Share

บทที่ 1101

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ระฆังลาดังขึ้นบนถนนหลวง กระดิ่งกริ๊ง กระดิ่งกริ๊ง และชายคนนั้นก็ร้องเพลงโดยกัดหญ้าอยู่ในปาก

เขาชอบเดินทางในความมืดมากที่สุด

คืนที่มืดมนนำความรู้สึกลึกลับมาสู่ผู้คนเสมอ ราวกับว่ามีอะไรเกิดขึ้นในคืนที่มืดมนนี้ ทำให้ผู้คนตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบมิได้

เขากำลังคิดอว่าเป็นการดีที่สุดหากได้พบปีศาจสักสองตัว แล้วมาดื่มกับเขาสักแก้ว ถุงที่ห้อยอยู่บนเอวของเขายังใส่สุราของศิษย์อาอยู่เลย เพื่อขโมยสุรา เขาไม่กล้าขี้ม้าด้วย ได้แต่ไปขอยืมม้าจากนิกายกู่เยว่

แต่นิกายกู่เยว่มีม้าที่ไหนกัน เจ้านิกายลังเลอยู่ตั้งนาน สุดท้ายพาลาตัวหนึ่งออกมาให้ อีกฝ่ายได้กำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทางที่ดีให้จูงไว้ ห้าขี่มัน ลาตัวแก่นั้นทนน้ำหนักของเขาไม่ไหว อาจจะทนไม่ไหวจนตายได้ ให้เขาแบกรับข้าวของยังพอได้

จริงๆ เลย ต้องจูงมันออกจากภูเขา สู้ไม่ได้ให้เขาแบกรับของออกจากภูเขาจะดีกว่า ทำไมต้องจูงลาด้วยล่ะ

ต้องยอมรับว่า บางครั้งมาดูถูกของแก่ๆ ไม่ได้เลย แม้ว่าลาจะแก่แล้ว แต่ก็ยังวิ่งได้เร็วกว่าคนเสียอีก และมีความอดทนสูง ตลอดทางจากภูเขาเหม่ยชานถึงเหอโจว ไม่เห็นมันหายใจเฮือกใหญ่แต่อย่างใด

เดินต่อไปอีกประมาณหนึ่งชั่วยามก็ถึงเหอโจ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
Arrita Vichayasuranan
อัพวันล่ะ 1 ตอนเองเหรอ น้อยไปนะ
goodnovel comment avatar
จำเนียร โอ่เจริญ
โอ้ยน้อ ตอนเดียวหมายความว่าแปลไม่ทันหรือคะ แล้วจะให้เราติดตามทำไม้นี่ย
goodnovel comment avatar
INDY. Maew
มาตอนเดียวเนี่ยนะ ...
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1102

    เขาเพิ่งนอนลงได้สักพักก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากฝั่งนั้น เสียงฝีเท้าเบาๆ ผสมกับคำสาปด้วยเขาลุกขึ้นยืนทันทีและเบิกตากว้าง จากนั้นก็เห็นกลุ่มคนลงมาจากภูเขาฝั่งตรงข้าม เขาแทบไม่เห็นเลยเพราะทุกคนในกลุ่มนั้นสวมชุดสีดำ มีเพียงคนเดียวไม่ได้ใส่ แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าคนๆ นั้นเใส่สีอะไร อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ชุดสีดำคำสาปหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าถูกปิดปากไว้เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล ไกลกว่ากลุ่มคนที่ตั้งที่พักเสียอีก ดังนั้นต่อให้สายตาของเขาจะดีแค่ไหน เขาก็มองเห็นได้ไม่ชัดนัก แค่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก ดูเหมือนกำลังไปรวมตัวกับกลุ่มคนที่อยู่ที่พักนั้นหวังเยว่จางยืนขึ้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเล็กน้อย ดูเหมือนว่าไม่มีปีศาจ แต่เจ้าแผนการมาแล้ว รวมตัวกันในความมืด ยังนำตัวผู้หญิงที่กำลังสาปแช่งมาเขาหยิบอาวุธวิเศษที่อาจารย์มอบให้เขาจากหลังลาแล้วเช็ดมัน จริงๆ แล้วเขายังไม่เชี่ยวชาญในการใช้งานกับอาวุธนี้มากนัก เขารู้แค่ว่าเมื่ออาจารย์ผลิตมันออกมานั้น ได้หัวเราะอย่างภูมิใจอยู่ด้านบนภูเขาเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ทำเอางู แมลง หนู และมดทั่วภูเขาต่างตกใจกลัวจนรีบวิ่งหนีเขาเดินล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1103

    เขาไม่จำเป็นต้องนับหัวอีกฝ่ายด้วยซ้ำ "พวกเจ้ามีกี่คน""มีเพียงข้าและเฟิยอวิ๋น เฟิยอวิ๋นอยู่ตรงนั้น" หงเซียวชี้ออกไปและเห็นต้นไม้หนาทึบอยู่อีกฝั่งของถนนหลวงมีคนหนึ่งกำลังเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างช้าๆ"ตายแน่ๆ พวกเจ้าสองคน รวมข้าเป็นสามคน อีกฝ่ายเป็นร้อยคน แถมยังมีนักรบสิ้นหวังด้วย" ใบหน้าของหวังเยว่จางเปลี่ยนไปทันที ทำไมเขาถึงประสบปัญหาใหญ่เช่นนี้ทันทีที่เขาลงจากภูเขาล่ะใบหน้าที่หล่อเหลานั้นก็ขมวดคิ้ว และเขาก็รีบวางแผนในใจ เยี่ยม โอกาสในการชนะเป็นศูนย์ แต่ไม่ช่วยไม่ได้เสิ่นว่านจือถูกลากเข้าไปในที่พัก ดูเหมือนว่านางจะถูกควบคุมหรือวางยา สติที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้กลายเป็นคำสาปเมื่อกี้ จากนั้นก็ไม่มีเสียงอีกเลยตอนนี้ถูกลากเข้าไป ร่างกายของนางก็ไม่มีแรงคนเหล่านั้นหลีกออกจากที่พัก และอ๋องเยี่ยนเดินเข้าไปแล้ว หวังเยว่จางรู้สึกว่าเลือดทั้งหมดในร่างกายของเขากำลังพุ่งไปที่ศีรษะทันทีเมื่อกี้เขาเพิ่งสรุปได้ว่าไม่มีโอกาสที่จะชนะได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการหยุดหงเซียวไม่ให้ลงมือ แต่ตอนนี้เขาบินออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงแม้ว่าไม่มีโอกาสที่จะชนะได้ แต่เขาทนไม่ได้ที่ดูเสิ่นร่ำรวยโดนเอาเปรียบ เสิ่นร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1104

    หวังเยว่จางกล้าดีอย่างไรถึงทิ้งศิษย์น้องหญิงไว้ แม้เขาจะอุ้มเสิ่นว่านจื่อไว้ก็ยังสู้ได้นี่ ทว่าทันทีที่เหลียวกลับมาก็เห็นแส้ของซ่งซีซีรัดคอของอ๋องเยี่ยนไว้แล้ว นางกระชากตัวเขามาข้างหน้าก่อนจะตบหน้าเขาไปมา ดี จับโจรเอาหัวโจก จับเจ้าหมอนี่ไว้อย่างน้อยก็หนีไปได้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มเสิ่นว่านจื่อจากไปทันที ดูจากพฤติกรรมและใบหน้าที่แดงระเรื่อของเสิ่นว่านจื่อแล้ว นางคงตกหลุมพราง เขาต้องหาทางฝังเข็มระบายเลือดให้นาง ถึงจะรักษานางได้ ซ่งซีซีจับอ๋องเยี่ยนไว้ แต่หงเซียวและเฟิยอวิ๋นก็ตกอยู่ในมือขององครักษ์เช่นกัน ซ้ำร้ายทั้งสองถูกดาบจ่อที่คอ คมดาบแทบจะจมเข้าไปในเนื้อแล้ว ในที่สุดอ๋องเยี่ยนก็เลิกเสแสร้ง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เก่งจริงก็ฆ่าข้าและท่านลุงสิ ข้าจะดูว่าเซี่ยหลูโม่จะอธิบายต่อคนใต้หล้าอย่างไร”ซ่งซีซีออกแรงดึงแส้ นัยน์ตาลุกโชนเป็นไฟ “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ”อ๋องเยี่ยนถูกรัดจนตาเหลือก อาการขาดอากาศหายใจทำให้เขารู้สึกเวียนศีรษะ เขาเงยหน้าขึ้นและพยายามหายใจอย่างยากลำบาก ทว่าคอของเขาถูกรัดแน่นมากจนทำให้เขาไม่สามารถหายใจได้ชายารองจินเดินสาวเท้าเข้ามา กล่าวด้วยน้ำเสียง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1105

    อู๋เซียงรู้สึกปวดศีรษะ อดไม่ได้ที่จะตำหนิตัณหาของท่านอ๋อง เดิมเขาคิดว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าท่านอ๋องเตรียมการไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากเมืองหลวง ท่านยังส่งทหารไร้ชีพส่วนหนึ่งไปทำเรื่องนี้ ตามแผนการเดิม ทหารไร้ชีพต้องอยู่ในเมืองหลวง บัดนี้แผนการต้องหยุดชะงัก เนื่องจากเสิ่นว่านจื่อเพียงผู้เดียว ร่องรอยของความโมโหแวบผ่านดวงตาของเขา เดิมทีหากคืนนี้ซ่งซีซีถูกฆ่าและถูกฝังไปจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่กลับมีสองคนหนีไปได้ และซ่งซีซีก็จับท่านอ๋องเป็นตัวประกัน นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือโชคดีที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ทุกทางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และเตรียมมาตรการป้องกันไว้แล้ว เดิมจะอธิบายให้ตระกูลเสิ่นฟังหลังจากภารกิจสำเร็จ ทว่าตอนนี้... ไม่ว่าเรื่องนี้จะสร้างปัญหามากเพียงใด มันก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีก แต่จากนี้ไปก็คงต้องแตกหักกับตระกูลเสิ่นซ่งซีซีรู้สึกเศร้าโศกและขุ่นเคืองใจอย่างยิ่ง นางมองไปที่เสี้ยนจู่สองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในรถม้า ตาแก่สองคนนี้ไม่สนใจแม้แต่บุตรสาวของตนเอง คิดจะปล่อยเลยตามเลยให้ข้าวสารหุงเป็นข้าวสุกเสิ่นว่านหงก็เลวไม่แพ้กัน ยิ่งมิต้องพูดถึงชายารองจิน เศษสวะทั้งน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1106

    ทันทีที่นางพูดเช่นนี้ อู๋เซียงและชายารองจินก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ราวกับคิดไม่ถึงว่าซ่งซีซีจะปฏิเสธว่าคนนั้นคือเสิ่นว่านจื่อ ซ่งซีซีมองไปที่ชายารองจินและเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “แต่คำพูดเมื่อครู่นี้ของชายารองจินแปลกๆ เหตุใดข้าต้องขอบคุณพวกเจ้า สตรีนางนั้นเป็นอะไรกับข้าหรือ”ชายารองจินอ้ำอึ้งเล็กน้อย “นี่... เช่นนั้นพระชายายิ่งไม่มีเหตุผลต้องจับท่านอ๋องเป็นตัวประกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น คงดูไม่ดีทั้งสองฝ่ายที่ต้องมาทะเลาะกันแบบนี้”“เช่นนี้ก็ขออภัยจริงๆ ที่แท้เป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น” แม้ใบหน้าซ่งซีซีจะยิ้มแย้ม แต่กลับยังคงไม่ปล่อยอ๋องเยี่ยน เพียงแค่มองชายารองจิน “แต่ว่า เหตุใดชายชุดดำเหล่านี้จึงอาศัยในหมู่บ้านซีซานโข่ว พวกเขาเป็นคนของจวนเยี่ยนอ๋องหรือ”ชายารองจินตอบ “ใช่แล้ว พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ที่ส่งท่านอ๋องเข้าเมืองหลวง เพียงแต่ว่าจวนเยี่ยนอ๋องไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากเช่นนี้ได้ จึงจัดแจงให้พวกเขาอยู่นอกเมือง”อู๋เซียงทำท่าจะพูดอะไร แต่กลับถูกซ่งซีซีชิงพูดว่า “อาศัยอยู่นอกเมืองมาตลอด แล้วพวกเขาเคยเจอเสิ่นว่านจื่อได้อย่างไร อีกทั้งดูแล้วพวกเขามีฝีมือไม่ธรรมดา คงไม่ใช่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1107

    อู๋เซียงกลับรู้สึกว่าเป็นโอกาสดี เขาพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องบาดเจ็บ หากไม่รีบห้ามเลือด เกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต พระชายารีบปล่อยท่าน ให้หมอห้ามเลือดเถอะ”เขามองซ่งซีซีเขม็ง ขอเพียงซ่งซีซีปล่อยตัว เขาจะสั่งให้ทหารไร้ชีพล้อมโจมตีซ่งซีซีทันที นอกจากนี้ ต้องเร็ว ต้องฆ่าพวกนางทิ้งและรีบหนีไปก่อนที่กองหนุนของพวกนางจะมาทว่าซ่งซีซียังคงบีบคอของอ๋องเยี่ยนไว้ เพียงแต่ว่าคลายมือลงเล็กน้อย ให้เขาได้หายใจอย่างอิสระ “บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ตราบใดที่ไม่ดึงมีดออกมาก็จะไม่เป็นอะไร”อ๋องเยี่ยนหายใจหอบ ความเจ็บปวดบริเวณท้องทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว สตรีคนนี้ลงมือได้อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ช่างโหดเหี้ยมจริงๆเขาเริ่มยืนไม่ไหวแล้ว ร่างกายของเขาโซเซไปมา ซ่งซีซีเตือน “ท่านอ๋องยืนนิ่งๆดีกว่า หากขยับตัว มีดสั้นจะแทงเข้าไปลึกกว่าเดิม ถึงครานั้นเสียชีวิตไปจะแย่เอา”อ๋องเยี่ยนโมโห “ทำร้ายชินอ๋อง เจ้าควรต้องโทษ”ซ่งซีซียิ้มหยัน “แปลกจัง มีดสั้นเล่มนี้เป็นของข้าหรือ”“เจ้าต้องการอะไรกันแน่” อ๋องเยี่ยนเจ็บปวดจนเส้นเลือดปูด เริ่มมีแนวโน้มจมมุมแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้เขายังไม่นับว่าจมมุม แต่เขาแทบจะไม่สามารถค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1108

    เซี่ยหลูโม่ เสิ่นชิงเหอ และกุ้นเอ๋อร์ควบม้านำทหารประจำจวนของจวนเป่ยหมิงอ๋องทะยานไปบนทางหลวง ไม่นานก็มาถึงป่า คบเพลิงที่สว่างไสวทำให้ป่าสว่างราวกับกลางวัน แม้เซี่ยหลูโม่ไม่ได้สวมชุดเกราะ แต่เมื่ออยู่บนม้าที่สูงใหญ่ เขาก็เหมือนกับแม่ทัพที่เอาชนะหลายพันลี้ในสนามรบ เขากวาดตามอง ยังไม่ได้พูดสิ่งใดก็ได้ยินเสียงเสิ่นว่านจื่อวิ่งมาพร้อมกับคำรามอย่างโกรธกริ้วว่า “สารเลว ตายซะเถอะ!”นางไม่มีอาวุธ ความโมโหทำให้นางเหมือนกับเสือที่คลุ้มคลั่ง นางพุ่งชนเข้าไปที่แผ่นอกของอ๋องเยี่ยนอย่างแรง ซ่งซีซีหลบได้ทันกาล ไม่ได้รั้งนางไว้ ปล่อยให้นางระบายไฟโทสะ อ๋องเยี่ยนถูกชนจนกระเด็นไปสองจั้ง เขาล้มลงบนพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา เสิ่นว่านจื่อกระโจนใส่ ตบหน้าเขาไม่หยุด นางเพิ่งถูกถอนพิษไปไม่นาน ไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงมากมายนัก แต่ไฟโทสะทำให้นางเค้นศักยภาพออกมา ฝ่ามือที่ตบลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ ทำให้ไม่นานอ๋องเยี่ยนก็สลบไป “พวกเจ้าเป็นของตายหรือ ไม่รีบไปช่วยท่านอ๋องรึไง!” ชายารองจินตะคอก ครั้นทหารไร้ชีพและองครักษ์จะเดินเข้าไป เซี่ยหลูโม่ก็ขวางหน้าเสิ่นว่านจื่อไว้ กุ้นเอ๋อร์ถือกระบองขวางไว้ข้างหน้าอีกที “ดูซิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1109

    ชายารองจินถูกทุบตีจนผมกระเซอะกระเซิง แก้มแดงบวมเป่ง ถึงกับถูกเตะล้มทับบนตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องเยี่ยนปวดจนแทบจะหายใจไม่ออกหลังจากที่เสิ่นว่านจือเตะนางแล้วก็ตรงไปหานางเสิ่นนางเสิ่นตกใจกลัวมากจนร้องตะโกนแล้วก้าวถอย “น้องสาว เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นพี่สาวเจ้านะ ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก...อ๊า!”เสิ่นว่านจือคว้าผมของนางแล้วกระชากขึ้นแล้วผลักนางไปติดต้นไม้ นางเสิ่นรู้สึกว่าเอวของนางจะหักแล้ว เจ็บจนต้องหลั่งน้ำตา“ครั้งสุดท้ายที่เจ้าพูดกับข้า กลิ่นบนตัวของเจ้าคือยาพิษที่เจ้าวางใส่ข้า” เสิ่นว่านจือยกนางขึ้นพร้อมกับเจตนาฆ่าพุ่งออกมาจากดวงตา “เสิ่นว่านหง เจ้าช่วยให้ชายชั่วนั่นก่อเรื่องสำเร็จแล้วจะมีประโยชน์อะไรกับเจ้า? หรือเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถดำรงตำแหน่งพระชายาได้? เจ้ามันทั้งโง่และเลวทราม”นางคว้าดาบของทหารที่อยู่ข้างๆ นางด้วยมือเดียวแล้วชี้ไปที่หน้าอกของนาง โดยไม่มีการปิดบังเจตนาฆ่า“ข้าไม่ได้ทำ...” นางเสิ่นตกใจจนร้องไห้เสียงดัง นางร้องไห้แล้วจริงๆ ตะโกนเสียงดัง นางทำลายจังหวะของชายารองจินไปหมด “น้องสาว ข้าไม่ได้อยากให้เป็นเช่นนี้ แต่ท่านอ๋องเป็นคนบังคับข้า ชายารองจินก็บังคับข้า พวกเขาล้วนเป็นคนบ้า

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status