ฉี๋อีหยุนที่กำลังเผชิญหน้ากับหานเฟิง เธอแสดงท่าทีเย็นชาอย่างชัดเจน เธอไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ กับชายคนนั้น ในสายตาของเธอคนรวยประเภทนี้ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากใช้เงินไปวัน ๆ และฉี๋อีหยุนก็รู้ดีว่าความหลงใหลของเขานั้นมันไม่มีความจริงใจอะไร ในสายตาของคนประเภทนี้ พวกเขาปฏิบัติกับผู้หญิงราวกับของเล่น และไม่เคยให้ความจริงใจ และตอนนี้หานซานเฉียนได้ครอบครองตำแหน่งที่สำคัญในหัวใจของฉี๋อีหยุนแล้ว ดังนั้นเธอก็ยิ่งไม่มีความประทับใจต่อหานเฟิงหานเฟิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ฉี๋อีหยุนมองตาเขา และเขาก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ไม่มีผู้หญิงคนไหนเฉยเมยต่อหน้าเขาแบบนี้มาก่อน ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนเขาก็จะทำเพื่อให้ได้มันมาแต่สำหรับฉี๋อีหยุน เขายินดีที่จะดูแลเธอเป็นพิเศษ เพราะนี่คือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาใจเต้น"คุณรู้ไหมว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ถ้ากลัาเฉยเมยกับผมแบบนี้ เธอจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขแน่ แต่ผมชอบคุณมาก ดังนั้นผมจึงเต็มใจที่จะให้สิทธิพิเศษกับคุณ" หานเฟิงกล่าวฉี๋อีหยุนส่ายหัวอย่างไม่สนใจ เพราะในหัวของเธอมีแต่หานซานเฉียนเท่านั้น“คุณไม่จำเป็นต้อ
"คุณไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเหรอ? พี่สาวของผมเป็นผู้หญิง เธอไม่สามารถเป็นหัวหน้าตระกูลได้" หานเฟิงกล่าวฉี๋อีหยุนยิ้มอย่างดูถูก หานเฟิงคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว แต่ตระกูลที่ใหญ่โตอย่างตระกูลหาน แม้จะต้องมอบตำแหน่งให้กับผู้หญิง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบให้คนไร้ประโยชน์อย่างเขา“อีกอย่างพี่ของผมเธอดีกับผมมาก เธอไม่มีทางแย่งชิงตำแหน่งนี้กับผมแน่” หานเฟิงพูดต่อ"พี่สาวของคุณดีกับคุณมาก ในเรื่องไหนล่ะ? เธอปล่อยให้คุณทำอะไรก็ได้ใช่ไหม" ฉี๋อีหยุนถาม“แน่นอน ไม่ว่าผมจะอยากเล่นอะไร เธอก็ไม่เคยสนใจ แถมยังช่วยปกปิด ถ้าผมทำผิด พี่ก็จะขอโทษแทนผม ความรักของพี่สาวกับน้องชายที่ลึกซึ้งแบบนี้ คุณที่เป็นลูกคนเดียวคงจะไม่ค่อยเข้าใจ” หานเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มฉี๋อีหยุนส่ายหัว หานเฟิงเหมือนคนโง่ เขาคิดว่าหานเหยียนทำแบบนั้นเพราะหวังดีต่อเขา? ที่หานเหยียนทำแบบนั้นเพราะต้องการทำให้เขากลายเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ และทำให้เขาขาดคุณสมบัติในแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลต่างหาก "คุณส่ายหัวทำไม?" หานเฟิงถามอย่างงงงวย“ที่ฉันส่ายหัวเพราะคิดว่าคุณโง่เหลือเกินน่ะสิ หลายปีมานี้ ความช
หานซานเฉียนออกไปข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน หานเฟิงก็ยังไม่ไปไหน เขาเห็นความโกรธในดวงตาของหานเฟิง หรือว่าเขาจะถูกฉี๋อีหยุนปฏิเสธ?หลังจากที่หานเฟิงรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเหยียนแล้ว เขาก็รู้ว่าเขาไม่ควรมัวแต่เล่นสนุกกับผู้หญิงอีกต่อไป และเขาต้องรีบหาทางทวงสถานะของเขาในตระกูลหานคืนมา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่สามารถเสียเวลาไปกับผู้หญิงได้ แต่เขาความชอบที่มีต่อฉี๋อีหยุนของเขานั้นยังไม่เปลี่ยน เนื่องจากตอนนี้ไม่มีเวลามาเล่นเกมรักกับฉี๋อีหยุน เขาจึงต้องมั่นใจระยะห่างของฉี๋อีหยุนกับผู้ชายคนอื่นหานเฟิงเดินไปหาหานซานเฉียนและพูดด้วยท่าทีสูงส่ง "คุณต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะย้ายออกจากที่นี่ ผมไม่ต้องการให้คุณอาศัยอยู่กับฉี๋อีหยุน"หานซานเฉียนชำเลืองมองไปที่ฉี๋อีหยุนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่ชาย คุณอาจเข้าใจผิด ที่นี่เป็นที่ของผม และเธอเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ หากคุณต้องการขับไล่ใคร คนนั้นไม่ควรเป็นผม"ฉี๋อีหยุนมองไปที่หานซานเฉียนอย่างขมขื่น ผู้ชายคนนี้บอกว่าเธอเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เธอดูแลเขามาตั้งนาน เขาไม่คิดจะรับผิดชอบเธอหน่อยเหรอ? "ผมไม่สนว่าที่นี่จะเป็นที่ขอ
“นายรู้ไหมว่าถ้ากล้ามีเรื่องกับฉันจะมีจุดจบแบบไหน?” หานเฟิงพูดพร้อมกัดฟัน"จุดประสงค์ที่พวกนายมาที่นี่ก็เพื่อทำลายฉันไม่ใช่เหรอ? หรือว่าจุดจบแบบนี้ยังไม่พออีก" หานซานเฉียนกล่าว กล้ามีเรื่องกับเขาอย่างงั้นเหรอ? ในเมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้อยู่แล้ว จะมีเรื่องมากกว่านี้อีกได้อย่างไรหานเฟิงพูดไม่ออก ทำได้เพียงรีบกลับออกไป เพราะกลัวว่าจะถูกทุบตีอีกตามคำกล่าวที่ว่า ลูกผู้ชายสิบปีค่อยล้างแค้นก็ยังไม่สาย หานเฟิงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเถียงกับหานซานเฉียนถ้าไม่มีตัวช่วยอยู่ข้าง ๆ อย่างไรก็ตาม ไอ้ขยะนี่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อเขาอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะความอารมณ์ร้าย"ทำไมตระกูลหานในอเมริกาถึงได้มีขยะแบบนี้" หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไงก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตอันดับต้น ๆ ในพื้นที่คนจีนของสหรัฐอเมริกา แต่หานเฟิงนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง จนทำให้หานซานเฉียนมองตระกูลหานในอเมริกาต่างออกไป “เขาก็แค่ถูกฝึกให้เป็นคนไร้ประโยชน์โดยหานเหยียนน่ะสิ” ฉี๋อีหยุนกล่าว“หมายความว่ายังไง?” หานซานเฉียนถามอย่างงงงวย"คุณถามฉันเหรอ? อยากได้คำตอบไหมล่ะ? เมื่อกี้คุ
เมื่อฉี๋อีหยุนออกมาจากห้องน้ำ เธอก็แทบองค์ลง นึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าหานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขากลับห้องแล้วก็ช่าง แต่นี่เขายังเอาแอปเปิลกลับไปด้วยอีก ผู้ชายแบบนี้ทำบุญด้วยอะไรกัน ซูหยิงเซี่ยถึงได้ตกหลุมรักและยอมแต่งงานกับเขากันนะ?แต่เมื่อฉี๋อีหยุนกลับมาที่ห้องและเห็นแอปเปิลวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เธอก็รู้ว่าหานซานเฉียนจงใจแกล้งเธอ แม้ว่าในใจจะนึกโกรธ แต่เธอก็ยังกินแอปเปิลอยู่ดีหลังจากกินเสร็จ ฉี๋อีหยุนก็พูดกับตัวเองด้วยท่าทางขุ่นเคือง "เธอนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ แค่หลอกล่อด้วยของหวาน แล้วก็มาทำดีด้วย ผู้ชายแบบนี้ควรถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ไม่ใช่เหรอ?" คืนนั้นฉี๋อีหยุนที่ได้กินแอปเปิลก็นอนหลับสนิท แม้ว่าจะปากแข็ง แต่เธอก็แอบรู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจ เช้าวันรุ่งขึ้น หานซานเฉียนออกไปวิ่งในตอนเช้าตามปกติ แต่วันนี้แทนที่จะพบกับมี่เฟยเอ๋อร์ เขากลับได้พบหยางเหมิงแทน ซึ่งนั่นทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่เขาไม่เคยเห็นหยางเหมิงออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งในตอนเช้ามาก่อนเลยหยางเหมิงเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย แต่หลังจากที่เธอได้ยินมี่เฟยเอ๋อร์บอกว่าหานซานเฉียนออกมาวิ่งทุก
“นายเอาชนะไอ้ตัวเล็กนั่นไม่ได้เหรอ? ไม่น่าใช่แล้วมั้ง” ชายที่ยืนถัดจากชายสักลายพูดพร้อมกับเม้มปากมองไปที่หานซานเฉียนด้วยสายตาดูถูกชายสักลายยิ้มอย่างเย็นชา ครั้งที่แล้วเขาก็ดูถูกหานซานเฉียนแบบนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกสั่งสอนอย่างหนักจากหานซานเฉียน ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า “อย่าประมาท ไอ้หมอนั่นสู้เก่งมาก” ชายสักลายกล่าว“จะเก่งสักแค่ไหนกัน จากที่ฉันดูหมัดเดียวก็สามารถจัดการมันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามชายสักลายมองไปที่คนอื่น ๆ ทุกคนล้วนมีสีหน้าไม่ต่างกัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะหานซานเฉียนดูภายนอกก็เหมือนเป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ“ระวังไว้ดีกว่า วันนี้ฉันขอให้พวกนายมาช่วยล้างแค้น อย่าได้เสียหน้าอีก” ชายสักลายกล่าว“ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่สามารถเอาชนะไอ้ไก่อ่อนนี้ได้ ก็เท่ากับทำให้พี่หย่งเสียหน้าไม่ใช่หรือไง?” คนที่พูดคือลูกน้องของลูกน้องหลินหย่งอีกที แต่เขาแอบอ้างชื่อหลินหย่งในการหลอกลวงผู้คนมากมายในหยุนเฉิง พวกคนที่มีสถานะต่ำต้อย ก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่ใหญ่ แต่ที่จริงแล้วเขาไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะยืนอยู่ข้าง ๆ ห
เมื่อเห็นการโจมตีของอีกฝ่าย ผู้คนที่อยู่รอบตัวหานซานเฉียนต่างก็กลัวโดนลูกหลงไปด้วย จึงหลบอยู่ห่าง ๆ อย่างที่พวกเขาพูด หากหานซานเฉียนต้องการที่จะอยู่ต่อสู้ต่อ พวกเขาก็จะไม่ช่วย"ไอ้หมอนี่ไม่รู้จักฟังคำแนะนำของคนอื่นเลยจริง ๆ ต้องถูกตีก่อนถึงจะพอใจหรือไง?"“คนหนุ่มสมัยนี้ไม่รู้จักว่าอะไรดีอะไรชั่ว และไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย”“แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ในเมื่อเขามั่นใจที่จะอยู่ต่อ บางทีเขาอาจไม่ได้ใส่ใจพวกนั้นจริง ๆ ก็ได้”บางคนก็พูดซ้ำเติม แต่บางคนก็คาดหวังกับหานซานเฉียน น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่กลับหัวเราะเยาะแทน“พูดเป็นเล่น ฝั่งตรงข้ามมีตั้งหกคน ดูกล้ามนั่นสิ เขาเทียบได้เหรอ?”"ใช่ ใช่ แตกต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้ตาบอด ก็ต้องมองออกบ้างล่ะ" ตอนนั้นเองที่กำปั้นขนาดใหญ่ของคนที่อ้างว่าเป็นลูกน้องของหลินหย่งใกล้เข้ามาที่หน้าของหานซานเฉียนเขาคิดว่าความเร็วของตัวเองนั้นเร็วมาก หานซานเฉียนไม่มีทางหลบได้ทัน เมื่อคิดดังนั้นรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาที่มุมปากคนกระจอกแบบนี้แค่เขาคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมชายร่างใหญ่ถึงได้แพ้ไอ้หมอนี่ได้“ไอ้หมอนั่นคงไม่ได้โง่หรอกนะ ทำไ
ทันทีที่เขาลงมือ คนคนนั้นก็ล้มลงกับพื้น นั่นหมายความว่าหากเขาลงมือหกครั้ง ก็จะมีหกคนที่ลงไปนอนอยู่บนพื้นไม่ใช่เหรอ?"แม่เจ้า หรือว่ายังมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่อย่างงั้นเหรอ?"“ชายหนุ่มคนนี้คงไม่ใช่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หรอกนะ มิน่าล่ะ เขาถึงดูไม่ได้ใส่ใจคนพวกนั้นสักเท่าไหร่”"ฉันคิดว่าศิลปะการต่อสู้เป็นของปลอมซะอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีอยู่?" เสียงของผู้ชมดังขึ้นด้วยความตกใจและประหลาดใจ ในขณะเดียวกัน หานซานเฉียนก็รุกไม่หยุด เขาโจมตีคนเหล่านั้นราวกับพายุหานซานเฉียนที่คนอื่นคิดว่าเป็นคนอ่อนแอ ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาด้วยหมัดในเวลาเพียงไม่ถึง สองนาที คู่ต่อสู้ทั้งหกล้มลงไปกองอยู่บนพื้น และเขายืนตัวตรงด้วยจิตใจอันแน่วแน่! อะไรที่เรียกว่าชายชาตรี หานซานเฉียนได้อธิบายไว้อย่างบูรณ์แบบ“สุดยอด สุดยอดมากจริง ๆ”“เขาสามารถจัดการคนพวกนั้นได้จริงด้วย ไม่ได้แค่โม้”“ทรงพลังสุด ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะรับลูกศิษย์ไหม ฉันอยากจะเป็นลูกศิษย์ของเขาจัง”ฝูงชนที่เฝ้าดูต่างก็เบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนออกมากับฉากที่ไม่น่าเชื่อนี้ คนกลุ่มน้อยที่เชื่อในตัวหานซานเฉียนตั้งแต่แรก ตอนนี้พวกเขารู้สึกภู