แชร์

บทที่ 1081 เป็นนางนั่นเอง

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-07 16:00:00
“หายไปไหนแล้ว”

ถ้ำหินมีขนาดไม่ใหญ่นัก ยืนอยู่ปากทางเข้าถ้ำก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

เย่จั้นก็ดูสับสนเช่นกัน

“ข้าจี้สกัดจุดนางไว้แล้ว ตอนที่ข้าจากไปนางก็ยังอยู่ที่นี่”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว

“หรือว่านางคลายจุดได้เองและจากไปแล้ว?”

เย่จั้นส่ายศีรษะ เขาเองก็ไม่รู้

อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามทันที “นางสวมเสื้อผ้าแบบไหน”

ในตำหนักเทพมีศิษย์หญิงไม่มาก จนถึงตอนนี้ศิษย์หญิงที่อินชิงเสวียนเคยเห็น ก็มีไม่เกินห้าคนเท่านั้น

“นางสวมชุดสีขาว สวมผ้าคลุมหน้าผืนยาว”

อินชิงเสวียนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

“หรือว่า เป็นธิดาเทพจากตำหนักเทพหอทองคำ?”

“ธิดาเทพ? เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

เย่จั้นดูตกใจ

อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ครั้งหนึ่งข้าเคยเห็นธิดาเทพชุดขาวในตำหนักเทพ เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าก็เห็นนางอีกครั้งที่ริมลำธาร นางดูค่อนข้างแปลกจริงๆ แต่เสด็จอาจะแน่ใจได้อย่างไรว่านางคืออาหญิงของข้า อินหลี?”

เย่จั้นกระแอมไอแห้งๆ

“ข้าบังเอิญเห็นหน้านางน่ะ ดวงตาคู่นั้น คล้ายกับดวงตาของเจ้ามาก”

ภาพดวงตากลมโตสุดใสดุจธาราคู่นั้นผุดขึ้นในหัวของอินชิงเสวียน ลักษณะของดวงตาคู่นั้นค่อนข้างคล้ายกับของนางจริงๆ

อย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1082 แยกย้ายกันทำงาน

    อีกคนพูดอย่างเย็นชา “พวกเราทำตามคำสั่ง กลับไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยม”“พวกเจ้านี่บังอาจกันจริงๆ!”อินชิงเสวียนตั้งพิณการเวกบนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าอยากเห็นจริงๆ ว่าพวกเจ้ามีความสามารถแค่ไหน”“แม่นางอิน นี่เป็นเรื่องภายในของสำนักของเรา เจ้าไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายจะดีกว่า”อินชิงเสวียนพูดอย่างเย็นชา “สองคนนี้เป็นเพื่อนของข้า วันนี้ข้าจะปกป้องพวกนางให้ได้”มือเรียวของนางดึงสายเบาๆ เสียงพิณดังชัดเจนทำให้ทุกคนเลือดลมพลุ่งพล่านศิษย์หลายคนก้าวถอยหลังอีกคิดไม่ถึงว่าอินชิงเสวียนที่อายุยังน้อย แต่ทักษะวรยุทธ์กลับสูงส่งถึงเพียงนี้“ในเมื่อแม่นางอินยืนกรานดื้อดึง งั้นพวกเราก็มีแต่ต้องบอกผู้อาวุโสหันให้มาจัดการเท่านั้น”อินชิงเสวียนพูดอย่างเย็นชา “ตามสะดวก”ทั้งหมดมองดูพวกนางทั้งสามอย่างเกลียดชัง และจากไปอย่างรวดเร็วอินชิงเสวียนเก็บพิณการเวก แล้วหันกลับมาถามว่า “ผู้อาวุโสทั้งสองจะไปที่ใด”เฟิงเอ้อร์เหนียงกล่าวว่า “พวกเรากำลังจะไปพบผู้อาวุโสคุมกฎ แต่ถูกศิษย์ที่ลาดตระเวนเหล่านี้พบเข้า”นางหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “หากผู้อาวุโสหันรู้ว่าศิษย์พี่ฉุยฟื้นคืนสติแล้ว จะทำอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1083 ที่แท้ก็เป็นผู้ชายห่วยๆ

    ศิษย์กล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม “ฟื้นคืนสติจริงขอรับ แถมยังออกมาจากที่พักหินพร้อมกับเฟิงเอ้อร์เหนียง ดูจากทิศทางที่พวกนางกำลังจะเดินทางไปแล้ว เหมือนจะมุ่งหน้าไปยังโถงคุมกฎ”“โอ้?”ผู้อาวุโสหันลูบเคราแล้วยืนขึ้น“อินชิงเสวียนก็อยู่กับพวกนางด้วยหรือ”“ใช่แล้ว รวมถึงสุนัขสีขาวตัวสูงใหญ่แข็งแรงนั่นด้วย”ผู้อาวุโสหันหัวเราะเยาะ“อินชิงเสวียนมีความสามารถที่คาดไม่ถึงจริงๆ พวกเจ้าออกไปก่อน หากพวกนางอยากไป ก็ปล่อยให้พวกนางไป ไม่ต้องสนใจ”“ขอรับ”ศิษย์หลายคนโค้งคำนับและจากไปผู้อาวุโสหันยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในห้องโถง สายตาปรากฏแววเหยียดหยามอยู่หลายส่วน ต้องการร่วมมือกับตาแก่หัวทึ่มทั้งสามคนนั้นเพื่อมาจัดการกับเขางั้นหรือ ดีดลูกคิดคำนวณได้ไม่เลว แต่น่าเสียดาย ที่พวกนางจะไม่มีวันเจอไอ้โง่พวกนั้นอีก!ผู้อาวุโสหันเยาะเย้ย จากนั้นขมวดคิ้วและเริ่มคิดเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนในการต่อสู้กับเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ตัวเองควรมุ่งความสนใจไปที่การฝังโลหิตดี หรือควรแสวงหาการเลื่อนขั้นส่วนรวมจากน้ำพุวิญญาณดี?หากเป็นอย่างหลัง จนป่านนี้เขายังไม่มีข่าวคราวของเด็กเปรตนั่น อินชิงเสวียนจะถวายให้โดยไม่ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1084 แขกแย่งบทเจ้าภาพ

    ฉางเฮิ่นเทียนพูดด้วยน้ำเสียงทื่อตรง “ไม่ทราบแน่ชัด ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องฝังโลหิตมาก่อน”“ไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ หรือ”อินชิงเสวียนถามขณะขมวดคิ้วฉางเฮิ่นเทียนกล่าวว่า “จริง”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงและถามอีกครั้ง “แล้วเรื่องระหว่างเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงกับธิดาเทพแห่งตำหนักเทพล่ะ เจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่”ฉางเฮิ่นเทียนก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “รู้ ทั้งสองรักใคร่กันมาก และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ความรักที่เขามีต่อธิดาเทพแห่งตำหนักเทพเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความรักผูกพัน”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว“กล่าวจริงหรือ”“จริงแท้”ทันใดนั้นอินชิงเสวียนก็พูดว่า “เจ้าเงยหน้าขึ้น”ฉางเฮิ่นเทียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาทื่อตรงอินชิงเสวียนมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติจริงๆ ใบหน้ามืดมนอยู่มิวายคิดไม่ถึงว่าเจ้าเมืองอิ๋นเฉิงจะเป็นคนเช่นนี้ เหมยชิงเกอตาบอดจริงๆ นางยื่นมือออกไปดีดนิ้ว ทำให้ฉางเฮิ่นเทียนรู้สึกตัวขึ้นทันที“หืม? ข้า หลับไปหรือ”อินชิงเสวียนพูดเรียบๆ “เปล่า เจ้าแค่เหม่อลอยนิดหน่อย นี่ก็ดึกแล้ว กลับไปเถอะ”“ขอบคุณแม่นางอิน”ฉางเฮิ่นเทียนประกบมือคำนับแล้วจากไป เมื่อไปถึงที่ประตู อิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1085 ข่าวร้าย

    ผู้อาวุโสหันลูบหนวดเคราพลางถามว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร กำลังข่มขู่ข้าอยู่งั้นหรือ”อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “หากผู้อาวุโสหันยืนกรานที่จะคิดแบบนี้ ข้าไม่มีอะไรจะพูด ตอนนี้ก็เลยเวลาเที่ยงคืนแล้ว ไม่มีข่าวของเด็ก ข้าจะลงเขาไปตามหา ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ”ผู้อาวุโสหันกล่าวว่า “ศิษย์ของตำหนักเทพได้ขยายพื้นที่ค้นหาเป็นรัศมีหนึ่งร้อยลี้แล้ว หรือว่าพวกเขามีความสามารถเทียบกับเจ้าคนเดียวไม่ได้งั้นรึ”“จะทำอย่างตั้งใจจริง หรือทำแค่พอเป็นพิธี ก็ยากที่จะบอกได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคิดของผู้อาวุโสหัน”“พูดอะไรเช่นนั้น เด็กข้าก็เป็นคนพาจากเมืองหลวงมาที่ตำหนักเทพเอง เกิดความรู้สึกเอ็นดูนานแล้ว หลายวันนี้ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ ถึงทำวิธีเช่นนั้นได้”ผู้อาวุโสหันเปลี่ยนหัวข้อ ถามอีกว่า “หรือว่าเจ้าไปล่วงเกินผู้ใดเข้า?”อินชิงเสวียนถามกลับ “ข้าอาศัยอยู่ในวังหลังมานาน จะไปล่วงเกินใครได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสหันที่อยู่ในตำหนักเทพมีศัตรูที่แข็งแกร่งหรือไม่”ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ตำหนักเทพเป็นสถานที่เงียบสงบ ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การบำเพ็ญเพียรฝึกฌ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1086 คาดเดา

    ฉุยอวี้พูดเสียงหนักอึ้ง “ตอนนี้ดูเหมือน จะเป็นเช่นนั้น”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วพูดว่า “ผู้อาวุโสมีวรยุทธ์สูงส่ง บอกว่าตายก็ตายได้อย่างไร อีกคนอยู่ดีๆ ก็ลงจากเขายิ่งน่าแปลก หรือว่าพวกท่านไม่สงสัยเลย?”เฟิงเอ้อร์เหนียงกล่าวว่า “ย่อมมีข้อสงสัยอยู่แล้ว เราถามลูกศิษย์หลายคนแล้ว แต่ถามไม่ได้ความอะไรเลย หากเรื่องนี้เกิดจากผู้อาวุโสหันจริงๆ เกรงว่าเจ้าตำหนักก็อาจจะ...”ฉุยอวี้พยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลขณะที่เหมยชิงเกอถูกจองจำ ฉุยอวี้ก็เคยคิดถึงปัญหานี้ศิษย์พี่ใหญ่เป็นลูกศิษย์คนโปรดของเจ้าตำหนัก ต้องทนทุกข์ทรมานในผาเฟิงเริ่นมานานกว่าสิบปี แต่เจ้าตำหนักก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้น ซึ่งนับว่าผิดปกติเป็นอย่างมาก บัดนี้ศึกใหญ่กับอิ๋นเฉิงก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่เจ้าตำหนักยังคงไม่ยอมปรากฏตัว หากเขาไม่ได้อยู่ในตำหนักเทพ ก็น่าถูกผู้อาวุโสหันกำจัดไปแล้ว“หรือว่า ผู้อาวุโสหันฆ่าเขาแล้ว?”อินชิงเสวียนถามด้วยความหวาดกลัวทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เท่ากับเป็นการยอมรับกลายๆอินชิงเสวียนกำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้“ถ้าโจรเฒ่าหันผู้นี้โหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ นั่นยิ่งไม่ควรปล่อยเขาไป ตอนนี้ต้องหาหลักฐานก่อน ถึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1087 ยิ่งใกล้ชิดยิ่งพะวง

    อินชิงเสวียนพยักหน้าอย่างยินดี ถามว่าอีก “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสฟื้นฟูวรยุทธ์เป็นอย่างไรบ้าง”เหมยชิงเกอกล่าวว่า “น่าจะฟื้นฟูได้ครึ่งหนึ่งแล้ว”“ระหว่างผู้อาวุโสกับผู้อาวุโสหัน ถ้าเทียบกันแล้วผู้ใดอยู่ในระดับสูงต่ำกว่ากันเจ้าคะ”หลังจากได้ยินคำพูดของอินชิงเสวียน ดวงตาของเหมยชิงเกอก็ฉายแววหวาดกลัว“ผู้อาวุโสหันเป็นผู้นำของผู้อาวุโสทั้งสี่ของตำหนักเทพ ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนก็บรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับเขาแล้ว ข้าย่อมเทียบไม่ติดอยู่แล้ว”“แล้วถ้าเปรียบเทียบระหว่างเจ้าตำหนักกับผู้อาวุโสหันล่ะ?”อินชิงเสวียนถามอีกเหมยชิงเกอใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คงจะสูสีกันกระมัง เพียงแต่เจ้าตำหนักได้รับบาดเจ็บสาหัสในการประลองเมื่อห้าสิบปีก่อน หลายปีที่ผ่านมาก็็็ เก็บตัวบำเพ็ญเพียรมาโดยตลอด ไม่รู้ฟื้นคืนแล้วหรือยัง”เหมยชิงเกอไม่ได้เกลียดเจ้าตำหนัก เส้นทางในวันนี้ เป็นนางที่เลือกทางเอง ไม่สามารถตำหนิผู้อื่นได้“ผู้อาวุโสอยู่ที่ผาเฟิงเริ่นมาหลายปีขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเจ้าตำหนักเลยหรือ”“ไม่เคย”น้ำเสียงของเหมยชิงเกอโดดเดี่ยวท่านอาจารย์คงต้องเกลียดนางมากแน่ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่หล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1088 ฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว

    ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนก็กลับมาพร้อมถุงอาหารแล้วนางบอกวิธีการทำอาหารกับเหมยชิงเกอ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานด่วนแบบกึ่งสุก นอกจากนี้ ยังมีหม้อแอลกอฮอล์ที่สามารถนำไปหุงต้มอาหารได้อีกด้วย เนื้อไก่เนื้อหมู่ต่างๆ ก็แลกเปลี่ยนมาบ้างด้วย ถึงอย่างไรในมิติก็มีฟังก์ชันการเก็บรักษาของให้สดใหม่ นางจึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะเน่าเสีย ส่วนพวกผักผลไม้ อยากกินตอนไหนก็เก็บตอนนั้นก็พอเหมยชิงเกอรู้สึกทึ่งมาก ที่มีสิ่งของแปลกๆ มากมายในบ้านเล็กหลังไม่ใหญ่นี้“ขอบใจแม่นางอินมาก ข้าไม่จู้จี้จุกจิกเรื่องอาหาร ผลไม้ป่าก็ช่วยแก้หิวได้ เพียงแต่เด็กยังเล็ก จะทำแค่พอถูไถไม่ได้”เหมยชิงเกอมองไปยังเสี่ยวหนานเฟิงที่หลับใหลด้วยสีหน้าเปี่ยมรัก ในช่วงสองวันที่ผ่านมานางได้ทุ่มเทความพยายามและความอ่อนโยนทั้งหมดให้กับหลานชาย ด้วยหวังว่าจะใช้สิ่งนี้ชดเชยความเสียใจที่นางมีต่อลูกสาว“ไม่ต้องกังวล พวกท่านจะขาดใครไปไม่ได้ อ้อจริงสิ ฟังจากที่ผู้อาวุโสพูด คงเคยติดต่อกับอิ๋นเฉิงมาก่อน เคยได้ยินเกี่ยวกับวิชายุทธ์การฝังโลหิตบ้างไหมเจ้าคะ”อินชิงเสวียนคิดถึงเย่จิ่งอวี้มาโดยตลอด แม้ว่านางจะตัดสินใจที่จะไม่กลับไป แต่ภาพของเขาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1089 เห็นของแล้วคะนึงถึงคน

    “เจวี๋ยอิ่ง เข้ามา”สิบห้านาทีต่อมา ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็เย็นชาและเคร่งขรึม ลักษณะน่าครั่นคร้ามของผู้อยู่ที่อยู่เบื้องบนกลับคืนดังเดิมร่างหนึ่งปรากฏวับออกมาจากมุมห้อง คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”“ลุกขึ้น”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “รีบส่งคนไปตรวจสอบเบาะแสที่อยู่ของเสด็จอาโดยด่วน”หัวใจของเจวี๋ยอิ่งเต้นรัว แต่ยังคงพูดด้วยความเคารพว่า “กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้หยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ตรวจสอบเอกสารของเมืองซุ่ยหาน พบว่าพ่อลูกตระกูลอินกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ครั้นได้ยินดังนี้ เจวี๋ยอิ่งก็รู้สึกทั้งดีใจและกลัดกลุ้มผสมปนเปดีใจที่ฝ่าบาทจำเรื่องที่ฮองเฮาออกจากวังไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้กลุ้มใจคือ เขาจะตอบว่าอย่างไรดี“นี่...”เจวี๋ยอิ่งเหงื่อออกเล็กน้อยเย่จิ่งอวี้เหลือบมองหลี่เต๋อฝูที่ยืนอยู่ข้างประตู“หลี่เต๋อฝู เจ้ามาตอบ”“เอ่อ กระหม่อม...”หลี่เต๋อฝูวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้ามา รีบคุกเข่าโขกศีรษะราบลงบนพื้นพูดอย่างจำใจว่า “อันที่จริง...สืบพบกลุ่มกบฏของเจียงวูแล้วพ่ะย่ะค่ะ พ่อลูกตระกูลอิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-09

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status