“แล้วถ้าผมไม่เลือกสักทาง และพาไลลาไปอยู่ที่อื่นล่ะครับ ท่านแม่จะอนุญาตไหมครับ”
แคทเธอรีนส่ายหน้าปฏิเสธ มองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะกำลังทุกข์ทรมานอย่างเห็นใจ แต่หล่อนทำตามความต้องการของลูกชายไม่ได้จริงๆ
“ยังไงซะ ลูกกับไลลาก็รักกันไม่ได้”
“แต่ผมกับน้องนอนด้วยกันแล้วนะครับ”
“ลืมเรื่องนั้นซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“ผม...”
“ถ้าลูกยังขัดขืน และคิดจะแข็งข้อกับแม่ ไลลาจะเป็นคนที่เดือดร้อน”
เขารู้ดีว่ามารดาไม่ได้ขู่ แต่ท่านทำได้จริงอย่างที่พูด เขารู้จักนิสัยของท่านดี
แล้วนี่เขาจะทำยังไงดี...?
ไลลา... เขารักไลลา แล้วจะให้ยอมปล่อยมือจากหล่อนไปได้ยังไงกัน
“งั้นผมขอเวลาครับ”
“คนของท่านพ่อจะประกาศทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงหนังสือพิมพ์ไปทั่วโลกเกี่ยวกับการเลือกคู่ของลูกในค่ำวันนี้ และอาทิตย์หน้าผู้หญิงที่สนใจก็จะเดินทางมาที่บ้านของเรา คนของแม่จะคัดเลือกผู้หญิงเหล่านั้นให้เหลือแค่สามสิบคน หลังจากนั้นแม่กับพ่อจะคัดให้เหลือแค่สิบคน เพื่อให้ลูกได้เลือกหนึ่งในสิบคนนั้นเป็นภรรยาของลูก...”
“ทำไมเร็วนักล่ะครับท่านแม่”
ชาร์ลีตกใจไม่น้อย เขารู้สึกมืดแปดด้านเหลือเกิน
“มันคือเวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะชาร์ล เชื่อแม่เถอะ”
“นี่ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นใช่ไหมครับ”
“ถูกต้อง เพราะถ้าลูกทำอะไรลงไปโดยพลการ ไลลาจะได้รับผลกระทบทันที”
มารดาของเขาเอาไลลามาข่มขู่ และมันก็ได้ผลดีเยี่ยม เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะเป็นห่วงนางในดวงใจ
“ถ้าผมยอมแต่งงานกับผู้หญิงสักคนที่ท่านแม่พอใจ ท่านแม่สัญญากับผมได้ไหมครับว่าจะไม่แตะต้องไลลา เธอจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปอย่างมีความสุข”
“แม่ให้สัญญา...”
สองแม่ลูกสบประสานสายตากัน ก่อนที่แคทเธอรีนจะพูดออกมาอีกครั้ง
“แต่นั่นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของคำว่าพี่ชายและน้องสาวเท่านั้น เพราะถ้าแม่ระแคะระคายว่าลูกกับไลลายังไม่หยุดยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาว ไลลาจะต้องออกไปจากที่นี่ด้วยการแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง”
กรามแกร่งสะอาดสะอ้านไร้หนวดเคราของชาร์ลีขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง แก้มของเขามีสีแดงระเรื่อแต่ไม่ใช่เพราะเอียงอาย แต่เป็นเพราะกำลังกดดัน
“ครับ”
“แม่ดีใจนะที่ชาร์ลยอมตกลง”
“เพราะผมไม่มีทางเลือกครับ”
ชายหนุ่มตอบมารดาไปตามความเป็นจริง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยลา
“ถ้าท่านแม่หมดธุระกับผมแล้ว ผมขอตัวก่อนครับ”
“ตามสบายเถอะ”
“ขอบคุณครับ”
เขาโค้งศีรษะให้มารดาผู้เป็นเจ้าของกิริยางดงาม ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักผ่อนของท่าน มุ่งหน้าตรงไปยังเฉลียงไม้ร่มรื่น ที่ทอดยาวลงไปยังชั้นล่างซึ่งเป็นบริเวณสวนสวย
ตรงนั้นคือที่ประจำของไลลา...
เขาเดินลงมาหยุดที่ศาลาริมน้ำกลางสวน ร่างอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมของไลลานั่งอยู่ที่นั่นจริงๆ
ไลลาบอบบางราวกับตุ๊กตาแก้ว ที่หากจับต้องแรงๆ อาจจะแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาอยากจะปกป้องและดูแลหญิงสาวคนนี้ไปชั่วชีวิต
แต่ให้ตายเถอะ ทุกอย่างมันพังลงหมดแล้ว!
“ไลลา”
เจ้าของชื่อค่อยๆ หมุนกายกลับมาหา รอยยิ้มระบายบนใบหน้างามเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันดูเศร้าสร้อยจนเขาสังเกตเห็นได้ชัดเจน
ชาร์ลีเดินเข้าไปดึงร่างเล็กของน้องสาวบุญธรรมที่ตนเองคิดเกินเลยเข้ามากอด ซบหน้าลงกับกลุ่มเส้นผมนุ่มนั้นแผ่วเบา หัวใจเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
“ท่านแม่... ว่ายังไงบ้างคะพี่ชาร์ล”
ไลลาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เพราะหลังจากที่กลับมาจากบ้านของเคลวินเพื่อนรักของชาร์ลี ความรักลับๆ ของหล่อนกับ
ชาร์ลีก็ถูกเปิดเผย เพราะแคทเธอรีนแอบส่งคนสะกดรอยตามหล่อนกับชาร์ลีไปตอนแรกหล่อนกับชาร์ลีพร้อมใจกันปฏิเสธ แต่รูปถ่ายที่นักสืบส่งมาให้แคทเธอรีนกับลาซาลอสมันทำให้ยากจะที่จะปฏิเสธต่อไปได้อีก เพราะจนด้วยหลักฐาน
“ท่านแม่บอกให้เราเลิกคบกัน”
ไลลาดันตัวออกห่างจากอ้อมแขนของพี่ชายบุญธรรม น้ำตาไหลรินอาบแก้ม
“แต่เรารักกันนะคะ”
“ท่านแม่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ท่านบอกว่ามันไม่เหมาะสม ท่านไม่มีวันยอม”
“แล้วท่านพ่อล่ะคะ”
“ท่านพ่อไม่มีทางขัดใจท่านแม่ ไลลาก็รู้นี่” น้ำเสียงของชาร์ลีเต็มไปด้วยความมืดมน
“ท่านแม่ให้พี่เลือกระหว่าง...” เขาสบประสานสายตากับดวงตาเศร้าหมองของน้องสาวบุญธรรม “ให้พี่แต่งงาน หรือว่าจะให้ไลลาแต่งงาน”
“ไม่นะคะ น้องไม่ยอม!”
ไลลาส่ายหน้าปฏิเสธ หล่อนรับไม่ได้ทั้งสองทางเลือก หล่อนไม่มีวันยอมแต่งงานกับชายคนไหน และก็ไม่มีวันยอมให้พี่ชายบุญธรรมแต่งงานกับหญิงคนใดเด็ดขาด
“พี่ก็ไม่ยอม”
“งั้นเราหนีไปด้วยกันเถอะค่ะ “หล่อนจับมือของชาร์ลีเอาไว้ และมองเขาอย่างรอคอยคำตอบ “ไปที่ไหนก็ได้ที่มีแค่เราสองคน นะคะพี่ชาร์ล”
ชาร์ลีวางมือของตัวเองบนหลังมือเล็กของไลลา ก่อนจะพูดความจริงที่ต่างก็รู้ดีอยู่เต็มอกออกมา
“ไลลาก็รู้นี่ว่าเราหนีท่านแม่ไม่พ้นหรอก และที่สำคัญหากพี่ปฏิเสธคำสั่งของท่าน คนที่เดือดร้อนก็จะเป็นน้องนะไลลา”
“ไม่ค่ะ น้องไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้น้องได้อยู่กับพี่ชาร์ล ให้เราได้ครองรักกัน...” น้ำตาของไลลาไหลพราก หากย้อนเวลากลับไปได้ หล่อนจะไม่มีวันยอมให้แคทเธอรีนอุปการะในฐานะลูกสาวบุญธรรมเด็ดขาด
“พี่จำเป็นต้องแต่งงาน”
“พี่ชาร์ล...!”
“มันเจ็บปวดมาก... พี่รู้ไลลา...”
มือใหญ่ของชาร์ลียกขึ้นโอบประคองดวงหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาของไลลาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วอย่างแสนเสน่หา ปากก็พร่ำขอโทษ
“พี่ขอโทษที่ไม่อาจทำให้น้องมีความสุขได้อย่างที่เคยให้คำมั่นเอาไว้”
“พี่ชาร์ล... น้องทนเห็นพี่แต่งงานไม่ได้หรอกค่ะ น้องเจ็บ น้องจะขาดใจ...”
“ฟังพี่นะไลลา...” ชาร์ลีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาชุ่มฉ่ำของไลลา ก่อนจะบอกบางอย่างออกมา “พี่แต่งงานก็จริง แต่การแต่งงานจะเป็นแค่ฉากหน้าที่พี่มีเอาไว้ซ่อนความสัมพันธ์ของเราเท่านั้น”
“พี่ชาร์ลหมายถึง...”
“พี่จะยอมแต่งงานตามที่ท่านแม่ต้องการ แต่พี่จะใช้การแต่งงานนี้รักษาความรักของเราเอาไว้ไงครับ”
ไลลายิ้มออกมาทั้งน้ำตา “งั้นก็แสดงว่าถึงพี่ชาร์ลจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ตาม แต่เราสองคนก็ยังจะรักกันและมีความสัมพันธ์กันใช่ไหมคะ”
“ถูกต้องน้องพี่...”
“พี่ชาร์ลน้องดีใจที่สุดเลยค่ะ...”
ไลลาหัวเราะออกมาอย่างดีใจ และก็สวมกอดชาร์ลีเอาไว้อย่างแสนรัก
“แต่เราต้องเก็บความลับนี้เอาไว้ให้มิดที่สุดนะครับ ไม่อย่างนั้นท่านแม่จะมาทำลายมันอีก”
“แน่นอนค่ะ น้องสัญญา...”
ไลลาไต่มือขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งของชาร์ลี และก็เขย่งปลายเท้าขึ้น เพื่อจะจูบปากของเขา แต่ชายหนุ่มขืนตัวเอาไว้
“เราทำแบบนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า ท่านแม่จะระแวงขึ้นมาอีก”
“แต่น้องคิดถึงพี่ชาร์ลนะคะ น้องอยากนอนในอ้อมแขนของพี่ชาร์ลอีก”
ชาร์ลีอมยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาบนแก้มนวลให้กับไลลาจนแห้ง
“งั้นคืนนี้พี่จะไปหา ไลลาเปิดหน้าต่างรอพี่ก็แล้วกัน”
“ค่ะ พี่ชาร์ล”
ไลลายิ้มหวาน มองชาร์ลีอย่างแสนรัก
“น้องรักพี่ชาร์ลมากนะคะ น้องยอมสละตัวเองเป็นนางบำเรอในเงาของพี่ชาร์ลตลอดไปค่ะ”
“ใครว่าน้องเป็นนางบำเรอของพี่ล่ะ น้องคือตัวจริงของพี่ต่างหาก ไลลา...”
“แล้วผู้หญิงคนที่พี่จะแต่งงานด้วยล่ะคะ นางจะเป็นอะไรของพี่กัน”
“เมียบนหิ้งไงครับ”
“ยังไงเหรอคะพี่ชาร์ล”
ไลลาเข้าใจความหมายดี แต่ก็อดที่จะถามออกไปเพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้นไม่ได้
“เมียที่พี่ไม่คิดจะแตะต้อง”
ไลลายิ้มกว้างอย่างมีความสุข ได้ยินชาร์ลีพูดแบบนี้หล่อนก็สบายใจแล้ว
“น้องรักพี่ชาร์ลที่สุดเลยค่ะ”
“พี่ก็รักน้อง ไลลา...”
ทั้งคู่กอดกันแนบแน่น ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปคนละทางเพื่อปกป้องคนอื่นครหา
อีกฟากหนึ่งของโลก เด็กสาวคนหนึ่งถือกระเป๋านักเรียนเดินออกมาจากโรงเรียนประจำหญิงล้วน ช้องนาง วัฒนาดิลก คือชื่อเสียงเรียงนามของหล่อนช้องนางกำลังจะเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเร็วๆ นี้ เพราะตอนนี้หล่อนได้สอบไฟนอลในเทอมสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้วเด็กสาวเป็นลูกหลานในตระกูลผู้ดีเก่าอย่างวัฒนาดิลก ซึ่งตระกูลนี้เป็นนามสกุลพระราชทาน ทุกคนในวงศ์ตระกูลล้วนแต่แสดงออกว่าตนเองเป็นผู้ดี ทั้งๆ ที่ภายในนั้นกลวงโบ๋ตั้งแต่คุณย่าของหล่อนเสียชีวิตไป ลูกจำนวนสี่คนซึ่งรวมบิดาของหล่อนด้วยก็ต่างพากันนำสมบัติพัสถานมาถลุงกันอย่างสนุกมือ ซึ่งในระยะเวลาแค่ไม่ถึงห้าปี ทรัพย์สินที่อยู่ในระบบกงสีก็กลายเป็นศูนย์ ก่อนจะติดลบจนต้องขายของเก่าเพื่อพยุงหน้าตาทางสังคมลุงป้าน้าอารวมถึงพ่อของหล่อนต่างเป็นคนที่จมไม่ลง หน้าใหญ่ใจโตทั้งๆ ที่ไม่เหลือสมบัติใดๆ อีกแล้วนอกจากบ้านที่อาศัยอยู่ในตอนนี้หล่อนเองก็ได้รับผลกระทบจากความฟุ้งเฟ้อของทุกคนจนมีแนวโน้มว่าจะต้องออกมาหางานทำเพื่อส่งตนเองเรียนระดับมหาวิทยาลัยในไม่ช้าช้องนางเดินใจลอยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงลุงแก้วคนขับรถเก่าแก่ของวงศ์ตระกูลจึงสะดุ้งตกใจ“คุณหนูครับ”หล่อ
“เธอก็รู้สถานการณ์ของครอบครัวเราดีใช่ไหมช้องนาง”“เอ่อ... นางทราบดีค่ะ”“เงินจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าคนรับใช้ก็แทบจะไม่พอในแต่ละเดือน พ่อของเธอก็เอาแต่ดื่มเหล้า ไม่เคยคิดจะช่วยอะไรเลย”สิ่งที่เกสราพูดมันคือความเป็นจริงที่หล่อนจำต้องก้มหน้ายอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้“ตอนนี้ทุกอย่างกำลังแย่ไปหมด ธุรกิจสุดท้ายของตระกูลเรากำลังจะเจ๊ง และถ้ามันล่มลงล่ะก็ ชื่อเสียงของตระกูลเราที่บรรพบุรุษอุตส่าห์รักษามาอย่างดีก็จะต้องย่อยยับ ตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน”หล่อนรู้ดีว่าสิ่งที่เกสราพูดออกมานั้นมันไม่ได้เกินความจริงที่เป็นอยู่เลย“แต่เราคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะอาเกส เราคงต้องยอมรับ”“ไม่ได้เด็ดขาด อาไม่มีทางยอมอับอายขายหน้านังผู้รากมากดีในวงสังคมหรอก”“แล้วอาเกสจะทำยังไงล่ะคะ ในเมื่อเราไม่มีเงิน”เกสรามองหล่อนอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวังเต็มเปี่ยม“อาเจอทางออกแล้วล่ะ”“ทางออกเหรอคะ” ช้องนางยอมรับว่าตัวเองก็อดที่จะดีใจและโล่งใจไม่ได้“ถูกต้อง ทางออกที่จะทำให้เราทุกคนในตระกูลกินดีอยู่ดี และไม่ต้องลำบากอีก”“อาเกสจะขายบ้านหลังนี้ และพาพวกเราย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เล็กกว่าแต่อบอุ่นกว่าใช
“พ่อคะ... พ่อส่งมันให้นางนะคะ อย่ากำมันแน่นแบบนั้น พ่อ... พ่อคะ...”น้ำตาของหล่อนไหลรินออกมาด้วยความเวทนาในสภาพของบิดา แต่ท่านกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมาเลยแม้แต่ความเจ็บปวดบาดแผล“นา... ผมคิดถึงคุณ... นา...”พ่อพึมพำคร่ำครวญถึงมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของหล่อน น้ำตาของพ่อค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม“พ่อจ๋า... พ่อ... พ่ออย่าทำแบบนี้เลยค่ะ อย่าทำร้ายตัวเองเลย แม่มองอยู่บนฟ้า... แม่คงไม่มีความสุขหรอกถ้าเห็นพ่อทำแบบนี้ เชื่อนางนะคะพ่อ...”พ่อของหล่อนไม่ได้พูดคำใดออกมา ยอมปล่อยเศษแก้วออกจากมือ และก็ยอมให้หล่อนประคองขึ้นไปนั่งบนโซฟา“พ่อรอนางอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ นางไปเอาที่ทำแผลก่อน”พ่อของหล่อนก็ไม่ได้ตอบเหมือนเดิม นั่งนิ่งราวกับมนุษย์ที่มีแค่ร่างกายแต่ไร้จิตวิญญาณหล่อนรีบเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ด้านนอก และรีบกลับมาทำแผลให้กับบิดาทันทีระหว่างที่นั่งทำแผลให้กับท่าน บิดาไม่ได้พูดไม่ได้จาคำใดออกมาเลย หล่อนมองท่านผ่านม่านน้ำตา และก็ตัดสินใจแล้วว่าจะตอบตกลงทำตามความต้องการของเกสรา“เสร็จแล้วจ้ะพ่อ”หล่อนพูดกับท่าน แต่ท่านก็ยังทำเหมือนเดิมนั่นก็คือไม่พูดไม่จา นั่งเหม่อลอย“เดี๋ยวนางไปเอาไม้กวาดมาทำ
สาธารณรัฐเลแวนต้า (Lavanta Republic) คือประเทศที่อยู่ทางเหนือสุดของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีบางส่วนของประเทศติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเมืองหลวงชื่อว่า เลแวนต์ ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศนับถือศาสนาคริสต์สาธารณรัฐเลแวนต้ามีการปกครองในระบบพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยในรัชสมัยปัจจุบันมีราชวงศ์ เฮนเดอร์สัน ปกครอง ซึ่งพระมหากษัตริย์มีพระนามว่า แดเนียล เฮนเดอร์สัน พระองค์มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันสิบสองพระองค์ และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าหญิง แคทเธอรีน เฮนเดอร์สัน นางผู้เลอโฉมเลื่องลือขจรไกล เจ้าชายมากมายต้องการเจ้าหญิงแคทเธอรีนเป็นภรรยา แต่เจ้าหญิงทรงเลือกหนุ่มต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในเลแวนต้าเป็นพระสวามีแทนการเลือกเจ้าชายสูงศักดิ์ ซึ่งตามกฎมณเฑียรบาลของเลแวนต้า เมื่อเจ้าหญิงสูงศักดิ์เลือกสมรสกับสามัญชนจะต้องถูกลดชั้นฐานันดรเหลือเพียงแค่คนธรรมดา ซึ่งเจ้าหญิงแคทเธอรีนก็ทรงเลือกความรัก ทำให้ตอนนี้เจ้าหญิงแคทเธอรีนกลายเป็นเพียงแค่ประชาชนในเลแวนต้าคนหนึ่งเท่านั้นแต่ถึงแม้เจ้าหญิงแคทเธอรีนจะไม่ได้อาศัยอยู่ในวังอีกต่อไปแล้ว แต่พระเชษฐาอย่างพระมหากษัตริย์แดเนียลที่ทรงเอ็นดูน้องสาวมากก็ทรงพระร