รู้สึกสะท้านใจขึ้นพร้อมกันฉุยอวี้กระโดดเข้าไปในลานบ้านอย่างไม่ยอมแพ้ ยังไม่ถึงสามอึดใจ ก็ต้องออกมา“ไม่มีใคร”อินชิงเสวียนก็สามารถเดาผลลัพธ์นี้ได้ ผู้อาวุโสหันนั้นโหดเหี้ยมเหลี่ยมจัด หากเขาลงมือ จะไม่ทิ้งภัยพิบัตินี้ไว้เบื้องหลังแน่“ดูท่าพวกเรามีแต่ต้องไปตรวจสอบเบาะแสบนเขาเท่านั้น”เฟิงเอ้อร์เหนียงพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้น ก็กลับกันเถอะ”ทั้งสามกลับไปที่ตำหนักเทพหอทองคำอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอช้าอีกต่อไปฉุยอวี้เปิดค่ายกลแนวป้องกันเขา เมื่อไปถึงครึ่งทาง ลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามารับหน้า“แม่นางอิน ผู้อาวุโสหันเชิญเจ้า”อินชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1119 เรือนทองซ่อนสาวงาม

    สีหน้าของผู้อาวุโสหันสงบลงในทันที“ให้เขาเข้ามา”หลังจากนั้นไม่นาน ฮั่วเทียนเฉิงก็เดินเข้ามาจากประตูพร้อมกับศิษย์น้องสองคนของเขา มีคุณชายรูปหล่อเดินตามหลังมาด้วย ซึ่งก็คือเย่จิ่งหลานที่โตแล้วดวงตาของอินชิงเสวียนสบกับเย่จิ่งหลานในอากาศ แต่เพียงครู่เดียวก็แยกจากกันอีกครั้งฮั่วเทียนเฉิงก็เหลือบมองอินชิงเสวียนเช่นกัน แล้วพูดด้วยความเคารพ “ศิษย์น้อมคำนับท่านอาจารย์ นี่คือคุณชายน้อยเย่ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งกลไก”ผู้อาวุโสหันหันกลับมา ดวงตาเป็นประกายสว่างวาบคิ้วดาบดวงตาเป็นประกายดั่งดวงดาว จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบาง ช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลายิ่ง“วีรบุรุษถือกำเนิดตั้งแต่เยาว์วัยจริงๆ คุณชายน้อยหล่อเหลา ท่วงท่าลักษณะพิเศษ ถือเป็นโชคของข้าจริงๆ ที่ได้เข้ามาอยู่ในตำหนักเทพ”เย่จิ่งหลานประกบมือขึ้นคำนับ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสหันยกย่องเกินไปแล้ว”ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “คนที่เทียนเฉิงแนะนำจะผิดได้อย่างไร ในเมื่อคุณชายน้อยเชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งกลไก เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็จะมีที่ให้ได้แสดงความสามารถ”เขาเปลี่ยนหัวข้อและกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าคุณชายน้อยเย่ก็รู้จักแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1120 ต่างผูกพันกัน

    “ทุกสิ่งล้วนต้องเผื่อไว้ มิติอาจไม่สามารถช่วยชีวิตเราได้ตลอด”สีหน้าของอินชิงเสวียนดูเคร่งขรึม นางเคยเห็นวรยุทธ์ของผู้อาวุโสหัน แม้ว่านางจะดูดซับพลังภายในของคนมากมาย แต่ก็ยังไม่กล้าไม่ใจเกินไปเย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่อินังขังขอบ “เจ้ามองคนแซ่หันนั่นเป็นเทพเกินไปแล้วกระมัง ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาด้วยเลือดเนื้อ เขาไม่ได้มีสองหัวมากกว่าคนอื่นเสียหน่อย”“ควรระวังไว้จะดีกว่า”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ จู่ๆ ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้“หวังซุ่นอล่ะ”“อยู่ตีนเขา เจ้าถามหาเขาทำไม่”เย่จิ่งหลานสงสัยอินชิงเสวียนยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าวว่า “เช่นนี้แล้ว งั้นก็เจอเจ้าตำหนักอย่างแน่นอน”เมื่อมองดูดวงตาที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนแมวคู่นั้น เย่จิ่งหลานก็เข้าใจทันที“เจ้าคิดจะ...”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง เพียงแต่มีรายละเอียดบางอย่าง ข้ายังต้องไปถามฉุยอวี้”เย่จิ่งหลานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สมแล้วที่เป็นเจ้า เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่”“งั้นก็เอาตามนี้”ทันทีที่อินชิงเสวียนพูดจบ ฮั่วเทียนเฉิงก็เดินเข้ามาจากประตู“แม่นางอิน คุณชายน้อยเย่ อาหารพร้อมแล้ว เชิญทั้งสองท่านย้ายไปที่ห้องอาหาร”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status