แชร์

บทที่ 1102 เข้าเมือง

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-12 16:00:00
อินชิงเสวียนเลิกคิ้ว

“นี่คือเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงงั้นหรือ”

ฉุยอวี้ส่ายศีรษะ

“ไม่ใช่ นี่คือป่าหมอก ในป่าข้างในถึงจะเป็นเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเปิดในเวลาเช้า และปิดในเวลาบ่ายคล้อยของทุกวัน ตอนนี้ก็มืดแล้ว ถ้าต้องการแอบเข้าไป ทำได้แค่รอจนถึงวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าสองคนคิดว่าอย่างไร”

อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ในเมื่อลงเขามาแล้ว งั้นก็ไปดูกันดีกว่า ใกล้ๆ นี้มีเมืองอยู่ หาที่พักค้างคืนกันสักคืนเถอะ”

ในเมื่อมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรอินชิงเสวียนก็อยากเห็นว่าผู้ชายรูปงามปานเทพบุตรแบบใดถึงทำร้ายเหมยชิงเกอจนเป็นแบบนี้

ฉุยอวี้ย่อมยกมือเห็นด้วยอยู่แล้ว

“ได้ ที่นี่อยู่ห่างจากตลาดเพียงห้าหกลี้ ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึง”

อินชิงเสวียนพยักหน้าพูดว่า “ดี งั้นเราจะเข้าไปในอิ๋นเฉิงพรุ่งนี้เช้า”

ทั้งสามใช้วิชาตัวเบา และภายในสิบห้านาทีพวกนางก็มาถึงตลาด

เดิมทีคิดว่าในเวลานี้ปิดประตูไปนานแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะเห็นแสงไฟสว่างจ้า สามารถมองเห็นชาวยุทธ์ที่ถือดาบได้ทุกที่

เมื่อนั้นอินชิงเสวียนจึงจำตอนที่ผู้คนบุกโจมตีตำหนักเทพหอทองคำได้ เหมือนพวกเขาจะมารวมตัวกันที่นี่

เมื่อนึกถึงคำพูดขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1103 แยกย้ายกันทำงาน

    “คุณชายเฮ่อ ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่”เมื่อเห็นเฮ่อฉางเฟิง อินชิงเสวียนก็รู้สึกประหลาดใจจากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงก็แซ่เฮ่อ จึงพอเข้าใจขึ้นบ้าง เฮ่อฉางเฟิงไม่ใช่คุณชายธรรมดาจริงๆเฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ข้าน้อยได้ยินว่าอิ๋นเฉิงเปิดแล้ว จึงเดินทางมาดู คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับแม่นางอิน เจ้ากับข้ามีชะตาต้องกันจริงๆ!”อินชิงเสวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จากกันที่เป่ยไห่มาหลายวันแล้ว ไม่นึกว่าจะได้พบกับคุณชายเฮ่ออีก โลกพบกลมจริงๆ”“ถูกต้อง แม่นางอินมาอิ๋นเฉิงเพราะอาการป่วยงั้นหรือ”เฮ่อฉางเฟิงมีสีหน้าเปื้อนยิ้ม เขามีความสุขมากที่ได้เห็นอินชิงเสวียนเพียงแต่หลอกนางไปตั้งแต่แรกแล้ว จะมาเปิดเผยตัวตนตอนนี้ก็ไม่เหมาะอินชิงเสวียนกลอกตาแล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเจ้าเมือง เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงมานานแล้ว พอรู้ว่าอิ๋นเฉิงเปิดเมือง จึงมาชื่นชมความองอาจห้าวหาญของเจ้าเมืองโดยเฉพาะ”เมื่ออินชิงเสวียนพูดถึงตรงนี้ นางก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“น่าเสียดาย ไม่มีใครแนะนำให้ข้าได้”เฮ่อฉางเฟิงโพล่งออกมา “เรื่องนี้ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1104 ฮูหยินกงซวินผู้มีน้ำใจไมตรี

    อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดอย่างสุภาพ “ข้าเกรงว่าจะไม่มีเวลามากขนาดนั้น”จากนั้นเฮ่อฉางเฟิงจึงสังเกตเห็นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่อยู่ที่นี่“คุณชายเย่ไม่ได้มากับแม่นางอินหรือ”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ไม่ได้มา เขามีงานสำคัญ ข้าเดินทางมาคนเดียว”เฮ่อฉางเฟิงตอบว่าอ้อ“เป็นเช่นนี้เอง เมื่อคุณชายเย่มีเวลา ต้องพามานั่งที่นี่แน่นอน”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น แล้วถามว่า “คุณชายเฮ่อคุ้นเคยกับผู้คนในอิ๋นเฉิงหรือไม่”เฮ่อฉางเฟิงไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “ข้าน้อยกับฮูหยินค่อนข้างคุ้นเคยกันดี นางจิตใจดีมีเมตตา ถ้าได้พบกับแม่นางอินจะต้องรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกแน่นอน”อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “มีคนบอกว่ามีภรรยาที่ดีครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ไม่น่าแปลกใจที่อิ๋นเฉิง จะเจริญรุ่งเรืองมากเช่นนี้ ข้าบังเอิญนำของเล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาให้ผู้หญิงมอบให้ฮูหยินด้วย”“ฮูหยินเจ้าเมืองดีมากจริงๆ แม่นางอินได้พบก็จะรู้เอง”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองก็เข้ามาในลานบ้านแล้วผู้หญิงที่เห็นก่อนหน้านี้กำลังรออยู่ที่ประตูแล้ว“สวัสดีกงซวินฮูหยิน ท่านนี้คือแม่นางอินที่ผู้เยาว์เคยบอกท่าน”เฮ่อฉางเฟิงก้มศีรษะประสานมือคารวะ ทำเหมือนมี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1105 เจ้าเมืองเฮ่อ

    ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างกำยำเดินเข้ามาจากประตู เสื้อคลุมสีเข้มคุณภาพธรรมดาทำให้เขาดูสุขุมเยือกเย็นเก็บอารมณ์ เรียบง่ายไม่โอ้อวด รูปโฉมก็นับว่าดูดีทีเดียวแม้เป็นยุคปัจจุบัน ผู้ชายรุ่นลุงเช่นเขา ยังเป็นที่หมายปองของผู้หญิงหลายคนเกือบจะในทันที ที่อินชิงเสวียนเดาตัวตนของเขาได้นี่เป็นความรู้สึกแปลกมาก แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่ก็รู้ว่าตัวเองมีสายเลือดผูกพันกับคนผู้นี้ ถึงขั้นมีความรู้สึกใกล้ชิดที่อธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำสำหรับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดนี้ อินชิงเสวียนไม่มีความรู้สึกรักมากนัก เดิมทีนางก็ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม นอกจากนี้นางไม่ได้เติบโตมาด้วยกันและมีเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย นางไม่ควรรู้สึกเช่นนี้เลย สิ่งที่เรียกว่าสายเลือดผูกพันนี้ ค่อนข้างลึกลับเหลือเกิน แม้ว่านางจะเปลี่ยนวิญญาณ แต่ก็ยังคงรู้สึกอยู่ในใจในขณะที่คิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเฮ่อฉางเฟิงพูดตะกุกตะกัก “อา ผู้เยาว์ ผู้เยาว์น้อมคารวะท่านเจ้าเมืองเฮ่อ”เขาโค้งคำนับทักทาย เหงื่อซึมที่ปลายจมูกแล้วพ่อให้เขาฝึกฝนวรยุทธ์ในห้องลับจริงๆ แต่เฮ่อฉางเฟิงอาศัยอยู่ในนั้นมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เขาทนเหงาไม่ได้ จึงแอบออกไปได้ยินจากแม่ของเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1106 ลงมือตามสถานการณ์

    เนิ่นนานถึงสามอึดใจ กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถึงจะฉีกยิ้มออกมาได้“ท่านพี่ ท่าน...ท่านกลับมาได้อย่างไร”เฮ่อยวนกล่าวว่า “ทำงานเสร็จแล้ว ก็รีบกลับมาที่อิ๋นเฉิงเลย ในเมื่ออาหารพร้อมแล้ว งั้นเราก็รับประทานอาหารด้วยกันเถอะ”เขามองไปที่เฮ่อฉางเฟิง พูดด้วยน้ำเสียงสงบราบเรียบ “ในเมื่อคุณชายเฮ่อและข้ามีแซ่เดียวกัน เช่นนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจ”จู่ๆ เฮ่อฉางเฟิงก็มีเหงื่อออกยิ่งพ่อของเขาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงสงบราบเรียบมากเท่าใด ความโกรธในใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โชคดีที่เขายังไว้หน้าตัวเองหน่อย เดี๋ยวอินชิงเสวียนกลับไป เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนเฮ่อฉางเฟิงก้มลงขอบคุณเขาทันที“ขอบคุณเจ้าเมืองเฮ่อ”กงซวินฮูหยินถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที“แม่นางอิน รีบนั่งลงเร็ว”อินชิงเสวียนยอบกายคารวะและพูดว่า “นี่...ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้ายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำ วันนี้ไม่รบกวนแล้ว”เจอกันครั้งแรก ก็มากินข้าวที่บ้านของเขาแล้ว มันจะกะทันหันเกินไปหน่อยกงซวินฮูหยินจับมือของอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็ว“แม่นางอินไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อมาแล้วก็อย่ามองว่าเป็นคนนอก นั่งเร็ว ในอิ๋นเฉิงเรามีสวนยา อาหารที่ทำล้วนแต่มีสรรพคุณ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1107 เจตนาร้าย

    ทั้งแขกและเจ้าบ้างต่างก็เพลิดเพลินกับอาหารมื้อนั้น บรรยากาศก็ยอดเยี่ยมมาก เมื่อเห็นครอบครัวทั้งสามพูดคุยและหัวเราะ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาไม่น่าแปลกใจเลยที่เฮ่อฉางเฟิงมีบุคลิกที่ร่าเริงเช่นนี้ ได้เกิดมาในครอบครัวเช่นนี้ เขาต้องมีความสุขมากแน่ๆเมื่อนึกถึงพ่อแม่ของตัวเองที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจเบาๆ อย่างอดไม่ได้“แม่นางอินมีเรื่องในใจหรือ”เฮ่อฉางเฟิงถามอย่างเป็นห่วงอินชิงเสวียนวางตะเกียบลง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เปล่า ข้าอิ่มแล้ว”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถามอย่างกังวลใจ “ทำไมถึงกินน้อยจัง อาหารไม่ถูกปากแม่นางอินหรือ”อินชิงเสวียนมีสีหน้าสงบ“ฝีมือการทำอาหารของฮูหยินไม่เลวเลย แต่ในตอนเช้าข้ากินมามากแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นค่ำๆ ค่อยกินใหม่ ประเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นในสวนยา”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถือว่าอินชิงเสวียนเป็นลูกสะใภ้ของตัวเองแล้ว เมื่อประกอบกับขวดน้ำหอมที่สวยงาม ความรักของนางที่มีต่ออินชิงเสวียนก็พุ่งสูงขึ้นอินชิงเสวียนยอบกายคำนับเล็กน้อย“ขอบคุณฮูหยินมากเจ้าค่ะ”เฮ่อฉางเฟิงพูดว่า “ไม่ทราบว่าข้าน้อยจะโชคดีพอ ได้ไปดูสวนยาของฮูหยินบ้างหรือเปล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1108 คำตอบ

    “ขอบคุณแม่นางมาก”หญิงชราเงยหน้าขึ้น ตาข้างที่มองเห็นมองไปยังอินชิงเสวียนดวงตาของทั้งสองคนสบกัน มีสีแปลกๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาข้างเดียวของหญิงชรา แต่มันก็หายไปในพริบตาเดียวในเวลาเดียวกัน เฮ่อฉางเฟิงก็ขยิบตาให้แม่ เขาต้องการคุยกับอินชิงเสวียน ลาจากเป่ยไห่มาหลายวันแล้ว เฮ่อฉางเฟิงก็กังวลกับสถานการณ์ที่นั่นมาโดยตลอดแม่ลูกใจเชื่อมโยงกัน กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเข้าใจทันทีว่าลูกชายหมายถึงอะไร จึงพูดกับหญิงชรา “ข้านึกขึ้นได้ว่าต้องการส่งสมุนไพรไปให้ท่านพ่อ หลานตาน ป้าชุย ตามข้าไปด้วยกันเถอะ”ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน เดินตามกงซวินฮูหยินออกไปที่ประตูอินชิงเสวียนรู้แล้วว่าเฮ่อเฮ่อฉางเฟิงเป็นพี่น้องต่างแม่ของตัวเอง เมื่ออยู่ตามลำพังกับเขา นางจึงไม่รู้สึกอึดอัดใดๆ “แม่นางอิน เรื่องในเป่ยไห่คลี่คลายแล้วหรือยัง”“คลี่คลายไปพอควรแล้ว ชาวตงหลิวทั้งหมดออกไป ชาวบ้านก็กลับมาอยู่ในเป่ยไห่แล้ว ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ”เฮ่อฉางเฟิงกล่าวด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ “ราษฎรสามารถกลับบ้านของตนได้ ในที่สุดความพยายามของสำนักใหญ่ก็ไม่ไร้ผล ผู้พลีชีพเหล่านี้ควรค่าแก่การชื่นชม”“ใช่ พวกเขามีคุณธรรมจริงๆ!”เมื่อนึกถึงสุสานวีร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1109 ศิษย์พี่รองฉี

    อินชิงเสวียนร้อยพิษไม่อาจกล้ำกราย ดังนั้นนางจึงไม่สลบอยู่แล้ว นางคอยระวังสาวใช้ตาเดียวคนนี้อยู่แล้ว เมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นนั้นผิดปกติ นางก็แค่อยากดูว่าหญิงชราคิดอะไร “แม่นาง แม่นาง?”หญิงชราตาเดียวก้าวไปข้างหน้า ผลักไหล่ของนางเบาๆ เมื่อเห็นอินชิงเสวียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง หญิงชราก็ขยับตัวมาที่เตียงอินชิงเสวียนโคจรกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือทันที ตราบใดที่นางคิดลงมือ ก็สามารถตอบโต้ได้ทุกเมื่อในขณะที่กำลังคิด มือข้างหนึ่งก็จับคอเสื้อของนางแล้ว ดึงเสื้อผ้าอย่างแรง อินชิงเสวียนก็รู้สึกหนาวที่หลังนี่กำลังทำอะไรหรือว่านางมีรสนิยมพิเศษ?ในเวลานี้ ปลายนิ้วเลื่อนผ่านแผ่นหลัง อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว เข้าใจทันทีนางคงจะตรวจดูรอยตราตำหนักเทพบนไหล่ของนาง หรือว่า...นางเป็นคนของตำหนักเทพ?หญิงชราตาเดียวดึงเสื้อของอินชิงเสวียนขึ้นมา กำลังจะชักมือออก แต่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าข้อมือถูกบีบรัดแน่นตาดำตัดกับตาขาวคู่หนึ่งมองนางอย่างเย็นชา“ท่านเป็นใครกันแน่ ท่านกับตำหนักเทพเกี่ยวข้องกันอย่างไร”หญิงชราตาเดียวสะดุ้ง นางคิดไม่ถึงว่าอินชิงเสวียน จะไม่กลัวกลิ่นดอกฝิ่น นี่เป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนามา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1110 ตัวตน

    หญิงชราตาเดียวเงียบไปครู่หนึ่งตัวตนของอินชิงเสวียนตรงตามที่นางคาดเดาไว้ หากเฮ่อยวนรู้ ก็มีแต่จะดีใจ เขาจะทำร้ายนางได้อย่างไรแต่เป็นตัวเอง...หญิงชราตาเดียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร งั้นก็ควรรู้เรื่องแม่ของเจ้าด้วย”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปที่ธรณีประตู แล้วถามอย่างใจเย็น “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ผู้อาวุโสมาที่นี่ล่ะ?”หญิงชราตาเดียวลดเสียงลงแล้วพูดว่า “แน่นอน ข้าอยากจะล้างแค้นแทนศิษย์พี่เหมย ฆ่าเฮ่อยวน ผู้ไร้ความปรานีและไม่ยุติธรรม”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าฉีอวิ๋นจื่อจะเป็นคนหัวรุนแรงเหมือนกับฉุยอวี้ แต่เฮ่อยวนทำให้นางรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนใจร้ายใจดำเช่นนั้น“เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมท่านถึงไม่ลงมือ ท่านก็อยู่ที่อิ๋นเฉิงได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากกงซวินฮูหยิน มีโอกาสมากมายจะตาย”“ข้าจะให้หัวขโมยเฮ่อยวนตายง่ายๆ เช่นนี้ไม่ได้...”ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าแว่วดังมาแต่ไกล หญิงชราตาเดียวรีบปิดปากทันทีกล่าวด้วยความเคารพ “แม่นางอินค่อยๆ กิน บ่าวขอตัวก่อน หากแม่นางอินต้องการอะไร บ่าวจะมารับใช้อีกครั้ง”ในขณะที่กำลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status