เมิ่งอันหลานหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ ห่าวตี้หลุนมองดูนางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็เปิดประตูให้บ่าวรับใช้เข้ามา บ่าวรับใช้ถือถ้วยน้ำแกงคุมกำเนิดมายื่นให้นาง
" ไม่กินได้หรือไม่"
" เจ้าอยากมีลูกกับข้า เจ้าคู่ควรหรือ"
" ท่านแม่ของท่านเร่งให้ข้ามีอยู่ทุกวันท่านไม่เห็นรึ "
" รีบกิน"
เมิ่งอันหลานไม่พูดอะไรต่อ รับถ้วยน้ำแกงคุมกำเนิดมายกซดจนหมด แล้วคว่ำถ้วยให้เขาดู
" พอใจแล้วใช่ไหม"
ห่าวตี้หลุนหันหลังเดินออกจากห้องไปไม่สนใจนาง เมิ่งอันหลานน้ำตาไหลด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ นางแต่งงานกับเขามาสามปีแต่เขาก็ยังหมางเมินเย็นชา
สามปีก่อน ห่าวตี้หลุนได้เข้าร่วมกองทัพการรบครั้งนั้นทำให้เขาเสียขาสองข้าง เพราะพิการจึงถูกปลด หลี่หรูอี้คนรักก็ถอนหมั้นไปแต่งงานกับบุตรชายเสนาบดี เขามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย สูญเสียหน้าที่การงานเสียขาสองข้าง ต้องนั่งรถเข็นตลอด และยังเสียคนรักอีก
นางได้เจอกับฮูหยินผู้เฒ่าที่มาไหว้พระขอพรที่วัดเขาฝูกวงในเมืองหางโจว ฮูหยินผู้เฒ่าโรคประจำตัวกำเริบ นางจึงช่วยให้ยาระงับอาการแล้วยังฝังเข็มช่วยรักษา เมื่อรู้ว่านางเป็นหมอจึงบอกเล่าอาการของห่าวตี้หลุนว่าพอจะมีทางรักษาหรือไม่ ตอนนั้นนางพึ่งเปิดโรงหมอได้ไม่นาน ฝีมือยังไม่เก่งนักก็ไม่แน่ใจ จึงตามไปที่จวนตระกูลห่าว พอได้ตรวจดูก็พบว่าไม่มีทางรักษาเว้นแต่จะได้ยาวิเศษจากหมอเทวดาซูอาจารย์ของตน
ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่าบิดาของตนติดหนี้ก้อนใหญ่ จึงเสนอจะใช้หนี้ให้แลกกับให้นางแต่งงานกับห่าวตี้หลุนและคอยดูแลเขา คิดถึงบิดาของตนที่ยามนั้นกำลังลำบากสินค้าที่จะนำไปส่งมอบถูกโจรปล้น บ้านก็ยังถูกไฟไหม้ ครอบครัวของตนแทบสิ้นเนื้อประดาตัวทำให้ต้องไปกู้หนี้เขามาเพื่อชดใช้ค่าเสียหายและทำการค้าใหม่ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ลูกค้าต่างไม่เชื่อมั่นไม่สั่งสินค้ากับบิดาตนอีก สุดท้ายก็เจ๊งไม่เป็นท่ามีแต่หนี้สินท่วมตัว น้องชายของตนที่กำลังจะเดินทางไปสอบบัณฑิตที่เมืองหลวงก็ต้องยกเลิกเพราะไม่มีเงิน และต้องดูแลบิดาที่เอาแต่เสียใจกินเหล้าแทนข้าว
นางจึงตัดสินใจยอมรับข้อเสนอของฮูหยินผู้เฒ่า บิดากับน้องชายไม่เห็นด้วยที่นางต้องแต่งงานกับคนพิการ แต่พอเห็นสินสอดก็ตาลุกวาว นอกจากจะใช้หนี้หมดแล้วยังเหลือเงินอีกมาก บิดาของตนเปิดโรงเตี๊ยมชั้นบนให้เข้าพักชั้นล่างเป็นที่ให้ร่ำสุราและน้ำชา ส่วนน้องชายของตนก็หอบเงินจำนวนหนึ่งเดินทางไปเมืองหลวงทำตามความฝัน
แรกๆที่แต่งเข้าจวนตระกูลห่าว ห่าวตี้หลุนทำตัวเหมือนผีตายซาก ไม่พูดไม่จาแทบไม่กระดุกกระดิกตัว มีแขนใช้งานได้ก็ไม่ยอมใช้ นางต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ
ต่อมาอาจารย์ของนางกลับมา นางจึงไปปรึกษาเรื่องอาการของเขา อาจารย์ยอมลงจากเขามาตรวจดูอาการให้ แต่ยาวิเศษยังขาดสมุนไพรอยู่หนึ่งอย่างจึงจะสามารถปรุงยาได้ นางยอมขึ้นเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ฝ่าพายุหิมะที่หนาวเหน็บไปเก็บบัวหิมะพันปีมาให้เขา ขากลับพลาดตกเหวจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่พรานป่ามาเจอเเละช่วยขึ้นมาได้
หลังจากฝังเข็มรักษาต่อเนื่องบวกกับยาวิเศษ ทำให้ห่าวตี้หลุนเริ่มเดินได้ ทุกคนในจวนต่างดีใจกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นพากันขอบคุณหมอซูโดยไม่มีใครรู้ว่าหมอซูคืออาจารย์ของนาง และนางเป็นคนขอร้องให้เขามารักษาห่าวตี้หลุน ทั้งเรื่องที่นางเสี่ยงชีวิตไปเอาบัวหิมะพันปีซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของยาวิเศษ ทุกคนก็ลืมเลือนหมด
นางคอยประคับประคองเขา ช่วยเขาฝึกเดิน จนในที่สุดเขาก็กลับมาเดินได้ แต่พอเขาเดินได้ สิ่งแรกที่เขาทำคือไปหาหญิงในดวงใจหลี่หรูอี้
ตอนนั้นเสนาบดีถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดก่อกบฏ เสนาบดีและลูกเมียถูกประหาร สามีของหลี่หรูอี้ก็เช่นกัน ส่วนหลี่หรูอี้ได้หลี่เฟยน้าของนางที่เป็นสนมคนโปรดขอประทานอภัยโทษให้ ทำหนังสือหย่าปลอมขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่านางได้หย่ากับสามีก่อนเกิดเรื่อง
ทำให้นางไม่ต้องรับโทษไปด้วย หลังจากนั้นนางก็กลับไปอยู่บ้านของนางที่จวนตระกูลหลี่ รอดตายหวุดหวิด
พอหลี่หรูอี้รู้ว่าห่าวตี้หลุนกลับมาเดินได้ ทั้งสองก็เริ่มสานสัมพันธ์กันใหม่ ฮูหยินผู้เฒ่ารู้เรื่องก็โกรธสั่งห้ามไม่ให้ห่าวตี้หลุนไปหาหลี่หรูอี้อีก แล้วบังคับให้เขาเข้าหอกับนาง
แน่นอนว่าเขาไม่ยอม แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ขังเขาไว้ในห้องกับนางแล้วยังให้คนเป่าควันปลุกกำหนัดเข้ามาในห้องอีก สุดท้ายทนไม่ไหวจึงร่วมรักกับนาง
นางคิดว่าต่อไปเขาคงไม่ทำอีก แต่นางคิดผิด ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็มาร่วมรักกับนางทุกคืน พอเช้ามาก็บังคับให้นางกินน้ำแกงคุมกำเนิด
" ฮูหยิน ฮูหยินเจ้าคะ"
เสียงเรียกของสาวใช้คนสนิท ทำให้เมิ่งอันหลานหลุดออกมาจากความคิดในอดีต
" ฮูหยินเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ หรือว่าไม่สบายตรงไหน"
" ข้าสบายดี"
" งั้นก็ไปกินข้าวเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวทุกคนรอ"
เมิ่งอันหลานเดินมานั่งลงที่โต๊ะอาหาร
" กว่าจะมาได้ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยหล่ะ"
ห่าวเหลียนฮวาพูดแขวะ
" ขออภัยเจ้าค่ะที่ให้รอ"
" เอาหล่ะ หลานเอ๋อมาแล้วก็กินข้าวกันเถอะอาหลุนคีบเนื้อให้เมียของเจ้าสิ "
ฮูหยินผู้เฒ่าบอก ห่าวตี้หลุนจึงต้องคีบเนื้อมาใส่ชามข้าวให้นาง หลังกินข้าวเสร็จบ่าวรับใช้ก็ยกน้ำแกงมาวางตรงหน้าเมิ่งอันหลาน
" น้ำแกงบำรุง ช่วยให้เจ้าตั้งครรภ์เร็วๆรีบกินซะสิ"
ห่าวเหลียนฮวาพูดขึ้นแล้วมองเมิ่งอันหลานอย่างไม่ชอบใจนัก นางไม่ชอบสะใภ้ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้ แต่ก็ขัดแม่สามีไม่ได้อีกอย่างตอนนั้นใครจะยอมมาแต่งงานกับบุตรชายของนางที่เป็นคนพิการกันเล่า
เมิ่งอันหลานมองน้ำแกงบำรุงครรภ์แล้วแค่นหัวเราะ นี่ก็เป็นสิ่งที่นางต้องกินทุกวันเช่นเดียวกับน้ำแกงคุมกำเนิด นางหันไปมองหน้าห่าวตี้หลุน ที่นั่งตัวตรงเมินเฉยเย็นชา
" เจ้าแต่งเข้าตระกูลห่าวมาสามปี สองปีแรกพี่ชายของข้าพิการไม่อาจเข้าหอกับเจ้าได้แต่ปีนี้เขาหายดีแล้วเห็นว่าเข้าหอกับเจ้าทุกคืน"
ห่าวตี้หลุนที่กำลังจิบชาถึงกับสำลัก จ้องหน้าห่าวลั่วชิงน้องสาว แต่นางก็ไม่หยุดพูด
" เอ้ เจ้ากับพี่ชายของข้าทุกคืนขนาดนี้แล้วทำไมเจ้ายังไม่ท้องอีกหล่ะ"
เมิ่งอันหลานยิ้มแล้วพูดโต้กลับ
" เรื่องนี้คงต้องถามพี่ชายของเจ้าแล้วหล่ะว่าทำไมถึงไม่มีความสามารถทำให้ข้าท้องได้เสียที "
นางยกถ้วยน้ำแกงไปวางตรงหน้าห่าวตี้หลุน เขาหันมามองหน้านาง
" น้ำแกงบำรุงนี่เหมาะกับท่านมากกว่า สองปีที่ขาท่านเดินไม่ได้เกรงว่าจะส่งผลต่อการมีบุตร"
พูดจบนางก็เดินออกไป ห่าวตี้หลุนกัดฟันกรอดด้วยความโมโห
" อาหลุน เดี๋ยวเจ้าไปให้หมอตรวจดูหน่อย เหลียนฮวาตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าหายาบำรุงให้เขากินด้วย"
ฮูหยินผู้เฒ่าพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนจะลุกขึ้นตบบ่าห่าวตี้หลุนแล้วเดินออกไป
ห่าวตี้หลุนถีบประตูดังปังด้วยความโมโห เมิ่งอันหลานนั่งอยู่หน้ากระจกให้หว่านเอ๋อหวีผม ก็ส่งสายตาให้หว่านเอ๋อออกไปก่อน ห่าวตี้หลุนเข้าไปกระชากแขนนาง" อยากมีลูกกับข้าถึงกับต้องทำแบบนี้เลยรึเจ้าจงใจทำให้ข้าอับอายใช่ไหม"" อาย อายทำไม ก็มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น แล้วที่ข้าพูดมันผิดตรงไหน ขาของท่านเดินไม่ได้มาสองปีเป็นธรรมดาที่จะส่งผลกับ ตรงนั้น"นางก้มมองต่ำ เขาผลักนางออกอย่างรังเกียจ" ของข้าใช้การได้ดีหรือไม่เจ้าย่อมรู้ดี เจ้าเองก็ติดใจมันจนร้องครางไม่หยุดไม่ใช่รึ"เขาพูดแล้วเดินเข้าหานาง นางถอยหนีจนชิดมุมแล้วแสยะยิ้ม" ข้าก็แกล้งร้องไปอย่างงั้นเองแหละ เป็นกำลังใจให้ท่าน ไม่อยากทำให้ท่านต้องเสียหน้า"" เจ้า นี่เจ้า"นางผลักเขาออกแล้วเดินไปนั่งจิบชา" ข้าว่าท่านควรเอาเวลาที่โต้เถียงกับข้าไปหางานทำดีกว่า ขาของท่านก็เดินได้มาเกือบปีแล้วเหตุใดยังลอยชายไปมาอยู่อีกไม่คิดจะหาเงินเข้าจวนบ้าง น้องสาวของท่าน แม่ของท่าน ล้วนแต่ใช้จ่ายเงินราวกับใบไม้ เสื้อผ้าเครื่องประดับซื้อได้ทุกวัน นี่ถ้าไม่มีสมบัติเดิมป่านนี้จวนจระกูลห่าวคงเหลือเเต่ชื่อ หรือว่าท่านคิดจะให้บิดาของท่านที่อยู่ชายแดนเลี้ยงดูไปจนตาย
จวนตระกูลหลี่หลี่หรูอี้หยิบขนมป้อนห่าวตี้หลุน เขาอ้าปากรับเคี้ยวตุ้ยๆ แต่สีหน้ายังบูดบึ้งไม่สบอารมณ์" พี่ตี้หลุน ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า หรือขนมที่ข้าทำไม่ถูกปาก ถ้าเป็นแบบนั้นก็บอกข้าดีๆสิ"" ไม่ ไม่ใช่ ขนมอร่อยมาก ฝีมือของอี้เอ๋อดีไม่มีตก เพียงแต่ข้ามีเรื่องให้คิด"" เรื่องอะไรรึ บอกข้าได้ไหม เผื่อข้าจะช่วยท่านได้ "" อี้เอ๋อของข้าจิตใจดีจริงๆ ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่คิดว่าจะกลับเข้ากองทัพดีหรือไม่"" ท่านคิดจะกลับเข้ากองทัพรึ "ห่าวตี้หลุนพยักหน้า เขาว่างงานมานานแล้วไม่มีรายได้ กินใช้สมบัติเดิมของตระกูล ส่วนเงินชดเชยที่ได้จากการเสียขาครั้งนั้นก็หมดไปกับค่าหมอค่ายานานแล้ว อาศัยเบี้ยหวัดน้อยนิดจากบิดาของเขาก็แทบไม่พอค่าใช้จ่ายในจวน จริงอย่างที่เมิ่งอันหลานพูด หากไม่มีสมบัติเดิม จวนตระกูลห่าวคงไม่เหลืออะไร ทั้งมารดาของเขาเดี๋ยวก็ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนนั้นจวนนี้ น้องสาวของเขาวันๆก็เอาแต่เที่ยวเล่น กลับจวนทีก็ซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับกลับมาด้วยทุกครั้งโดยเฉพาะเสื้อผ้า เขาไม่เข้าใจว่านางจะซื้อมาทำไมนัก เท่าที่มีก็ใส่แทบไม่หมด แต่ละวันใส่ซ้ำกันซะที่ไหน ทุกวันนี้ต้องมีห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้าเ
เมิ่งอันหลานก้มลงหยิบจดหมายมาอ่านแล้วแค่นหัวเราะ" นี่ไม่ใช่ลายมือของข้า"" หลักฐานชัดเจนขนาดนี้เจ้ายังปฏิเสธ"" แล้วจะให้ข้ายอมรับได้ยังไงก็มันไม่ใช่ลายมือของข้าจริงๆ หากไม่เชื่อก็ไปเอากระดาษกับพู่กันมา"ห่าวลั่วชิงมองหน้าห่าวเหลียนฮวา หากให้เมิ่งอันหลานได้เขียนตัวอักษรก็จะพิสูจน์ได้ว่าลายมือไม่ตรงกับในจดหมาย นั่นก็จะถูกจับได้ว่าพวกนางปลอมแปลงขึ้นมา และห่าวลั่วชิงที่เป็นคนเขียนจดหมายเอง" ช้าก่อน เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้เขียนจดหมายแต่จะบอกว่าไม่รู้จักคนส่งจดหมายด้วยใช่ไหม มีคนเห็นเจ้ารับจดหมายจากบ่าวรับใช้คนนี้ พอเจ้าได้รับจดหมายก็รีบเปิดอ่านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หรือเจ้าจะปฏิเสธ ไปเรียกคนมา"วันก่อนห่าวลั่วชิงมาบอกนางว่าเห็นบ่าวรับใช้ส่งจดหมายให้เมิ่งอันหลาน นางเองก็ไม่รู้ว่าใครส่งมาและเนื้อหาในจดหมายมีข้อความอะไร แต่ก็ทำให้นางคิดแผนขึ้นมาได้บ่าวรับใช้4คนเดินเข้ามา" พวกเจ้าใช่ไหมที่เห็นเจ้าคนนั้นส่งจดหมายให้ฮูหยินน้อย"" ขอรับ ตอนนั้นบ่าวกวาดใบไม้อยู่ไม่ไกลเห็นชายคนนั้นเอาจดหมายมาให้ฮูหยินน้อย"" บ่าวก็รดน้ำดอกไม้อยู่เห็นเหมือนกันเจ้าค่ะพอฮูหยินน้อยเปิดอ่าน ก็ยิ้มไม่หุบเหมือนมีความสุขมากเจ
ในจวน ผู้คนพลุกพล่าน บ่าวรับใช้วิ่งเข้าวิ่งออกต่างวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานแต่งไม่มีใครสนใจเมิ่งอันหลานที่นอนอยู่ท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ นางลืมตาที่พร่ามัวมองดูทุกคนกำลังวุ่นวาย ได้ยินทุกคำพูดแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว นางหนาวสะท้านเข้ากระดูก แผลที่ถูกแทงคราวก่อนปริแตก แผลที่ถูกโบยข้างหลังเลือดไหลย้อมหิมะจนเป็นสีแดง ก่อนสติจะดับไปอีกครั้ง นางเห็นคนผู้หนึ่งในชุดสีน้ำเงินเดินตรงเข้ามาเหมือนครั้งก่อนที่นางถูกแทงที่ตลาดเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ใดไม่รู้ เห็นเพียงหลังของบุรุษในชุดน้ำเงินยืนอยู่" ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว"หว่านเอ๋อเข้าไปประคองเมิ่งอันหลานที่พยายามลุกขึ้นให้นอนลง" อย่าพึ่งลุกเลยเจ้าค่ะนอนลงก่อน แผลของท่านยังไม่หายดี หมอบอกว่าแผลเก่าอับเสบแล้วยังจะแผลใหม่อีก"" หว่านเอ๋อ เจ้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน"" ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ถึงข้าจะถูกโบยแต่ไม่ได้ตากหิมะนานเหมือนท่าน โชคดีหลังจากถูกนำมาโยนทิ้งไว้หลังจวนมีคนผ่านมาช่วย พอข้าได้สติก็ขอร้องให้เขามาช่วยท่านด้วย นั่นเจ้าค่ะ คนที่ช่วยข้ากับฮูหยิน"" ท่านคือ"" ข้าชื่อจางฮั่น เป็นหัวหน้าองครักษ์อินทรี "" หน่วยอินทรี เป็นอ
หลี่หรูอี้นั่งรอห่าวตี้หลุนอยู่ในเรือนหอด้วยความร้อนใจ" มาหรือยัง"" ยังเจ้าค่ะ"" นี่มันนานแล้วนะ"" โธ่คุณหนู ใจเย็นสิเจ้าคะ"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน "" เจ้าออกไปดูอีกทีซิ"" แต่ข้าพึ่งไปมาเมื่อกี้เองนะเจ้าคะ คุณชายห่าวกำลังดื่มกับแขกในงานชนจอกเหล้ายังไม่ครบคนเลยเจ้าค่ะ"" ขืนรอให้ชนจอกเหล้าครบทุกคนคืนนี้ข้าก็ไม่ต้องเข้าหอกันพอดี เจ้า ไปตามมา"" จะดีหรือเจ้าคะ"" ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ"" เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"บ่าวคนสนิทหายไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ่าวจะเข้าห้องหอ หลี่หรูอี้หงุดหงุดดึงผ้าคลุมหน้าออก เปิดประตูจะไปตาม ก็เห็นห่าวตี้หลุนถูกสหายประคองพาเดินโซเซมาส่ง ข้างหลังมีหยูเหยียนบ่าวรับใช้ของนางตามมาติดๆ" โอ้ เจ้าสาวมารอรับถึงหน้าห้องหอเลย ฮ่าฮ่าฮ่า"" พวกข้าพาเจ้าบ่าวมาส่งแล้ว เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอสุขสันต์ "" เข้าหอสุขสันต์ พวกข้าไม่รบกวนแล้ว"พอพวกสหายปล่อยมือออก ห่าวตี้หลุนก็โงนเงนจะล้ม หลี่หรูอี้ต้องรีบรับเขาไว้ไม่ให้ล้มแล้วพาไปที่เตียงนอน มองดูเจ้าบ่าวของตัวเองที่เมาไม่ได้สติก็ยิ่งโมโห คืนเข้าหอของนางที่วาดฝันเอาไว้สวยหรูกลับต้องมา
ห่าวตี้หลุนหันไปจ้องมองห่าวเหลียนฮวาที่เดินมาพร้อมกับหลี่หรูอี้และห่าวลั่วชิง" ไหนท่านแม่บอกว่าส่งนางไปอยู่เรือนเล็กยังตามหมอมารักษานาง"" ข้า "" ท่านรู้ตั้งนานแล้วว่านางหายไปแต่ไม่ยอมบอกข้า"" แม่ไม่อยากให้เจ้ากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจ้ากำลังแต่งงานกับอี้เอ๋อ เหตุใดต้องไปคิดถึงนังผู้หญิงแพศยาคนนั้นด้วย มันหายไปก็ดีแล้ว"" ท่านแม่ ถ้าท่านย่ากลับมาท่านจะบอกท่านย่ายังไง"" ไม่เห็นจะยาก ก็บอกไปตามตรงว่านางหนีตามชายชู้ของนางไป"ห่าวลั่วชิงเอ่ยขึ้นมา" เจ้าคิดว่าท่านย่าจะเชื่อไหม"" เรามีทั้งหลักฐานและพยานทั้งจวนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ"" หลักฐานเท็จพวกนี้หน่ะเรอะ"เมิ่งอันหลานเดินเข้ามาพร้อมจางฮั่น ข้างหลังยังมีหว่านเอ๋อและลูกน้องของจางฮั่นตามมาอีกเป็นสิบ" ยังมีหน้ากลับมาอีกรึนังแพศยา"ห่าวเหลียนฮวาชี้หน้าด่าเมิ่งอันหลาน" ข้าก็ไม่อยากจะกลับมาหรอก แต่ถ้าไม่กลับมาก็ต้องถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ไปตลอด"" หึ ใส่ร้าย ใครใส่ร้ายเจ้า เป็นเจ้าที่ทำตัวเองทั้งนั้น"" นี่เป็นคำสารภาพจากคนที่พวกท่านหาว่าเป็นชู้กับข้า แล้วก็บ่าวรับใช้ที่ท่านให้ใส่ร้ายข้า"เมิ่งอันหลานยื่นกระดาษสารภาพผิดให้ห่าวตี้หลุน ห่
" ท่าน ทำไมท่านต้องบอกว่าเงินทองพวกนั้นเป็นของน้องชายข้าด้วย"จางฮั่นรินชาส่งให้นางแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น" หากบอกว่าเป็นของข้าที่ให้เจ้า พวกเขาจะคิดยังไง"เมิ่งอันหลานหยุดคิด หากพวกนั้นรู้ว่าเงินทองข้าวของที่เอาไปคืนให้ ล้วนเป็นของจางฮั่น ทุกคนในตระกูลห่าวโดยเฉพาะห่าวตี้หลุนที่ไม่มีมันสมอง ต้องคิดว่านางมีความสัมพันธ์พิเศษกับจางฮั่น หรืออาจคิดว่านางขายร่างกายเพื่อแลกมาก็ได้ การที่เขาบอกไปแบบนั้นเป็นการปกป้องนาง แล้วยังยืนยันว่านางมีน้องชายจริงๆ" ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า ขอบคุณที่ทำให้ข้าเป็นอิสระหลุดพ้นจากตระกูลห่าวข้าจะหามาคืนท่านแน่นอน แค่อาจจะใช้เวลาหน่อย"" ไม่ต้อง ข้าไม่ใช่ห่าวตี้หลุนที่คิดเล็กคิดน้อยเก็บเงินเก็บทองกับเจ้า"" แต่เงินทองพวกนั้นไม่ใช่น้อยๆข้ารู้ว่าท่านมั่งคั่ง เงินทองข้าวของพวกนั้นสำหรับท่านอาจเล็กน้อย แต่สำหรับข้าไม่ใช่ ข้าสัญญาว่ายังไงก็จะหามาคืนท่านแน่นอน"" ข้ายกให้ มันสมควรเป็นของเจ้า"นางขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ" หลายปีก่อนที่เขาไท่ซานฝั่งตะวันออก เจ้าจำได้ไหมว่าเคยช่วยชีวิตใครคนหนึ่งไว้"เมิ่งอันหลานขบคิดอยู่พักใหญ่ หลายปีก่อนนางเคยช่วยใครไว้นะ ตอนนั้
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะฮูหยินผู้เฒ่าตบหน้าห่าวตี้หลุนไม่ยั้งมือ จนเลือดซิบมุมปากหน้าแดงเป็นรอยฝ่ามือชัดเจน" สารเลว หัวของเจ้ามันไม่มีมันสมองเลยรึไงถึงได้ไม่รู้จักคิดไตร่ตรองดูให้ดีก่อน เจ้าลงโทษนางอย่างงั้นได้ยังไง นางดูแลเจ้ามาหลายปีไม่รังเกียจที่เจ้าพิการ คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเจ้าคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เจ้า ยอมลำบากฝ่าพายุหิมะขึ้นเขาไปเก็บหิมะพันปีมาปรุงยาให้เจ้า เป็นนางที่ขอร้องหมอเทวดาซูให้ลงจากเขามารักษาเจ้า หากไม่มีนางเจ้าคิดว่าเจ้าจะกลับมาเดินได้อีกไหมเจ้าบอกข้าซิ แล้วนี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนนางเหรอ พอเจ้าเดินได้ก็รีบไปหาผู้หญิงที่ทิ้งเจ้าไปแต่งงานกับคนอื่น ข้าไม่อยู่พวกเจ้าก็รวมหัวกันรังแกนางใส่ร้ายว่านางคบชู้ แล้วยังแต่งนังผู้หญิงคนนี้เข้ามาในตระกูลห่าวของข้าอีก พวกเจ้าช่างไม่เห็นหัวข้าจริงๆ "ห่าวตี้หลุนคุกเข่าสำนึกผิด เขายอมรับความผิดทุกอย่างไม่โต้เถียงสักคำ" ไป ไปพาหลานสะใภ้ของข้ากลับมา หากเจ้าพาหลานเอ๋อกลับมาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าย่าอีก"" ท่านย่า นางได้หย่าขาดกับพี่ตี้หลุนแล้วเหตุใดยังให้เขาไปตามนางกลับมาอีก"" หุบปาก เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าว่าย่า "" แต่ข้าเป็นภรรย
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน
เหิงกงกงหยิบเอาราชโองการออกมาประกาศ" จางฮั่นรับราชโองการ ด้วยองค์หญิงฉิงฮวามีความประพฤติผิดร้ายแรง ไม่เหมาะสมคู่ควรกับจางฮั่น หัวหน้าองครักษ์หน่วยอินทรีผู้อาจหาญและสง่างาม จึงขอยกเลิกราชโองการสมรสก่อนหน้า จบราชโองการ"" ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นๆปี"ฉิงฮวาส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางรับไม่ได้ นางไม่ยอมรับ ที่ทำมาทั้งหมดนางต้องการแค่จางฮั่น แต่ตอนนี้งานแต่งของนางถูกยกเลิกแล้วจางฮั่นยิ้มมุมปากหันไปมองเมิ่งสิงโจว เมิ่งสิงโจวเบะปากใส่ หึ ยกเลิกแล้วยังไงทำให้หลานของเขากลับคืนมาได้รึเปล่า ทำให้พี่สาวของเขาฟื้นขึ้นมาได้ไหม ทำให้บาดแผลทั้งภายนอกและภายในของนางหายไปได้รึเปล่า ก็เปล่าเลย" ที่นี้ถึงตาเจ้าแล้ว"ยังไม่ทันที่หย่งคังจะพูดต่อ ฉางลู่ก็พูดแทรรกขึ้นมา" องค์ไท่จื่อ"" ทำไม คิดว่าข้าจะตัดสินประหารนางรึ"" ถึงอย่างไรนางก็เป็นน้องสาวของเจ้า เป็นสายเลือดเดียวกัน"" หึหึ วางใจเถอะข้าไม่ตัดสินประหารนางหรอก การตายสำหรับนางมันสบายเกินไป ข้าจะส่งนางไปเกาะกูตู๋"" เกาะกูตู๋ ไม่ได้ ที่นั่นเป็นเกาะร้างไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ นางเป็นถึงองค์หญิงจะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง"ฉางลู่คัดค้าน " รึจะให้น
" เจ้า พวกเจ้าโกหก ไม่จริงเพคะพวกมันใส่ร้ายหม่อมฉัน"" จนขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะแก้ตัวอีกรึ"หยุนเสียงตะคอกเสียงดังจนฉิงฮวาสะดุ้งน้ำตาคลอ นางเชิดหน้าไม่ยอมรับผิดชี้ไปที่ต้าหวัง" เจ้า ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า ยิ่งไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัว แล้วจะมาว่าข้าสั่งให้เจ้าทำได้ยังไง"" จริงที่ท่านไม่ได้มาพบข้าเป็นการส่วนตัวแต่ท่านก็ให้นางคนนี้เอาคำสั่งมาบอกข้า"ต้าหวังชี้ไปที่ชุ่ยเสีย" แล้วยังให้คนเอาหีบตำลึงเงินตำลึงทองมาให้อีก หรือท่านจะบอกว่านางไม่ใช่คนของท่าน"" ใช่ นางเป็นนางกำนัลของข้า แต่ข้าไม่รู้เรื่องที่นางทำ"" องค์หญิง"" เป็นเจ้าที่ทำเรื่องทั้งหมดเองไม่เกี่ยวกับข้า ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดีกับข้า เห็นว่าข้าเสียใจที่นางมาแทรกกลางระหว่างข้ากับจางฮั่นเจ้ากลัวว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับข้า เลยทำเรื่องเช่นนั้นลงไป ในเมื่อเจ้าทำผิดเองก็ต้องรับโทษคนเดียวสิ อย่าดึงข้าไปข้องเกี่ยวด้วย "ชุ่ยเสียจ้องมองฉิงฮวาด้วยความผิดหวัง นางไม่น่ามารับใช้ฉิงฮวาเลย ทั้งที่นางจงรักภักดีทำตามคำสั่งทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับถูกทอดทิ้ง นึกถึงตอนที่มัวเอ๋อถูกลากไปตัดลิ้นแล้วจับโยนลงบ่อ นางก็น่าจะคิดได้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าองค์
" เฮ่อ ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อทั้งพยานหลักฐานก็ชี้ชัดไปที่นางว่านางเป็นทำ เจ้าเองก็ยังสงสัยนางไม่ใช่รึ "" ใช่ ข้าสงสัยนาง ข้าไม่ยอมเชื่อใจนาง ไม่ควร ไม่ควรเลย ข้าเป็นสามีของนางแต่ไม่ยืนหยัดปกป้องนาง กลับไปเฝ้าองค์หญิงอำมหิตผู้นั้น แล้วปล่อยให้นางต้องถูกทรมานจน จนเสียลูก ข้าทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มีหัวสมอง ทำไมไม่คิดว่าคนอย่างองค์์หญิงชั่วช้าขนาดไหน ทำไมตอนนั้นไม่คิดทำไม ทำไม "จางฮั่นตบหน้าตัวเองซ้ำไปซ้ำมา จนจางเหมยฮวาต้องเข้าไปดึงมือเขาออก" พอแล้วเจ้าทำแบบนี้จะเกิดประโยชน์อันใด ในเมื่อเรื่องก็ผ่านมาแล้ว"" เด็กในท้องนางก็ไม่อยู่แล้ว เจ้าก็ปล่อยนางไปเถอะ ใช่ว่ามีนางคนเดียวซะเมื่อไหร่ที่ตั้งท้องลูกของเจ้าได้ "จางฮั่นลุกขึ้นพรวดจ้องหน้าจางหัวเจี้ยน" ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง นี่ท่านยังคิดจะให้ข้าไปแต่งงานกับองค์หญิงชั่วช้าผู้นั้นอีกรึพวกท่านอยากได้คนอำมหิตแบบนั้นมาเป็นสะใภ้มากนักรึไง "" มะ ไม่ใช่ ยังไงราชโองการก็ออกมาแล้วถึงยังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ "" พ่อของเจ้าพูดถูก ถึงต่อให้องค์หญิงทำผิดแค่ไหน ยังไงฝ่าบาทก็ไม่มีทางลงโทษนางหรอก"" หากฝ่าบาทไม่ลงโทษ
เมิ่งสิงโจวมองหน้าหย่งคัง" เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉิงฮวาทำผิด นางต้องได้รับโทษสาสม รวมกับครั้งก่อนที่นางก่อเรื่องให้คนไปลักพาตัวพี่สาวเจ้าไปทำร้ายด้วย"" แล้วฝ่าบาทกับฮองเฮาจะยอมหรือพะย่ะค่ะ"" เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ฉิงฮวาเอาแต่ใจแล้วยังโหดเหี้ยม หากไม่ลงโทษนางภายภาคหน้าไม่รู้นางจะก่อเรื่องใหญ่อีกแค่ไหน"" คุณชายเมิ่งข้ามีความคิดหนึ่ง"หว่านเอ๋อพูดขึ้นมา" ท่านหมอซูเป็นอาจารย์ของหลานเอ๋อ ข้าอยากพานางไปหาหมอซู บางทีหมอซูอาจช่วยได้ "" หมอซู หมอเทวดาซู ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา แต่เขาไม่เคยอยู่กับที่หาตัวยาก"หมอหลวงกู้กล่าว" แต่ที่เขาไท่ซานมีลูกศิษย์หมอซูอยู่ ถึงหมอซูไม่อยู่ แต่ก็พวกเขาก็ต้องรู้ว่าหมอซูไปที่ใด"" งั้นข้าจะพาพี่สาวของข้าไปเขาไท่ซานบางทีอาจโชคดีเจอหมอซู"" รออีกสองวันได้หรือไม่ ให้ข้าจัดการเรื่องฉิงฮวาให้เรียบร้อยก่อน ข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย"" องค์ไท่จื่อ จะดีรึพะย่ะค่ะ"" ข้าแค่อยากไปเที่ยวเขาไท่ซาน หากโชคดีจะได้เจอหมอเทวดาซูที่ผู้คนร่ำลือด้วย"" งั้นข้าขอพาหลานเอ๋อไปรอพวกท่านที่นอกเมืองได้หรือไม่ คือว่าข้าได้ข่าวว่าคุณชายจางออกตามหาหลานเอ๋อไปทั่ว ข้าไม่อยากให้เข
ปั่ก ขวดยาพิษวางลงบนโต๊ะ ชุ่ยเสียตาลุกวาว นั่นมันขวดยาพิษที่นางคิดไม่ตกว่าหายไปได้ยังไง ทั้งที่ซ่อนมันไว้ในตู้เสืัอผ้าอย่างดี " ข้าเห็นว่าเจ้าทำหล่นไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องแม่นางเมิ่ง เลยเอามาคืน จุ๊จุ๊ ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้ารู้ว่าเจ้าแค่หลงทางเลยเข้าผิดห้อง "ชุ่ยเสียถลึงตาจ้องมองบ่าวรับใช้ชายคนนั้นที่พูดเสียงดังฟังชัด บ่าวคนนั้นไม่สนใจยังพูดต่อ" กระหม่อมเห็นนางทำลับๆล่อๆแอบเข้าไปในห้องของแม่นางเมิ่งกับคุณชายจาง กลัวว่านางจะขโมยของเลยแอบดู เห็นนางทำอะไรบางอย่างในตู้เสื้อผ้า พอนางออกไปกระหม่อมเลยรีบเข้าไปดู ก็พบขวดยานี่แหละพะย่ะค่ะ "หมอหลวงหยิบขวดยาไปดม" นี่เป็นพิษร้ายแรงสกัดมาจากสัตว์มีพิษ9ชนิด"" ไม่ ไม่ใช่ข้า"" หลักฐานขนาดนี้ยังจะปากแข็งอีก จะสารภาพมาดีๆ หรือจะให้ข้าส่งไปกรมราชทัณฑ์ เห็นทีว่าเจ้าคงต้องถูกทรมานก่อนถึงจะยอมรับ"เมิ่งสิงโจวพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน เขาแทบทนไม่ไหวอยากจับนางส่งไปกรมราชทัณฑ์ ให้ได้รู้รสชาติการถูกทรมารว่าเป็นเช่นไร" อย่า อย่าส่งข้าไปกรมราชทัณฑ์เลยข้ายอมสารภาพแล้ว "" งั้นก็สารภาพมา เจ้าจดคำสารภาพของนางไว้ "" ข้า องค์หญิงให้ข้าหายาพิษมา ยาพิษนั่นเป็น เป็นท่า
" คารวะองค์ไท่จื่อ"หย่งคังจ้องมองหน้าจางฮั่นอยู่นาน จนทุกคนผิดสังเกตุ แม้แต่จางฮั่นเองก็รับรู้ได้ว่าผิดปกติ" ไม่ทราบว่าไท่จื่อทรงมีอะไรกับกระหม่อมหรือไม่"" ไม่มีอะไร "หย่งคังกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเดินเข้าไปในเรือน ฉิงฮวาแปลกใจไม่คิดว่าหย่งคังจะมาหานาง ปกติเขากับนางแทบไม่เคยพูดจากันด้วยซ้ำ แม้แต่พบหน้ายังนับครั้งได้ แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ หย่งคังนั่งลงที่โต๊ะน้ำชาจ้องมองดูฉิงฮวาไม่เอ่ยคำใดออกมา" องค์ องค์ไท่จื่อ ทรงเสด็จมาเยี่ยมหม่อมฉันหรือเพคะ"" หึหึ จะว่าอย่างงั้นก็ได้ ข้าทำคดีนี้ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง"ฉิงฮวามองหน้าหย่งคัง ในใจเกิดหวั่นกลัวขึ้นมา" พระองค์หมายความว่ายังไง"" ก็หมายความว่า คดีที่เจ้าก่อข้าจะสืบสวนเอง"ได้ฟังแบบนั้นฉิงฮวาถึงกับหน้าซีด" เป็นอะไรไป ทำไมหน้าซีดแบบนั้นหล่ะ"" หม่อม หม่อมฉันรู้สึกมึนๆหัวเพคะ"" งั้นเจ้าก็พักผ่อนเถอะ ข้าเองก็จะไปสืบหาความจริงต่อ จะได้เอาตัวคนผิดมาลงโทษซะที เจ้าว่าไหม"" พะ เพคะ น้อมส่งองค์ไท่จื่อ"หย่งคังออกมาเดินผ่านจางฮั่น ทั้งสองสบตากันไม่มีใครยอมใคร จางฮั่นรู้ได้ทันทีว่าหย่งคังต้องมีอะไรเกี่ยวกับเขาแน่ ถึงได้จ้องมองด้วยสายตาแบ
เมิ่งอันหลานถูกส่งตัวไปกรมราชทัณฑ์เพื่อให้สารภาพ แต่นางไม่ได้ทำผิดนางไม่มีทางยอมรับ จึงถูกจับเข้าเครื่องทรมาน เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องทั่วห้องนางถูกเครื่องหนีบนิ้วมือนิ้วเท้าจนกระดูกแตก ก่อนจะนำไปแขวนไว้แล้วถูกแส้เฆี่ยนจนสลบ เจ้าหน้าที่ถือถังน้ำเกลือมาสาดใส่ให้ฟื้นแล้วเฆี่ยนต่อ รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่กับพื้นสกปรก" เจ้าจะยอมรับไหมว่าวางยาพิษองค์หญิงเพราะอิจฉาริษยา ที่องค์หญิงกำลังจะได้แต่งงานกับคุณชายจางแทนที่จะเป็นเจ้า"ต้าหวังหัวหน้ากรมราชทัณฑ์จิกกระชากหัวนางถาม" ข้าไม่ได้ทำ ทำไมต้องยอมรับด้วย"" จิ๊จิ๊ เจ้านี่มันทนจริงๆ ถูกทรมานขนาดนี้ยังไม่ยอมรับอีก จัดการ"เจ้าหน้าที่เข้ามารุมเตะและกระทืบท้องเมิ่งอันหลานจนสลบไปอีกรอบ กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง" นั่น นั่นเลือดอะไรขอรับ "" ก่อนหน้าข้าได้ข่าวว่านางตั้งครรภ์ไม่ใช่ว่าเลือดนั่น"" วันนี้ทรมานนางแค่นี้ก่อน"ต้าหวังมองดูเลือดไหลออกมาจากหว่างขาจนย้อมอาภรณ์สีขาวที่นางใส่กลายเป็นสีแดงสด ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินออกไป เจ้าหน้าที่สองคนรีบเดินตามหว่านเอ๋อมาเคาะประตูจวนที่เคยมาคราวก่อนกับเมิ่งอันหลาน เจอบ่าวรับใช้คนเดิมโชคดีที่เขาจำนา
บ่าวรับใช้ยกน้ำชากับขนมมาวาง ฉิงฮวาหยิบขนมปาใส่หน้าบ่าวรับใช้" ข้าไม่ชอบกินขนมกุ้ยฮวา ไปเอามาใหม่เอาขนมหลิวชิงมาให้ข้า"บ่าวรับใช้ลนลานออกไป" เดี๋ยว องค์หญิงต้องการให้แม่นางเมิ่งเอาขนมมาถวายด้วยตัวเอง"ชุ่ยเสียพูดแล้วหันไปมองหน้าฉิงฮวาส่งยิ้มให้กัน พอบ่าวรับใช้ไปฉิงฮวาก็หยิบเอาขวดยาออกมา เทลงไปในกาน้ำชาจนหมด" องค์หญิงนี่ท่าน เหตุใดจึงใส่ลงไปหมดแบบนี้หล่ะเพคะ หมอหลวงฟู่บอกว่าพิษนี่ร้ายแรงมาก เพียงได้รับเล็กน้อยก็อันตรายถึงชีวิต แล้วเหตุใดถึงได้ "" ก็ถ้าไม่ร้ายแรงพอจะสมจริงได้ยังไงเล่า"ฉิงฮวาแสยะยิ้มตาวาวโรจน์ ชุ่ยเสียรับขวดยาจากฉิงฮวามาใส่ไว้ในสาบเสื้อแล้วเดินออกไป นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบเข้าไปในห้องนอนของเมิ่งอันหลาน แล้วเอาขวดยาอีกขวดซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าพอออกมาจากห้องก็มองซ้ายมองขวาอีกทีแล้วรีบเดินจากไป ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบมองนางอยู่ ชุ่ยเสียมาถึงก็เห็นเมิ่งอันหลานนั่งร่วมโต๊ะกับฉิงฮวา ส่วนหว่านเอ๋อยืนอยู่ข้างๆ ฉิงฮวารินชาใส่ถ้วยยื่นให้เมิ่งอันหลาน" ทำไม ไม่กล้ากินรึ "" องค์หญิงรินชาให้เจ้าด้วยตัวเองถือว่าเป็นเกียรติกับเจ้าแล้ว ยังไม่รีบดื่มอีก"ชุ่ยเสียพูดขึ้นมาฉิงฮว