ห่าวตี้หลุนถีบประตูดังปังด้วยความโมโห เมิ่งอันหลานนั่งอยู่หน้ากระจกให้หว่านเอ๋อหวีผม ก็ส่งสายตาให้หว่านเอ๋อออกไปก่อน ห่าวตี้หลุนเข้าไปกระชากแขนนาง
" อยากมีลูกกับข้าถึงกับต้องทำแบบนี้เลยรึเจ้าจงใจทำให้ข้าอับอายใช่ไหม"
" อาย อายทำไม ก็มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น แล้วที่ข้าพูดมันผิดตรงไหน ขาของท่านเดินไม่ได้มาสองปีเป็นธรรมดาที่จะส่งผลกับ ตรงนั้น"
นางก้มมองต่ำ เขาผลักนางออกอย่างรังเกียจ
" ของข้าใช้การได้ดีหรือไม่เจ้าย่อมรู้ดี เจ้าเองก็ติดใจมันจนร้องครางไม่หยุดไม่ใช่รึ"
เขาพูดแล้วเดินเข้าหานาง นางถอยหนีจนชิดมุมแล้วแสยะยิ้ม
" ข้าก็แกล้งร้องไปอย่างงั้นเองแหละ เป็นกำลังใจให้ท่าน ไม่อยากทำให้ท่านต้องเสียหน้า"
" เจ้า นี่เจ้า"
นางผลักเขาออกแล้วเดินไปนั่งจิบชา
" ข้าว่าท่านควรเอาเวลาที่โต้เถียงกับข้าไปหางานทำดีกว่า ขาของท่านก็เดินได้มาเกือบปีแล้วเหตุใดยังลอยชายไปมาอยู่อีกไม่คิดจะหาเงินเข้าจวนบ้าง น้องสาวของท่าน แม่ของท่าน ล้วนแต่ใช้จ่ายเงินราวกับใบไม้ เสื้อผ้าเครื่องประดับซื้อได้ทุกวัน นี่ถ้าไม่มีสมบัติเดิมป่านนี้จวนจระกูลห่าวคงเหลือเเต่ชื่อ หรือว่าท่านคิดจะให้บิดาของท่านที่อยู่ชายแดนเลี้ยงดูไปจนตาย จิ๊จิ๊ ช่างเป็นลูกกตัญญูจริงๆ บิดาของท่านเป็นเพียงนายกองเล็กๆเงินเดือนนิดเดียว ส่งกลับมาเดือนนึงแทบไม่พอจ่ายเงินเดือนบ่าวรับใช้ "
ห่าวตี้หลุนได้แต่อ้าปากเถียงนางไม่ออกเพราะที่นางพูดมาล้วนเป็นเรื่องจริง พอเขาเดินได้ก็เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของหลี่หรูอี้จนลืมคิดเรื่องนี้ไป
" แล้วเจ้าเล่าดีกว่าข้าตรงไหน ท่านย่าซื้อตัวเจ้าด้วยสินสอดมากมายเพื่อให้มาแต่งงานกับข้า หลายปีมานี้เจ้ายังกินใช้ของตระกูลห่าวหมดไปตั้งเท่าไหร่"
นางลุกขึ้นเดินไปจ้องหน้าเขา
" ไม่ต้องห่วง ทั้งเงินสินสอดและค่าใช้จ่ายตลอดสามปีที่ข้าอยู่ที่จวนนี้ข้าจะจ่ายคืนให้ครบไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว"
พูดจบก็เดินออกไป ห่าวตี้หลุนรู้สึกวูบโหวงแปลกๆกับคำพูดของนาง
เมิ่งอันหลานกับหว่านเอ๋อเดินเล่นในตลาดพากันแวะร้านนั้นร้านนี้ ดูของขวัญไปให้ฮูหยินผู้เฒ่าในวันเกิดที่ใกล้จะมาถึง เลือกของได้แล้วระหว่างรอห่อ สายตาก็เห็นเกี๊ยวร้อนๆก็นึกอยากกิน
" หว่านเอ๋อเจ้ารอเอาของนะ ข้าจะไปซื้อเกี๊ยวที่ร้านนั้น"
" เจ้าค่ะฮูหยินเดี๋ยวข้าตามไป"
เมิ่งอันหลานเดินไปที่ร้านเกี๊ยวไม่คิดว่าจะเจอห่าวตี้หลุนกับหลี่หรูอี้ หลี่หรูอี้ควงแขนห่าวตี้หลุนส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้
" พี่อันหลาน ท่านก็อยากกินเกี๊ยวเหมือนกันเหรอ"
" ข้าไม่มีน้องสาว อีกอย่างหน้าตาของเจ้าก็ดูแก่กว่าข้ามาก หากถามใครก็ต้องคิดว่าเจ้าอายุมากกว่าแน่"
" เจ้า "
" พ่อค้าข้าเอาไส้หมูกับไส้ผักอย่างละสี่"
" ได้ๆ"
กรี๊ดด ว้ายยยย
" หนีเร็ว"
" วิ่งเร็วมีนักฆ่ามาจากไหนไม่รู้"
เสียงชาวบ้านกรีดร้องตะโกนบอกมีนักฆ่าแต่ละคนพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง กลุ่มนักฆ่ามาเร็วมาก เมิ่งอันหลานไม่ทันได้วิ่งหนีก็ถูกพวกมันรายล้อม หันไปดูห่าวตี้หลุนที่จูงมือหลี่หรูอี้วิ่งหนี นางก็ยอมรับชะตากรรม ฉึก คมดาบแทงเข้าที่ท้องของนางก่อนสติจะดับไป นางเห็นภาพเลือนลางของบุรุษชุดน้ำเงินเข้ามาต่อสู้กับพวกนักฆ่า
เมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอน จมูกได้กลิ่นยาสมุนไพรอบอวล
" ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว"
" หว่านเอ๋อ ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
" คนของทางการพามาส่งเจ้าค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นองครักษ์ ยังเป็นคนช่วยชีวิตฮูหยินด้วยนะเจ้าคะ "
" องครักษ์เหรอ เขาได้บอกชื่อใหม"
" ไม่ได้บอกเจ้าค่ะ ข้าถามก็ไม่บอกไม่พูดอะไรเลยสักคำ อ้อนี่เจ้าค่ะ ตอนเขาอุ้มฮูหยินมาส่งเผลอทำตกไว้ ข้าเลยเก็บมา"
หว่านเอ๋อส่งป้ายหยกให้เมิ่งอันหลาน นางรับมาดูแล้วขมวดคิ้ว ป้ายหยกบอกตำแหน่งองครักษ์ ป้ายแบบนี้น่าจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ ไว้นางหายดีก่อนจะเอาป้ายไปคืนและขอบคุณเขาด้วย
" หลานเอ๋อเจ้าฟื้นแล้ว ดีจริงๆ ยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหม เจ็บแผลมากหรือเปล่า นางฟื้นแล้วพวกเจ้ารีบไปตามหมอมาดูเร็ว"
ฮูหยินผู้เฒ่ารีบเข้ามาดูเมิ่งอันหลานใกล้ๆด้วยความห่วงใย แล้วสั่งให้บ่าวรับใช้ไปตามหมอมา
" ท่านย่า ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ "
" โทษหลานชั่วคนนั้น แทนที่จะปกป้องภรรยาตัวเองกับไปปกป้องนังหญิงหน้าด้านคนนั้น ไม่ต้องห่วงนะ ย่าลงโทษให้เขาคุกเข่าสำนึกผิดในห้องบรรพชนแล้ว แล้วยังสั่งห้ามไม่ให้เขาไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกหากเขากล้าขัดคำสั่ง ข้าจะตัดขาดกับเขา"
หลายวันผ่านไปเมิ่งอันหลานอาการดีขึ้นจึงออกมาเดินเล่นในสวน บ่าวรับใช้ชายคนหนึ่งเข้ามาหาพร้อมยื่นของบางอย่างให้
" มีจดหมายถึงฮูหยินขอรับ"
เมิ่งอันหลานรับจดหมายมาเปิดอ่าน
" พี่สาว ตอนนี้ข้าสอบผ่านแล้วได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางทำงานในวังหลวง ต่อไปข้าจะมีเงินแล้ว พี่สาวอดทนอีกนิดนะ ข้าจะเก็บเงินไปคืนตระกูลห่าวให้ครบจำนวนที่เขาให้เป็นค่าสินสอดในครานั้น ท่านจะได้หลุดพ้นเป็นอิสระจากสามีพิการนั่นเสียที หลายปีมานี้ท่านคงลำบากมากใช่ไหม รอข้าเก็บเงินก่อนนะ ข้าต้องช่วยท่านออกมาจากตระกูลห่าวแน่นอน ถึงข้าอยู่ไกลถึงเมืองหลวง แต่ข้าก็รับรู้ข่าวว่าตอนนี้ชายคนนั้นเดินได้แล้ว แทนที่จะดีกับท่าน กับทรยศท่านไปหารักแรกของเขา ข้าแทบทนไม่ไหวอยากจะไปฉีกเนื้อมันเสียเดี๋ยวนี้ รอข้านะอีกไม่นานข้าจะกลับไปรับท่านออกจากจวนตระกูลห่าวอย่างสมศักดิ์ศรี พี่สาวอย่าเสียใจกับผู้ชายแบบนั้นเลย มันไม่คุ้มค่าหรอก ไม่ต้องห่วง ข้าอยู่ที่นี่มองหาสามีใหม่ให้ท่านทุกวัน ไว้ข้าจะพาเขากลับไปรับท่านด้วยกันนะ รักษาสุขภาพด้วย "
เมิ่งสิงโจว
เมิ่งอันหลานอ่านจดหมายไปก็ยิ้มไป น้องชายของนางอยู่ไกลถึงเมืองหลวงยังรับรู้เรื่องราวของนาง ยังจะมองหาสามีใหม่ให้นางอีก ช่างเป็นน้องชายที่ดีจริงๆ ได้รู้ว่าเขาสอบผ่านได้เข้ารับตำแหน่งขุนนางทำงานอยู่ในวังหลวงนางก็ดีใจมากแล้ว เรื่องเงินสินสอดที่นางต้องการคืนตระกูลห่าว เพราะไม่อยากมีอะไรติดค้างกัน ไม่ให้ใครมาพูดอะไรได้ โดยเฉพาะห่าวตี้หลุน ที่ดูแคลนนางหาว่านางกินฟรีอยู่ฟรี หึ เขาลืมไปแล้วกระมัง ว่าตอนที่เขาพิการเดินไม่ได้ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแลเขาเหนื่อยยากแค่ไหน เขาไม่เห็นค่าก็ช่างเถอะ นางเองก็ทำเพื่อเงินจริงๆ หากไม่แต่งงานไม่มีค่าสินสอดตอนนั้นก็คงไม่มีเงินทุนให้เมิ่งสิงโจวเดินทางไปสอบบัณฑิตที่เมืองหลวง และไม่มีเงินใช้หนี้ให้บิดา ไม่มีเงินให้บิดาของนางเปิดโรงเตี๊ยมจนเจริญรุ่งเรืองอย่างทุกวันนี้
ระหว่างเดินกลับห้อง ห่าวตี้หลุนก็เดินสวนมา
" เจ้าหายดีแล้วรึ ถึงได้ออกมาตากลม"
" ข้าตายยาก ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว"
" เจ้า ข้าถามดีๆทำไมต้องประชดด้วย"
" ถ้าท่านคิดว่าข้าประชด งั้นก็เอาตามที่ท่านเข้าใจนั่นแหละ "
" เจ้า ข้าไม่อยากเถียงกับเจ้า เดี๋ยวข้าจะออกไปตลาดเจ้าอยากได้อะไรหรือไม่"
เมิ่งอันหลานจ้องมองหน้าห่าวตี้หลุน ไปตลาดหรือจวนตระกูลหลี่กันแน่ คงอยากกลบเกลื่อนความผิดสินะเลยหาข้ออ้างว่าไปตลาด
" ท่านย่าไม่อยู่ไปถือศีลที่วัดโหย่วกวงตั้งเป็นเดือน สะดวกทางท่านแล้ว จะไปหาหลี่หรูอี้ก็ไปเถอะไม่ต้องมาบอกว่าไปตลาดหรอก "
" ฮูหยิน จวนตระกูลหลี่ก็อยู่ใกล้ตลาดนะเจ้าคะ คุณชายบอกจะไปตลาดก็ไม่ผิดนะ"
" อือ จริงของเจ้า"
" เจ้า นี่พวกเจ้า ช่างเถอะ ข้าจะไปตลาดจริงๆเลยถามเผื่อเจ้าอยากได้อะไร แต่เจตนาดีของข้ากลับกลายเป็นเข้าใจผิด ได้ งั้นข้าจะไปหาหลี่หรูอี้อย่างที่พวกเจ้าว่า"
จวนตระกูลหลี่หลี่หรูอี้หยิบขนมป้อนห่าวตี้หลุน เขาอ้าปากรับเคี้ยวตุ้ยๆ แต่สีหน้ายังบูดบึ้งไม่สบอารมณ์" พี่ตี้หลุน ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า หรือขนมที่ข้าทำไม่ถูกปาก ถ้าเป็นแบบนั้นก็บอกข้าดีๆสิ"" ไม่ ไม่ใช่ ขนมอร่อยมาก ฝีมือของอี้เอ๋อดีไม่มีตก เพียงแต่ข้ามีเรื่องให้คิด"" เรื่องอะไรรึ บอกข้าได้ไหม เผื่อข้าจะช่วยท่านได้ "" อี้เอ๋อของข้าจิตใจดีจริงๆ ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่คิดว่าจะกลับเข้ากองทัพดีหรือไม่"" ท่านคิดจะกลับเข้ากองทัพรึ "ห่าวตี้หลุนพยักหน้า เขาว่างงานมานานแล้วไม่มีรายได้ กินใช้สมบัติเดิมของตระกูล ส่วนเงินชดเชยที่ได้จากการเสียขาครั้งนั้นก็หมดไปกับค่าหมอค่ายานานแล้ว อาศัยเบี้ยหวัดน้อยนิดจากบิดาของเขาก็แทบไม่พอค่าใช้จ่ายในจวน จริงอย่างที่เมิ่งอันหลานพูด หากไม่มีสมบัติเดิม จวนตระกูลห่าวคงไม่เหลืออะไร ทั้งมารดาของเขาเดี๋ยวก็ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนนั้นจวนนี้ น้องสาวของเขาวันๆก็เอาแต่เที่ยวเล่น กลับจวนทีก็ซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับกลับมาด้วยทุกครั้งโดยเฉพาะเสื้อผ้า เขาไม่เข้าใจว่านางจะซื้อมาทำไมนัก เท่าที่มีก็ใส่แทบไม่หมด แต่ละวันใส่ซ้ำกันซะที่ไหน ทุกวันนี้ต้องมีห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้าเ
เมิ่งอันหลานก้มลงหยิบจดหมายมาอ่านแล้วแค่นหัวเราะ" นี่ไม่ใช่ลายมือของข้า"" หลักฐานชัดเจนขนาดนี้เจ้ายังปฏิเสธ"" แล้วจะให้ข้ายอมรับได้ยังไงก็มันไม่ใช่ลายมือของข้าจริงๆ หากไม่เชื่อก็ไปเอากระดาษกับพู่กันมา"ห่าวลั่วชิงมองหน้าห่าวเหลียนฮวา หากให้เมิ่งอันหลานได้เขียนตัวอักษรก็จะพิสูจน์ได้ว่าลายมือไม่ตรงกับในจดหมาย นั่นก็จะถูกจับได้ว่าพวกนางปลอมแปลงขึ้นมา และห่าวลั่วชิงที่เป็นคนเขียนจดหมายเอง" ช้าก่อน เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้เขียนจดหมายแต่จะบอกว่าไม่รู้จักคนส่งจดหมายด้วยใช่ไหม มีคนเห็นเจ้ารับจดหมายจากบ่าวรับใช้คนนี้ พอเจ้าได้รับจดหมายก็รีบเปิดอ่านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หรือเจ้าจะปฏิเสธ ไปเรียกคนมา"วันก่อนห่าวลั่วชิงมาบอกนางว่าเห็นบ่าวรับใช้ส่งจดหมายให้เมิ่งอันหลาน นางเองก็ไม่รู้ว่าใครส่งมาและเนื้อหาในจดหมายมีข้อความอะไร แต่ก็ทำให้นางคิดแผนขึ้นมาได้บ่าวรับใช้4คนเดินเข้ามา" พวกเจ้าใช่ไหมที่เห็นเจ้าคนนั้นส่งจดหมายให้ฮูหยินน้อย"" ขอรับ ตอนนั้นบ่าวกวาดใบไม้อยู่ไม่ไกลเห็นชายคนนั้นเอาจดหมายมาให้ฮูหยินน้อย"" บ่าวก็รดน้ำดอกไม้อยู่เห็นเหมือนกันเจ้าค่ะพอฮูหยินน้อยเปิดอ่าน ก็ยิ้มไม่หุบเหมือนมีความสุขมากเจ
ในจวน ผู้คนพลุกพล่าน บ่าวรับใช้วิ่งเข้าวิ่งออกต่างวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานแต่งไม่มีใครสนใจเมิ่งอันหลานที่นอนอยู่ท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ นางลืมตาที่พร่ามัวมองดูทุกคนกำลังวุ่นวาย ได้ยินทุกคำพูดแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว นางหนาวสะท้านเข้ากระดูก แผลที่ถูกแทงคราวก่อนปริแตก แผลที่ถูกโบยข้างหลังเลือดไหลย้อมหิมะจนเป็นสีแดง ก่อนสติจะดับไปอีกครั้ง นางเห็นคนผู้หนึ่งในชุดสีน้ำเงินเดินตรงเข้ามาเหมือนครั้งก่อนที่นางถูกแทงที่ตลาดเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ใดไม่รู้ เห็นเพียงหลังของบุรุษในชุดน้ำเงินยืนอยู่" ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว"หว่านเอ๋อเข้าไปประคองเมิ่งอันหลานที่พยายามลุกขึ้นให้นอนลง" อย่าพึ่งลุกเลยเจ้าค่ะนอนลงก่อน แผลของท่านยังไม่หายดี หมอบอกว่าแผลเก่าอับเสบแล้วยังจะแผลใหม่อีก"" หว่านเอ๋อ เจ้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน"" ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ถึงข้าจะถูกโบยแต่ไม่ได้ตากหิมะนานเหมือนท่าน โชคดีหลังจากถูกนำมาโยนทิ้งไว้หลังจวนมีคนผ่านมาช่วย พอข้าได้สติก็ขอร้องให้เขามาช่วยท่านด้วย นั่นเจ้าค่ะ คนที่ช่วยข้ากับฮูหยิน"" ท่านคือ"" ข้าชื่อจางฮั่น เป็นหัวหน้าองครักษ์อินทรี "" หน่วยอินทรี เป็นอ
หลี่หรูอี้นั่งรอห่าวตี้หลุนอยู่ในเรือนหอด้วยความร้อนใจ" มาหรือยัง"" ยังเจ้าค่ะ"" นี่มันนานแล้วนะ"" โธ่คุณหนู ใจเย็นสิเจ้าคะ"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน "" เจ้าออกไปดูอีกทีซิ"" แต่ข้าพึ่งไปมาเมื่อกี้เองนะเจ้าคะ คุณชายห่าวกำลังดื่มกับแขกในงานชนจอกเหล้ายังไม่ครบคนเลยเจ้าค่ะ"" ขืนรอให้ชนจอกเหล้าครบทุกคนคืนนี้ข้าก็ไม่ต้องเข้าหอกันพอดี เจ้า ไปตามมา"" จะดีหรือเจ้าคะ"" ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ"" เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"บ่าวคนสนิทหายไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ่าวจะเข้าห้องหอ หลี่หรูอี้หงุดหงุดดึงผ้าคลุมหน้าออก เปิดประตูจะไปตาม ก็เห็นห่าวตี้หลุนถูกสหายประคองพาเดินโซเซมาส่ง ข้างหลังมีหยูเหยียนบ่าวรับใช้ของนางตามมาติดๆ" โอ้ เจ้าสาวมารอรับถึงหน้าห้องหอเลย ฮ่าฮ่าฮ่า"" พวกข้าพาเจ้าบ่าวมาส่งแล้ว เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอสุขสันต์ "" เข้าหอสุขสันต์ พวกข้าไม่รบกวนแล้ว"พอพวกสหายปล่อยมือออก ห่าวตี้หลุนก็โงนเงนจะล้ม หลี่หรูอี้ต้องรีบรับเขาไว้ไม่ให้ล้มแล้วพาไปที่เตียงนอน มองดูเจ้าบ่าวของตัวเองที่เมาไม่ได้สติก็ยิ่งโมโห คืนเข้าหอของนางที่วาดฝันเอาไว้สวยหรูกลับต้องมา
ห่าวตี้หลุนหันไปจ้องมองห่าวเหลียนฮวาที่เดินมาพร้อมกับหลี่หรูอี้และห่าวลั่วชิง" ไหนท่านแม่บอกว่าส่งนางไปอยู่เรือนเล็กยังตามหมอมารักษานาง"" ข้า "" ท่านรู้ตั้งนานแล้วว่านางหายไปแต่ไม่ยอมบอกข้า"" แม่ไม่อยากให้เจ้ากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจ้ากำลังแต่งงานกับอี้เอ๋อ เหตุใดต้องไปคิดถึงนังผู้หญิงแพศยาคนนั้นด้วย มันหายไปก็ดีแล้ว"" ท่านแม่ ถ้าท่านย่ากลับมาท่านจะบอกท่านย่ายังไง"" ไม่เห็นจะยาก ก็บอกไปตามตรงว่านางหนีตามชายชู้ของนางไป"ห่าวลั่วชิงเอ่ยขึ้นมา" เจ้าคิดว่าท่านย่าจะเชื่อไหม"" เรามีทั้งหลักฐานและพยานทั้งจวนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ"" หลักฐานเท็จพวกนี้หน่ะเรอะ"เมิ่งอันหลานเดินเข้ามาพร้อมจางฮั่น ข้างหลังยังมีหว่านเอ๋อและลูกน้องของจางฮั่นตามมาอีกเป็นสิบ" ยังมีหน้ากลับมาอีกรึนังแพศยา"ห่าวเหลียนฮวาชี้หน้าด่าเมิ่งอันหลาน" ข้าก็ไม่อยากจะกลับมาหรอก แต่ถ้าไม่กลับมาก็ต้องถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ไปตลอด"" หึ ใส่ร้าย ใครใส่ร้ายเจ้า เป็นเจ้าที่ทำตัวเองทั้งนั้น"" นี่เป็นคำสารภาพจากคนที่พวกท่านหาว่าเป็นชู้กับข้า แล้วก็บ่าวรับใช้ที่ท่านให้ใส่ร้ายข้า"เมิ่งอันหลานยื่นกระดาษสารภาพผิดให้ห่าวตี้หลุน ห่
" ท่าน ทำไมท่านต้องบอกว่าเงินทองพวกนั้นเป็นของน้องชายข้าด้วย"จางฮั่นรินชาส่งให้นางแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น" หากบอกว่าเป็นของข้าที่ให้เจ้า พวกเขาจะคิดยังไง"เมิ่งอันหลานหยุดคิด หากพวกนั้นรู้ว่าเงินทองข้าวของที่เอาไปคืนให้ ล้วนเป็นของจางฮั่น ทุกคนในตระกูลห่าวโดยเฉพาะห่าวตี้หลุนที่ไม่มีมันสมอง ต้องคิดว่านางมีความสัมพันธ์พิเศษกับจางฮั่น หรืออาจคิดว่านางขายร่างกายเพื่อแลกมาก็ได้ การที่เขาบอกไปแบบนั้นเป็นการปกป้องนาง แล้วยังยืนยันว่านางมีน้องชายจริงๆ" ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า ขอบคุณที่ทำให้ข้าเป็นอิสระหลุดพ้นจากตระกูลห่าวข้าจะหามาคืนท่านแน่นอน แค่อาจจะใช้เวลาหน่อย"" ไม่ต้อง ข้าไม่ใช่ห่าวตี้หลุนที่คิดเล็กคิดน้อยเก็บเงินเก็บทองกับเจ้า"" แต่เงินทองพวกนั้นไม่ใช่น้อยๆข้ารู้ว่าท่านมั่งคั่ง เงินทองข้าวของพวกนั้นสำหรับท่านอาจเล็กน้อย แต่สำหรับข้าไม่ใช่ ข้าสัญญาว่ายังไงก็จะหามาคืนท่านแน่นอน"" ข้ายกให้ มันสมควรเป็นของเจ้า"นางขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ" หลายปีก่อนที่เขาไท่ซานฝั่งตะวันออก เจ้าจำได้ไหมว่าเคยช่วยชีวิตใครคนหนึ่งไว้"เมิ่งอันหลานขบคิดอยู่พักใหญ่ หลายปีก่อนนางเคยช่วยใครไว้นะ ตอนนั้
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะฮูหยินผู้เฒ่าตบหน้าห่าวตี้หลุนไม่ยั้งมือ จนเลือดซิบมุมปากหน้าแดงเป็นรอยฝ่ามือชัดเจน" สารเลว หัวของเจ้ามันไม่มีมันสมองเลยรึไงถึงได้ไม่รู้จักคิดไตร่ตรองดูให้ดีก่อน เจ้าลงโทษนางอย่างงั้นได้ยังไง นางดูแลเจ้ามาหลายปีไม่รังเกียจที่เจ้าพิการ คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเจ้าคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เจ้า ยอมลำบากฝ่าพายุหิมะขึ้นเขาไปเก็บหิมะพันปีมาปรุงยาให้เจ้า เป็นนางที่ขอร้องหมอเทวดาซูให้ลงจากเขามารักษาเจ้า หากไม่มีนางเจ้าคิดว่าเจ้าจะกลับมาเดินได้อีกไหมเจ้าบอกข้าซิ แล้วนี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนนางเหรอ พอเจ้าเดินได้ก็รีบไปหาผู้หญิงที่ทิ้งเจ้าไปแต่งงานกับคนอื่น ข้าไม่อยู่พวกเจ้าก็รวมหัวกันรังแกนางใส่ร้ายว่านางคบชู้ แล้วยังแต่งนังผู้หญิงคนนี้เข้ามาในตระกูลห่าวของข้าอีก พวกเจ้าช่างไม่เห็นหัวข้าจริงๆ "ห่าวตี้หลุนคุกเข่าสำนึกผิด เขายอมรับความผิดทุกอย่างไม่โต้เถียงสักคำ" ไป ไปพาหลานสะใภ้ของข้ากลับมา หากเจ้าพาหลานเอ๋อกลับมาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าย่าอีก"" ท่านย่า นางได้หย่าขาดกับพี่ตี้หลุนแล้วเหตุใดยังให้เขาไปตามนางกลับมาอีก"" หุบปาก เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าว่าย่า "" แต่ข้าเป็นภรรย
ห่าวตี้หลุนยกไหเหล้าขึ้นดื่ม คำพูดของมารดายังดังก้องหู" ความเหงามันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ หากความเหงามันฆ่าคนได้แม่คงตายนานแล้ว แต่เพราะมีหยางหยาง แม่ถึงได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เจ้าเป็นลูกของแม่ต้องอยู่ข้างแม่เรื่องนี้อย่าพูดออกไปให้ใครรู้เข้าใจไหม เรื่องที่เจ้ารู้เห็นก็คิดซะว่าไม่เคยเกิดขึ้น"ห่าวตี้หลุนรู้สึกผิดหวังกับมารดามาก ทั้งที่รู้ว่านางทำผิดแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ยิ่งผิดหวังกับหยางหยางบ่าวคนสนิทที่เขาเห็นเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง แต่กลับทำเรื่องแบบนี้ หลี่หรูอี้รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกหันไปมองข้างๆว่างเปล่าไม่มีห่าวตี้หลุน นางรีบลุกขึ้นเดินออกไปตามหา เห็นเขานอนหลับกอดไหเหล้าอยู่ในสวน รอบตัวเต็มไปด้วยไหเหล้าตั้งแต่นางแต่งเข้าจวนตระกูลห่าวมาเขาก็ไม่เคยสนใจนางเลย ทุกวันเอาแต่ออกไปตามหาเมิ่งอันหลาน กลับมาก็เอาแต่ดื่มเหล้าเมามาย" ท่านพี่ ท่านพี่ ตื่นลืมตาลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ "นางเขย่าเขาอย่างแรง ห่าวตี้หลุนสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เห็นภาพตรงหน้าเป็นเมิ่งอันหลานก็โผเข้ากอดนางไว้แน่น" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อของข้า เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว เจ้ายกโทษให้ข้าแล้วใช่ไหม"หลี่หรูอี้ผลักเขาออก ตวัดมือตบหน้าดังเส
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน
เหิงกงกงหยิบเอาราชโองการออกมาประกาศ" จางฮั่นรับราชโองการ ด้วยองค์หญิงฉิงฮวามีความประพฤติผิดร้ายแรง ไม่เหมาะสมคู่ควรกับจางฮั่น หัวหน้าองครักษ์หน่วยอินทรีผู้อาจหาญและสง่างาม จึงขอยกเลิกราชโองการสมรสก่อนหน้า จบราชโองการ"" ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นๆปี"ฉิงฮวาส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางรับไม่ได้ นางไม่ยอมรับ ที่ทำมาทั้งหมดนางต้องการแค่จางฮั่น แต่ตอนนี้งานแต่งของนางถูกยกเลิกแล้วจางฮั่นยิ้มมุมปากหันไปมองเมิ่งสิงโจว เมิ่งสิงโจวเบะปากใส่ หึ ยกเลิกแล้วยังไงทำให้หลานของเขากลับคืนมาได้รึเปล่า ทำให้พี่สาวของเขาฟื้นขึ้นมาได้ไหม ทำให้บาดแผลทั้งภายนอกและภายในของนางหายไปได้รึเปล่า ก็เปล่าเลย" ที่นี้ถึงตาเจ้าแล้ว"ยังไม่ทันที่หย่งคังจะพูดต่อ ฉางลู่ก็พูดแทรรกขึ้นมา" องค์ไท่จื่อ"" ทำไม คิดว่าข้าจะตัดสินประหารนางรึ"" ถึงอย่างไรนางก็เป็นน้องสาวของเจ้า เป็นสายเลือดเดียวกัน"" หึหึ วางใจเถอะข้าไม่ตัดสินประหารนางหรอก การตายสำหรับนางมันสบายเกินไป ข้าจะส่งนางไปเกาะกูตู๋"" เกาะกูตู๋ ไม่ได้ ที่นั่นเป็นเกาะร้างไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ นางเป็นถึงองค์หญิงจะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง"ฉางลู่คัดค้าน " รึจะให้น
" เจ้า พวกเจ้าโกหก ไม่จริงเพคะพวกมันใส่ร้ายหม่อมฉัน"" จนขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะแก้ตัวอีกรึ"หยุนเสียงตะคอกเสียงดังจนฉิงฮวาสะดุ้งน้ำตาคลอ นางเชิดหน้าไม่ยอมรับผิดชี้ไปที่ต้าหวัง" เจ้า ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า ยิ่งไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัว แล้วจะมาว่าข้าสั่งให้เจ้าทำได้ยังไง"" จริงที่ท่านไม่ได้มาพบข้าเป็นการส่วนตัวแต่ท่านก็ให้นางคนนี้เอาคำสั่งมาบอกข้า"ต้าหวังชี้ไปที่ชุ่ยเสีย" แล้วยังให้คนเอาหีบตำลึงเงินตำลึงทองมาให้อีก หรือท่านจะบอกว่านางไม่ใช่คนของท่าน"" ใช่ นางเป็นนางกำนัลของข้า แต่ข้าไม่รู้เรื่องที่นางทำ"" องค์หญิง"" เป็นเจ้าที่ทำเรื่องทั้งหมดเองไม่เกี่ยวกับข้า ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดีกับข้า เห็นว่าข้าเสียใจที่นางมาแทรกกลางระหว่างข้ากับจางฮั่นเจ้ากลัวว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับข้า เลยทำเรื่องเช่นนั้นลงไป ในเมื่อเจ้าทำผิดเองก็ต้องรับโทษคนเดียวสิ อย่าดึงข้าไปข้องเกี่ยวด้วย "ชุ่ยเสียจ้องมองฉิงฮวาด้วยความผิดหวัง นางไม่น่ามารับใช้ฉิงฮวาเลย ทั้งที่นางจงรักภักดีทำตามคำสั่งทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับถูกทอดทิ้ง นึกถึงตอนที่มัวเอ๋อถูกลากไปตัดลิ้นแล้วจับโยนลงบ่อ นางก็น่าจะคิดได้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าองค์
" เฮ่อ ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อทั้งพยานหลักฐานก็ชี้ชัดไปที่นางว่านางเป็นทำ เจ้าเองก็ยังสงสัยนางไม่ใช่รึ "" ใช่ ข้าสงสัยนาง ข้าไม่ยอมเชื่อใจนาง ไม่ควร ไม่ควรเลย ข้าเป็นสามีของนางแต่ไม่ยืนหยัดปกป้องนาง กลับไปเฝ้าองค์หญิงอำมหิตผู้นั้น แล้วปล่อยให้นางต้องถูกทรมานจน จนเสียลูก ข้าทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มีหัวสมอง ทำไมไม่คิดว่าคนอย่างองค์์หญิงชั่วช้าขนาดไหน ทำไมตอนนั้นไม่คิดทำไม ทำไม "จางฮั่นตบหน้าตัวเองซ้ำไปซ้ำมา จนจางเหมยฮวาต้องเข้าไปดึงมือเขาออก" พอแล้วเจ้าทำแบบนี้จะเกิดประโยชน์อันใด ในเมื่อเรื่องก็ผ่านมาแล้ว"" เด็กในท้องนางก็ไม่อยู่แล้ว เจ้าก็ปล่อยนางไปเถอะ ใช่ว่ามีนางคนเดียวซะเมื่อไหร่ที่ตั้งท้องลูกของเจ้าได้ "จางฮั่นลุกขึ้นพรวดจ้องหน้าจางหัวเจี้ยน" ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง นี่ท่านยังคิดจะให้ข้าไปแต่งงานกับองค์หญิงชั่วช้าผู้นั้นอีกรึพวกท่านอยากได้คนอำมหิตแบบนั้นมาเป็นสะใภ้มากนักรึไง "" มะ ไม่ใช่ ยังไงราชโองการก็ออกมาแล้วถึงยังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ "" พ่อของเจ้าพูดถูก ถึงต่อให้องค์หญิงทำผิดแค่ไหน ยังไงฝ่าบาทก็ไม่มีทางลงโทษนางหรอก"" หากฝ่าบาทไม่ลงโทษ
เมิ่งสิงโจวมองหน้าหย่งคัง" เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉิงฮวาทำผิด นางต้องได้รับโทษสาสม รวมกับครั้งก่อนที่นางก่อเรื่องให้คนไปลักพาตัวพี่สาวเจ้าไปทำร้ายด้วย"" แล้วฝ่าบาทกับฮองเฮาจะยอมหรือพะย่ะค่ะ"" เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ฉิงฮวาเอาแต่ใจแล้วยังโหดเหี้ยม หากไม่ลงโทษนางภายภาคหน้าไม่รู้นางจะก่อเรื่องใหญ่อีกแค่ไหน"" คุณชายเมิ่งข้ามีความคิดหนึ่ง"หว่านเอ๋อพูดขึ้นมา" ท่านหมอซูเป็นอาจารย์ของหลานเอ๋อ ข้าอยากพานางไปหาหมอซู บางทีหมอซูอาจช่วยได้ "" หมอซู หมอเทวดาซู ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา แต่เขาไม่เคยอยู่กับที่หาตัวยาก"หมอหลวงกู้กล่าว" แต่ที่เขาไท่ซานมีลูกศิษย์หมอซูอยู่ ถึงหมอซูไม่อยู่ แต่ก็พวกเขาก็ต้องรู้ว่าหมอซูไปที่ใด"" งั้นข้าจะพาพี่สาวของข้าไปเขาไท่ซานบางทีอาจโชคดีเจอหมอซู"" รออีกสองวันได้หรือไม่ ให้ข้าจัดการเรื่องฉิงฮวาให้เรียบร้อยก่อน ข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย"" องค์ไท่จื่อ จะดีรึพะย่ะค่ะ"" ข้าแค่อยากไปเที่ยวเขาไท่ซาน หากโชคดีจะได้เจอหมอเทวดาซูที่ผู้คนร่ำลือด้วย"" งั้นข้าขอพาหลานเอ๋อไปรอพวกท่านที่นอกเมืองได้หรือไม่ คือว่าข้าได้ข่าวว่าคุณชายจางออกตามหาหลานเอ๋อไปทั่ว ข้าไม่อยากให้เข
ปั่ก ขวดยาพิษวางลงบนโต๊ะ ชุ่ยเสียตาลุกวาว นั่นมันขวดยาพิษที่นางคิดไม่ตกว่าหายไปได้ยังไง ทั้งที่ซ่อนมันไว้ในตู้เสืัอผ้าอย่างดี " ข้าเห็นว่าเจ้าทำหล่นไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องแม่นางเมิ่ง เลยเอามาคืน จุ๊จุ๊ ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้ารู้ว่าเจ้าแค่หลงทางเลยเข้าผิดห้อง "ชุ่ยเสียถลึงตาจ้องมองบ่าวรับใช้ชายคนนั้นที่พูดเสียงดังฟังชัด บ่าวคนนั้นไม่สนใจยังพูดต่อ" กระหม่อมเห็นนางทำลับๆล่อๆแอบเข้าไปในห้องของแม่นางเมิ่งกับคุณชายจาง กลัวว่านางจะขโมยของเลยแอบดู เห็นนางทำอะไรบางอย่างในตู้เสื้อผ้า พอนางออกไปกระหม่อมเลยรีบเข้าไปดู ก็พบขวดยานี่แหละพะย่ะค่ะ "หมอหลวงหยิบขวดยาไปดม" นี่เป็นพิษร้ายแรงสกัดมาจากสัตว์มีพิษ9ชนิด"" ไม่ ไม่ใช่ข้า"" หลักฐานขนาดนี้ยังจะปากแข็งอีก จะสารภาพมาดีๆ หรือจะให้ข้าส่งไปกรมราชทัณฑ์ เห็นทีว่าเจ้าคงต้องถูกทรมานก่อนถึงจะยอมรับ"เมิ่งสิงโจวพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน เขาแทบทนไม่ไหวอยากจับนางส่งไปกรมราชทัณฑ์ ให้ได้รู้รสชาติการถูกทรมารว่าเป็นเช่นไร" อย่า อย่าส่งข้าไปกรมราชทัณฑ์เลยข้ายอมสารภาพแล้ว "" งั้นก็สารภาพมา เจ้าจดคำสารภาพของนางไว้ "" ข้า องค์หญิงให้ข้าหายาพิษมา ยาพิษนั่นเป็น เป็นท่า
" คารวะองค์ไท่จื่อ"หย่งคังจ้องมองหน้าจางฮั่นอยู่นาน จนทุกคนผิดสังเกตุ แม้แต่จางฮั่นเองก็รับรู้ได้ว่าผิดปกติ" ไม่ทราบว่าไท่จื่อทรงมีอะไรกับกระหม่อมหรือไม่"" ไม่มีอะไร "หย่งคังกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเดินเข้าไปในเรือน ฉิงฮวาแปลกใจไม่คิดว่าหย่งคังจะมาหานาง ปกติเขากับนางแทบไม่เคยพูดจากันด้วยซ้ำ แม้แต่พบหน้ายังนับครั้งได้ แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ หย่งคังนั่งลงที่โต๊ะน้ำชาจ้องมองดูฉิงฮวาไม่เอ่ยคำใดออกมา" องค์ องค์ไท่จื่อ ทรงเสด็จมาเยี่ยมหม่อมฉันหรือเพคะ"" หึหึ จะว่าอย่างงั้นก็ได้ ข้าทำคดีนี้ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง"ฉิงฮวามองหน้าหย่งคัง ในใจเกิดหวั่นกลัวขึ้นมา" พระองค์หมายความว่ายังไง"" ก็หมายความว่า คดีที่เจ้าก่อข้าจะสืบสวนเอง"ได้ฟังแบบนั้นฉิงฮวาถึงกับหน้าซีด" เป็นอะไรไป ทำไมหน้าซีดแบบนั้นหล่ะ"" หม่อม หม่อมฉันรู้สึกมึนๆหัวเพคะ"" งั้นเจ้าก็พักผ่อนเถอะ ข้าเองก็จะไปสืบหาความจริงต่อ จะได้เอาตัวคนผิดมาลงโทษซะที เจ้าว่าไหม"" พะ เพคะ น้อมส่งองค์ไท่จื่อ"หย่งคังออกมาเดินผ่านจางฮั่น ทั้งสองสบตากันไม่มีใครยอมใคร จางฮั่นรู้ได้ทันทีว่าหย่งคังต้องมีอะไรเกี่ยวกับเขาแน่ ถึงได้จ้องมองด้วยสายตาแบ
เมิ่งอันหลานถูกส่งตัวไปกรมราชทัณฑ์เพื่อให้สารภาพ แต่นางไม่ได้ทำผิดนางไม่มีทางยอมรับ จึงถูกจับเข้าเครื่องทรมาน เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องทั่วห้องนางถูกเครื่องหนีบนิ้วมือนิ้วเท้าจนกระดูกแตก ก่อนจะนำไปแขวนไว้แล้วถูกแส้เฆี่ยนจนสลบ เจ้าหน้าที่ถือถังน้ำเกลือมาสาดใส่ให้ฟื้นแล้วเฆี่ยนต่อ รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่กับพื้นสกปรก" เจ้าจะยอมรับไหมว่าวางยาพิษองค์หญิงเพราะอิจฉาริษยา ที่องค์หญิงกำลังจะได้แต่งงานกับคุณชายจางแทนที่จะเป็นเจ้า"ต้าหวังหัวหน้ากรมราชทัณฑ์จิกกระชากหัวนางถาม" ข้าไม่ได้ทำ ทำไมต้องยอมรับด้วย"" จิ๊จิ๊ เจ้านี่มันทนจริงๆ ถูกทรมานขนาดนี้ยังไม่ยอมรับอีก จัดการ"เจ้าหน้าที่เข้ามารุมเตะและกระทืบท้องเมิ่งอันหลานจนสลบไปอีกรอบ กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง" นั่น นั่นเลือดอะไรขอรับ "" ก่อนหน้าข้าได้ข่าวว่านางตั้งครรภ์ไม่ใช่ว่าเลือดนั่น"" วันนี้ทรมานนางแค่นี้ก่อน"ต้าหวังมองดูเลือดไหลออกมาจากหว่างขาจนย้อมอาภรณ์สีขาวที่นางใส่กลายเป็นสีแดงสด ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินออกไป เจ้าหน้าที่สองคนรีบเดินตามหว่านเอ๋อมาเคาะประตูจวนที่เคยมาคราวก่อนกับเมิ่งอันหลาน เจอบ่าวรับใช้คนเดิมโชคดีที่เขาจำนา
บ่าวรับใช้ยกน้ำชากับขนมมาวาง ฉิงฮวาหยิบขนมปาใส่หน้าบ่าวรับใช้" ข้าไม่ชอบกินขนมกุ้ยฮวา ไปเอามาใหม่เอาขนมหลิวชิงมาให้ข้า"บ่าวรับใช้ลนลานออกไป" เดี๋ยว องค์หญิงต้องการให้แม่นางเมิ่งเอาขนมมาถวายด้วยตัวเอง"ชุ่ยเสียพูดแล้วหันไปมองหน้าฉิงฮวาส่งยิ้มให้กัน พอบ่าวรับใช้ไปฉิงฮวาก็หยิบเอาขวดยาออกมา เทลงไปในกาน้ำชาจนหมด" องค์หญิงนี่ท่าน เหตุใดจึงใส่ลงไปหมดแบบนี้หล่ะเพคะ หมอหลวงฟู่บอกว่าพิษนี่ร้ายแรงมาก เพียงได้รับเล็กน้อยก็อันตรายถึงชีวิต แล้วเหตุใดถึงได้ "" ก็ถ้าไม่ร้ายแรงพอจะสมจริงได้ยังไงเล่า"ฉิงฮวาแสยะยิ้มตาวาวโรจน์ ชุ่ยเสียรับขวดยาจากฉิงฮวามาใส่ไว้ในสาบเสื้อแล้วเดินออกไป นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะรีบเข้าไปในห้องนอนของเมิ่งอันหลาน แล้วเอาขวดยาอีกขวดซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าพอออกมาจากห้องก็มองซ้ายมองขวาอีกทีแล้วรีบเดินจากไป ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบมองนางอยู่ ชุ่ยเสียมาถึงก็เห็นเมิ่งอันหลานนั่งร่วมโต๊ะกับฉิงฮวา ส่วนหว่านเอ๋อยืนอยู่ข้างๆ ฉิงฮวารินชาใส่ถ้วยยื่นให้เมิ่งอันหลาน" ทำไม ไม่กล้ากินรึ "" องค์หญิงรินชาให้เจ้าด้วยตัวเองถือว่าเป็นเกียรติกับเจ้าแล้ว ยังไม่รีบดื่มอีก"ชุ่ยเสียพูดขึ้นมาฉิงฮว