“พระเจ้า! เออร์วิ่ง คุณรีบบอกพวกเรามาเถอะว่าไอ้หัวขโมยนั่นมันเป็นใครกันแน่”
มอโรว์เป็นฝ่ายถามอย่างร้อนใจ เขาก็เหมือนกับอีกหลายคนในที่นั้นซึ่งนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ทว่าตรงข้ามกับแดเนียลที่แม้เคร่งเครียดมากกว่าใคร ๆ แต่เขากลับมีทีท่าเยือกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด
“เออร์วิ่ง...ผมไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เรายังไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศรู้เรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือเราโชคดีที่มีคุณ”
“ผมตั้งใจกับงานทุกอย่างที่ได้รับอยู่แล้วครับ คุณแดเนียล”
เออร์วิ่งกล่าวก่อนเคาะปลายนิ้วลงบนแล็ปท็อปให้หน้าจอมอนิเตอร์แสดงใบหน้าตรงของหญิงสาวผมยาวดำขลับตัดกับสีนัยน์ตาประกายน้ำตาลแกมเขียวสว่าง จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยบนโครงหน้ารูปไข่
“ผู้หญิงคนนี้เป็นสายลับมือหนึ่งที่เข้ามาฉกข้อมูลลับของคุณถึงในคฤหาสน์ไพรซ์ เธอทำงานให้กับไซออนเนต...มันเป็นองค์กรลับที่มีเครือข่ายอยู่ในอเมริกาและยังเชื่อมโยงกับพวกผลิตอาวุธและนักค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ น่าแปลกที่ไซออนเนตเหมือนไม่มีความซับซ้อนอย่างองค์กรลับทั่วไป แต่กลับเข้าถึงได้ยาก เป็นองค์กรที่ดูสะอาดแต่แฝงอันตรายไว้รอบด้าน”
“เธอน่าจะไปเป็นนางแบบหรือไม่ก็พวกเมียเก็บเศรษฐีมากกว่าจะมาทำงานเสี่ยงตายแบบนี้”
“ออโซลย่า คือชื่อที่ใช้เรียกเธอในองค์กร...ผมก็คิดแบบเดียวกับคุณนั่นแหละ แดเนียล ว่าผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดขนาดนี้ไม่น่าจะทำงานอันตรายอย่างการเป็นสายลับ”
“โอเค!” มอโรว์แทรกขึ้นขณะลุกจากเก้าอี้ “นี่พวกคุณสองคนคงได้ข้อสรุปกันแล้วซีนะว่าไอ้หัวขโมยที่มันกล้าเข้ามาจารกรรมข้อมูลถึงที่นี่เป็น...เอ้อ...สายลับที่สวยที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยพบ ให้ตายเถอะ! ผมกับทีมนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ในห้องนี้อยากรู้มากกว่าว่าตอนนี้แม่สายลับแสนสวยของพวกคุณน่ะไปอยู่เสียที่ไหนแล้ว”
“ผมคิดว่าหลังจากนี้คงเป็นการส่งมอบข้อมูลครับ สายสืบของผมรายงานมาว่ามีคนเห็นเธออยู่ที่นิวยอร์ค”
เออร์วิ่งตอบอย่างรวดเร็ว
“แดเนียล ในเมื่อรู้ว่าเจ้าหัวขโมยอยู่ที่ไหนเราก็ควรจะแจ้งตำรวจให้รวบตัวแม่นั่นเสียเลยจะดีกว่า”
มอโรว์รีบออกความเห็นแต่คนที่เขาให้ข้อเสนอกลับเยือกเย็นจนน่าหวาดหวั่น นัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงส่องประกายวาววับราวกับมีบางอย่างแอบแฝง
“เราจะยังไม่แจ้งตำรวจ เพราะถ้าเจ้าหน้าที่รัฐทราบเรื่องนี้มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ทันที”
“แล้วคุณจะทำยังไง?”
“ผมจะออกตามหาออโซลย่า เอาชิปข้อมูลกลับมาและปิดคดีด้วยตัวผมเอง!”
ดูเหมือนไม่มีผู้ใดในที่นั้นแสดงข้อกังขาต่อคำกล่าวของแดเนียล แม้เขาจะมีอายุน้อยที่สุดในทีมปฏิบัติการแต่ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มกลับได้รับการยอมรับมากที่สุดจากนิสัยจริงจังเด็ดขาดและความเป็นอัจฉริยะของเขา ทว่าเออร์วิ่งก็อดที่จะแสดงความกังวลออกมาไม่ได้
“คุณแดเนียล...แน่ใจหรือครับว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองจริง ๆ “
นักสืบหนุ่มมองตรงไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำนั้นดูคมเข้มน่าเกรงขามมากแค่ไหน แดเนียลยกยิ้มมุมปากก่อนตอบ
“ผมอยากจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวผมเอง คุณเออร์วิ่ง ไม่เคยมีใครกล้ากระทำการอุกอาจแบบนี้ในอาณาจักรของผม โดยเฉพาะการทดลองที่เป็นปฏิบัติการลับอย่างที่สุด สาบานได้ว่าถ้าผมลากคอตัวต้นเหตุมาลงโทษไม่สำเร็จ ผมคงไม่มีวันนอนหลับได้อย่างสบายใจ เพราะนี่เป็นเรื่องที่รบกวนความรู้สึกของผมอย่างมาก”
“คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้างหรือเปล่า?”
เออร์วิ่งถามขณะอีกฝ่ายเลื่อนสายตาคมวับกลับไปจับจ้องบนหน้าจอแล็ปท็อป แดเนียลขบกรามก่อนเค้นเสียงหนัก
“ผมขอแค่ประวัติโดยละเอียดของออโซลย่า ส่วนที่เหลือ...ผมจะจัดการเอง!”
กาแฟในถ้วยเย็นชืดไปนานแล้วและดูเหมือนว่าเจ้าของร่างระหงในเชิ้ตขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตหนังเข้ารูปสีเบอร์กันดีและกางเกงลีวายส์ทรงกระบอกสีซีดจะไม่สนใจเครื่องดื่มที่มีเพียงอย่างเดียวบนโต๊ะตรงหน้านอกจากสอดส่ายสายตาคู่คมไปมาผ่านบานกระจกซึ่งมีผู้คนเดินขวักไขว่ภายนอกร้านกาแฟในมหานครอันตระการอย่างนิวยอร์ค บ่อยครั้งที่หญิงสาวผมยาวประกายน้ำตาลหม่นก้มลงมองเรือนนาฬิกาบนข้อมือทว่าก็มีทีท่าใจเย็นแม้เวลาจะล่วงมาหลายนาทีแล้ว
“ขอโทษที่ทำให้คุณรอนานนะสาวน้อย”
เสียงทุ้มหนักดึงความสนใจของอลินทิราจากด้านนอกบานกระจกให้หันกลับมามองร่างสูงของชายผิวสีแทนในโค้ทหนังซึ่งนั่งลงก่อนถอดหมวกแบเรต์เพื่อปัดฝุ่นออกอย่างเบามือเผยให้เห็นใบหน้าดุของบุรุษวัยเกือบสี่สิบปี
“คุณมาช้าไปยี่สิบห้านาทีค่ะ เฟลรอฟ”หญิงสาวติติงด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบขณะบริกรเดินเข้ามาเพื่อรับออเดอร์“เอสเปรซโซ่ที่หนึ่ง...ขอเข้ม ๆ เลยนะ”เฟลรอฟ ชายร่างสูงใหญ่เชื้อสายรัสเซียสั่งก่อนหันมายังเจ้าของใบหน้ารูปไข่สวยคม โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลแกมเขียวใสสว่างที่จ้องเขาแทบไม่กระพริบ“ขอโทษทีที่ทำให้รอนาน ผมกำลังรับคำสั่งจากนายใหญ่ เขาตื่นเต้นมากที่ภารกิจของคุณประสบความสำเร็จ”เฟลรอฟกล่าวยิ้มแย้มขณะประสานมือหนาทั้งสองบนโต๊ะ เขามีท่าทีที่ดูเป็นมิตร แต่กลับมีอะไรบางอย่างที่อลินทิราเริ่มจับสังเกตุจากประกายตาคู่นั้นซึ่งไม่มีวันเก็บงำอารมณ์ได้เช่นรอยยิ้ม“ฉันทำตามหน้าที่ค่ะ และตอนนี้ทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี”“น่าชื่นชม...ผมรู้สึกชื่นชมความสามารถของคุณมากจริง ๆ ออโซลย่า...ห้องปฏิบัติการด้านฟิสิกส์ในคฤหาสน์ไพรซ์มีระบบความปลอดภัยแน่นหนามาก แต่คุณก็ทำได้ คุณเข้าไปเอาข้อมูลที่นายใหญ่ของเราต้องการออกมาได้ ผมเคยพบกับแดเนียล ไพรซ์ เจ้าของคฤหาสน์ เขาเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทั้งหล่อเหลาและฉลาดหลักแหลม ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังแดเนียลคือนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์มือฉกาจและเขาก็เก็บเรื่องนี
ไซออนเนตหักหลังเธอและคงต้องส่งคนออกตามล่าหากรู้ว่านักฆ่าขององค์กรถูกเธอฆ่าทิ้ง สาวสวยลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่ามิได้ยินดีต่อการก่ออาชญากรรมใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เธอจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง เธอก็เป็นแค่สายลับที่ตั้งใจทำงานให้องค์กรด้วยความสัตย์ซื่อเสมอมา อลินทิราไม่เคยทำงานพลาดและทุกคนให้การยอมรับเธอในฐานะของ ออโซลย่า สายลับสาวแห่งไซออนเนต ทว่านานเข้าความไม่ชอบมาพากลทำให้เธอต้องถอนตัวออกมา แม้จะรู้ว่าทุกอย่างอาจสายเกินไปก็ตามหญิงสาวตั้งความหวังไว้ว่าจะทำภารกิจสุดท้ายคือการจารกรรมข้อมูลจากห้องปฏิบัติการทดลองด้านฟิสิกส์ในคฤหาสน์ไพรซ์เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรหากแต่สิ่งนั้นก็มีมูลค่าตอบแทนสูงถึงยี่สิบล้านดอลล่าห์และเพื่อแลกกับอิสรภาพจากการเป็นสายลับที่ทำงานให้องค์กรมาจนตอนนี้เธอมีอายุครบยี่สิบหกปี และเมื่อเหตุการณ์พลิกผันเธอจึงคิดได้อย่างเดียวเท่านั้นคือการมุ่งหน้ากลับไปหาแม่บุญธรรมที่รัฐยูทาการเดินทางไกลกว่าพันเก้าร้อยไมล์จากท่าอาศยานนานาชาติ จอห์น เอฟ เคเนดี้ ในกรุงนิวยอร์คเพื่อมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันตกของอเมริกาซึ่งที่หมายคือรัฐยูทาห์เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับอลินทิราที่เปลี่ยนแปลงชื่อสกุลตัวเองในปฏ
บทเพลงคันทรี่ที่ดังจากวิทยุตลอดเวลาทำให้คนขับรถคาดิลแล็ครุ่นเก่ามาตลอดเส้นทางซึ่งขนาบข้างด้วยทิวทัศน์ของทุ่งทรายปกคลุมด้วยหญ้าบนแผ่นดินกว้างและหุบผาแปลกตาไม่ได้รู้สึกอ้างว้างแต่อย่างใด หญิงสาวเต็มไปด้วยความหวังมากมายว่าเธอจะกลับไปดูแลหญิงอันเป็นที่รักในบั้นปลายชีวิตหากเธอไม่เห็นว่ามีรถเอสยูวีสีดำสนิทวิ่งตามมาห่าง ๆ นานนับชั่วโมงแล้ว“โอ...ให้ตายสิ!”อลินทิราอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อละสายตาจากถนนด้านหน้าไปยังกระจกมองหลัง สัญชาติญาณบอกเธอถึงความไม่ปกติ หากจำไม่ผิดรถคันนี้ก็วิ่งตามหลังเธอมาตลอดตั้งแต่ออกจากซอลท์เลคซิตี้หรืออาจเป็นคนของไซออนเนต? หรืออาจเป็นพวกเอฟบีไอตามแกะรอยเธอมาจากนิวยอร์ค? แต่ไม่ว่าจะเป็นใครเธอก็ต้องรีบปลีกห่างให้ไกลจากรถเจ้าปัญหาคั้นนั้น“ออโซลย่า...คิดสิ...เธอต้องทำอะไรสักอย่าง” หญิงสาวท่องเหมือนคนเสียสติ ความหวังกำลังละลายเหมือนน้ำแข็งด้วยความร้อนรุ่มที่รุมเร้าข้างใน และท้ายที่สุดเธอก็หักพวงมาลัยรถคาดิลแล็ครุ่นเก่าแล่นไปตามป้ายบอกทางCanyonlands National Parkอลินทิราเหยียบคันเร่งจนมิดเข็มไมล์เพื่อพารถของเธอมุ่งไปตามเส้นทางของอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ หญิงสาวสังเกตเห็
“ถ้าจับไอ้หัวขโมยนั่นได้ผมจะเค้นเอาชิปกลับมาและฆ่ามันทิ้งด้วยตัวผมเอง!” เสียงหนักลอดไรฟันจากใบหน้าที่กรามถูกขบจนนูนเป็นสันของร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดภายในห้องเล็กแคบที่เขายืนอยู่หัวโต๊ะรายล้อมด้วยชายอีกหกคนซึ่งก็มีสีหน้าเข้มเครียดพอกัน นัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องผ่านกระจกนิรภัยไปยังอีกห้องที่เครื่องเร่งอนุภาคแบบไซโคลตรอนวางแน่นิ่งอยู่วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับแดเนียล นักธุรกิจหนุ่มอายุสามสิบห้าปีเจ้าของความสูง 185 เซ็นติเมตรทายาทตระกูลไพรซ์ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากขุนนางในตระกูลอันเก่าแก่และมั่งคั่งทางด้านอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในอเมริกาเขาต้องเรียกประชุมนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ทั้งหกมาพร้อมหน้ากันในห้องทำงานซึ่งอยู่ติดกับห้องปฏิบัติการที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลับ ๆ ใต้คฤหาสน์ไพรซ์อันโอฬารที่กินเนื้อที่กว่าแปดร้อยเอเคอร์ย่านชานเมืองแถบซานตา โมนิกาของลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอเนียเพื่อจะรับรู้ว่าข้อมูลการค้นพบอะตอมของธาตุลำดับที่ 119 ซึ่งทั้งหมดร่วมกันทำการวิจัยและทดลองอย่างยิ่งยวดจนได้มานั้นถูกจารกรรมไปเมื่อคืนนี้ แดเนีย