เมื่อฉี๋อีหยุนออกมาจากห้องน้ำ เธอก็แทบองค์ลง นึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าหานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขากลับห้องแล้วก็ช่าง แต่นี่เขายังเอาแอปเปิลกลับไปด้วยอีก ผู้ชายแบบนี้ทำบุญด้วยอะไรกัน ซูหยิงเซี่ยถึงได้ตกหลุมรักและยอมแต่งงานกับเขากันนะ?แต่เมื่อฉี๋อีหยุนกลับมาที่ห้องและเห็นแอปเปิลวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เธอก็รู้ว่าหานซานเฉียนจงใจแกล้งเธอ แม้ว่าในใจจะนึกโกรธ แต่เธอก็ยังกินแอปเปิลอยู่ดีหลังจากกินเสร็จ ฉี๋อีหยุนก็พูดกับตัวเองด้วยท่าทางขุ่นเคือง "เธอนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ แค่หลอกล่อด้วยของหวาน แล้วก็มาทำดีด้วย ผู้ชายแบบนี้ควรถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ไม่ใช่เหรอ?" คืนนั้นฉี๋อีหยุนที่ได้กินแอปเปิลก็นอนหลับสนิท แม้ว่าจะปากแข็ง แต่เธอก็แอบรู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจ เช้าวันรุ่งขึ้น หานซานเฉียนออกไปวิ่งในตอนเช้าตามปกติ แต่วันนี้แทนที่จะพบกับมี่เฟยเอ๋อร์ เขากลับได้พบหยางเหมิงแทน ซึ่งนั่นทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่เขาไม่เคยเห็นหยางเหมิงออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งในตอนเช้ามาก่อนเลยหยางเหมิงเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย แต่หลังจากที่เธอได้ยินมี่เฟยเอ๋อร์บอกว่าหานซานเฉียนออกมาวิ่งทุก
“นายเอาชนะไอ้ตัวเล็กนั่นไม่ได้เหรอ? ไม่น่าใช่แล้วมั้ง” ชายที่ยืนถัดจากชายสักลายพูดพร้อมกับเม้มปากมองไปที่หานซานเฉียนด้วยสายตาดูถูกชายสักลายยิ้มอย่างเย็นชา ครั้งที่แล้วเขาก็ดูถูกหานซานเฉียนแบบนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกสั่งสอนอย่างหนักจากหานซานเฉียน ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า “อย่าประมาท ไอ้หมอนั่นสู้เก่งมาก” ชายสักลายกล่าว“จะเก่งสักแค่ไหนกัน จากที่ฉันดูหมัดเดียวก็สามารถจัดการมันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามชายสักลายมองไปที่คนอื่น ๆ ทุกคนล้วนมีสีหน้าไม่ต่างกัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะหานซานเฉียนดูภายนอกก็เหมือนเป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ“ระวังไว้ดีกว่า วันนี้ฉันขอให้พวกนายมาช่วยล้างแค้น อย่าได้เสียหน้าอีก” ชายสักลายกล่าว“ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่สามารถเอาชนะไอ้ไก่อ่อนนี้ได้ ก็เท่ากับทำให้พี่หย่งเสียหน้าไม่ใช่หรือไง?” คนที่พูดคือลูกน้องของลูกน้องหลินหย่งอีกที แต่เขาแอบอ้างชื่อหลินหย่งในการหลอกลวงผู้คนมากมายในหยุนเฉิง พวกคนที่มีสถานะต่ำต้อย ก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่ใหญ่ แต่ที่จริงแล้วเขาไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะยืนอยู่ข้าง ๆ ห
เมื่อเห็นการโจมตีของอีกฝ่าย ผู้คนที่อยู่รอบตัวหานซานเฉียนต่างก็กลัวโดนลูกหลงไปด้วย จึงหลบอยู่ห่าง ๆ อย่างที่พวกเขาพูด หากหานซานเฉียนต้องการที่จะอยู่ต่อสู้ต่อ พวกเขาก็จะไม่ช่วย"ไอ้หมอนี่ไม่รู้จักฟังคำแนะนำของคนอื่นเลยจริง ๆ ต้องถูกตีก่อนถึงจะพอใจหรือไง?"“คนหนุ่มสมัยนี้ไม่รู้จักว่าอะไรดีอะไรชั่ว และไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย”“แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ในเมื่อเขามั่นใจที่จะอยู่ต่อ บางทีเขาอาจไม่ได้ใส่ใจพวกนั้นจริง ๆ ก็ได้”บางคนก็พูดซ้ำเติม แต่บางคนก็คาดหวังกับหานซานเฉียน น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่กลับหัวเราะเยาะแทน“พูดเป็นเล่น ฝั่งตรงข้ามมีตั้งหกคน ดูกล้ามนั่นสิ เขาเทียบได้เหรอ?”"ใช่ ใช่ แตกต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้ตาบอด ก็ต้องมองออกบ้างล่ะ" ตอนนั้นเองที่กำปั้นขนาดใหญ่ของคนที่อ้างว่าเป็นลูกน้องของหลินหย่งใกล้เข้ามาที่หน้าของหานซานเฉียนเขาคิดว่าความเร็วของตัวเองนั้นเร็วมาก หานซานเฉียนไม่มีทางหลบได้ทัน เมื่อคิดดังนั้นรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาที่มุมปากคนกระจอกแบบนี้แค่เขาคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมชายร่างใหญ่ถึงได้แพ้ไอ้หมอนี่ได้“ไอ้หมอนั่นคงไม่ได้โง่หรอกนะ ทำไ
ทันทีที่เขาลงมือ คนคนนั้นก็ล้มลงกับพื้น นั่นหมายความว่าหากเขาลงมือหกครั้ง ก็จะมีหกคนที่ลงไปนอนอยู่บนพื้นไม่ใช่เหรอ?"แม่เจ้า หรือว่ายังมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่อย่างงั้นเหรอ?"“ชายหนุ่มคนนี้คงไม่ใช่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หรอกนะ มิน่าล่ะ เขาถึงดูไม่ได้ใส่ใจคนพวกนั้นสักเท่าไหร่”"ฉันคิดว่าศิลปะการต่อสู้เป็นของปลอมซะอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีอยู่?" เสียงของผู้ชมดังขึ้นด้วยความตกใจและประหลาดใจ ในขณะเดียวกัน หานซานเฉียนก็รุกไม่หยุด เขาโจมตีคนเหล่านั้นราวกับพายุหานซานเฉียนที่คนอื่นคิดว่าเป็นคนอ่อนแอ ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาด้วยหมัดในเวลาเพียงไม่ถึง สองนาที คู่ต่อสู้ทั้งหกล้มลงไปกองอยู่บนพื้น และเขายืนตัวตรงด้วยจิตใจอันแน่วแน่! อะไรที่เรียกว่าชายชาตรี หานซานเฉียนได้อธิบายไว้อย่างบูรณ์แบบ“สุดยอด สุดยอดมากจริง ๆ”“เขาสามารถจัดการคนพวกนั้นได้จริงด้วย ไม่ได้แค่โม้”“ทรงพลังสุด ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะรับลูกศิษย์ไหม ฉันอยากจะเป็นลูกศิษย์ของเขาจัง”ฝูงชนที่เฝ้าดูต่างก็เบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนออกมากับฉากที่ไม่น่าเชื่อนี้ คนกลุ่มน้อยที่เชื่อในตัวหานซานเฉียนตั้งแต่แรก ตอนนี้พวกเขารู้สึกภู
หานซานเฉียนไม่ได้อึ้งเพราะว่ากลัว เขาแค่รู้สึกแปลกใจถ้าชายคนนี้เป็นลูกน้องของหลินหย่ง และถ้าเป็นมือขวาของเขาจริง ก็ต้องไปที่คลับเมจิกซิตี้เป็นประจำสิ และหากอยู่ที่คลับเมจิกซิตี้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เคยเห็นหน้าเขาคำอธิบายเดียวที่หานซานเฉียนคิดได้คือผู้ชายคนนี้กำลังคุยโม้ เขาอาจมีความสัมพันธ์บางอย่างกับหลินหย่ง แต่เขาไม่ใช่ลูกน้องของหลินหย่งอย่างแน่นอน"นายไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ ด้วยรู้จักแม้กระทั่งหลินหย่ง" หานซานเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินคำเยินยอ ชายคนนั้นก็มีสีหน้าพึงพอใจมากยิ่งขึ้นก่อนจะพูดว่า "ตอนนี้แกรู้แล้วล่ะสิว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน ทำไมยังไม่คุกเข่าขอโทษฉันอีก" หานซานเฉียนส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า "แม้ว่าหลินหย่งจะมาที่นี่ แต่เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะขอให้ฉันขอโทษ แล้วนายล่ะเป็นใคร?""ไอ้หนู แกกล้าดูถูกพี่หลินหย่งเหรอ?" ชายคนนั้นกัดฟันและมองไปที่หานซานเฉียน คิดไม่ถึงว่าขนาดอ้างชื่อหลินหย่งออกไปแล้ว แต่ชายคนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอม เขามักจะใช้มุกนี้ และมันก็ได้ผลดีมากมาตลอด"งั้นนายก็ลองเรียกหลินหย่งมาดูสิ ดูว่าเขาจะกล้าให้ฉันขอโทษไหม?" หานซานเฉียนกล่าวมีความตื่นตระห
“ฉันจะหนีไปได้ยังไง? แกอย่ามาหลอกให้ฉันกลัวหน่อยเลย” ชายคนนั้นแสร้งทำเป็นสงบ ถ้าเขาวิ่งหนี ในอนาคตจะมีใครนับถือเขาอีก?"กล้าหาญไม่น้อย แต่ถ้านายคิดว่าฉันกำลังโม้ล่ะก็ นายคิดผิดมหันต์" หานซานเฉียนพูด จากนั้นก็เดินไปซื้อน้ำเต้าหู้และปลาท่องโก๋กินเมื่อดูอย่างผิวเผิน ท่าทีที่สงบและมั่นใจของหานซานเฉียนทำให้ผู้ชมเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ท่าทางของชายคนนั้นดูวิตกย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของเขาสั่นเทา และดูเหมือนว่าจะเริ่มกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆเดิมทีคนที่ซื้ออาหารเช้าล้วนเป็นพนักงานออฟฟิศ หลังจากซื้อน้ำเต้าหู้และปลาท่องโก๋เสร็จแล้ว พวกเขาก็ควรที่จะรีบไปบริษัท แต่ตอนนี้ไม่มีใครยอมไปไหน พวกเขาต่างต้องการรอดูผลสุดท้ายของเรื่องนี้วันนี้ฉีหลานมาสายเล็กน้อย เมื่อเธอมาถึง หานซานเฉียนก็กำลังดื่มน้ำเต้าหู้และกินปลาท่องโก๋อยู่แล้ว เธอไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่บรรยากาศในที่เกิดเหตุทำให้เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อย เมื่อเดินไปหาหานซานเฉียนฉีหลานก็ถามขึ้น "คนนั้นตามมาหาเรื่องพี่เหรอคะ?"“ใช่ แต่ไม่สำเร็จ” หานซานเฉียนพูดเสียงนิ่ง ฉีหลานชำเลืองมองชายร่างใหญ่สักลายที่แขน และถามเบา ๆ ว่า "ไม่ส
"หลินหย่ง หลินหย่งมาที่นี่จริง ๆ ด้วย!"“ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ เขาเรียกหลินหย่งมาได้จริง ๆ!”"ไม่คิดเลยว่าคนที่ซื้ออาหารเช้ากับฉันทุกวันจะเป็นคนใหญ่คนโต"ตอนนี้สายตาของผู้คนจับจ้องไปที่หานซานเฉียนด้วยสีหน้าตกตะลึง และไม่อยากจะเชื่อแม้ว่าแต่ละคนจะมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป แต่ทุกคนต่างก็ตกใจจนถึงขีดสุดเหมือนกันบางคนที่ตอนแรกไม่เชื่อหานซานเฉียน ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่าสายตาของตัวเองแย่แค่ไหน และเข้าใจความแตกต่างระหว่างพวกเขากับหานซานเฉียนแล้วเช่นกันหลินหย่งวิ่งเหงื่อแตกไปหาหานซานเฉียน และรีบตะโกนพร้อมแสดงความเคารพทันที "พี่ซานเฉียน"เมื่อฝูงชนเห็นท่าทางของหลินหย่งก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง เพราะท่าทางแบบนี้แสดงว่าไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา สถานะของหานซานเฉียนสูงกว่าหลินหย่งอย่างเห็นได้ชัด!“ฉันขนลุกไปหมดแล้ว สรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่? แม้แต่หลินหย่งก็ยังต้องก้มหัวให้!”“กลายเป็นว่าไอ้คนนั้นต่างหากที่โม้ รีบดูหน้าเขาสิ น่าบิดเบี้ยวอย่างกับกินอุจจาระ”"คนขี้โม้เจอคนเก่งจริง ๆ เข้านี่แหละหนาคือความต่าง" ชายคนนั้นรู้สึกสิ้นหวัง เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าคำโกหกของเขาจะถูกเปิดโปงภายใต้สถานก
“ไม่ ไม่ครับ พี่หย่ง ผมกับเขาเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น” ชายร่างใหญ่รีบสีส่ายหัวรัว ๆท่าทีของคนอื่นก็ไม่ต่างจากชายร่างใหญ่ ไม่มีใครกล้ายอมรับว่าตนเองเป็นพวกเดียวกับชายคนนั้นเลยสักคน“พาตัวมันตามฉันมา” หลินหย่งสั่งชายร่างใหญ่เดินไปหาชายคนนั้นโดยไม่ลังเล และจับแขนเขาไว้เขาพยายามดิ้นหนี แต่ชายร่างใหญ่ก็ไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปได้ เขาทุบตีชายคนนั้นอย่างแรงจนเขาไม่มีแรงขัดขืน “พี่ซานเฉียน ผมขอตัวก่อนนะครับ” หลินหย่งพูดกับหานซานเฉียนเมื่อได้ยินคำว่าพี่ซานเฉียนในระยะใกล้ ชายร่างใหญ่และคนอื่น ๆ ก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น แม้แต่หลินหย่งยังเรียกเขาว่าพี่ ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะมีสถานะเทียบเท่ากับม่อหยางตอนนั้นเอง ชายร่างใหญ่ก็ตระหนักได้ว่าความคิดเรื่องการแก้แค้นของเขานั้นโง่เขลาแค่ไหน เขาควรที่จะหายไปจากหน้าหานซานเฉียนตลอดกาล โชคดีที่วันนี้มีแพะรับบาปแทนเขา ไม่เช่นนั้นเดาไม่ออกเลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรหลังจากที่หลินหย่งพาคนพวกนั้นออกไปแล้ว ร้านอาหารเช้าก็กลับเข้าสู่ความสงบตามปกติ และฝูงชนก็ค่อย ๆ พากันแยกย้ายหลังจากที่หานซานเฉียนกินในส่วนของตัวเองเสร็จ เขาก็กลับไปที่ร้านเพื
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ