@Gates of Midnight
สถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่
" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม
" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา
“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้
ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้น
เกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรก
ด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น
" ลูซี่!"
เธอหันไปตามเสียงเห็นจินดากำลังพุ่งตรงมาทางเธอ ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัวแต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
" มาทำไมเนี่ย! หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ! " ลูซี่ตะโกนกลับไปด้วยความตกใจ เธอพยายามออกคำสั่งใส่อีกฝ่ายแต่เหมือนจะไม่ได้ผล
จินดาวิ่งฝ่าพายุที่โหมอย่างหนักเข้ามาในพื้นที่อันตรายเรื่อย ๆ ทันใดนั้นแสงวาบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นแบบมาทันเวลาพอดี อาคินเผยตัวตรงหน้าของจินดาอย่างฉับพลัน เขาจับแขนเรียวของคนตัวเล็กเอาไว้แน่นไม่ให้เธอวิ่งเข้าไปหาลูซี่
" จินดา เธอไม่ควรอยู่ที่นี่!" อาคินกล่าวเสียงหนักแน่นที่แฝงไปด้วยการตำหนิ
" แต่บอสค่ะ!! ลูซี่..." จินดาพยายามดิ้นเพื่อหลุดจากมือของเขา น้ำตาคลอเบ้าเมื่อเห็นเพื่อนรักกำลังเผชิญหน้ากับมาร์คัส เพื่อนชายอีกคนที่จู่ๆ ก็เหมือนไม่ใช่เพื่อนของเธอ เขาเปลี่ยนไปมาก...........
ลูซี่หันกลับมามองทั้งคู่ก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด เธอใช้พลังส่งคลื่นพลังเบา ๆ ดันอาคินและจินดาให้ห่างออกจากพื้นที่ปะทะ....
" คุณอาคิน! พาจินออกไปเดี๋ยวนี้! แล้วก็ไม่ต้องห่วงหนูนะ...ไปช่วยออสตินเลย " ลูซี่ตะโกนพร้อมจ้องมองเขาด้วยสายตาที่แสนจริงจัง
อาคินกัดฟันแน่น เขารู้ว่าสถานการณ์นี้อันตรายเกินกว่าที่จินดาจะรับมือไหว แม้จะไม่อยากทิ้งลูซี่ไว้ลำพังแต่เขาก็เข้าใจถึงความตั้งใจของเธอครั้นจะอยู่ช่วยก็ทำอะไรมากไม่ได้
" เข้าใจแล้ว!! ระวังตัวด้วยนะ! " อาคินตะโกนกลับมาก่อนจะอุ้มจินดาขึ้นและใช้พลังเคลื่อนย้ายออกจากที่นั่นทันที
ลูซี่ยืนหอบหายใจ เธอหันกลับไปมองมาร์คัสที่ยังคงร่ายมนต์อย่างต่อเนื่องและไม่มีทางทีที่อีกฝ่ายจะยอมหยุด เหมือนเขากำลังส่งสัญญาณเร่งให้ปีศาจออกมา..........
" มาร์คัส! ฉันจะไม่ยอมให้แผนของนายสำเร็จ! " เสียงใสประกาศกร้าวดังก้องแข็งกับลมพายุ พลังของเธอเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้งและเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ
และการต่อสู้ที่แท้จริงระหว่างราชินีแห่งขุมนรกและผู้ทรยศก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งอย่างดุเดือด!...........
ที่ Gates of Midnight ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวายเกินควบคุม ราเฟลยืนยิ้มเย้ยอยู่กลางห้องโถงของบาร์ที่เริ่มพังทลายเรื่อยๆ รอบตัวเขามีปีศาจกลุ่มหนึ่งกำลังหลุดออกจากรอยแยกที่ขยายใหญ่ขึ้น
“ นั่นแหละ! ออกมาเลยพวกเรา….ออกมาสู่โลกที่กว้างใหญ่ ” ราเฟลอ้าแขนแสยะยิ้มประกาศเรียกพวกปีศาจ ปลุกพลังให้พวกมันดันรอยแยกออกมา
" ราเฟล!!หยุดทำลายสมดุลของนรกและโลกเดี๋ยวนี้? " ออสตินกัดฟันแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความข่มขื่นและโกรธจัด
“สมดุลบ้าบออะไร!? ข้าสนแค่เจ้าต้องตาย! และข้าก็จะขึ้นเป็นเจ้านรกที่ยิ่งใหญ่กว่าเจ้า” ราเฟลหัวเราะเสียงดังอย่างเย้ยหยัน
ทันใดนั้น ราเฟลสะบัดมือปลดปล่อยพลังปีศาจระเบิดออกจากตัวเขา มุ่งตรงมายังออสตินแต่ชายหนุ่มตั้งรับทัน พลังของลูซิเฟอร์แผ่ซ่านออกมารอบตัวเขา พลังสองสายปะทะกันกลางอากาศ ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้กำแพงบาร์บางส่วนพังลง
" เจ้าไม่มีวันแทนที่ข้าได้ ราเฟล! " ออสตินคำราม ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสงสีทองอันทรงพลัง ในขณะที่อาคินกำลังจัดการกับปีศาจ
ราเฟลยิ้มมุมปากและการต่อสู้ระหว่างลูซิเฟอร์และผู้ทรยศก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองโจมตีอย่างดุดัน ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายหวังจะให้อีกฝ่ายผ่ายแพ้
ในขณะเดียวกัน รอยแยกกลางบาร์ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานปีศาจทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง เงาของปีศาจนับสิบคืบคลานออกมาในโลกมนุษย์ พวกมันแสยะยิ้มด้วยความกระหาย
ออสตินเหลือบมองรอยแยกด้วยความกังวลก่อนจะมุ่งสมาธิกลับไปยังราเฟล เขาต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด.............
เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด ออสตินใช้พลังทั้งหมดของเขาโจมตีราเฟลด้วยความแม่นยำและเด็ดขาด พลังแสงสีทองระเบิดออกจากฝ่ามือของเขา กระแทกราเฟลจนร่างของเขาล้มลงกับพื้น จนร่างของผู้ทรยศค่อย ๆ สลายไปทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะแผ่วเบา
" เจ้าอาจจะชนะวันนี้ ออสติน...แต่ไฟสงครามนี้จะไม่มีวันดับลง " เสียงสุดท้ายของราเฟลจางหายไปพร้อมกับร่างที่ล่มสลาย
ออสตินทรุดลงกับพื้น หายใจหอบหนัก การต่อสู้นี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาอ่อนล้าแต่ยังทำให้จิตใจของเขาหนักอึ้ง ทว่าเขาไม่มีเวลาให้พักหายใจ รอยแยกที่กลางบาร์ยังคงส่งเสียงคำรามและพ่นพลังงานปีศาจออกมาอย่างไม่หยุดยั้งและในจังหวะนั้น
“ออสติน!! เราต้องปิดมันเดี๋ยวนี้” ลูซี่วิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผลและเหนื่อยล้าแต่ในดวงตาของเธอกลับมีประกายของความมุ่งมั่น
"ลูซี่! หยุด!! ร่างกายเธอรับไม่ไหวเหรอ " ออสตินร้องบอกด้วยความเป็นห่วง
" หนูทำได้...มันคือก็คือหน้าที่ของหนูเหมือนกันไม่ใช่เหรอ! " เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง
หญิงสาวไม่สนใจอีกแล้ว เธอยื่นมือออกไปสัมผัสรอยแยก พลังของราชินีขุมนรกพลุ่งพล่านออกมาจากตัวเธอ ผสานเข้ากับพลังของลูซิเฟอร์ที่ออสตินส่งเข้ามาสนับสนุน รอยแยกเริ่มหดเล็กลงแต่แรงกดดันจากพลังงานมหาศาลนั้นทำให้ร่างของลูซี่สั่นสะท้าน
พลังงานที่ลูซี่และออสตินใช้ร่วมกันในที่สุดก็ปิดรอยแยกได้สำเร็จ เสียงคำรามของรอยแยกเงียบลงก่อนที่มันจะหายไปในอากาศ รอยต่อระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกถูกผนึกไว้แน่นหนาอีกครั้ง
แต่เมื่อรอยแยกหายไป ลูซี่กลับทรุดลงกับพื้น ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและอาการอ่อนล้า
บาร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของพลังมืด ตอนนี้กลับกลายเป็นที่เงียบสงบ เหลือไว้เพียงเศษซากแห่งการต่อสู้และชัยชนะที่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของลูซี่
ทันทีที่ออสตินปรากฏตัว จินดาก็พุ่งตรงเข้าไปหาทันทีเพราะคนในอ้อมกอดของเขาตัวซีดเซียวราวกับไม่มีเลือดสักหยด......
" จินดา ฉันฝากดูแลลูซี่ที เธอต้องการพักผ่อน " ออสตินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล
" ไม่ต้องห่วงค่ะ!! " จินดาตอบรับทันทีแม้ในใจจะกังวลและหวาดหวั่น
" คุณติน!!มาร์คัสกับราเฟลเป็นพวกเดียวกัน หนูเห็นภาพตอนที่พวกเขา...... " ลูซี่ดึงมือของออสตินไว้แม้เธอจะดูอ่อนล้าแต่ดวงตาของเธอยังคงมุ่งมั่น เสียงกระซิบแผ่วเบาจนจางหายไป
“ไม่ต้องห่วงนะ!! ฉันจะจบเรื่องนี้เอง” เขาก้มลงจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปหาอาคินที่ยืนรออยู่
ทั้งสองเปิดทางเข้าสู่นรกอีกครั้ง คราวนี้พวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่ที่เหล่าปีศาจของราเฟลยังคงซ่อนตัวอยู่......
เมื่อออสตินและอาคินเจอมาร์คัส พวกเขาก็พบว่าอีกฝ่ายเองก็บาดเจ็บหนักจากการปะทะกับลูซี่ก่อนหน้านี้ แม้ร่างจะดูทรุดโทรมแต่ดวงตายังคงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ในที่สุด!! แกก็เผยตัวตนเสียที” ออสตินกล่าวด้วยเสียงเย็นๆ พร้อมกับแสยะยิ้มมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอาฆาต
“แกมันไม่มีคุณสมบัติของการเป็นราชาที่อยู่เคียงข้างกับราชินี แกไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งนรก ออสติน!!!” มาร์คัสหัวเราะเบา ๆ แม้จะดูอ่อนแอแต่เขายังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง
“ส่วนแกก็ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นปีศาจหรือมนุษย์.....ตายห่าไปซะ!!!” ออสตินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
การต่อสู้เริ่มขึ้น แม้จะมีบาดแผล แต่พลังของมาร์คัสก็ยังคงรุนแรง อาคินเข้าปะทะด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่ออสตินคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของเขาอย่างใกล้ชิด
มาร์คัสพยายามโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่เหลืออยู่ แต่พลังของเขาเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เพราะบาดแผลที่ลูซี่ฝากไว้เป็นอุปสรรคสำคัญ
ในที่สุด อาคินใช้โอกาสจังหวะที่มาร์คัสอ่อนแรงโจมตีเขาอย่างหนักหน่วง ออสตินตามมาสมทบและปลดอาวุธของมาร์คัสจนสำเร็จ
อีกฝ่ายที่ถูกโจมตีอย่างหนักทรุดลงกับพื้นทันที เลือดไหลอาบร่างอย่างน่าสยดสยอง มาร์คัสเงยหน้าขึ้นมองออสตินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น สายตาของเขาอาฆาตอย่างหนัก
" นายอาจจะชนะวันนี้...แต่การกบฏในนรกจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ " มาร์คัสกล่าวคำสุดท้ายก่อนที่ออสตินจะใช้พลังทำลายเขาจนสลายไป
" จบเรื่องวุ่นวายสักที เฮ้อ " อาคินกล่าว แต่ในใจรู้ดีว่านี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
ทั้งสองมองไปยังเหล่าปีศาจที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ปีศาจที่ยังจงรักภักดีต่อราเฟลถูกกำจัดจนหมด เหลือเพียงซากความพินาศในขุมนรกที่รอการฟื้นฟู
" กลับกันเถอะ ลูซี่รอเราอยู่ "
ออสตินกล่าวก่อนที่เขากับอาคินจะเดินกลับขึ้นไปบนโลกมนุษย์อีกครั้งและหวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี
หลังการต่อสู้อันยาวนานและเหน็ดเหนื่อย อาคินและออสตินก้าวขึ้นจากขุมนรกพร้อมร่องรอยบาดแผลเต็มร่างกาย เปลวเพลิงจากนรกยังคงลุกไหม้ในแววตาของพวกเขา แต่สิ่งเดียวที่ผลักดันให้พวกเขากลับมายืนที่นี่คือความปรารถนาที่จะได้พบกับหญิงคนรักอีกครั้ง
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงห่าฝนเม็ดใหญ่ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า ลมพายุพัดแรงจนต้นไม้โอนเอนไปมาเหมือนจะหักโค่นลงมาให้ได้ มองไปไกลๆ จะเห็นฟ้าแลบแปล๊บๆสร้างแสงวูบวาบให้น่าขนลุก มันผ่าลงมาเป็นระยะสร้างเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขนาดอยู่ไกลๆ ยังได้ยินอย่างชัดเจน“แน่ใจนะว่าจะกลับตอนนี้ มันตกแรงมากเลยนะ”เพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างกันด้วยความเป็นห่วง ฝนที่กระหน่ำลงมาเม็ดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีท่าทางทีที่จะเบาบางลงแม้แต่น้อยแต่ถ้าจะให้รอมีหวังเธอคงกลับไม่ถึงบ้านเสียที.......เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว“อือ! ไปได้อยู่...น่าจะทันรถเที่ยวสุดท้ายไม่งั้นก็รอแท็กซี่ ไปก่อนนะแล้วเจอกันพรุ่งนี้” เธอส่งยิ้มให้จินดาเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียว ทั้งสองโบกมือลากันอย่างที่ทำทุกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งคืน วันศุกร์ที่แสนวิเศษของนักท่องเที่ยวแต่ไม่ใช่กับพนักงานเสิร์ฟอย่างพวกเธอที่เดินจนขาลากเธอชื่อว่า ลูซี่ รุจิรา แอลเบอร์ หญิงสาววัย 20 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ผู้มีใบหน้างดงาม ดวงตากลมโตสีดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ผิวกายข
คืนนั้นลูซี่กลับถึงห้องด้วยเสื้อผ้าที่เปียกโชก เธออุตส่าห์นั่งดื่มกับชายแปลกทั้งคืนหวังให้ฝนที่โปรยลงมาสงบลงแต่เธอคิดผิด ขนาดกลับมาถึงห้องแล้วฝนด้านนอกก็ยังไม่มีท่าทีจะสงบลงเลย เธอใช้เวลาในการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานก็รีบมาทิ้งตัวลงนอนที่เตียงใหญ่ทันที แต่ความรู้สึกประหลาดยังคงติดค้างอยู่ในใจ เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บาร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญลูซี่พยายามข่มตานอนเพราะมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เธอมีเรียนแต่เช้าแถมอาจารย์ที่สอนก็กำชับอยู่หลายครั้งไม่อยากให้นักศึกษามาสายเนื่องจากมีการบรรยายที่แสนจะวิเศษแต่ทันทีที่เธอหลับตาลง ภาพของชายหนุ่มในบาร์ก็ปรากฏขึ้นดวงตาสีแดงเรืองรอง ใบหน้าคมคายที่มาพร้อมกับรอยยิ้มลึกลับที่เหมือนจะซ่อนความลับอะไรบางอย่าง‘นี่หล่อขนาดที่เราต้องเก็บมาฝันเลยเหรอวะเนี่ย.....บ้าไปแล้ว ’ ลูซี่ส่ายหัวแรง ๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าๆ นั้นออกไป เธอเอื้อมหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่หัวเตียงข้างๆ ขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อยก่อนจะพยายามทำให้ตัวเองหลับไปในที่สุดท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ถูกฉาบไปด้วยสีแดงฉานและเปลวไฟร้อนแรงที่ลุกโหมเหมือนทะเลเพลิง เสียงเปลวเพลิงแตกระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ลู
เย็นของวันนั้นหลังจากที่กลับมาจากมหาวิทยาลัย ลูซี่มุ่งตรงกลับห้องทันทีเพราะเธอรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว คงเพราะพิษไข้จากการตากฝนเมื่อวานแถมเธอก็ทิ้งตัวนอนไปทั้งๆ ที่เสื้อผ้าเปียกโชกเธออยากจะทิ้งตัวอีกครั้งแต่ก็ต้องฝืนเอาร่างกายของตัวเองไปชำระล้างฝุ่นและหยาดเหงื่อที่ติดตัวมาทั้งวันออกไปก่อน หวังจะให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแต่แล้วเสียงบางอย่างที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้เธอต้องหยุดชะงักยืนตัวแข็ง“ใครน่ะ!? ” ลูซี่กำผ้าเช็ดตัวเอาไว้แน่น ตะโกนถามออกไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวปึง!!!เสียงประตูกระแทกเข้ากับกำแพงสีขาวอย่างแรงจนเธอที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำถึงกับสะดุ้ง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจปนหวาดกลัวเมื่อเห็นผู้บุกรุกที่ไม่มีทางจะเข้ามาได้แต่เขากลับมายืนอยู่ที่หน้าของเธอ“ออสติน!! คุณเป็นใครกันแน่ คุณต้องการอะไรจากหนู” น้ำเสียงสั่นเครือดังแผ่วๆ ดวงตาคู่สวยพร่ามัวเพราะน้ำสีใส พยายามเดินถอยหลังเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัวร่างสูงก้าวเข้ามาอย่างไม่สนใจความตกใจของเธอ ดวงตาสีแดงเรืองรองของเขาจับจ้องเธอราวกับจะเจาะลึกเข้าไปในจิตใจ รัศมีขอ
เมื่อวานทั้งวัน ออสตินอยู่ดูแลเธอไม่ไปไหนเลย เขาเอาแต่บอกว่าอยู่ห้องคนเดียวมันน่าเบื่อ มาอยู่ดูแลคนป่วยแบบเธอดีกว่าแม้ว่าจะโดนไล่อยู่หลายครั้งแต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ“เธอๆ เราขอเข้ากลุ่มด้วยได้ไหม” ชายหนุ่มเจ้าของเสียงนุ่ม ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพลางเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆ กับลูซี่“เธอพึ่งเข้ามาเรียนวิชานี้เหรอ? ไม่เคยเห็นหน้าเลย หรือเป็นเด็กหลังห้อง” จินดาถามด้วยเสียงสดใสพลางหยิบกระดาษขึ้นมาเตรียมจดชื่อของชายหนุ่มเข้ากลุ่มไปด้วย“เราชื่อ มาร์คัส อยู่หลังห้องน่ะ” ชายหนุ่มหน้าตาดีตอบกลับพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาอย่างกวนๆ ให้กับเจ้าของคำถามพลางหันมาส่งยิ้มหวานๆ ให้กับลูซี่ที่นั่งข้างๆ“โอเค! งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ ค่อยมานัดวันทำรายงานกันอีกที” ลูซี่บอกกับเพื่อนใหม่และเพื่อนสาวคนสนิทพลางรีบเก็บของอุปกรณ์การใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบราวกับนัดใครบางคนเอาไว้…แสงอาทิตย์ที่อ่อนลงทอประกายอบอุ่นเหนือสนามหญ้า อาคารเรียนและทางเดินยาว นักศึกษาต่างทยอยเดินสวนกันออกมาจากห้องหลังจากเรียนคาบสุดท้ายของวันได้จบลง“นักศึกษา 3 คนมาช่วยอาจารย์หน่อยสิ” เสียงสั่งการของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากลานจอดรถที่อยู
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา
ในขณะที่ออสตินกำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับ กุญแจแห่งสวรรค์อยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยนไป พลังงานมืดอันหนาแน่นแผ่ซ่านจนแม้แต่ออสตินเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาหยุดนิ่งมองกวาดไปรอบๆ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา" ออกมาเถอะ พวกเจ้าซ่อนพลังได้แย่มาก " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาของเขาจับจ้องไปยังเงามืดในมุมหนึ่งทันใดนั้น กลุ่มปีศาจในเงาก็ปรากฏตัวขึ้น พวกมันเป็นสมาชิกของ กลุ่มกบฏแห่งขุมนรก ซึ่งหวังจะล้มลูซิเฟอร์และยึดครองนรกเป็นของตัวเอง" เจ้ามันอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นเจ้าแห่งนรก!! ถึงเวลาแล้วที่พวกข้าจะทวงอำนาจคืน " หนึ่งในปีศาจเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยาม" ลูซิเฟอร์... เจ้าคิดว่าตัวเองยังแข็งแกร่งพอจะปกครองเราได้เหรอ?? ถึงเวลาที่นรกจะต้องมีผู้นำคนใหม่แล้ว " ปีศาจอีกตนพูดเสริมขึ้นมาพร้อมกับหันไปหัวเราะสะใจกับพวกของมัน“ถ้าคิดว่าจะล้มข้าได้ก็เข้ามาสิวะ ไอ้พวกสวะ!!” ออสตินยิ้มเยาะแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระวังตัวพวกมันคำรามออกมาอย่างดังสนั่นก้องไปทั่ว ปีศาจทั้งกลุ่มพุ่งเข้าโจมตีออสตินพร้อมกัน พลังของพวกมันมากมายและดุดันจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความวุ่นวายร
ลูซี่นั่งนิ่งอยู่ในความมืดขณะสายลมเย็นเฉียบพัดผ่านเข้ามาในห้อง เธอกุมมือไว้แน่น พยายามบอกตัวเองว่าเธอพร้อมสำหรับทุกสิ่ง เธอมั่นใจว่าเกมแห่งเจตจำนงเป็นเพียงอีกหนึ่งอุปสรรคที่เธอจะผ่านไปได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา‘ฉันน่าจะรับมือกับทุกอย่างได้ ’เธอพูดเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนเริ่มเกมหญิงสาวมั่นใจมากพลังเต็มเปี่ยมแต่พอหลังจากเกมจบลงความมั่นใจนั้นกลับถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ออสตินไม่ได้เป็นเพียงคู่ต่อสู้ธรรมดา เขาเป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมใส่เธอทุกทิศทาง ความแข็งแกร่งและความเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้ลูซี่รู้สึกเหมือนถูกกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออกความรู้สึกหนักอึ้งแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเธอทีละน้อย มันไม่ใช่แค่เรื่องของพลังที่เธอมีหรือไม่มี แต่เป็นเรื่องของจิตใจของเธอเอง ทุกคำพูด ทุกการกระทำของออสตินดูเหมือนจะสร้างกับดักในใจเธอ‘ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้...’ลูซี่พึมพำในใจ พลางหลับตาลงพยายามรวบรวมสติ เธอเคยคิดว่าพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์แต่ตอนนี้ความจริงกลับท้าทายความเชื่อมั่นของเธอหญิงสาวยังคงนั่งเงียบ เหม่อลอยอยู่ในห้อง ดวงตาสีอ่อนสะท้อนความสับสนและหนักอึ้ง เธอคิดว่าการชนะเกมแห่งเจตจำนงจะทำให้เธอเป
ลูซี่พุ่งตัวเข้าสู่ความมืด เสียงกรีดร้องและกระซิบแปลก ๆ ดังแทรกในอากาศราวกับพยายามทำลายสติ สมาธิของเธอ เงาดำรูปร่างประหลาดคืบคลานเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง พวกมันเหมือนภาพสะท้อนของความกลัวและความลังเลในจิตใจของเธอ" ลูซี่ เธอไม่มีวันชนะ! " เสียงทุ้มกังวานของออสตินสะท้องก้อง มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันที่ดังขึ้นอย่างสะใจ“คุณอย่าดูถูกหนูนะ!” ลูซี่ตะโกนกลับ เธอปล่อยพลังแสงสีฟ้าจากมือ แสงนั้นระเบิดออกเป็นวงกว้าง เผาเงาดำรอบตัวจนพวกมันสลายไปแต่ก่อนที่เธอจะได้พักหายใจ พื้นดินก็เริ่มแตกออก เธอเสียหลักล้มลงในความว่างเปล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อพบว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามันคือออสตินอีกคน ร่างของเขาเปล่งออร่าสีดำ ปีกสีดำมหึมาขยายกางเต็มที่ บนศีรษะของเขามีเขาแหลมงอกออกมาสองอัน ทรงพลังและเย็นชา ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ ดวงตาเต็มไปด้วยความมืด" นี่คือฉันที่แท้จริง!! ตัวฉันที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ เธอคิดว่าแสงเล็ก ๆ ของเธอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นเหรอ? ลูซี่ " เสียงเรียบไร้อารมณ์ยังคงก้องไปทั่วขุมนรก" หนูไม่สนว่าคุณจะเป็นอะไร พลังเล็ก ๆ ของหนูอาจจะไม่มากพอ แต่หนูจะลอง....จะไม่มีวัน