คำพูดของฮองเฮาทำให้จักรพรรดิ์ซูชิงทรงโกรธมาก เขาสะบัดถ้วยชาด้วยมือข้างเดียวแล้วขว้างมันต่อหน้าฮองเฮา ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องซึ่งทำเอาฮองเฮาฉีตกใจกลัวแต่นางรู้สึกว่าฝ่าบาททำเกินเหตุและพูดว่า "ฝ่าบาท มันเป็นเพียงคำพูดที่เด็กน้อยพูดไปเรื่อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ มันไม่ได้ทำร้ายรุ่ยเอ๋อร์ด้วย เหตุใดต้องโกรธเช่นนี้"จักรพรรดิ์ซูชิงพูดอย่างเย็นชา "หากฮองเฮาอยากให้เขาเป็นเพียงเด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่งในอนาคต ข้าก็จะให้เจ้าสมหวัง"ฮองเฮาฉีอึ้งไป "ฝ่าบาท คำพูดนี้พูดไม่ได้เด็ดขาด หากแพร่ออกไป อาจมีคนคิดไม่ซื่อจะเอามันเก็บไว้ใส่ใจ"จักรพรรดิ์ซูชิงทำหน้าไม่แยแส "ไม่ดีเหรอ? ไหนๆ ฮองเฮาก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงกับเขา งั้นให้เขาเป็นท่านอ๋องที่เล่นไปวันๆ ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การดูแลของน้้องชายก็ได้"ฮองเฮาฉีตาพร่ามัว และเกือบจะเป็นลม นางรู้สึกหนาวสั่นในใจและมีแต่ความตื่นตระหนกหลังจากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมานาน นางเกือบลืมไปแล้วว่าอำนาจของจักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยหนามแหลมอยู่แล้ว จะได้รับผลประโยชน์อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยได้อย่างไรนางกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ฝ่าบาท ทั้งหมดเป็นความผิดของหม่อมฉัน
จวนเป่ยหมิงอ๋อง ยังคงสว่างไสวในเวลากลางคืนอาจารย์หยูลงทะเบียนรางวัลที่ฝ่าบาทมอบให้ในหนังสือและจัดวางมันเป็นพิเศษ รอภายภาคหน้ารุ่ยเอ๋อร์กลับจวนเสนาบดีกั๋วกงสืบทอดยศถาบรรดาศักดิ์แล้วค่อยคืนให้ซ่งซีซีจับมือรุ่ยเอ๋อร์แล้วเดินเล่นในสวน เรื่องวันนี้ นางกลัวว่าจะทำให้รุ่ยเอ๋อร์เกิดปมในใจ จึงพาเขาออกไปเดินเล่น และถามอารมณ์ของเขาและความเห็นกับเหตุการณ์วันนี้แต่ไม่คาดคิดว่าความกังวลของนางมันเป็นส่วนเกินเลย รุ่ยเอ๋อร์ทำหน้านิ่งเฉย และเงยหน้าขึ้นมองอาเล็ก "ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ก็แค่คำพูดคำหนึ่ง ไม่คุ้มที่จะโกรธ ไทเฮาและฝ่าบาทปฏิบัติต่อข้าอย่างดีมาก ของที่มอบให้ข้ามากมายนั้นสู้คำพูดเดียวไม่ได้หรือ อีกอย่าง องค์ชายใหญ่ยังเด็ก พอโตขึ้นก็รู้จักเคารพผู้อื่นแหละ"ซ่งซีซีเกาจมูกของเขาแล้วพูดว่า "เจ้าฉลาดน้อย บอกว่าองค์ชายใหญ่ยังเด็กอยู่ แล้วเจ้าอายุเท่าไหร่เล่า?""ยังไงข้าก็มีอายุมากกว่าองค์ชายใหญ่ไง" รุ่ยเอ๋อร์เป็นคนอ่อนไหว เขารู้ว่าท่านอาเป็นห่วงตนเอง แม้แต่ ท่านอาเขยยังไม่วางใจ บัดนี้ยังติดตามด้านหลังอย่างลับๆล่อๆ อยู่เลย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า "ก็แค่เรื่องเล็กน้อย หลังจากพวกท่านจากไป
ก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีไม่เคยสนใจเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาทหนึ่งคือฝ่าบาทยังอายุน้อย อาจจะไม่แต่งตั้งรัชทายาทเร็วขนาดนี้สองคือราชวงศ์นี้จะมีบุตรชายของฮองเฮาซึ่งเป็นบุตรคนโต นี่เป็นเรื่องที่หายาก ตระกูลขุนนางต่างๆ ก็มีบุตรชายคนโตจากอนุกด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝ่าบาทมีสนมมากมายเพียงใด หากพระสนมคนอื่นๆ ตั้งครรภ์ก่อนฮองเฮา ก็มีโอกาสให้กำเนิดบุตรชายคนโตได้การกระทำของตระกูลขุนนางส่วนใหญ่คือ ก่อนที่ภรรยาเอกแต่งเข้าจวน จะไม่อนุญาตให้สาวใช้ต้นห้องมีลูก ทุกครั้งที่ร่วมหอเสร็จก็ต้องกินสมุนไพรคุมกำเนิด หากไม่ระวังท้องขึ้นมาก็ต้องกินยาทำแท้งด้วยแต่ราชวงศ์นั้นแตกต่างออกไป เมื่อพระสนมตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างก็เป็นสายเลือดราชวงศ์พระสนมกงเฟยตั้งครรภ์ก่อนฮองเฮา ตอนนั้นฮองเฮาทรงกังวลว่าพระสนมกงเฟยจะคลอดบุตรชายคนโตของฮ่องเต้ให้ ต่อมา เมื่อพระสนมกงเฟยให้กำเนิดองค์หญิงใหญ่ และฮองเฮาก็โล่งใจซีซีได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้จากแม่ของนางในสมัยก่อน หลังๆ นางก็ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้อีกเลยนางคิดว่าถ้าฝ่าบาทมีบุตรชายคนโตจากฮองเฮา เขาจะอบรมสั่งสอนอย่างดีแน่ๆ ทว่าไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ อีกอย่างฮอ
อันหวินหลูยังคงนวดต่อไปและถามเบาๆ "องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้แม่ทัพซูตกลงที่จะถอนกำลังทหารกลับแล้ว ท่านวางแผนจะทำอะไรกับเซี่ยงผิงเพคะ"“อยากขอร้องให้เมตตากับนางหรือ”อันหวินหลูลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "นางมีเจตนาที่จะสังหารองค์หญิง ไม่อาจให้อภัยได้ แต่ขุนนางหญิงมีน้อยอยู่แล้ว ถึงยังไงเซี่ยงผิงยังมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไป ส่วนข้าคงไม่มีโอกาสก้าวไปอีกขั้นแล้ว องค์หญิงใหญ่ยอมให้โอกาสนางอีกครั้งหีือไม่?”ดวงตาขององค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง "นางไม่มีโอกาสแล้ว"“นางแค่ต้องการล้างแค้นให้รัชทายาทด้วย…”“อันหวินหลู!” องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ผลักมือของนางออกไปและเตือนอย่างเอาความว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าตำแหน่งของนางยากที่จะมีผู้หญิงคนอื่นจะดำรงได้ ก็ยิ่งไม่ควรขอร้องให้นาง พวกเจ้ากว่าจะมีทุกวันนี้ได้ก็ใช่ว่าเรื่องง่าย ไม่กล้าทำผิดแม้แต่น้อย แค่ความผิดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจถูกจับผิดให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ โดยเฉพาะนาง นางควรระวัดระวังยิ่งกว่าใครอีก ก่อนจะตั้งสินใจทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน ต้องคำนึงถึงว่าขุนนางหญิงเป็นยาก อย่าให้คนอื่นมาดูถูกได้ แต่นางกลับไปไกล เอาแต่คิดเรื่องการแก้แค้น ถึง
ยี่ฝางตกใจมาก นางไม่เคยลืมหมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้เลยนางหายใจเข้าลึกๆ วางข้อศอกลงบนพื้น แล้วคลานไปข้างหน้า "ไม่ ไม่ ข้าจะไม่ไป พวกเจ้าจะพาข้ากลับไปที่เมืองหลวงของซีจิงมิใช่หรือ?""แน่นอนว่าจะพาเจ้ากลับไป" อันหวินหลูพูดอย่างเย็นชา "เอาแค่หัวของเจ้ากลับไปก็พอ ไม่เสียแรง"ยี่ฝางตกใจจนตัวสั่น และคว้ารั้วเหล็กด้วยมือสองข้างอย่างยากลำบาก "ไม่ ขอร้องล่ะ อย่าส่งข้าไปหมู่บ้านสุราชิง พวกเจ้าพาข้าไปเมืองหลวง ฆ่าข้าต่อหน้าสุสานของรัชทายาทเลย"ใบหน้าของอันหวินหลูเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "เจ้ามีสิทธิ์ใดไปสุสานของรัชทายาทตอนเป็นๆ ยี่ฝาง อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่ คิดว่าสามีขี้ขลาดของเจ้าจะมาช่วยเจ้าหรือ อย่าฝันไปเลย เขาไม่มาหรอก""ไม่ เจ้าเข้าใจผิด" ยี่ฝางกลอกตาไปมาอย่างประหม่า "ข้าสำนึกผิดจริงๆ ข้าไม่ควรใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้กับชาวบ้านในเมืองลู่เปินเอ่อร์ ข้าทำผิดแล้ว ข้าก้มหัวกราบให้ ไม่ขอร้องให้พวกเจ้ายกโทษให้ข้า แค่ขอให้พาข้ากลับไปที่สุสานของรัชทายาท และให้ข้าไปกล่วขอโทษด้วยตนเอง""มันน่าขำจริงๆ" อันหวินหลูมองเหยียดลง ทำลายคำหลอกลวงของนาง "เราได้รับรายงานว่าจ้านเป่ยว่างไม
อันหวินหลูถือโคมไฟแล้วเดินไปทาง ฮั่วหย้าถิง เซี่ยงผิง ด้านนอกเซี่ยงผิงไม่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ แต่นางก็รู้ด้วยว่าชะตากรรมที่กำลังรอนาง อยู่คือยังไงกันนางไม่กลัวตาย ตราบใดที่เห็นยี่ฝางถูกหั่นเป็นชิ้นๆ นางก็เต็มใจที่จะตาย"ข้าบอกนางไปแล้ว นางกลัวมาก" อันหวินหลูมองไปที่ฮั่วหย้าถิง จากนั้นเหลือบมองเซี่ยงผิงเรียบๆ"เป็นการดีที่จะปล่อยให้นางสัมผัสกับความกลัวก่อนตาย" ฮั่วหย้าถิงกล่าว"นางตายแล้ว งั้นข้าก็ตายหลับตาได้" เซี่ยงผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับแม่น้ำที่ไหลล้นตลิ่งฮั่วหย้าถิงกล่าวว่า "แต่เดิมเจ้าไม่ต้องตาย เรื่องการฆ่ายี่ฝางมันเป็นเรื่องต้องทำอยู่แล้ว แต่เจ้ากลับทำเรื่องโง่ๆ ไปก่อน"เซี่ยงผิงปาดน้ำตา "ข้าไม่เสียใจเลย แม้ว่าให้ข้าเลือกอีกครั้ง ข้าก็ยังจะทำเช่นนี้"ความโกรธแวบขึ้นมาในดวงตาของอันหวินหลู "เจ้ายังพูดแบบนั้นอยู่เหรอ? เจ้าไม่สำนึกผิด ทำไมต้องยอมรับความผิดต่อหน้าองค์หญิงใหญ่เล่า แล้วบอกว่าเจ้าเสียใจ"ลมยามค่ำคืนพัดเสื้อผ้าของเซี่ยงผิง และทำเอาผมยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาและปลายจมูกของนางเป็นสีแดง แต่มีความเกลียดชังและไม่ยอมอย่างลึกซึ้งในก้นตา "ข้าไม่ต้องก
ดวงตาที่โกรธแค้นและแสดงความเกลียดชังนั้นรวมตัวกันเป็นเปลวไฟ ดูเหมือนว่าเปลวไฟจะลุกไหม้ได้ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเหมือนถูกย่างบนกองไฟความหวาดกลัวปกคลุมหน้าอกของนาง เกือบจะบีบหัวใจของนางจนแตกออกไปได้เสียงตะโกนของพวกเขาสั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า "ฆ่านาง ฆ่าปีศาจตัวนี้ เพื่อสังเวยดวงวิญญาณของชาวบ้านที่ถูกสังหารหมู่ในสวรรค์"ยี่ฝางตกใจมากจนฉี่ราดมีขี้ออกด้วย นางซุกตัวอยู่ในรถนักโทษ ไม่กล้าที่จะลืมตามองดูพวกเขา แต่ได้ยินเสียงเรียกร้องให้ฆ่าไปทั่วซูลันซือยกแขนขึ้นแล้วตะโกนว่า "ชาวบ้านทั้งหลายถอยออกไปก่อน และช่วยเปิดทางให้พวกเราด้วย เราจะส่งเพชฌฆาตคนนี้ไปที่หลุมศพต้าเกิง เมื่อไปถึงที่นั่น ข้าจะปล่อยนางออกมาแล้วแต่ทุกคนจะจัดการเลย...แต่มีข้อหนึ่ง ต้องเก็บศีรษะของนางกลับเมืองหลวงเพื่อรายงานให้ฝ่าบาท ดังนั้นทุกคนสามารถตัดเนื้อบนตัวของนางออกทีละชิ้นได้ แต่ห้ามสับศีรษะของนาง ไม่งั้นฝ่าบาทจะจำนางไม่ได้"ทุกคนรอคอยวันนี้มานานมากแล้วจริงๆแม้ว่าทุกคนโมโหจนตาแดง แต่ไหนๆ นักโทษก็ถูกส่งมาแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนเช่นนี้ รอให้นำตัวไปที่หลุมศพต้าเกิงก่อนแล้วค่อยจัดการกับนาง เพื่อถวายดวงวิญญาณของบุคคลที่เสีย
นั่นเป็นสุสานขนาดใหญ่ สูงเท่าเนินเขา มีป้ายหลุมศพขนาดใหญ่สลักชื่อไว้มากมายความกลัวของยี่ฝางถึงจุดสูงสุด และนางส่งเสียงกรีดร้องและขอความช่วยเหลือองครักษ์คนหนึ่งเปิดประตูรถนักโทษ จากนั้นคว้าผมของนางเพื่อดึงนางออกมา และโยนนางลงไปที่พื้น ยี่ฝางรู้สึกว่าร่างกายสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด และขดตัวพลางคลานไปด้านข้างองครักษ์รีบคว้าผมของนางและลากไปที่หลุมศพขนาดใหญ่ด้านหน้า เขากดนางไว้ที่หน้าหลุมศพ ชี้ไปที่ชื่อบนนั้นแล้วคำรามว่า "ชื่อพวกนี้ เจ้าอ่านได้หรือไม่ ล้วนเป็นคนที่ถูกเจ้าฆ่าตาย"ยี่ฝางส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก "ไม่ ไม่ใช่ข้า…"ก่อนที่นางจะพูดจบ ชาวบ้านที่ขุ่นเคืองก็รุมเข้าไปหานางเสียงร้องโอดโอยของยี่ฝางดังมาจากฝูงชนและก้องอยู่ในหุบเขา ทำให้นกบินกระจายออกไปด้วยความตกใจเมฆสีดำรวมตัวกันจากทุกทิศทุกทาง ปกคลุมท้องฟ้าให้ตกอยู่ในความมืดทันที และทันใดนั้นฟ้าร้องก็คำรามเสียงดัง กลืนกินเสียงกรีดร้องของยี่ฝางเลือดไหลออกมาจากฝูงชนเหมือนลำธารเล็กๆพวกเซี่ยงผิงและอันหวินหลูที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่รู้ว่าพวกเขาปฏิบัติต่อยี่ฝางอย่างไร แต่จากงเสียงร้องโอดโอยและคราบเลือดบนมีด ขวาน และจอบที่ร่วงหล่นจ