“จริงเหรอ? คนที่ถูกเลือกในการประกวดเป็นคนพิการเหรอ?”“แค่ก ๆ”คุณนายใหญ่ตระกูลโม่กระแอม และบริเวณโดยรอบก็เงียบลง“รู้จักเธอเหรอ?” คุณนายใหญ่ตระกูลโม่ถามหูซือชิงคิดว่าคุณนายใหญ่โม่โกรธเหมยเหมย และรีบพัดเปลวไฟให้แรงขึ้น: “ฉันไม่รู้จักเธอหรอกค่ะ แต่ตอนนี้เธอเป็นประเด็นใหญ่ของเรื่องนี้เลย แทบทุกคนในเมืองไหวเฉิงรู้จักเธอ เพราะเมื่อเช้าคู่หมั้นกับลูกพี่ลูกน้องของเธอได้แพร่ภาพวิดีโออื้อฉาวบนตึกที่สูงที่สุดในเมือง…”“เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเหมย ในช่วงสองวันที่ผ่านมาตระกูลเหมยและตระกูลหลีมีชื่อเสียง คุณไม่ได้ดูวิดีโอบนตึกที่สูงที่สุดเหรอ?”“จะเป็นไปได้ยังไง นั่นถ่ายทอดสดอยู่นะ ไม่อยากดูก็ยังคงเลี่ยงไม่ได้…”พวกสาวผู้ดีพากันปิดปากมองหน้ากันไปมาพร้อมกับคิ้วกระตุกในระหว่างการสนทนา หูซือชิงเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น หากแต่เธอไม่สังเกตเห็นสีหน้าของคุณนายใหญ่ตระกูลโม่เลย แล้วยังคงเพิ่มความอิจฉา: “ลาเกอร์เฟลด์คุณคิดว่าเธอจะน่าตลกเกินไปหรือเปล่าคะ? เรื่องแบบนั้นเพิ่งเกิดขึ้นแท้ ๆ ตอนนี้เธอยังมีกะจิตกะใจมาประจบประแจงอยู่อีก!”“เพียงเพราะเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น คุณไม่เห็นใจเธอแล้วยังล้อเลียนเธออีกเห
งานฉลองที่บ้านตระกูลโม่สิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน และคุณนายใหญ่ตระกูลโม่ก็ส่งรถไปรับเหมยเหมยกลับบ้านเป็นพิเศษเธอเหลือบมองเวลาและเห็นว่าตลาดหุ้นเพิ่งปิดตัวลงอย่างไม่คาดคิด หุ้นของหลีซื่อกรุ๊ปร่วงถึงขีดจำกัดแล้ว!ต่อให้เหมยเหลียนตงกับคุณพ่อตระกูลหลีจะร่วมกันระงับความคิดเห็นของประชาชน แต่ประชาชนก็จำฉากบนอาคารที่สูงได้เป็นอย่างดี และเอฟเฟกต์ลูกโซ่ที่เกิดอย่างต่อเนื่องนี้ เห็นทีจะไม่หายไปง่าย ๆเหมยเหมยเหลือบมองข่าวล่าสุดด้วยสายตาเย็นชา ทีละคอมเมนต์ ล้วนเกี่ยวกับละครและรายการวาไรตี้ที่เหมยเสี่ยวตี๋รับและกำลังจะเข้าร่วมกองถ่าย แบรนด์ต่างประเทศรายใหญ่หลายแห่งได้ถอดการเป็นพรีเซ็นเตอร์และการโปรโมตทั้งหมดของเธอออก และยังยื่นเรื่องเรียกร้องค่าชดเชยที่สูงลิบอีกด้วยเพื่อนร่วมงานและพนักงานหลายคนที่เคยร่วมงานกับเธอในอุตสาหกรรมก็แจ้งข่าวนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่าจรรยาบรรณของเหม่ยเสี่ยวตี้แย่มากนับตั้งแต่เธอเดบิวต์ ความคิดเห็นของประชาชนบนอินเทอร์เน็ตแทบจะเป็นไปในทิศทางเดียว เหมยเหมยเยาะเย้ยเธอ เพราะนี่เป็นเพราะสันดานเสียของเธอเอง เมื่อเกิดเรื่องก็ไม่มีใครช่วยเธอได้ทั้งนั้นเหมยเหมยไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปที
ณ ลานจอดรถของอาคารดีญ่ารถหรูสีเงินคันหนึ่งกำลังโยกไปมาอย่างรุนแรงท้ายรถถูกแง้มเอาไว้เล็กน้อย…ภายในนั้น เหมยเหมยที่ซ่อนตัวอยู่กำลังฟังเสียงหอบหายใจของคู่ชายหญิงภายในรถหัวใจของเธอบีบตัวแน่น ช่างเจ็บปวดคืนนี้เธอรีบเคลียงานเสร็จก่อนเวลาและแอบว่าที่คู่หมั้นของเธอกลับมาในประเทศ เธอใส่ลูกโปร่งเอาไว้จนเต็มท้ายรถแล้วแต่งชุดให้ตัวเองกลายเป็นของขวัญ ก่อนจะเดินกะเผลกขาข้างหนึ่งแล้วปีนขึ้นท้ายรถอย่างยากลำบาก ในมือของเธอยังถือเตกีลาลิมิเต็ดที่เขาชื่นชอบเอาไว้ด้วย…หัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความคาดหวังได้ยินเสียงเซ็นเซอร์รถในที่สุด แต่แล้วเธอกลับได้ฟังเสียงของการทรยศ:“พี่รั่วเชี่ยน วันนี้เป็นวันเกิดพี่ ไม่กลัวเหมยเหมยมาหาพี่เหรอคะ?”“เหอะ คดีที่คุณก่อยุ่งยากขนาดนั้น เธอแค่จะดูแลตัวเองยังทำไม่ได้เลย จะมาที่นี่ได้ยังไง?”“ถ้าพูดแบบนี้แล้วฉันก็คงต้องสร้างเรื่องเยอะหน่อยแล้วใช่มั้ยคะ” หญิงสาวออดอ้อน“คุณนี่ร้ายจริงๆ!” ชายหนุ่มเอ็นดูเธอ“ในเมื่อฉันร้ายขนาดนี้ พี่รักฉันหรือว่ารักว่าที่คุณหมั้นสุดเก่งของพี่เหรอคะ?” หญิงสาวซักถามคนทั้งสองแนบชิดกันอีกครั้ง ก่อนที่ชายตรงหน้าจะพูดต่อ “อย่างเธอจะไ
โม่เหยียนนายน้อยคนรองตระกูลโม่ มีความสามารถทั้งร้องทั้งเต้น แม้ว่าชื่อเสียงของเขาจะไม่ดีนัก แต่เขาก็มีทุนของตัวเองและเป็นบุคคลผู้โด่งดัง!เมื่อเร็ว ๆ นี้หลีรั่วเชี่ยนพยายามอย่างเต็มให้ได้รับความร่วมมือระหว่างเขากับเหมยเสี่ยวตี๋ แต่โดยไม่คาดคิด เธอดันหลับนอนกับโม่เหยียนไปเสียได้นัยน์ตาสวยสดของเหมยเหมยเป็นประกาย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือมาจากหัวเตียง ต่อมาก็หันกล้องเพื่อถ่ายรูปตัวเองคู่กับโม่เหยียน...แม้เธอจะถูกหลีรั่วเชี่ยนปิดบังหลอกลวงและนอกใจ แต่ยามนี้เธอยังไม่ควรอกหักฟูมฟาย และเธอไม่ควรตั้งคำถามอย่างไร้สมอง เธอจะต้องพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ ผู้ชายเจ้าชู้เปลี่ยนทิศทางชีวิตของเธอไม่ได้ ในทางกลับกัน เธอจะแย่งสิ่งที่เจ้าชู้มีมาเป็นของเธอ!หลังจากได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เหมยเหมยก็อดทนต่อความเจ็บปวดที่ท่อนร่างแล้วสวมเสื้อผ้าก่อนที่เธอจะทิ้งโน้ตไว้แผ่นหนึ่งและจากออกไปเมื่อมีเสียงประตูปิดลงชายหนุ่มบนเตียงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวสีดำขลับของเขาก็ทอดไปที่โน้ตบนหัวเตียงอย่างเย็นชา:“อีกไม่นานเราจะได้เจอกันอีก”**หลังจากออกมาด้านนอก เหมยเหมยโทรออกไปสองสาย ไม่นานนักเธอก็ได้รับวิดีโอวงจร
หลังจากนั้นไม่นาน โม่เหยียนก็จัดการกับแฟนคลับเสร็จและเดินเข้ามาภายในเลานจ์ VIP เหมยเหมยจึงเดินเข้าไปกล่าวทักทาย “สวัสดี ฉันชื่อเหมยเหมย”“ชื่อเหมยเหมยใช่มั้ย?”เสียงของโม่เหยียนดูหงุดหงิดเล็กน้อย: “จะให้เซ็นตรงไหน?”เหมยเหมยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความสงบว่า: “ลองมองฉันดูสิ ว่าจำฉันได้หรือเปล่า”“ซี้ด”รูปร่างผอมเพรียวแบบนี้...ชายหนุ่มถอดแว่นกันแดดที่ห้อยอยู่บนสันจมูกออกแล้วมองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า: “ไม่เลว ไม้ค้ำมีรูปร่างแปลกใหม่ดึงดูดความสนใจของผมได้สำเร็จ ถ้าใช้ตอนกลางคืน...คงจะน่าสนุก”โม่เหยียนพูดและเอื้อมมือไปตบไม้ค้ำของเธอ เธอยกมือขึ้นด้วยความรังเกียจและไม้ค้ำยันก็กระทบมือของเขาพอดิบพอดี“อ่อ”โม่เหยียนยกมือแตะริมฝีปากแล้วเลีย: “มีเอกลักษณ์ดีเลยนี่ ผมชอบนะ!”นัยน์ตาสวยสดของเหมยเหมยหรี่ลง รู้สึกว่าท่าทางของโม่เหยียนนี่…ต่างจากเมื่อคืนลิบลับ แม้ว่าเมื่อคืนพวกเขาจะไม่ได้คุยกัน แต่เขากลับทำให้เธอรู้สึกสงบเป็นพิเศษ หากแต่ไม่ใช่ท่าทางเมามายติดตลกอย่างที่เขามีตอนนี้เมื่อเห็นเธอจมอยู่กับความคิด โม่เหยียนก็กะพริบตา: “คืนนี้จะไปปารีสกับผมมั้ย”เหมยเหมยสงบลงแล้วพูด
“คุณอาอย่าปฏิเสธดีกว่าครับ เพราะผมเพิ่งปะกับว่าที่อาสะใภ้มา แต่ดูอาสะใภ้จะจำคุณอาเป็นผมแทน แล้วยังคิดจะ…”“รีบเล่าเรื่องที่พวกนายเจอกันให้อาฟังซะ เดี๋ยวนี้” โม่ฉีเฉินขัดคำพูดของโม่เหยียนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“แค่ก ๆ”โม่เหยียนไม่กล้ารีรอ และเล่าบทสนทนาเมื่อครู่ให้เขาฟังทั้งหมดแน่นอนว่าเขาพูดแค่ครึ่งหลัง เพราะครึ่งแรกเขาหยอกล้อเธอ ขืนอารองรู้ว่าเขากล้าหยอกผู้หญิงของอารองละก็…คิดไปก็เสียวกระดูกสันหลังวาบ…“ต่อไปนายทำตามที่อาบอก”เสียงเย็นชาที่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ไร้อารมณ์จนน่ากลัว**เหมยเหมยออกจากสนามบิน เธอนั่งแท็กซี่แล้วตรงไปโรงพยาบาลแรกเริ่มเดิมทีตระกูลเหมยสร้างตัวจากอุตสาหกรรมการแพทย์ แม้ว่าจะลดลงบ้างแล้วตั้งแต่ที่พ่อของเธอเสียชีวิต แต่ก็ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้เธอตรงไปที่โรงพยาบาลที่เธอเชื่อถือมากที่สุดและให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกตรวจดูเท้าของเธอแพทย์บอกว่าอาการบาดเจ็บที่เท้าของเธอไม่ได้ร้ายแรง แต่เพราะการใช้ยาที่ไม่ถูกต้องทำให้อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงขึ้น ขอแค่กลับมาใช้ยาตามปกติและดูแลตัวเอง เธอก็ยังมีหวังจะรักษาหายนัยน์ตาสวยสดของเหมยเหมยเผยความเย็นชา เมื่อ
“ติ๊ง”เสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น เหมยเหมยก็เหลือบมองข้อความที่เพื่อนสนิทของเธออย่างถูเจียเออร์ส่งมาจากชั้นบน: “ทุกอย่างเรียบร้อยดี หายห่วงย่ะ”แม้ตระกูลถูจะไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โตมโหฬารในเมืองไหวเฉิง แต่ตระกูลชนชั้นสูงต่างก็หวั่นเกรงพวกเขาพอสมควร เพราะตระกูลถูมีนักสืบเอกชนที่ทำงานได้รวดเร็วอยู่นับไม่ถ้วน แผนการในคืนนี้มีถูเจียเออร์เป็นคนช่วย ทำให้เธอวางใจไปได้มากหลังจากวางโทรศัพท์ เดิมทีเหมยเหมยอยากจะนั่งเงียบ ๆ ที่มุมหนึ่งของงานปาร์ตี้ รอคอยการเริ่มต้นดำเนินการตามแผน แต่เสียงรอบตัวเธอกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เธอเสียสมาธิ“เหมยเหมยเป็นคนพิการ ทำไมตระกูลหลีต้องแต่งงานกับเธอด้วย”“ยังเดาไม่ออกอีกเหรอ? ก็ตระกูลหลีอยากมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการแพทย์ ต้องคิดใช้ประโยชน์จากเธอแน่!”เมื่อได้ยินผู้คนรอบตัวกำลังวิพากษ์วิจารณ์ความตกต่ำของชีวิตเธอ และเห็นสีหน้าเย็นชาของเหมยเหม เหมยเสี่ยวตี๋ก็รู้สึกปิติในใจถึงที่สุด!เธอจงใจให้คนของเธอเข้าไปในวงสาวสังคมเพื่อเป่าหู หวังอยากให้คนพวกนั้นวิจารย์มากยิ่งขึ้น รุนแรงยิ่งขึ้น!เหมยเหมยนั่งฟังอย่างสงบ เธอมีสายตาเย็นชาเป็นครั้งคราว และรับรู้ได้ทันทีว่าผู้ห
เหมยเหมยรู้ดีว่าหากความร่วมมือของตระกูลเหมยกับอีกหลายกลุ่มบริษัทในคืนนี้ล้มเหลว หนี้ทั้งหมดก็จะตกเป็นของเธอแน่นอนล่าสุดพ่อผู้ให้กำเนิดของเหมยเสี่ยวตี๋หรือก็คือ เหมยเหลียนตง อาสามของเธอ ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการบริหารบังคับให้แม่ของเธอสละตำแหน่งประธานบริษัทหลายครั้ง ดูเหมือนว่าภาพถ่ายพวกนี้ก็คงเป็นความร่วมมือระหว่างคู่ลูกพ่อเหมยเสี่ยวตี๋เหมือนกันหากพวกเขาทำสำเร็จ เธอคงต้องรู้สึกผิดต่อแม่ที่ยังเอาแต่ทำงานหนักเพื่อเหมยซื่อกรุ๊ปอยู่ที่ต่างประเทศแน่ในตอนนี้เอง ถูเจียเออร์ เพื่อนสนิทของเธอ พรวดพราดเข้ามาภายในห้องจัดเลี้ยง ก่อนจะมายืนหอบข้าง ๆ เธอ: “เหมยเหมย ฉันส่งคนไปควบคุมหลังเวทีแล้ว พอคนของฉันมาถึงแล้วเราจะตัดหน้าจอทันที” เธอพูดอย่างเร่งรีบ“ไม่จำเป็นหรอก”เหมยเหมยเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอจ้องไปที่หน้าจออย่างใจจดใจจ่อ โดยที่แววตาไร้ซึ่งความเปลี่ยนแปลงดวงตาของถูเจียเออร์เต็มไปด้วยความกังวล: “เธอแน่ใจเหรอ?”เหมยเหมยพยักหน้าและเปิดโทรศัพท์อย่างใจเย็น ก่อนจะล็อกอินอีเมลของเธออย่างรวดเร็วเพื่อดึงข้อมูลบางส่วนและส่งไปที่ถูเจียเออร์: “ให้คนของเธอเชื่อมต่อพวกนี้เข้ากับหน้าจอ และฉายวนซ้ำรวม