แชร์

บทที่ 1116 ไม่ได้ล้อเล่น

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-16 16:00:00
อินชิงเสวียนปฏิเสธทันควัน

“เสี่ยวหนานเฟิงอยู่ในมิติ ข้าก็สามารถออกจากตำหนักเทพได้ตลอดเวลา น้ำโคลนนี้เจ้าอย่าเข้ามาแปดเปื้อนดีกว่า หากไม่มีธุระอะไรแล้ว เจ้ารีบกลับเมืองหลวงไปดีกว่า”

เย่จิ่งหลานสั่นศีรษะราวกับสั่นกลองป๋องแป๋ง

“ทำแบบนั้นได้อย่างไร อุตส่าห์ได้ออกมาทั้งที มีแต่คนโง่เท่านั้นถึงจะกลับไป”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ตำหนักเทพหอทองคำนั้นไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด อย่าไปเลย”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าต่อสู้คนเดียวได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นอันตกลงตามนี้แหละ ที่จริงถึงแม้ไม่มีเจ้า ข้าก็ยังต้องไปที่ตำหนักเทพหอทองคำดูหน่อย ถึงอย่างไรก็ต้องให้ฮั่วเทียนเฉิงมีคำตอบไปรายงาน”

เย่จิ่งหลานถือถ้วยชาในมือ สีหน้าท่าทางไม่กริ่งเกรงแม้แต่น้อย

อินชิงเสวียนพูดอย่างจนปัญญา “ในเมื่อเจ้าได้ดูดซับกำลังภายในทั้งหมดของโมริตะคาวาสึบาเมะแล้ว แม้แต่ฮั่วเทียนเฉิงก็ไม่สามารถหยุดเจ้าไว้ได้ แล้วทำไมต้องทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย”

“ข้ายังมีเรื่องส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องทำให้กระจ่าง สรุปแล้วก็คือ ข้าจำเป็นต้องไปตำหนักเทพ”

เย่จิ่งหลานเหยียดนิ้วออกวาด น้ำเสียงหนักแน่นยิ่งนัก

ได้รู้จักเขามาเป็นนานขนาด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1117 แลกเปลี่ยนข้อมูล

    อินชิงเสวียนออกจากโรงน้ำชาอย่างอารมณ์ดีตงหลิวถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ราษฎรชาวเป่ยไห่ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาจากการถูกศัตรูรุกรานอีกต่อไปเย่จิ่งหลานก็กลับมาแล้ว กลายเป็นแบบที่ตัวเขาต้องการ ในที่สุดก็สามารถเริ่มต้นชีวิตที่แสนวิเศษของเขาได้อาศัยแค่รูปลักษณ์ที่หล่อเหลานี้เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้แม่นางน้อยใหญ่วัยออกเรือนและยังไม่ออกเรือนหลงเสน่ห์ได้เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดเผยตัวตนก่อน ให้ตายอินชิงเสวียนก็คงไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มรูปงามในตอนนี้ คือเด็กน้อยที่เล่นขลุ่ยดินเผาในวังหลวงวันนั้นอย่างไรก็ตาม อินชิงเสวียนชอบเย่จิ่งหลานรูปลักษณ์ที่เป็นเด็กมากกว่า นึกอยากจะบีบแก้มก็ทำได้ ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้นนางหัวเราะเบาๆ เจ้าสุนัขก็หยุดที่ประตูโรงเตี๊ยมชื่อฝูไหล กระดิกหางปุกปุยใหญ่โตไปมา และเห่าบอกอินชิงเสวียน“อยู่ที่นี่งั้นหรือ”อินชิงเสวียนหยุดเดิน ลูบหัวมันเบาๆไป๋เสวี่ยเห่าอีกครั้ง ราวกับเป็นการยืนยัน“รอข้าข้างนอกนะ”อินชิงเสวียนกำชับ แล้วเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมทันทีที่เข้าไปในประตูก็เห็นฉุย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1118 เจรจาล้มเหลว

    เมื่อนึกถึงใบหน้าที่มีความสุขของเหมยชิงเกอ เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ถอนหายใจเบาๆ “แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไป”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ไปสืบดูสถานที่ที่ผู้อาวุโสทั้งสองกล่าวถึงก่อนก็ได้ ดูว่าสามารถหาเบาะแสที่อยู่ของผู้อาวุโสได้หรือไม่ ถ้าไม่พบสิ่งใด เราก็ทำได้เพียงแค่กลับไปที่ตำหนักเทพเท่านั้น”ฉุยเฟิงพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นลุกขึ้นจ่ายเงิน และไปหาญาติของผู้อาวุโสสามสิบนาทีต่อมา ทั้งสามคนก็มาถึงหน้าเรือนเล็กๆ เมื่อมองดูเรือนที่ทรุดโทรม หญ้าเหี่ยวเฉาที่สูงพอๆ กับบ้าน ก็รู้สึกสะท้านใจขึ้นพร้อมกันฉุยอวี้กระโดดเข้าไปในลานบ้านอย่างไม่ยอมแพ้ ยังไม่ถึงสามอึดใจ ก็ต้องออกมา“ไม่มีใคร”อินชิงเสวียนก็สามารถเดาผลลัพธ์นี้ได้ ผู้อาวุโสหันนั้นโหดเหี้ยมเหลี่ยมจัด หากเขาลงมือ จะไม่ทิ้งภัยพิบัตินี้ไว้เบื้องหลังแน่“ดูท่าพวกเรามีแต่ต้องไปตรวจสอบเบาะแสบนเขาเท่านั้น”เฟิงเอ้อร์เหนียงพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้น ก็กลับกันเถอะ”ทั้งสามกลับไปที่ตำหนักเทพหอทองคำอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอช้าอีกต่อไปฉุยอวี้เปิดค่ายกลแนวป้องกันเขา เมื่อไปถึงครึ่งทาง ลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามารับหน้า“แม่นางอิน ผู้อาวุโสหันเชิญเจ้า”อินชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1119 เรือนทองซ่อนสาวงาม

    สีหน้าของผู้อาวุโสหันสงบลงในทันที“ให้เขาเข้ามา”หลังจากนั้นไม่นาน ฮั่วเทียนเฉิงก็เดินเข้ามาจากประตูพร้อมกับศิษย์น้องสองคนของเขา มีคุณชายรูปหล่อเดินตามหลังมาด้วย ซึ่งก็คือเย่จิ่งหลานที่โตแล้วดวงตาของอินชิงเสวียนสบกับเย่จิ่งหลานในอากาศ แต่เพียงครู่เดียวก็แยกจากกันอีกครั้งฮั่วเทียนเฉิงก็เหลือบมองอินชิงเสวียนเช่นกัน แล้วพูดด้วยความเคารพ “ศิษย์น้อมคำนับท่านอาจารย์ นี่คือคุณชายน้อยเย่ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งกลไก”ผู้อาวุโสหันหันกลับมา ดวงตาเป็นประกายสว่างวาบคิ้วดาบดวงตาเป็นประกายดั่งดวงดาว จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบาง ช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลายิ่ง“วีรบุรุษถือกำเนิดตั้งแต่เยาว์วัยจริงๆ คุณชายน้อยหล่อเหลา ท่วงท่าลักษณะพิเศษ ถือเป็นโชคของข้าจริงๆ ที่ได้เข้ามาอยู่ในตำหนักเทพ”เย่จิ่งหลานประกบมือขึ้นคำนับ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสหันยกย่องเกินไปแล้ว”ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “คนที่เทียนเฉิงแนะนำจะผิดได้อย่างไร ในเมื่อคุณชายน้อยเชี่ยวชาญด้านศาสตร์แห่งกลไก เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็จะมีที่ให้ได้แสดงความสามารถ”เขาเปลี่ยนหัวข้อและกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าคุณชายน้อยเย่ก็รู้จักแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1120 ต่างผูกพันกัน

    “ทุกสิ่งล้วนต้องเผื่อไว้ มิติอาจไม่สามารถช่วยชีวิตเราได้ตลอด”สีหน้าของอินชิงเสวียนดูเคร่งขรึม นางเคยเห็นวรยุทธ์ของผู้อาวุโสหัน แม้ว่านางจะดูดซับพลังภายในของคนมากมาย แต่ก็ยังไม่กล้าไม่ใจเกินไปเย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่อินังขังขอบ “เจ้ามองคนแซ่หันนั่นเป็นเทพเกินไปแล้วกระมัง ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาด้วยเลือดเนื้อ เขาไม่ได้มีสองหัวมากกว่าคนอื่นเสียหน่อย”“ควรระวังไว้จะดีกว่า”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ จู่ๆ ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้“หวังซุ่นอล่ะ”“อยู่ตีนเขา เจ้าถามหาเขาทำไม่”เย่จิ่งหลานสงสัยอินชิงเสวียนยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าวว่า “เช่นนี้แล้ว งั้นก็เจอเจ้าตำหนักอย่างแน่นอน”เมื่อมองดูดวงตาที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนแมวคู่นั้น เย่จิ่งหลานก็เข้าใจทันที“เจ้าคิดจะ...”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง เพียงแต่มีรายละเอียดบางอย่าง ข้ายังต้องไปถามฉุยอวี้”เย่จิ่งหลานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สมแล้วที่เป็นเจ้า เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่”“งั้นก็เอาตามนี้”ทันทีที่อินชิงเสวียนพูดจบ ฮั่วเทียนเฉิงก็เดินเข้ามาจากประตู“แม่นางอิน คุณชายน้อยเย่ อาหารพร้อมแล้ว เชิญทั้งสองท่านย้ายไปที่ห้องอาหาร”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1121 ประจำเดือนมารึ

    ทันทีที่ฉางเฮิ่นเทียนจากไป อินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานก็มาถึงผู้อาวุโสหันออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“บนเขาแร้นแค้น อาหารก็ค่อนข้างจืดชืด ไม่รู้ว่าจะถูกปากทั้งสองคนหรือไม่”เย่จิ่งหลานประกบมือขึ้น พูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสหันคิดหนักแล้ว พวกเราไม่เลือกกินอาหาร แค่ของง่ายๆ ก็พอแล้ว”เมื่อมาถึงโต๊ะหิน เย่จิ่งหลานก็ตระหนักว่าคำพูดใจกว้างของตัวเองพูดเร็วไปสักหน่อยในจานเป็นผักใบเขียวทั้งหมด พอเอาเข้าปากก็รู้สึกเหมือนเคี้ยวหญ้า สุดที่จะกลืนกินได้ จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังอินชิงเสวียน เมื่อเห็นนางกินแค่พอเป็นพิธีไม่กี่คำเหมือนกัน ค่อยรู้สึกยุติธรรมขึ้นหน่อยผู้อาวุโสหันกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าได้ยินจากเทียนเฉิงว่า คุณชายน้อยเย่ถนัดในการสร้างกลไกเครื่องจักร ในเมืองหลวงมีผู้มีความสามารถมากมายจริงๆ”เย่จิ่งหลานกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “คุยกันง่ายเลย ไม่ทราบว่าทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เป็นสถานที่เช่นไร หรือว่ามีกลไกซ่อนอยู่ในประตู?”ผู้อาวุโสหันพูดอย่างไม่อาจเข้าใจได้ “อาจจะใช่ บางทีอาจไม่ใช่ รออีกไม่กี่วัน คุณชายน้อยก็จะได้เห็นแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น จะรู้ทุกอย่างเอง”เย่จิ่งหลานเกลียดคำพูดที่คลุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1122 กำลังพอดี

    อินชิงเสวียนรู้สึกหงุดหงิด ยกเท้าเตะก้อนหินใส่ยอดหน้าของเย่จิ่งหลาน“หุบปากเน่าๆ ของเจ้าซะ”เย่จิ่งหลานหัวเราะ เบี่ยงตัวหลบทันที“ข้าในวันนี้ไม่ใช่คุณชายน้อยที่ถูกเจ้าหิ้วไปไหนมาไหนคนนั้นแล้ว”อินชิงเสวียนเตะหินอีกก้อนหนึ่ง เย่จิ่งหลานยกสองนิ้วขึ้นมาจับไว้ได้ ปรายหางตามองอินชิงเสวียนด้วยท่าทางขิงๆ“เป็นอย่างไร”อินชิงเสวียนพูดอย่างล้อเลียน “มีความสามารถมากทีเดียว แต่ไม่รู้ว่าเป็นหัวตะกั่วเลียนแบบเงิน ที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมหรือเปล่า”เย่จิ่งหลานอยากจะบอกว่า เจ้าก็ลองสิจะได้รู้ แต่คำพูดล้อเล่นแบบนี้ เขาไม่กล้าพูดมั่วซั่ว หากทำให้ยัยนี่ขุ่นเคือง แม้แต่เพื่อนก็อาจจะไม่ได้เป็นอีกต่อไปตอนนี้กำลังพอดี ไม่ใกล้ไม่ไกล ทั้งเป็นความสนิทที่ไม่ใกล้ชิดเกินไป ทั้งยังไม่ห่างเหินเกินไปด้วยแม้ว่าเย่จิ่งหลานจะยั้งใจไม่ให้มีความคิดอื่นไม่ได้ แต่ก็เข้าใจ เมื่อใดที่ล้ำเส้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอินชิงเสวียนก็จะจบลงอินชิงเสวียนไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย นางมีความสง่างามเหมือนดอกดารารัตน์ ทั้งยังสูงส่งดังลูกพลัมยามเหมันต์ นางไม่สนใจชื่อเสียงเงินทอง และไม่สนใจสถานะหรือตำแหน่ง หากชาตินี้เย่จิ่งอวี้จำนางไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1123 แรงกดดันปานเทพเจ้า

    ฉุยอวี้ถามโดยเร็ว “หรือว่าเจ้ามีข่าวที่แน่ชัดแล้ว?”“เปล่า แต่ข้าค่อนข้างแน่ใจ ขอให้ผู้อาวุโสทั้งสองอธิบายลักษณะนิสัยและโทนเสียงของเจ้าตำหนักโดยละเอียดด้วย”เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของอินชิงเสวียน ฉุยอวี้ก็เริ่มสนใจ รีบเล่าถึงกิริยาวาจาทั้งหมดของเจ้าตำหนักทันที จากนั้นจึงหยิบพู่กันออกมาวาดภาพเหมือนเมื่อเปรียบเทียบกับภาพวาดลวกๆ ที่แสดงบนทีวี ศาสตร์การวาดภาพของฉุยอวี้นั้นเสมือนจริงมากกว่าแม้แต่เฟิงเอ้อร์เหนียงที่เมื่อเห็นมันก็อดไม่ได้ที่จะชมนาง“ผ่านมาหลายปี ทักษะการวาดภาพของศิษย์พี่ฉุยยังใช้ได้ดีทีเดียว”ฉุยอวี้ยิ้มเอียงอาย“เวลาว่าง ก็มักจะวาดภาพเขียนอักษรบรรเทาความเศร้าใจ ยังไม่ถึงขึ้นดีขนาดนั้น แค่พอเข้าตาก็ดีแล้ว”เฟิงเอ้อร์เหนียงหยิบภาพวาดขึ้นมาแล้วพูดว่า “ภาพวาดนี้เหมือนจริงมาก คล้ายมากจริงๆ”“เช่นนั้นก็ดี ที่เหลือให้ข้าจัดการเอง ท่านสองคนพักอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปดูลูกหน่อย”อินชิงเสวียนเก็บภาพเหมือนนั้นไว้ แล้วเข้าไปในมิติเหมยชิงเกอกำลังเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงบนพื้นหญ้า ไม่ได้เจอกันหลายวัน ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กน้อยจะโตขึ้นมาก ดวงตาคิ้วคางปากเริ่มเห็นโครงชัดขึ้น ประพิมพ์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1124 คืนตำแหน่งราชการ

    “ไม่ต้องสงสัยแล้ว รีบเข้าไปเถอะ ฝ่าบาทยังรออยู่!”หลี่เต๋อฝูเร่งเร้าแม้ว่าอารมณ์ของฝ่าบาทจะสงบ ทว่ายังมีอานุภาพน่าสะพรึงกลัว หลี่เต๋อฝูไม่อยากทนรับอีกแล้ว ดีไม่ดีอีกประเดี๋ยวคงได้อึดอัดอีก เขายังอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปี รอรับใช้องค์ชายน้อยอยู่นะอินจิงพยักหน้า พูดกับอินปู้อวี่ “ไปกันเถอะ”หากเป็นวาสนาก็ไม่ใช่คราวเคราะห์ ถ้าเป็นคราวเคราะห์ก็หลบไม่พ้นในเมื่อถูกหาเจอแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูดอีกสองพ่อลูกหิ้วชายเสื้อคลุมเดินเข้าไปในห้องหนังสือของฝ่าบาท โค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมอินจ้ง อินปู้อวี่ ถวายบังคมฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”เย่จิ่งอวี้ค่อยๆ หันกลับมา“ท่านขุนนางทั้งสองลุกขึ้นเถิด”“ขอบพระทัยฝ่าบาท”สองพ่อลูกคำนับพร้อมกัน และยืนเคียงข้างกันด้วยความเคารพเย่จิ่งอวี้สะบัดเสื้อคลุมออกนั่งบนเก้าอี้มังกร เรียวตาหงส์คู่นั้นมองจับไปยังคนทั้งสอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “ให้ท่านขุนนางทั้งสองออกไปเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน เป็นความประมาทเลินเล่อของข้าแล้ว บัดนี้ข้าในที่สุดก็จำเรื่องราวเหล่านั้นได้แล้ว หวังว่าจะไม่สายเกินไป”พวกเขาทั้งสองรู้สึกยินดีทันที รี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-18

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status