Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1088 ฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว

Share

บทที่ 1088 ฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-08-09 16:00:00
ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนก็กลับมาพร้อมถุงอาหารแล้ว

นางบอกวิธีการทำอาหารกับเหมยชิงเกอ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานด่วนแบบกึ่งสุก นอกจากนี้ ยังมีหม้อแอลกอฮอล์ที่สามารถนำไปหุงต้มอาหารได้อีกด้วย เนื้อไก่เนื้อหมู่ต่างๆ ก็แลกเปลี่ยนมาบ้างด้วย ถึงอย่างไรในมิติก็มีฟังก์ชันการเก็บรักษาของให้สดใหม่ นางจึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะเน่าเสีย ส่วนพวกผักผลไม้ อยากกินตอนไหนก็เก็บตอนนั้นก็พอ

เหมยชิงเกอรู้สึกทึ่งมาก ที่มีสิ่งของแปลกๆ มากมายในบ้านเล็กหลังไม่ใหญ่นี้

“ขอบใจแม่นางอินมาก ข้าไม่จู้จี้จุกจิกเรื่องอาหาร ผลไม้ป่าก็ช่วยแก้หิวได้ เพียงแต่เด็กยังเล็ก จะทำแค่พอถูไถไม่ได้”

เหมยชิงเกอมองไปยังเสี่ยวหนานเฟิงที่หลับใหลด้วยสีหน้าเปี่ยมรัก ในช่วงสองวันที่ผ่านมานางได้ทุ่มเทความพยายามและความอ่อนโยนทั้งหมดให้กับหลานชาย ด้วยหวังว่าจะใช้สิ่งนี้ชดเชยความเสียใจที่นางมีต่อลูกสาว

“ไม่ต้องกังวล พวกท่านจะขาดใครไปไม่ได้ อ้อจริงสิ ฟังจากที่ผู้อาวุโสพูด คงเคยติดต่อกับอิ๋นเฉิงมาก่อน เคยได้ยินเกี่ยวกับวิชายุทธ์การฝังโลหิตบ้างไหมเจ้าคะ”

อินชิงเสวียนคิดถึงเย่จิ่งอวี้มาโดยตลอด แม้ว่านางจะตัดสินใจที่จะไม่กลับไป แต่ภาพของเขาย
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1089 เห็นของแล้วคะนึงถึงคน

    “เจวี๋ยอิ่ง เข้ามา”สิบห้านาทีต่อมา ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็เย็นชาและเคร่งขรึม ลักษณะน่าครั่นคร้ามของผู้อยู่ที่อยู่เบื้องบนกลับคืนดังเดิมร่างหนึ่งปรากฏวับออกมาจากมุมห้อง คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”“ลุกขึ้น”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “รีบส่งคนไปตรวจสอบเบาะแสที่อยู่ของเสด็จอาโดยด่วน”หัวใจของเจวี๋ยอิ่งเต้นรัว แต่ยังคงพูดด้วยความเคารพว่า “กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้หยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ตรวจสอบเอกสารของเมืองซุ่ยหาน พบว่าพ่อลูกตระกูลอินกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ครั้นได้ยินดังนี้ เจวี๋ยอิ่งก็รู้สึกทั้งดีใจและกลัดกลุ้มผสมปนเปดีใจที่ฝ่าบาทจำเรื่องที่ฮองเฮาออกจากวังไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้กลุ้มใจคือ เขาจะตอบว่าอย่างไรดี“นี่...”เจวี๋ยอิ่งเหงื่อออกเล็กน้อยเย่จิ่งอวี้เหลือบมองหลี่เต๋อฝูที่ยืนอยู่ข้างประตู“หลี่เต๋อฝู เจ้ามาตอบ”“เอ่อ กระหม่อม...”หลี่เต๋อฝูวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้ามา รีบคุกเข่าโขกศีรษะราบลงบนพื้นพูดอย่างจำใจว่า “อันที่จริง...สืบพบกลุ่มกบฏของเจียงวูแล้วพ่ะย่ะค่ะ พ่อลูกตระกูลอิน

    Last Updated : 2024-08-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1090 ภาพเจี่ยน

    เย่จิ่งอวี้สะดุ้ง หันขวับทันทีห่างจากเขาไปสิบก้าว มีชายชราสวมชุดคลุมสีเทายืนอยู่ผู้หนึ่ง ซึ่งเขาคือนักพรตเทียนชิงแห่งอารามซ่างชิงกวนทำไมเขาถึงเจอที่นี่ได้ล่ะในวังมีทหารองครักษ์มากมาย แต่เขาสามารถเข้ามาในตำหนักจินหวูได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น เขาเป็นยอดฝีมือมาจากไหนกันแน่ดวงตาของเย่จิ่งอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็โค้งคำนับทันที“ผู้เยาว์น้อมคำนับผู้อาวุโสเทียนชิง”นักพรตเทียนชิงยิ้มเล็กน้อย“ฝ่าบาทมากพิธีแล้ว ไม่คิดว่าน้องชายที่มักมาฟังเทศน์บ่อยๆ จะกลายเป็นฮ่องเต้บาทผู้สูงศักดิ์ที่สุดในแผ่นดิน อาตมภาพไร้มารยาทแล้ว”นักพรตเทียนชิงมีน้ำเสียงใจดี รอยยิ้มเมตตาเอ็นดูอันทำให้คนรู้สึกเหมือนเป็นสายลมฤดูใบไม้ผลิ“ท่านนักพรตยกย่องเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่เพราะจะชี้แนะอันใด”เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับเล็กน้อย กิริยาไม่ขาดตกบกพร่องนักพรตเทียนชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิกล้าชี้แนะดอก เดิมทีอาตมภาพมีเรื่องจะถาม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องถาม คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ยินยอม”เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น“ไม่ทราบว่าท่านนักพรตมีเรื่องอันใด เชิญกล่าวมาได้เลย”“ข้าสังเกตเห็นว่าฝ่าบาทมีสติปัญญ

    Last Updated : 2024-08-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1091 ผู้ที่ไม่อยู่บนโลก

    “ผู้อาวุโสเป็นผู้วิเศษจริงๆ!”เย่จิ่งอวี้ชื่นชมอย่างจริงใจหากเขาไม่ทราบตัวตนของอินชิงเสวียน เย่จิ่งอวี้คงจะคิดว่านักพรตเต๋าชรากำลังพูดไร้สาระ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเสวียนเอ๋อร์มาจากโลกอื่น ทุกอย่างจึงลงตัวได้พอดีอินชิงเสวียนคนเดิมตายไปแล้วจริงๆ คนปัจจุบัน ถึงจะเป็นภรรยาของเขา!“หมายความว่าอย่างไร”นักพรตเทียนชิงมองดูภาพทำนาย นัยน์ตาฉายแววสับสนเล็กน้อย“เรื่องนี้ค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่บ้าง ขออภัยที่ผู้เยาว์ไม่สามารถอธิบายได้”“เอาล่ะ งั้นเรามาดูภาพทำนายกัน นี่คือภาพเจี่ยน ข้างบนตกตำแหน่งภูเขา ข้างล่างตกตำแหน่งแม่น้ำ ลูกและภรรยาของฝ่าบาทน่าจะอยู่ระหว่างภูเขาและแม่น้ำ หากเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะมีคุณ หากอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่ดี เจี่ยนยังหมายถึงการเดินเหินไม่สะดวก ถูกปิดล้อม คิดว่าลูกและภรรยาของเจ้าคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหว หากสามารถป้องกันตัวเองอย่างชาญฉลาดได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น”เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว“เช่นนั้นชีวิตของพวกนางตกอยู่ในอันตรายหรือไม่”นักพรตเทียนชิงเก็บกระดองเต่าและเงินอีแปะ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “มิได้ ฝ่าบาทวางใจได้ ภรรยาของพระองค์เป็นคนฉลาด แม้จะมีความยากล

    Last Updated : 2024-08-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1092 กลับสู่เป่ยไห่

    เมื่อนึกถึงภาพทำนายที่ฮ่องเต้ขอให้ทำนาย คิ้วของนักพรตเทียนชิงก็ขมวดมุ่นทันทีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบกระดองเต่าออกมาอีกครั้งภาพทำนายแสดงให้เห็นว่าคนสองคนมีความเชื่อมโยงกันจริงๆ และการลงทัณฑ์บัญชา ยิ่งเป็นสิ่งที่ยุ่งยากมากหรือว่าการโจมตีขั้นสุดยอดของสำนักทั้งสองไม่สามารถรับมือเขาได้?ในขณะที่นักพรตเทียนชิงกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เย่จิ่งหลานก็พาทุกคนกลับไปที่เป่ยไห่เพราะเลือดของโมริตะคาวาสึบาเมะหยดนั้น ทำให้เย่จิ่งหลานรู้สึกไม่สบายใจมาโดยตลอดมนุษย์เป็นสัตว์ที่อ่อนไหวจริงๆ เมื่อได้ยินอะไรบางอย่างก็อดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน“ท่านมีอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า”หลังจากการรักษาฟื้นฟูมาเป็นนาน อาการบาดเจ็บของหวังซุ่นก็หายดีนานแล้วทุกครั้งที่เขาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเย่จิ่งหลาน หวังซุ่นก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในใจเด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบ สามารถเติบโตเป็นร่างนี้ได้ในชั่วข้ามคืน หากไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ถึงเป็นความฝันหวังซุ่นก็คงไม่อยากเชื่อ ว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริงได้เย่จิ่งหลานแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและพูดว่า “บางทีอยู่ในเรือนาน เลยเหนื่อยนิดหน่อย ได้นอนสักพักก็ดีขึ้นแล้ว”หว

    Last Updated : 2024-08-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1093 คนอวดดี

    หนึ่งในนั้นพูดว่า “ขอสุขสถาพรสถิตชั่วนิรันดร์ ไม่ทราบว่าพี่ชายน้อยมีนามว่าอะไร”เย่จิ่งหลานเอามือไพล่หลังแล้วพูดว่า “พวกเจ้ามาหาข้าที่นี่ แต่กลับถามว่าข้าเป็นใคร ไม่จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังไปหน่อยหรือ”อีกคนมองพินิจไปที่เย่จิ่งหลาน รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจคนผู้นี้หล่อเหลาชวนมอง อายุยังไม่มาก มองอย่างไรก็ไม่สามารถเชื่อมโยงเขากับคนบาปนั่นได้เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ขอสุขสถาพรสถิตชั่วนิรันดร์ ไม่ทราบว่าพี่ชายน้อยเคยไปเกาะตงหลิวหรือเปล่า”เย่จิ่งหลานเอามือไพล่หลังแล้วถามว่า “ทำไมถึงถามเช่นนี้ ไปที่นั่นไม่ได้งั้นหรือ”คนที่พูดก่อนหน้านี้กล่าวว่า “ในเมื่อพี่ชายน้อยพูดเช่นนี้ ก็ต้องไปมาแล้ว”เย่จิ่งหลานไม่ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่มองทั้งสองอย่างเย็นชา“แล้วอย่างไร”นักพรตเต๋าร่างผอมกล่าวว่า “ขอสุขสถาพรสถิตชั่วนิรันดร์ พวกอาตมภาพได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มาทำความดีลงโทษความชั่วร้าย ในเมื่อพี่ชายน้อยเป็นผู้กระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ เช่นนั้นก็จงรับการลงทัณฑ์ เนรเทศไปยังเกาะด้านนอก ไม่สามารถก้าวเข้าสู่จงหยวนได้ชั่วนิรันดร์”“ลงทัณฑ์ เนรเทศ?”เย่จิ่งหลานมองทั้งสองคนราวกับมองลิงก็ไม

    Last Updated : 2024-08-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1094 ชีวิตของข้าขึ้นอยู่กับข้ามิใช่ชะตาฟ้าลิขิต

    ทั้งสองตั้งท่าป้องกันทันทีเย่จิ่งหลานยังคงมองดูนักพรตเต๋าสองคนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม รอยยิ้มเจือแววประชดประชันและไม่อินังขังขอบ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเย่จิ่งหลานเช่นนี้ ทั้งสองก็ค่อนข้างตื่นตระหนกแม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกศิษย์รุ่นสามที่เป็นผู้ลงทัณฑ์ความชั่วร้าย แต่พวกเขาก็ฝึกฝนอย่างหนักมานานหลายทศวรรษ แต่ตอนนี้กลับประสบพบเจอเรื่องแปลกๆ จึงรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจนี่คือค่ายกลแบบไหนกันแน่ ทำไมมันถึงแปลกประหลาดขนาดนี้“ไม่ต้องพูดไร้สาระกับเขา ลงมือ”พวกเขาทั้งสองฝึกฝนร่วมกันมาเป็นเวลานาน จิตใจเชื่อมโยงถึงกัน ต่างโจมตีไหล่ทั้งสองข้างของเย่จิ่งหลานพร้อมกัน“กลับไป”เย่จิ่งหลานชี้เบาๆ ทั้งสองก็ลอยกลับไปยังที่เดิมทันที“เกิดอะไรขึ้น”นักพรตเต๋าทั้งสองมองหน้ากัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คนหนึ่งพูดด้วยความโกรธ “เจ้าปีศาจ เจ้าใช้เวทมนตร์อะไรกันแน่”เย่จิ่งหลานแค่นเสียงหึเบาๆ “ข้ากลับอยากถามพวกเจ้าเสียอีก ว่าทำไมถึงลงความเห็นว่าข้าเป็นคนบาป”คนหนึ่งพูดด้วยความโกรธ “ศิลาตอบสวรรค์แสดงให้เห็น ภาพทำนายยืนยัน เกาะตงหลิวเป็นสถานที่ซึ่งผู้กระทำความผิดถูกเนรเทศ ในเมื่อเจ้าเคยไปที่เกาะตงหลิว เช่

    Last Updated : 2024-08-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1095 คนเซ่อซ่า

    นักพรตเต๋าร่างผอมกล่าวว่า “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ถ้าฉลาดก็ยอมมอบตัว ไปสถานที่เนรเทศกับเราซะ”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และมาปรากฏตัวต่อหน้านักพรตเต๋าร่างผอม ยกมือขึ้นตบบ้องหูทั้งสองคนเสียงดังฟังชัดดังก้องไปทั่วมิติ ทั้งสองถูกตบหน้าเพียะอย่างแรง“ด้วยความสามารถของพวกเจ้าในตอนนี้ ยังคิดว่าจะพาข้าไปได้รึ โคตรพ่อมันเถอะ นี่เป็นเรื่องตลกที่น่าขันที่สุดที่ข้าเคยได้ยินในชีวิต”นักพรตเต๋าผู้แข็งแกร่งถูกด่าสาดเสียเทเสีย“ไอ้เด็กเวร เจ้ากล้าทำร้ายพวกเรารึ”“แล้วไงล่ะ? พวกเจ้าก็มาหาข้าโดยไม่มีคำอธิบายเหมือนกันไม่ใช่รึ ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าครั้งสุดท้าย พวกเจ้ามาจากไหน ทำไมเจ้าถึงมาหาข้า”เมื่อมองดูสีหน้ากวนบาทาของเย่จิ่งหลาน นักพรตเต๋าทั้งสองก็กัดกรามกรอด“ข้าได้พูดชัดเจนมากแล้ว ศิลาตอบสวรรค์แสดงให้เห็น เราแค่ปฏิบัติตามบัญชาสวรรค์เท่านั้น”เย่จิ่งหลานพูดไม่ออก นักพรตเต๋าสองคนนี้โง่ไปแล้วหรือ ทำไมถึงฟังไม่เข้าใจ พูดไปพูดมาอยู่คำเดียว หรือว่าบำเพ็ญตบะนานเกินไป จนสมองมีปัญหา“ศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่ใด”นักพรตเต๋าอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ที่พักของเรา”เย่จิ่งหลานอยากจะกระอักเลือดออกมาจริงๆ

    Last Updated : 2024-08-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1096 ความคิดเปลี่ยนแปลง

    ฮั่วเทียนเฉิงตกตะลึงเล็กน้อย“ทำไมจู่ๆ คุณชายถึงรับปากล่ะ?”เมื่อเห็นว่าฮั่วเทียนเฉิงไม่ดีใจ เย่จิ่งหลานก็ถามด้วยความสับสน “สีหน้าของท่านฮั่วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ หรือว่าท่านไม่ดีใจ?”ฮั่วเทียนเฉิงส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว“จะเป็นไปได้อย่างไร คุณชายน้อยเย่สามารถไปกับข้าได้ ข้ามีแต่จะยินดีด้วยซ้ำ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและถามว่า “เช่นนี้แล้ว ทำไมท่านฮั่วถึงดูกังวล หรือว่าที่ท่านพูดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหกข้า?”ฮั่วเทียนเฉิงโบกมือโดยเร็ว“ตำหนักเทพให้เกียรติแก่นักปราชญ์ราชบัณฑิตมาแต่ไหนแต่ไร ทุกสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องจริง”“งั้นก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่หรือ ช่วงนี้จิตใจของข้าสับสนอยู่พอดี ที่ตำหนักเทพคงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนา”หลังจากได้ยินคำพูดของเย่จิ่งหลาน ฮั่วเทียนเฉิงก็ขมวดคิ้วอีกครั้งหลังจากคบค้าสมาคมกันนานกว่าหนึ่งเดือน เขาก็รู้สึกนิยมชมชอบและเคารพเลื่อมใสเด็กคนนี้มากแม้ว่าเย่จิ่งหลานจะเปลี่ยนใบหน้ามาหล่อเหลาราวกับหยก แต่ฮั่วเทียนเฉิงก็เห็นเป็นเหมือนเดิม ถือว่าเขาเป็นเด็กอายุเจ็ดแปดขวบมาโดยตลอดหลังจากรู้จักกันมานาน เขารู้สึกว่าความเฉลียวฉลาดของเย่จิ่งหลา

    Last Updated : 2024-08-11

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status