ในจวน ผู้คนพลุกพล่าน บ่าวรับใช้วิ่งเข้าวิ่งออกต่างวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานแต่ง
ไม่มีใครสนใจเมิ่งอันหลานที่นอนอยู่ท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ นางลืมตาที่พร่ามัวมองดูทุกคนกำลังวุ่นวาย ได้ยินทุกคำพูดแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว นางหนาวสะท้านเข้ากระดูก แผลที่ถูกแทงคราวก่อนปริแตก แผลที่ถูกโบยข้างหลังเลือดไหลย้อมหิมะจนเป็นสีแดง ก่อนสติจะดับไปอีกครั้ง นางเห็นคนผู้หนึ่งในชุดสีน้ำเงินเดินตรงเข้ามาเหมือนครั้งก่อนที่นางถูกแทงที่ตลาด
เมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ใดไม่รู้ เห็นเพียงหลังของบุรุษในชุดน้ำเงินยืนอยู่
" ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว"
หว่านเอ๋อเข้าไปประคองเมิ่งอันหลานที่พยายามลุกขึ้นให้นอนลง
" อย่าพึ่งลุกเลยเจ้าค่ะนอนลงก่อน แผลของท่านยังไม่หายดี หมอบอกว่าแผลเก่าอับเสบแล้วยังจะแผลใหม่อีก"
" หว่านเอ๋อ เจ้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน"
" ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ถึงข้าจะถูกโบยแต่ไม่ได้ตากหิมะนานเหมือนท่าน โชคดีหลังจากถูกนำมาโยนทิ้งไว้หลังจวนมีคนผ่านมาช่วย พอข้าได้สติก็ขอร้องให้เขามาช่วยท่านด้วย นั่นเจ้าค่ะ คนที่ช่วยข้ากับฮูหยิน"
" ท่านคือ"
" ข้าชื่อจางฮั่น เป็นหัวหน้าองครักษ์อินทรี "
" หน่วยอินทรี เป็นองครักษ์ของฟ่าบาท"
" อืม ข้าบังเอิญตามคนร้ายไปทางหลังจวนตระกูลจางเลยเจอสาวใช้คนนี้นอนบาดเจ็บอยู่ ข้าได้ให้คนพาส่งโรงหมอ พอนางฟื้นก็คุกเข่าขอร้องให้ข้าไปช่วยเจ้า"
" ขอบคุณท่านมาก นี่ใช่ของท่านหรือไม่"
เมิ่งอันหลานหยิบเอาป้ายหยกสลักรูปนกอินทรีที่พกไว้ออกมา จางฮั่นรับมาดู
" ป้ายหยกนี่ เป็นของข้าจริงๆ"
" ท่านทำตกไว้ตอนช่วยชีวิตข้าครั้งแรกที่ตลาด ตอนนั้นมีนักฆ่ามาจากที่ไหนไม่รู้ ช่วงชุลมุนข้าหลบไม่ทันเลยถูกมันแทงได้รับบาดเจ็บ เป็นท่านที่ช่วยข้าไว้ ป้ายหยกนั่นท่านทำหล่นเอาไว้ เป็นหว่านเอ๋อที่เก็บได้ ข้าตั้งใจจะนำมันมาคืนให้ท่าน แต่ยังไม่มีโอกาส "
" ข้าทำใหม่แล้ว อันนี้ให้เจ้าเก็บไว้ หากมีเรื่องอะไรให้ไปที่หน่วยอินทรี คนที่นั่นเห็นป้ายนี้จะช่วยเหลือเจ้าทันที"
" แต่ว่า"
" ข้ายังมีธุระต้องทำ เจ้าสองคนก็พักอยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยว่ากัน"
พูดจบเขาก็เดินออกไปพร้อมกับหมอหลวงที่สวนเข้ามา หมอหลวงตรวจดูอาการของเมิ่งอันหลานและเอายาที่พึ่งต้มมาส่งให้นางกิน
จวนตระกูลห่าวจัดงานแต่งงานใหญ่โตจัดเกี้ยว8คนหามไปรับหลี่หรูอี้ที่ตระกูลหลี่ ชาวบ้านต่างมาร่วมงานกันคับคั่ง เพราะตระกูลห่าวประกาศให้ผู้มาร่วมงานกินดื่มฟรีไม่อั้น
" งานแต่งครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าคราวก่อนอีกเจ้าว่าไหม"
" เจ้าไม่รู้รึไงว่าครั้งก่อนคุณชายห่าวถูกฮูหยินผู้เฒ่าบังคับให้แต่ง ใครๆก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักฮูหยินของเขาเลย แต่เจ้าสาวคนนี้หน่ะเป็นคุณหนูหลี่นะ"
" คุณหนูหลี่ที่เคยเป็นคู่หมั้นกันแล้วพอคุณชายห่าวพิการเดินไม่ได้ ก็รีบถอนหมั้นไปแต่งกับบุตรชายของเสนาบดีหน่ะเหรอ"
" ใช่ๆ คนเดียวกันนี่แหละ ว่ากันว่าตอนนั้นคุณชายห่าวเสียใจมากถึงขั้นจะฆ่าตัวตายเลยนะ ฮูหยินผู้เฒ่าเลยหาสตรีที่ใดไม่รู้มาแต่งงานด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมตัดใจจากคุณหนูหลี่ พอเดินได้ก็รีบไปหาคุณหนูหลี่เลย "
"น่าสงสารฮูหยินน้อยนะ อุตส่าห์ดูแลลำบากลำบนมาเป็นปี พอเดินได้กลับทิ้งคนที่เคยทุกข์ยากด้วยกันไปหารักแรกซะได้
ตอนนั้นคุณนั้นคุณหนูหลี่หย่าร้างกลับมาอยู่ที่จวนตัวเองพอดีด้วย"
" ข้าก็ได้ยินข่าวเหมือนกัน คนแบบนี้มันน่าปล่อยให้พิการไปตลอดชีวิต"
" ว่าแต่งานแต่งยิ่งใหญ่แบบนี้แล้วแต่งเข้ามาในฐานะอะไรหล่ะ ถ้าเป็นภรรยารองก็ไม่น่าจัดงานใหญ่โตหยามเกียรติภรรยาเอกแบบนี้นะ"
" หรือว่าจะเป็นภรรยาเท่าเทียม เพราะฮูหยินน้อยเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่คุณหนูตระกูลร่ำรวย แต่คุณหนูหลี่เป็นถึงบุตรสาวรองเจ้ากรม"
" อาจเป็นอย่างเจ้าว่าก็ได้"
" โอ้ย พวกเจ้าไม่รู้อะไร สามวันก่อนฮูหยินน้อยถูกจับได้ว่าคบชู้ ถูกคุณชายของเราปลดให้เป็นแค่อนุ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ที่นางเคยดูแลคุณชายมาก่อนก็คงหย่าขาดกับนางและไล่ออกจากจวนไปแล้ว"
" แต่งครั้งนี้คุณหนูหลี่เป็นฮูหยินเอกไม่อย่างงั้นหล่ะ พวกเจ้าดูสิ ใหญ่โตโอ่อ่าขนาดไหน ฮ่าฮ่า"
หยางหยางกับบ่าวรับใช้อีกคนเดินเข้าไปสนทนากับชาวบ้านที่จับกลุ่มนินทา
" ฮูหยินน้อยเนี่ยนะจะคบชู้ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย"
" นั่นสิ คนจิตใจดีอย่างนางหน่ะเหรอจะคบชู้ ข้าว่าต้องมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้นแน่"
" ใช่ข้าเองก็คิดเหมือนกันกับเจ้า ข้าเคยเจอนางหลายครั้ง นางยังเคยช่วยรักษาลูกข้าที่พึ่งกลับมาจากเมืองหลวง แล้วล้มป่วยด้วยโรคติดต่อโดยไม่รังเกียจเลย ขณะที่หมอคนอื่นปฏิเสธที่จะรักษา ตอนนั้นถ้าไม่ได้นางช่วย ลูกข้าก็คงไม่มีชีวิตรอดมาได้ทุกวันนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้ข้าคิดว่านางต้องถูกใส่ร้ายแน่"
" ใช่ๆ คนจิตใจดีอย่างนางจะคบชู้ได้ยังไงเรื่องนี้มีการสืบสวนดีแล้วหรือไม่"
" ข้ารู้แล้ว คุณชายของพวกเจ้าคงอยากจะแต่งคุณหนูหลี่เข้ามาเป็นภรรยาเอกแต่ไม่รู้จะทำยังไงกับฮูหยินที่มีอยู่ เลยหาทางใส่ร้ายหาว่านางคบชู้ เพื่อเป็นข้ออ้างในการปลดนางใช่ไหมหล่ะ"
" ใช่ ต้องใช่แน่เลย"
" โอ้ย พวกท่านนี่แก่แล้วเลอะเลือนรึไง การช่วยชีวิตคนกับการมีชู้มันคนละเรื่องกันท่านจะเหมาว่านางช่วยรักษาลูกท่านแล้วนางเป็นคนดีไม่คบชู้ มันไม่ได้ "
" ใช่ท่านป้า เรื่องนี้เรามีทั้งพยานและหลักฐานไม่ใช่มั่วๆอย่างที่พวกท่านเข้าใจ"
" หลักฐานก็ปลอมขึ้นมาได้ ยังไงข้าก็ไม่เชื่อหากเป็นเรื่องจริงเหตุใดจึงรีบตัดสินความแล้วรีบแต่งคุณหนูหลี่เข้ามา ทำไมไม่รอฮูหยินผู้เฒ่ากลับมาจากถือศีลก่อน"
" ใช่ๆ ทำไม ทำไมหล่ะ"
หยางหยางกับคนสนิทถูกรุมเถียงไม่ออกจนต้องพากันรีบเดินหนี
ห่าวตี้หลุนยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินชัดทุกคำ ในใจเกิดความลังเลสับสนขึ้นมา
เสียงร้องบอกเจ้าสาวมาแล้วก็ดังขึ้น แม่สื่อจับจูงเจ้าสาวมาส่งและเริ่มทำพิธี เสร็จพิธีห่าวตี้หลุนพึ่งนึกได้ว่าเขาปล่อยทิ้งเมิ่งอี้หลานที่ถูกโบยจนสลบให้นอนตากหิมะอยู่
ห่าวเหลียนฮวาเห็นห่าวตี้หลุนชะเง้อมองไปที่ลานบ้าน ก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงเดินไปกระซิบเบาๆ
" แม่สั่งให้คนพานางไปไว้ที่เรือนหลังเล็กแล้ว ยังให้หมอไปรักษานางด้วย เจ้าไม่ต้องห่วง"
ห่าวตี้หลุนพยักหน้ารับรู้ ห่าวเหลียนฮวาหุบยิ้มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเยือกเย็น ก่อนหน้านางให้คนไปพาตัวเมิ่งอี้หลานไปไว้ที่ห้องเก็บฟืน คิดจะขังนางไว้ที่นั่น ไม่คิดว่านางจะหายไปไหนไม่รู้ นางบาดเจ็บขนาดนั้นต้องมีคนช่วยนางออกไปแน่ แล้วใครกันบังอาจเข้ามาถึงในจวนตระกูลห่าวช่วยนางออกไป
บ่าวรับใช้ชายหลายคนยืนเรียงกันพากันก้มหน้า
" พวกข้าหาจนทั่วจวนแล้วไม่มีร่องรอยของฮูหยินน้อยเลยขอรับ"
" เจ้าเรียกใครฮูหยินน้อยนางไม่ใช่ฮูหยินน้อยอีกแล้ว นางถูกปลดเป็นแค่อนุเท่านั้น"
" ที่โรงหมอข้าก็ไปสอบถามมาแล้วไม่มีนางไปรักษาที่นั่น แม้แต่หมอทุกคนจากทุกโรงหมอข้าก็ถามแล้ว ไม่มีใครได้รักษานางเลย"
" พวกเจ้าแน่ใจว่าหมอพวกนั้นไม่ได้โกหก"
" แน่ใจขอรับ"
" ท่านแม่ หรือว่านางจะรักษาตัวเองเจ้าคะอย่าลืมสิว่านางก็มีความรู้วิชาแพทย์"
หลี่หรูอี้นั่งรอห่าวตี้หลุนอยู่ในเรือนหอด้วยความร้อนใจ" มาหรือยัง"" ยังเจ้าค่ะ"" นี่มันนานแล้วนะ"" โธ่คุณหนู ใจเย็นสิเจ้าคะ"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน "" เจ้าออกไปดูอีกทีซิ"" แต่ข้าพึ่งไปมาเมื่อกี้เองนะเจ้าคะ คุณชายห่าวกำลังดื่มกับแขกในงานชนจอกเหล้ายังไม่ครบคนเลยเจ้าค่ะ"" ขืนรอให้ชนจอกเหล้าครบทุกคนคืนนี้ข้าก็ไม่ต้องเข้าหอกันพอดี เจ้า ไปตามมา"" จะดีหรือเจ้าคะ"" ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ"" เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"บ่าวคนสนิทหายไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ่าวจะเข้าห้องหอ หลี่หรูอี้หงุดหงุดดึงผ้าคลุมหน้าออก เปิดประตูจะไปตาม ก็เห็นห่าวตี้หลุนถูกสหายประคองพาเดินโซเซมาส่ง ข้างหลังมีหยูเหยียนบ่าวรับใช้ของนางตามมาติดๆ" โอ้ เจ้าสาวมารอรับถึงหน้าห้องหอเลย ฮ่าฮ่าฮ่า"" พวกข้าพาเจ้าบ่าวมาส่งแล้ว เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอสุขสันต์ "" เข้าหอสุขสันต์ พวกข้าไม่รบกวนแล้ว"พอพวกสหายปล่อยมือออก ห่าวตี้หลุนก็โงนเงนจะล้ม หลี่หรูอี้ต้องรีบรับเขาไว้ไม่ให้ล้มแล้วพาไปที่เตียงนอน มองดูเจ้าบ่าวของตัวเองที่เมาไม่ได้สติก็ยิ่งโมโห คืนเข้าหอของนางที่วาดฝันเอาไว้สวยหรูกลับต้องมา
ห่าวตี้หลุนหันไปจ้องมองห่าวเหลียนฮวาที่เดินมาพร้อมกับหลี่หรูอี้และห่าวลั่วชิง" ไหนท่านแม่บอกว่าส่งนางไปอยู่เรือนเล็กยังตามหมอมารักษานาง"" ข้า "" ท่านรู้ตั้งนานแล้วว่านางหายไปแต่ไม่ยอมบอกข้า"" แม่ไม่อยากให้เจ้ากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจ้ากำลังแต่งงานกับอี้เอ๋อ เหตุใดต้องไปคิดถึงนังผู้หญิงแพศยาคนนั้นด้วย มันหายไปก็ดีแล้ว"" ท่านแม่ ถ้าท่านย่ากลับมาท่านจะบอกท่านย่ายังไง"" ไม่เห็นจะยาก ก็บอกไปตามตรงว่านางหนีตามชายชู้ของนางไป"ห่าวลั่วชิงเอ่ยขึ้นมา" เจ้าคิดว่าท่านย่าจะเชื่อไหม"" เรามีทั้งหลักฐานและพยานทั้งจวนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ"" หลักฐานเท็จพวกนี้หน่ะเรอะ"เมิ่งอันหลานเดินเข้ามาพร้อมจางฮั่น ข้างหลังยังมีหว่านเอ๋อและลูกน้องของจางฮั่นตามมาอีกเป็นสิบ" ยังมีหน้ากลับมาอีกรึนังแพศยา"ห่าวเหลียนฮวาชี้หน้าด่าเมิ่งอันหลาน" ข้าก็ไม่อยากจะกลับมาหรอก แต่ถ้าไม่กลับมาก็ต้องถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ไปตลอด"" หึ ใส่ร้าย ใครใส่ร้ายเจ้า เป็นเจ้าที่ทำตัวเองทั้งนั้น"" นี่เป็นคำสารภาพจากคนที่พวกท่านหาว่าเป็นชู้กับข้า แล้วก็บ่าวรับใช้ที่ท่านให้ใส่ร้ายข้า"เมิ่งอันหลานยื่นกระดาษสารภาพผิดให้ห่าวตี้หลุน ห่
" ท่าน ทำไมท่านต้องบอกว่าเงินทองพวกนั้นเป็นของน้องชายข้าด้วย"จางฮั่นรินชาส่งให้นางแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น" หากบอกว่าเป็นของข้าที่ให้เจ้า พวกเขาจะคิดยังไง"เมิ่งอันหลานหยุดคิด หากพวกนั้นรู้ว่าเงินทองข้าวของที่เอาไปคืนให้ ล้วนเป็นของจางฮั่น ทุกคนในตระกูลห่าวโดยเฉพาะห่าวตี้หลุนที่ไม่มีมันสมอง ต้องคิดว่านางมีความสัมพันธ์พิเศษกับจางฮั่น หรืออาจคิดว่านางขายร่างกายเพื่อแลกมาก็ได้ การที่เขาบอกไปแบบนั้นเป็นการปกป้องนาง แล้วยังยืนยันว่านางมีน้องชายจริงๆ" ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า ขอบคุณที่ทำให้ข้าเป็นอิสระหลุดพ้นจากตระกูลห่าวข้าจะหามาคืนท่านแน่นอน แค่อาจจะใช้เวลาหน่อย"" ไม่ต้อง ข้าไม่ใช่ห่าวตี้หลุนที่คิดเล็กคิดน้อยเก็บเงินเก็บทองกับเจ้า"" แต่เงินทองพวกนั้นไม่ใช่น้อยๆข้ารู้ว่าท่านมั่งคั่ง เงินทองข้าวของพวกนั้นสำหรับท่านอาจเล็กน้อย แต่สำหรับข้าไม่ใช่ ข้าสัญญาว่ายังไงก็จะหามาคืนท่านแน่นอน"" ข้ายกให้ มันสมควรเป็นของเจ้า"นางขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ" หลายปีก่อนที่เขาไท่ซานฝั่งตะวันออก เจ้าจำได้ไหมว่าเคยช่วยชีวิตใครคนหนึ่งไว้"เมิ่งอันหลานขบคิดอยู่พักใหญ่ หลายปีก่อนนางเคยช่วยใครไว้นะ ตอนนั้
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะฮูหยินผู้เฒ่าตบหน้าห่าวตี้หลุนไม่ยั้งมือ จนเลือดซิบมุมปากหน้าแดงเป็นรอยฝ่ามือชัดเจน" สารเลว หัวของเจ้ามันไม่มีมันสมองเลยรึไงถึงได้ไม่รู้จักคิดไตร่ตรองดูให้ดีก่อน เจ้าลงโทษนางอย่างงั้นได้ยังไง นางดูแลเจ้ามาหลายปีไม่รังเกียจที่เจ้าพิการ คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเจ้าคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เจ้า ยอมลำบากฝ่าพายุหิมะขึ้นเขาไปเก็บหิมะพันปีมาปรุงยาให้เจ้า เป็นนางที่ขอร้องหมอเทวดาซูให้ลงจากเขามารักษาเจ้า หากไม่มีนางเจ้าคิดว่าเจ้าจะกลับมาเดินได้อีกไหมเจ้าบอกข้าซิ แล้วนี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนนางเหรอ พอเจ้าเดินได้ก็รีบไปหาผู้หญิงที่ทิ้งเจ้าไปแต่งงานกับคนอื่น ข้าไม่อยู่พวกเจ้าก็รวมหัวกันรังแกนางใส่ร้ายว่านางคบชู้ แล้วยังแต่งนังผู้หญิงคนนี้เข้ามาในตระกูลห่าวของข้าอีก พวกเจ้าช่างไม่เห็นหัวข้าจริงๆ "ห่าวตี้หลุนคุกเข่าสำนึกผิด เขายอมรับความผิดทุกอย่างไม่โต้เถียงสักคำ" ไป ไปพาหลานสะใภ้ของข้ากลับมา หากเจ้าพาหลานเอ๋อกลับมาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าย่าอีก"" ท่านย่า นางได้หย่าขาดกับพี่ตี้หลุนแล้วเหตุใดยังให้เขาไปตามนางกลับมาอีก"" หุบปาก เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าว่าย่า "" แต่ข้าเป็นภรรย
ห่าวตี้หลุนยกไหเหล้าขึ้นดื่ม คำพูดของมารดายังดังก้องหู" ความเหงามันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ หากความเหงามันฆ่าคนได้แม่คงตายนานแล้ว แต่เพราะมีหยางหยาง แม่ถึงได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เจ้าเป็นลูกของแม่ต้องอยู่ข้างแม่เรื่องนี้อย่าพูดออกไปให้ใครรู้เข้าใจไหม เรื่องที่เจ้ารู้เห็นก็คิดซะว่าไม่เคยเกิดขึ้น"ห่าวตี้หลุนรู้สึกผิดหวังกับมารดามาก ทั้งที่รู้ว่านางทำผิดแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ยิ่งผิดหวังกับหยางหยางบ่าวคนสนิทที่เขาเห็นเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง แต่กลับทำเรื่องแบบนี้ หลี่หรูอี้รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกหันไปมองข้างๆว่างเปล่าไม่มีห่าวตี้หลุน นางรีบลุกขึ้นเดินออกไปตามหา เห็นเขานอนหลับกอดไหเหล้าอยู่ในสวน รอบตัวเต็มไปด้วยไหเหล้าตั้งแต่นางแต่งเข้าจวนตระกูลห่าวมาเขาก็ไม่เคยสนใจนางเลย ทุกวันเอาแต่ออกไปตามหาเมิ่งอันหลาน กลับมาก็เอาแต่ดื่มเหล้าเมามาย" ท่านพี่ ท่านพี่ ตื่นลืมตาลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ "นางเขย่าเขาอย่างแรง ห่าวตี้หลุนสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เห็นภาพตรงหน้าเป็นเมิ่งอันหลานก็โผเข้ากอดนางไว้แน่น" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อของข้า เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว เจ้ายกโทษให้ข้าแล้วใช่ไหม"หลี่หรูอี้ผลักเขาออก ตวัดมือตบหน้าดังเส
" เจ้าอยากเป็นใหญ่ในจวนนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ ข้ายกให้เจ้าแล้ว ตั้งแต่วันนี้ข้าจะไปถือศีลบวชชีที่วัดโหย่วกวงตลอดชีวิต"" ไม่ ไม่ ท่านแม่ข้าไม่อยากเป็นใหญ่แล้วท่านแม่อย่าไปเลยนะข้าขอร้อง ท่านจะทิ้งพวกเราในตอนที่พวกเราลำบากไม่ได้นะ"" ใช่แล้วท่านย่า อย่าทิ้งพวกเราไปไหนเลยนะ หากไม่มีท่านคอยดูแลจวนนี้ข้ากับท่านแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พี่ใหญ่ก็เอาแต่เมามายไม่ได้สติ วันๆก็เอาแต่ตามหาเมิ่งอันหลาน"ฮูหยินผู้เฒ่านั่งลงจิบชา ก่อนถามบ่าวคนสนิทที่แก่ชราไม่ต่างกัน" เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง"" เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ขนของขึ้นรถม้าแล้วรอแค่ท่าน"" อืม ไปเอาของที่ข้าเตรียมไว้มา"บ่าวรับใช้หายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับหีบใบเล็ก" นี่เป็นทองที่ข้าเก็บไว้ในห้องเลยไม่ถูกขโมยไปด้วย เจ้าเอาไปทำทุน ชิงเอ๋อนี่เป็นห้องว่างในตลาด ข้าซื้อเก็บไว้เห็นว่าทำเลดีเจ้าชอบเสื้อผ้าเครื่องประดับก็เปิดร้านทำการค้าไป นี่เป็นตั๋วเงินสำหรับไว้ลงทุน ที่ข้าควรให้ก็ให้ไปหมดแล้ว ชี้แนะทางให้แล้วที่เหลือก็แล้วแต่พวกเจ้าแม่ลูกจะตัดสินใจ"" บ่าวทุกคนในเรือนมาแล้วเจ้าค่ะ"" ดี พวกเจ้าทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าตอนนี้จวนของเราถูกคนทรยศขโมยทรัพย์สิ
กลับถึงกระท่อมกลางป่าก็พบกับเอ่อคังและเจียเหรินยืนเล่นอยู่หน้ากระท่อม กระท่อมหลังนี้จางฮั่นให้พวกลูกน้องช่วยกันตัดไม้ไผ่มาสร้างเป็นที่พักชั่วคราว ระหว่างอยู่ในเขาเพื่อหาสมุนไพรไปปรุงยา" หัวหน้า แม่นางเมิ่ง พวกท่านกลับมากันแล้ว"มองดูตะกร้าที่ว่างเปล่าไม่มีสมุนไพรสักต้นเอ่อคังกับเจียเหรินก็เผยรอยยิ้มแปลกๆ มองหน้าจางฮั่นกับเมิ่งอันหลานสลับไปมา" ฮ่าฮ่า ทางที่พวกท่านไปสมุนไพรคงหายากนะเจ้าว่าไหมเอ่อคัง ดูสิไปตั้งแต่เช้ากลับมาพลบค่ำยังหาไม่ได้สักต้นเลย"" อือใช่ๆ แต่พวกท่านไม่ต้องห่วงนะข้ากับเจียเหรินไปทางทิศใต้ได้สมุนไพรที่ต้องการมาเต็มตะกร้าเลย"" อะอ๋อ ก็ดี"เข้ามาข้างใน หว่านเอ๋อกับเซิ่งเทียนและอี้หยุนก็ช่วยกันยกอาหารมาวางบนโต๊ะ" พวกท่านมาแล้ว ไปไกลเหรอทำไมกลับมาซะค่ำเลย นี่ถ้ายังไม่กลับมาอีกข้าจะชวนทุกคนออกไปตามหาแล้วนะ"หว่านเอ๋อวางจานอาหารแล้วเดินเข้าไปหาเมิ่งอันหลาน" ในเมื่อมาแล้วพวกท่านก็กินข้าวกันเถอะ"" อ้าวพวกเจ้าจะไปไหนไม่กินด้วยหล่ะ"จางฮั่นเห็นอี้หยุนกับเซิ่งเทียนกำลังจะเดินออกไปข้างนอกก็ถามขึ้น" พวกข้ากินกันแล้ว พอกลับมาก็หิวทนไม่ไหว ช่วยกันทำอาหารเสร็จก็เลยกินกันก่อน ส
หว่านเอ๋อเห็นเมิ่งอันหลานนั่งเหม่ออยู่ก็เข้าไปปลอบใจ นางมาถึงจวนช้าเพราะแวะซื้อของใช้ส่วนตัวที่ตลาดให้เมิ่งอันหลานอยู่พอกลับมาถึงจวนถึงได้รับรู้เรื่องขององค์หญิงฉิงฮวาจากที่เจียเหรินเล่าให้ฟัง" หลานเอ๋อ"" ข้าไม่เป็นไร"ตั้งแต่ออกจากจวนตระกูลห่าว หว่านเอ๋อก็คอยอยู่เคียงข้างนางไม่ยอมไปไหนทั้งที่เป็นอิสระแล้ว ทั้งสองจึงสาบานเป็นพี่น้องกันมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านจางฮั่นเปิดประตูเข้ามา" ค่อยๆคุยกันนะ"หว่านเอ๋อเดินออกไปแล้วปิดประตูให้ จางฮั่นสวมกอดเมิ่งอันหลาน" เรื่องของข้ากับองค์หญิงไม่มีอะไร เป็นนางที่ชอบข้ามาหลายปีต้องการให้ข้าแต่งงานกับนาง ถึงขั้นขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ ยังดีที่ฝ่าบาทมีเหตุผลถามข้าก่อนข้าปฏิเสธไปแล้ว แม้ว่าจะมีอีกหลายๆครั้งที่ฝ่าบาทตรัสเชิงขอร้อง รวมทั้งฮองเฮาด้วยแต่ข้าก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง "" ทำไมหล่ะ องค์หญิงฉิงฮวาทั้งรูปโฉมงดงามไร้ที่ติ ฐานะก็สูงส่งยังเป็นที่โปรดปรานทั้งฮ่องเต้และฮองเฮา หากท่านได้แต่งงานกับนางก็จะเป็นราชบุตรเขยที่ผู้คนต่างพากันเอาอกเอาใจ"" ข้าไม่ต้องการ ข้าไม่ได้รักนางไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย ชีวิตของข้าในแต่ละวันในทุกครั้งที่ออกไปทำภารก
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน
เหิงกงกงหยิบเอาราชโองการออกมาประกาศ" จางฮั่นรับราชโองการ ด้วยองค์หญิงฉิงฮวามีความประพฤติผิดร้ายแรง ไม่เหมาะสมคู่ควรกับจางฮั่น หัวหน้าองครักษ์หน่วยอินทรีผู้อาจหาญและสง่างาม จึงขอยกเลิกราชโองการสมรสก่อนหน้า จบราชโองการ"" ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นๆปี"ฉิงฮวาส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางรับไม่ได้ นางไม่ยอมรับ ที่ทำมาทั้งหมดนางต้องการแค่จางฮั่น แต่ตอนนี้งานแต่งของนางถูกยกเลิกแล้วจางฮั่นยิ้มมุมปากหันไปมองเมิ่งสิงโจว เมิ่งสิงโจวเบะปากใส่ หึ ยกเลิกแล้วยังไงทำให้หลานของเขากลับคืนมาได้รึเปล่า ทำให้พี่สาวของเขาฟื้นขึ้นมาได้ไหม ทำให้บาดแผลทั้งภายนอกและภายในของนางหายไปได้รึเปล่า ก็เปล่าเลย" ที่นี้ถึงตาเจ้าแล้ว"ยังไม่ทันที่หย่งคังจะพูดต่อ ฉางลู่ก็พูดแทรรกขึ้นมา" องค์ไท่จื่อ"" ทำไม คิดว่าข้าจะตัดสินประหารนางรึ"" ถึงอย่างไรนางก็เป็นน้องสาวของเจ้า เป็นสายเลือดเดียวกัน"" หึหึ วางใจเถอะข้าไม่ตัดสินประหารนางหรอก การตายสำหรับนางมันสบายเกินไป ข้าจะส่งนางไปเกาะกูตู๋"" เกาะกูตู๋ ไม่ได้ ที่นั่นเป็นเกาะร้างไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ นางเป็นถึงองค์หญิงจะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง"ฉางลู่คัดค้าน " รึจะให้น
" เจ้า พวกเจ้าโกหก ไม่จริงเพคะพวกมันใส่ร้ายหม่อมฉัน"" จนขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะแก้ตัวอีกรึ"หยุนเสียงตะคอกเสียงดังจนฉิงฮวาสะดุ้งน้ำตาคลอ นางเชิดหน้าไม่ยอมรับผิดชี้ไปที่ต้าหวัง" เจ้า ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า ยิ่งไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัว แล้วจะมาว่าข้าสั่งให้เจ้าทำได้ยังไง"" จริงที่ท่านไม่ได้มาพบข้าเป็นการส่วนตัวแต่ท่านก็ให้นางคนนี้เอาคำสั่งมาบอกข้า"ต้าหวังชี้ไปที่ชุ่ยเสีย" แล้วยังให้คนเอาหีบตำลึงเงินตำลึงทองมาให้อีก หรือท่านจะบอกว่านางไม่ใช่คนของท่าน"" ใช่ นางเป็นนางกำนัลของข้า แต่ข้าไม่รู้เรื่องที่นางทำ"" องค์หญิง"" เป็นเจ้าที่ทำเรื่องทั้งหมดเองไม่เกี่ยวกับข้า ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดีกับข้า เห็นว่าข้าเสียใจที่นางมาแทรกกลางระหว่างข้ากับจางฮั่นเจ้ากลัวว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับข้า เลยทำเรื่องเช่นนั้นลงไป ในเมื่อเจ้าทำผิดเองก็ต้องรับโทษคนเดียวสิ อย่าดึงข้าไปข้องเกี่ยวด้วย "ชุ่ยเสียจ้องมองฉิงฮวาด้วยความผิดหวัง นางไม่น่ามารับใช้ฉิงฮวาเลย ทั้งที่นางจงรักภักดีทำตามคำสั่งทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับถูกทอดทิ้ง นึกถึงตอนที่มัวเอ๋อถูกลากไปตัดลิ้นแล้วจับโยนลงบ่อ นางก็น่าจะคิดได้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าองค์
" เฮ่อ ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อทั้งพยานหลักฐานก็ชี้ชัดไปที่นางว่านางเป็นทำ เจ้าเองก็ยังสงสัยนางไม่ใช่รึ "" ใช่ ข้าสงสัยนาง ข้าไม่ยอมเชื่อใจนาง ไม่ควร ไม่ควรเลย ข้าเป็นสามีของนางแต่ไม่ยืนหยัดปกป้องนาง กลับไปเฝ้าองค์หญิงอำมหิตผู้นั้น แล้วปล่อยให้นางต้องถูกทรมานจน จนเสียลูก ข้าทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มีหัวสมอง ทำไมไม่คิดว่าคนอย่างองค์์หญิงชั่วช้าขนาดไหน ทำไมตอนนั้นไม่คิดทำไม ทำไม "จางฮั่นตบหน้าตัวเองซ้ำไปซ้ำมา จนจางเหมยฮวาต้องเข้าไปดึงมือเขาออก" พอแล้วเจ้าทำแบบนี้จะเกิดประโยชน์อันใด ในเมื่อเรื่องก็ผ่านมาแล้ว"" เด็กในท้องนางก็ไม่อยู่แล้ว เจ้าก็ปล่อยนางไปเถอะ ใช่ว่ามีนางคนเดียวซะเมื่อไหร่ที่ตั้งท้องลูกของเจ้าได้ "จางฮั่นลุกขึ้นพรวดจ้องหน้าจางหัวเจี้ยน" ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง นี่ท่านยังคิดจะให้ข้าไปแต่งงานกับองค์หญิงชั่วช้าผู้นั้นอีกรึพวกท่านอยากได้คนอำมหิตแบบนั้นมาเป็นสะใภ้มากนักรึไง "" มะ ไม่ใช่ ยังไงราชโองการก็ออกมาแล้วถึงยังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ "" พ่อของเจ้าพูดถูก ถึงต่อให้องค์หญิงทำผิดแค่ไหน ยังไงฝ่าบาทก็ไม่มีทางลงโทษนางหรอก"" หากฝ่าบาทไม่ลงโทษ
เมิ่งสิงโจวมองหน้าหย่งคัง" เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉิงฮวาทำผิด นางต้องได้รับโทษสาสม รวมกับครั้งก่อนที่นางก่อเรื่องให้คนไปลักพาตัวพี่สาวเจ้าไปทำร้ายด้วย"" แล้วฝ่าบาทกับฮองเฮาจะยอมหรือพะย่ะค่ะ"" เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ฉิงฮวาเอาแต่ใจแล้วยังโหดเหี้ยม หากไม่ลงโทษนางภายภาคหน้าไม่รู้นางจะก่อเรื่องใหญ่อีกแค่ไหน"" คุณชายเมิ่งข้ามีความคิดหนึ่ง"หว่านเอ๋อพูดขึ้นมา" ท่านหมอซูเป็นอาจารย์ของหลานเอ๋อ ข้าอยากพานางไปหาหมอซู บางทีหมอซูอาจช่วยได้ "" หมอซู หมอเทวดาซู ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา แต่เขาไม่เคยอยู่กับที่หาตัวยาก"หมอหลวงกู้กล่าว" แต่ที่เขาไท่ซานมีลูกศิษย์หมอซูอยู่ ถึงหมอซูไม่อยู่ แต่ก็พวกเขาก็ต้องรู้ว่าหมอซูไปที่ใด"" งั้นข้าจะพาพี่สาวของข้าไปเขาไท่ซานบางทีอาจโชคดีเจอหมอซู"" รออีกสองวันได้หรือไม่ ให้ข้าจัดการเรื่องฉิงฮวาให้เรียบร้อยก่อน ข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย"" องค์ไท่จื่อ จะดีรึพะย่ะค่ะ"" ข้าแค่อยากไปเที่ยวเขาไท่ซาน หากโชคดีจะได้เจอหมอเทวดาซูที่ผู้คนร่ำลือด้วย"" งั้นข้าขอพาหลานเอ๋อไปรอพวกท่านที่นอกเมืองได้หรือไม่ คือว่าข้าได้ข่าวว่าคุณชายจางออกตามหาหลานเอ๋อไปทั่ว ข้าไม่อยากให้เข
ปั่ก ขวดยาพิษวางลงบนโต๊ะ ชุ่ยเสียตาลุกวาว นั่นมันขวดยาพิษที่นางคิดไม่ตกว่าหายไปได้ยังไง ทั้งที่ซ่อนมันไว้ในตู้เสืัอผ้าอย่างดี " ข้าเห็นว่าเจ้าทำหล่นไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องแม่นางเมิ่ง เลยเอามาคืน จุ๊จุ๊ ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้ารู้ว่าเจ้าแค่หลงทางเลยเข้าผิดห้อง "ชุ่ยเสียถลึงตาจ้องมองบ่าวรับใช้ชายคนนั้นที่พูดเสียงดังฟังชัด บ่าวคนนั้นไม่สนใจยังพูดต่อ" กระหม่อมเห็นนางทำลับๆล่อๆแอบเข้าไปในห้องของแม่นางเมิ่งกับคุณชายจาง กลัวว่านางจะขโมยของเลยแอบดู เห็นนางทำอะไรบางอย่างในตู้เสื้อผ้า พอนางออกไปกระหม่อมเลยรีบเข้าไปดู ก็พบขวดยานี่แหละพะย่ะค่ะ "หมอหลวงหยิบขวดยาไปดม" นี่เป็นพิษร้ายแรงสกัดมาจากสัตว์มีพิษ9ชนิด"" ไม่ ไม่ใช่ข้า"" หลักฐานขนาดนี้ยังจะปากแข็งอีก จะสารภาพมาดีๆ หรือจะให้ข้าส่งไปกรมราชทัณฑ์ เห็นทีว่าเจ้าคงต้องถูกทรมานก่อนถึงจะยอมรับ"เมิ่งสิงโจวพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน เขาแทบทนไม่ไหวอยากจับนางส่งไปกรมราชทัณฑ์ ให้ได้รู้รสชาติการถูกทรมารว่าเป็นเช่นไร" อย่า อย่าส่งข้าไปกรมราชทัณฑ์เลยข้ายอมสารภาพแล้ว "" งั้นก็สารภาพมา เจ้าจดคำสารภาพของนางไว้ "" ข้า องค์หญิงให้ข้าหายาพิษมา ยาพิษนั่นเป็น เป็นท่า
" คารวะองค์ไท่จื่อ"หย่งคังจ้องมองหน้าจางฮั่นอยู่นาน จนทุกคนผิดสังเกตุ แม้แต่จางฮั่นเองก็รับรู้ได้ว่าผิดปกติ" ไม่ทราบว่าไท่จื่อทรงมีอะไรกับกระหม่อมหรือไม่"" ไม่มีอะไร "หย่งคังกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเดินเข้าไปในเรือน ฉิงฮวาแปลกใจไม่คิดว่าหย่งคังจะมาหานาง ปกติเขากับนางแทบไม่เคยพูดจากันด้วยซ้ำ แม้แต่พบหน้ายังนับครั้งได้ แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ หย่งคังนั่งลงที่โต๊ะน้ำชาจ้องมองดูฉิงฮวาไม่เอ่ยคำใดออกมา" องค์ องค์ไท่จื่อ ทรงเสด็จมาเยี่ยมหม่อมฉันหรือเพคะ"" หึหึ จะว่าอย่างงั้นก็ได้ ข้าทำคดีนี้ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง"ฉิงฮวามองหน้าหย่งคัง ในใจเกิดหวั่นกลัวขึ้นมา" พระองค์หมายความว่ายังไง"" ก็หมายความว่า คดีที่เจ้าก่อข้าจะสืบสวนเอง"ได้ฟังแบบนั้นฉิงฮวาถึงกับหน้าซีด" เป็นอะไรไป ทำไมหน้าซีดแบบนั้นหล่ะ"" หม่อม หม่อมฉันรู้สึกมึนๆหัวเพคะ"" งั้นเจ้าก็พักผ่อนเถอะ ข้าเองก็จะไปสืบหาความจริงต่อ จะได้เอาตัวคนผิดมาลงโทษซะที เจ้าว่าไหม"" พะ เพคะ น้อมส่งองค์ไท่จื่อ"หย่งคังออกมาเดินผ่านจางฮั่น ทั้งสองสบตากันไม่มีใครยอมใคร จางฮั่นรู้ได้ทันทีว่าหย่งคังต้องมีอะไรเกี่ยวกับเขาแน่ ถึงได้จ้องมองด้วยสายตาแบ
เมิ่งอันหลานถูกส่งตัวไปกรมราชทัณฑ์เพื่อให้สารภาพ แต่นางไม่ได้ทำผิดนางไม่มีทางยอมรับ จึงถูกจับเข้าเครื่องทรมาน เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องทั่วห้องนางถูกเครื่องหนีบนิ้วมือนิ้วเท้าจนกระดูกแตก ก่อนจะนำไปแขวนไว้แล้วถูกแส้เฆี่ยนจนสลบ เจ้าหน้าที่ถือถังน้ำเกลือมาสาดใส่ให้ฟื้นแล้วเฆี่ยนต่อ รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่กับพื้นสกปรก" เจ้าจะยอมรับไหมว่าวางยาพิษองค์หญิงเพราะอิจฉาริษยา ที่องค์หญิงกำลังจะได้แต่งงานกับคุณชายจางแทนที่จะเป็นเจ้า"ต้าหวังหัวหน้ากรมราชทัณฑ์จิกกระชากหัวนางถาม" ข้าไม่ได้ทำ ทำไมต้องยอมรับด้วย"" จิ๊จิ๊ เจ้านี่มันทนจริงๆ ถูกทรมานขนาดนี้ยังไม่ยอมรับอีก จัดการ"เจ้าหน้าที่เข้ามารุมเตะและกระทืบท้องเมิ่งอันหลานจนสลบไปอีกรอบ กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง" นั่น นั่นเลือดอะไรขอรับ "" ก่อนหน้าข้าได้ข่าวว่านางตั้งครรภ์ไม่ใช่ว่าเลือดนั่น"" วันนี้ทรมานนางแค่นี้ก่อน"ต้าหวังมองดูเลือดไหลออกมาจากหว่างขาจนย้อมอาภรณ์สีขาวที่นางใส่กลายเป็นสีแดงสด ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินออกไป เจ้าหน้าที่สองคนรีบเดินตามหว่านเอ๋อมาเคาะประตูจวนที่เคยมาคราวก่อนกับเมิ่งอันหลาน เจอบ่าวรับใช้คนเดิมโชคดีที่เขาจำนา
บ่าวรับใช้ยกน้ำชากับขนมมาวาง ฉิงฮวาหยิบขนมปาใส่หน้าบ่าวรับใช้" ข้าไม่ชอบกินขนมกุ้ยฮวา ไปเอามาใหม่เอาขนมหลิวชิงมาให้ข้า"บ่าวรับใช้ลนลานออกไป" เดี๋ยว องค์หญิงต้องการให้แม่นางเมิ่งเอาขนมมาถวายด้วยตัวเอง"ชุ่ยเสียพูดแล้วหันไปมองหน้าฉิงฮวาส่งยิ้มให้กัน พอบ่าวรับใช้ไปฉิงฮวาก็หยิบเอาขวดยาออกมา เทลงไปในกาน้ำชาจนหมด" องค์หญิงนี่ท่าน เหตุใดจึงใส่ลงไปหมดแบบนี้หล่ะเพคะ หมอหลวงฟู่บอกว่าพิษนี่ร้ายแรงมาก เพียงได้รับเล็กน้อยก็อันตรายถึงชีวิต แล้วเหตุใดถึงได้ "" ก็ถ้าไม่ร้ายแรงพอจะสมจริงได้ยังไงเล่า"ฉิงฮวาแสยะยิ้มตาวาวโรจน์ ชุ่ยเสียรับขวดยาจากฉิงฮวามาใส่ไว้ในสาบเสื้อแล้วเดินออกไป นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบเข้าไปในห้องนอนของเมิ่งอันหลาน แล้วเอาขวดยาอีกขวดซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าพอออกมาจากห้องก็มองซ้ายมองขวาอีกทีแล้วรีบเดินจากไป ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบมองนางอยู่ ชุ่ยเสียมาถึงก็เห็นเมิ่งอันหลานนั่งร่วมโต๊ะกับฉิงฮวา ส่วนหว่านเอ๋อยืนอยู่ข้างๆ ฉิงฮวารินชาใส่ถ้วยยื่นให้เมิ่งอันหลาน" ทำไม ไม่กล้ากินรึ "" องค์หญิงรินชาให้เจ้าด้วยตัวเองถือว่าเป็นเกียรติกับเจ้าแล้ว ยังไม่รีบดื่มอีก"ชุ่ยเสียพูดขึ้นมาฉิงฮว