แชร์

บทที่ 1098 แผนสกปรก

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-11 16:00:00
ผู้อาวุโสหันลูบหนวดเคราสีเทาแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้เจ้าเข้าพบ แต่เจ้าตำหนักเก็บตัวตัวบำเพ็ญเพียรไม่ได้ออกมาหลายปีแล้ว โชคดีที่การต่อสู้ระหว่างทั้งสองสำนักกำลังจะมาถึงในไม่ช้า เมื่อถึงเวลานั้น ท่านเจ้าสำนักจะต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน”

อินชิงเสวียนพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องใคร่ครวญให้รอบคอบ เด็กพวกท่านก็ตามหาไม่พบ เจ้าตำหนักก็ไม่ให้เจอ ทุกการกระทำของผู้อาวุโสหันล้วนไม่น่าเชื่อ แล้วจะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร”

ผู้อาวุโสหันกล่าวว่า “เรื่องเด็ก ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ว่า ข้ามีเป้าหมายอยู่แล้ว หากข้าเดาไม่ผิด เกรงว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับอิ๋นเฉิง”

“โอ้?”

อินชิงเสวียนเลิกคิ้วขึ้น

ผู้อาวุโสหันเอามือไพล่หลังแล้วกล่าวว่า “ดังที่เราทุกคนทราบ เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงปิดประตูเมืองเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้จู่ๆ ก็เปิดออก เป็นที่น่าสงสัยจริงๆ และเด็กก็มาหายตัวไปในเวลานี้พอดีอีก ยังมีผู้ทรยศของตำหนักเทพ ยากที่คนจะไม่คิดมาก แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าได้ส่งคนไปแอบเข้าไปในอิ๋นเฉิงแล้ว หากมีข่าวใดๆ พวกเขาจะแจ้งข้าโดยเร็วที่สุด”

“ในเมื่อผู้อาวุโสหันตั้งใจเพียงนี้ งั้นข้าจะรออีกสาม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1099 ตกใจ

    ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงกำลังคุยกันอยู่ในห้องหิน เมื่อได้ยินเสียงประตู ทั้งคู่ก็หันศีรษะไปพร้อมกัน“ฉุยอวี้ ช่วงนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”สีหน้าของฉุยอวี้ตึงเครียด “ท่านมาทำอะไรที่นี่”ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “นี่คือสำนักของข้า ข้าจะมาไม่ได้หรือ”ฉุยอวี้แค่นเสียงหึอย่างเย็นชา “ตำหนักเทพกลายเป็นของคนแซ่หันตั้งแต่เมื่อใด”ผู้อาวุโสหันพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ตอนนี้ข้าดูแลตำหนักเทพหอทองคำอยู่ ข้าย่อมมีสิทธิ์ขาดอยู่แล้ว”ฉุยอวี้กล่าวอย่างเหน็บแนม “ดังคำกล่าวที่ว่า บนเขาไม่มีเจ้า ลิงตั้งตนเป็นราชาจริงๆ ตอนนี้เจ้าตำหนักไม่อยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสก็ไม่ได้อยู่ในสำนัก ถึงอย่างไรท่านก็มีสิทธิ์ขาดอยู่แล้ว”ผู้อาวุโสหันยังคงมีสีหน้าไม่แยแส“เจ้าพูดเช่นนี้ก็ถูกแล้ว แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ”ฉุยอวี้พูดด้วยความโกรธ “เห็นได้ชัดว่าท่านลงมือทำร้ายคนในสำนักด้วยเหตุผลเห็นแก่ตัว ผู้อาวุโสหลายท่านมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อตำหนักเทพ พวกเขาจะจากไปเองได้อย่างไร ด้วยพลังของพวกเขายิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านวัฏจักรความเป็นความตายเร็วขนาดนี้ หากเจ้าตำหนักออกจากการบำเพ็ญเพียร จะไม่ปล่อยท่านไปอย่างแน่นอน”“งั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1100 แยกย้ายกันทำงาน

    “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะกลับไปก่อน พวกเจ้าค่อยๆ คุยกันไป”หลังจากที่ผู้อาวุโสหันพูดจบ เขาก็เปิดประตูออกไป“ท่านเป็นอะไรหรือไม่”อินชิงเสวียนมองไปที่เฟิงเอ้อร์เหนียงอย่างเป็นห่วงเฟิงเอ้อร์เหนียงเช็ดเลือดจากมุมปาก“ข้าไม่เป็นไร ทำไมชิงเสวียนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ข้าเดาว่าผู้อาวุโสหันอาจต้องการจัดการพวกท่าน จึงมาที่นี่”เมื่อประมาณสิบห้านาทีก่อน ฉางเฮิ่นเทียนบอกว่าเขาจะพานางไปที่หอตำราสะสม อินชิงเสวียนก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเหตุใดจู่ๆ ผู้อาวุโสหันจึงให้ฉางเฮิ่นเทียนพาตัวเองไปที่นั่น ทุกอย่างเกิดขึ้นย่อมมีเหตุผล ผู้อาวุโสหันยิ่งจะไม่แสดงความเมตตาต่อตัวเองโดยไม่มีเหตุผล ความเป็นไปได้เดียวคือ เขาต้องการจัดการกับฉุยเฟิงทั้งสองคนเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็ตรงไปที่พักของพวกนางทันที“โจรเฒ่าคนนี้ หากวันนี้เขาทำไม่สำเร็จ วันหน้าจะไม่ยอมเลิกราแน่ๆ ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดไปพักอยู่กับข้าเถอะ”ฉุยอวี้พูดอย่างดื้อรั้น “ไม่ต้อง เราไม่เป็นไร”อินชิงเสวียนตบไหล่นางเบาๆ “เชื่อข้าเถอะ ตอนนี้พวกท่านไม่ใช่ศิษย์ของตำหนักเทพ หรืออาคันตุกะ หากโจรเฒ่าหันอยากมาหาเรื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1101 พบเพียวเหมี่ยวอินเฉิงครั้งแรก

    เมื่อมาถึงบริเวณใกล้เคียง อินชิงเสวียนก็หยิบขลุ่ยดินเผาออกมา แล้วเป่าเป็นเพลงใจหินผาถ้าเย่จั้นเคยได้ยินเพลงนี้ ต้องจำได้อย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม หลังจากเป่าไปถึงสิบห้านาที ก็ไม่มีวี่แววของเย่จั้น หัวใจของอินชิงเสวียนหนักอึ้งหรือว่าเขาถูกพบเข้าแล้ว?นางมองไปรอบๆ จากนั้นใช้วิชาตัวเบาไปที่ถ้ำ แต่ไม่มีใครอยู่ข้างในนางกวาดตาไปทั่วบริเวณ แต่ไม่พบกลไกใดๆ เย่จั้นไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ ชั่วขณะหนึ่ง อินชิงเสวียนรู้สึกสับสนวุ่นวายใจเรื่องในตำหนักเทพยังไม่คลี่คลาย หากเย่จั้นเป็นอะไรไป นางจะอธิบายกับเย่จิ่งอวี้ได้อย่างไรขณะที่กำลังจะออกไปตามหา ทันใดนั้นก็พบว่าดูเหมือนจะมีตัวอักษรเล็กๆ สลักอยู่ในรอยแตกในหินตรงประตูอินชิงเสวียนโน้มตัวไปมอง สีหน้าก็พลันยินดี เป็นลายมือที่เย่จั้นทิ้งไว้จริงๆมีธุระด่วนต้องไป อย่าคิดมาก!ที่แท้ก็เป็นเขาที่จากไปเอง เพียงแต่มีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าอินหลีอินชิงเสวียนขมวดคิ้วเมื่อนางนึกถึงสตรีในชุดขาวซึ่งน่าจะเป็นอาหญิงของนางเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้อาวุโสหัน เขาเหมือนจะกังวลเรื่องอินหลีมาก หรือว่าตัวนางมีความลับบางอย่างที่ไม่ทราบ?หากต้องการติดต่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1102 เข้าเมือง

    อินชิงเสวียนเลิกคิ้ว“นี่คือเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงงั้นหรือ”ฉุยอวี้ส่ายศีรษะ“ไม่ใช่ นี่คือป่าหมอก ในป่าข้างในถึงจะเป็นเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเปิดในเวลาเช้า และปิดในเวลาบ่ายคล้อยของทุกวัน ตอนนี้ก็มืดแล้ว ถ้าต้องการแอบเข้าไป ทำได้แค่รอจนถึงวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าสองคนคิดว่าอย่างไร”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ในเมื่อลงเขามาแล้ว งั้นก็ไปดูกันดีกว่า ใกล้ๆ นี้มีเมืองอยู่ หาที่พักค้างคืนกันสักคืนเถอะ”ในเมื่อมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรอินชิงเสวียนก็อยากเห็นว่าผู้ชายรูปงามปานเทพบุตรแบบใดถึงทำร้ายเหมยชิงเกอจนเป็นแบบนี้ฉุยอวี้ย่อมยกมือเห็นด้วยอยู่แล้ว“ได้ ที่นี่อยู่ห่างจากตลาดเพียงห้าหกลี้ ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึง”อินชิงเสวียนพยักหน้าพูดว่า “ดี งั้นเราจะเข้าไปในอิ๋นเฉิงพรุ่งนี้เช้า”ทั้งสามใช้วิชาตัวเบา และภายในสิบห้านาทีพวกนางก็มาถึงตลาดเดิมทีคิดว่าในเวลานี้ปิดประตูไปนานแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะเห็นแสงไฟสว่างจ้า สามารถมองเห็นชาวยุทธ์ที่ถือดาบได้ทุกที่เมื่อนั้นอินชิงเสวียนจึงจำตอนที่ผู้คนบุกโจมตีตำหนักเทพหอทองคำได้ เหมือนพวกเขาจะมารวมตัวกันที่นี่เมื่อนึกถึงคำพูดขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1103 แยกย้ายกันทำงาน

    “คุณชายเฮ่อ ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่”เมื่อเห็นเฮ่อฉางเฟิง อินชิงเสวียนก็รู้สึกประหลาดใจจากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงก็แซ่เฮ่อ จึงพอเข้าใจขึ้นบ้าง เฮ่อฉางเฟิงไม่ใช่คุณชายธรรมดาจริงๆเฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ข้าน้อยได้ยินว่าอิ๋นเฉิงเปิดแล้ว จึงเดินทางมาดู คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับแม่นางอิน เจ้ากับข้ามีชะตาต้องกันจริงๆ!”อินชิงเสวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จากกันที่เป่ยไห่มาหลายวันแล้ว ไม่นึกว่าจะได้พบกับคุณชายเฮ่ออีก โลกพบกลมจริงๆ”“ถูกต้อง แม่นางอินมาอิ๋นเฉิงเพราะอาการป่วยงั้นหรือ”เฮ่อฉางเฟิงมีสีหน้าเปื้อนยิ้ม เขามีความสุขมากที่ได้เห็นอินชิงเสวียนเพียงแต่หลอกนางไปตั้งแต่แรกแล้ว จะมาเปิดเผยตัวตนตอนนี้ก็ไม่เหมาะอินชิงเสวียนกลอกตาแล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเจ้าเมือง เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงมานานแล้ว พอรู้ว่าอิ๋นเฉิงเปิดเมือง จึงมาชื่นชมความองอาจห้าวหาญของเจ้าเมืองโดยเฉพาะ”เมื่ออินชิงเสวียนพูดถึงตรงนี้ นางก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“น่าเสียดาย ไม่มีใครแนะนำให้ข้าได้”เฮ่อฉางเฟิงโพล่งออกมา “เรื่องนี้ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1104 ฮูหยินกงซวินผู้มีน้ำใจไมตรี

    อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดอย่างสุภาพ “ข้าเกรงว่าจะไม่มีเวลามากขนาดนั้น”จากนั้นเฮ่อฉางเฟิงจึงสังเกตเห็นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่อยู่ที่นี่“คุณชายเย่ไม่ได้มากับแม่นางอินหรือ”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ไม่ได้มา เขามีงานสำคัญ ข้าเดินทางมาคนเดียว”เฮ่อฉางเฟิงตอบว่าอ้อ“เป็นเช่นนี้เอง เมื่อคุณชายเย่มีเวลา ต้องพามานั่งที่นี่แน่นอน”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น แล้วถามว่า “คุณชายเฮ่อคุ้นเคยกับผู้คนในอิ๋นเฉิงหรือไม่”เฮ่อฉางเฟิงไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “ข้าน้อยกับฮูหยินค่อนข้างคุ้นเคยกันดี นางจิตใจดีมีเมตตา ถ้าได้พบกับแม่นางอินจะต้องรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกแน่นอน”อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “มีคนบอกว่ามีภรรยาที่ดีครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ไม่น่าแปลกใจที่อิ๋นเฉิง จะเจริญรุ่งเรืองมากเช่นนี้ ข้าบังเอิญนำของเล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาให้ผู้หญิงมอบให้ฮูหยินด้วย”“ฮูหยินเจ้าเมืองดีมากจริงๆ แม่นางอินได้พบก็จะรู้เอง”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองก็เข้ามาในลานบ้านแล้วผู้หญิงที่เห็นก่อนหน้านี้กำลังรออยู่ที่ประตูแล้ว“สวัสดีกงซวินฮูหยิน ท่านนี้คือแม่นางอินที่ผู้เยาว์เคยบอกท่าน”เฮ่อฉางเฟิงก้มศีรษะประสานมือคารวะ ทำเหมือนมี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1105 เจ้าเมืองเฮ่อ

    ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างกำยำเดินเข้ามาจากประตู เสื้อคลุมสีเข้มคุณภาพธรรมดาทำให้เขาดูสุขุมเยือกเย็นเก็บอารมณ์ เรียบง่ายไม่โอ้อวด รูปโฉมก็นับว่าดูดีทีเดียวแม้เป็นยุคปัจจุบัน ผู้ชายรุ่นลุงเช่นเขา ยังเป็นที่หมายปองของผู้หญิงหลายคนเกือบจะในทันที ที่อินชิงเสวียนเดาตัวตนของเขาได้นี่เป็นความรู้สึกแปลกมาก แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่ก็รู้ว่าตัวเองมีสายเลือดผูกพันกับคนผู้นี้ ถึงขั้นมีความรู้สึกใกล้ชิดที่อธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำสำหรับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดนี้ อินชิงเสวียนไม่มีความรู้สึกรักมากนัก เดิมทีนางก็ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม นอกจากนี้นางไม่ได้เติบโตมาด้วยกันและมีเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย นางไม่ควรรู้สึกเช่นนี้เลย สิ่งที่เรียกว่าสายเลือดผูกพันนี้ ค่อนข้างลึกลับเหลือเกิน แม้ว่านางจะเปลี่ยนวิญญาณ แต่ก็ยังคงรู้สึกอยู่ในใจในขณะที่คิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเฮ่อฉางเฟิงพูดตะกุกตะกัก “อา ผู้เยาว์ ผู้เยาว์น้อมคารวะท่านเจ้าเมืองเฮ่อ”เขาโค้งคำนับทักทาย เหงื่อซึมที่ปลายจมูกแล้วพ่อให้เขาฝึกฝนวรยุทธ์ในห้องลับจริงๆ แต่เฮ่อฉางเฟิงอาศัยอยู่ในนั้นมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เขาทนเหงาไม่ได้ จึงแอบออกไปได้ยินจากแม่ของเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1106 ลงมือตามสถานการณ์

    เนิ่นนานถึงสามอึดใจ กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถึงจะฉีกยิ้มออกมาได้“ท่านพี่ ท่าน...ท่านกลับมาได้อย่างไร”เฮ่อยวนกล่าวว่า “ทำงานเสร็จแล้ว ก็รีบกลับมาที่อิ๋นเฉิงเลย ในเมื่ออาหารพร้อมแล้ว งั้นเราก็รับประทานอาหารด้วยกันเถอะ”เขามองไปที่เฮ่อฉางเฟิง พูดด้วยน้ำเสียงสงบราบเรียบ “ในเมื่อคุณชายเฮ่อและข้ามีแซ่เดียวกัน เช่นนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจ”จู่ๆ เฮ่อฉางเฟิงก็มีเหงื่อออกยิ่งพ่อของเขาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงสงบราบเรียบมากเท่าใด ความโกรธในใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โชคดีที่เขายังไว้หน้าตัวเองหน่อย เดี๋ยวอินชิงเสวียนกลับไป เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนเฮ่อฉางเฟิงก้มลงขอบคุณเขาทันที“ขอบคุณเจ้าเมืองเฮ่อ”กงซวินฮูหยินถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที“แม่นางอิน รีบนั่งลงเร็ว”อินชิงเสวียนยอบกายคารวะและพูดว่า “นี่...ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้ายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำ วันนี้ไม่รบกวนแล้ว”เจอกันครั้งแรก ก็มากินข้าวที่บ้านของเขาแล้ว มันจะกะทันหันเกินไปหน่อยกงซวินฮูหยินจับมือของอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็ว“แม่นางอินไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อมาแล้วก็อย่ามองว่าเป็นคนนอก นั่งเร็ว ในอิ๋นเฉิงเรามีสวนยา อาหารที่ทำล้วนแต่มีสรรพคุณ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status