คำอธิบายของฉี๋อีหยุน ทำให้หานซานเฉียนรู้จักหานเหยียนอย่างลึกซึ้ง ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายแบบนั้นจริง เขาจะต้องระมัดระวังในการจัดการเธอมากยิ่งขึ้นแม้ว่าตอนนี้หานเหยียนจะแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง และยังไม่ได้ลงมือจัดการกับตระกูลซู แต่เมื่อไหร่ที่เธอหมดหนทาง ตระกูลซูก็จะกลายเป็นเครื่องมือแบล็กเมลของเธออย่างแน่นอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้แต่น้องชายแท้ ๆ เธอก็ยังหลอกใช้ได้ แล้วจะมีอะไรที่เธอทำไม่ได้อีก?"ดูเหมือนว่าตอนนี้หยิงเซี่ยจะไม่ปลอดภัย" หานซานเฉียนกล่าวที่ฉี๋อีหยุนพูดทั้งหมดนี้ เพราะต้องการให้เขาระมัดระวังมากขึ้น แต่สิ่งที่เขากังวลคือซูหยิงเซี่ย ฉี๋อีหยุนได้แต่ถอนหายใจในใจ เธอรู้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่และที่ไหน บุคคลที่สำคัญที่สุดในใจของหานซานเฉียนก็คือ ซูหยิงเซี่ย“มันคงดีไม่น้อยถ้าคุณสนใจฉันแบบนี้บ้าง” ฉี๋อีหยุนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง“รีบกินเถอะ ผมไปก่อนนะ” หลังจากที่หานซานเฉียนพูดจบ เขาก็หันหลังและเดินออกจากบ้านไปณ โรงแรมเพนนินซูล่า หานเหยียนกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสง่างามด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น โดยไม่มีผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง ท่านอนของเธอนั้นสวยงามซึ่งแตกต่างจากหลายคนที่ให้ความสำ
“ฉันไม่เคยบอกว่าต้องการแต่งงาน” หานเหยียนกล่าว“พี่ พี่คือเจ้าหญิงแห่งตระกูลหานของพวกเรา ถ้าพี่ไม่แต่งงาน ก็ต้องถูกคนอื่นหัวเราะเอาได้ไม่ใช่รึไง? พี่ไม่กลัวว่าคนอื่นเค้าจะพูดลับหลังว่าร่างกายของพี่มีความผิดปกติเหรอ?” หานเฟิงหัวเราะหานเหยียนหายใจเข้าลึก เธอรู้สึกว่าวันนี้หานเฟิงในวันนี้แตกต่างไปจากในอดีตมาก และทำให้เธอรู้สึกแปลก ราวกับว่าเขาไม่ใช่น้องชายที่เธอรู้จักอะไรที่ทำให้เขามีความคิดที่เปลี่ยนไปอย่างนี้?"คำพูดพวกนี้ คงไม่ใช่ฉี๋อีหยุนสอนนายหรอกใช่ไหม?" หานเหยียนถาม"เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนนึง มีคุณสมบัติอะไรมาสอนผม ถึงผมจะชอบเธอมาก แต่เธอก็เป็นแค่ของเล่นที่ระดับสูงกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ เล็กน้อยเท่านั้น" หานเฟิงพูดนิ่ง ๆถ้าไม่ใช่ฉี๋อีหยุนแล้วมีเหตุผลอะไรอีก? หานเหยียนคิดไม่ออก แต่ถ้าเธอรู้ว่าอะไรที่ทำให้หานเฟิงเปลี่ยนไป เธอจะทำให้คนที่ก่อเหตุนี้หายไปจากโลกอย่างแน่นอน"พี่ เรื่องที่จะจัดการกับหานซานเฉียน ยกให้เป็นหน้าที่ผมแล้วกัน ผมมาเพื่อบอกพี่เรื่องนี้ แล้วเดี๋ยวผมจะแจ้งกับพ่อเอง ผมเชื่อว่าเขาจะต้องเต็มใจให้โอกาสผมฝึกฝนในครั้งนี้ พี่ก็ใช้โอกาสนี้ดูแลผิวพรรณตัวเองให้ดีแล้วกัน
ในช่วงที่หานเฟิงหยุดพูด ตี้หยางไม่ได้ตอบอะไร แต่เลือกที่จะฟังอย่างเงียบ ๆ“ทางแรก ช่วยพี่สาวของผมต่อไป แต่หลังจากที่ผมได้เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว คุณก็อย่าได้คิดว่าจะได้พักผ่อนในยามแก่ยามเฒ่าในตระกูลหาน”“ทางที่สอง มาช่วยผมซะ แล้วผมจะรับประกันว่าคุณจะอยู่ไร้กังวลในวัยชรา”ตี้หยางก้มหัว ในใจเขาชอบหานเหยียนมากกว่า เพราะทุกคนในตระกูลหานรู้ดีว่าหานเหยียนมีความสามารถมากกว่าหานเฟิงแต่ตี้หยางก็รู้ดีเช่นกันว่า เมื่อใดก็ตามที่หานเฟิงต้องการสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล เขาก็จะมีข้อได้เปรียบตั้งแต่กำเนิดที่หานเหยียนไม่สามารถเทียบได้หานเหยียนต้องใช้ความพยายามเป็นร้อยเท่าหากต้องการสืบทอดตำแหน่งผู้นำ แต่เขาใช้ความพยายามเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเมื่อมองจากจุดนี้ อัตราการชนะของหานเฟิงนั้นสูงกว่ามาก"ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณไม่ได้แค่จะเล่น ๆ" ตี้หยางถามหานเฟิงไม่แปลกใจกับคำถามนี้ คนส่วนใหญ่ในตระกูลหานอาจคิดเช่นนั้น แต่ตอนนี้เขาคิดดีแล้ว และรู้ว่าตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวมีความสำคัญเพียงใด และที่หานเหยียนตามใจเขามานานหลายปีก็ไม่ใช่เพราะหวังดีต่อเขาจริง ๆ เธอก็แค่ไม่ต้องการให้เขาเป็นภัยคุกคามในการสืบ
หยางซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่ซานเฉียน พวกเขาโชคดีจริง ๆ ที่ได้พบคนแบบพี่ ถ้าเป็นนักพัฒนาคนอื่น ไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีสกปรกแบบไหนบ้าง"หานซานเฉียนไม่ใช่คนใจดี เขาแค่ไม่อยากสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นก็เท่านั้น เพราะสังคมสมัยนี้การแพร่กระจายข่าวนั้นรวดเร็วมาก หากปัญหาลามไปถึงบนโลกออนไลน์ สถานการณ์จะร้ายแรงขึ้นได้อย่างง่ายดายจุดประสงค์ของหานซานเฉียนในการพัฒนาหมู่บ้านเฉิงจงคือ การเพิ่มอิทธิพลให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวในหยุนเฉิง หากมีข่าวเชิงลบหลุดออกไป เรื่องนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย ตอนนั้นเองลูกน้องของหยางซิ่งก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องสีหน้าของหยางซิ่งแข็งทื่อก่อนจะรีบดุลูกน้องตัวเอง "แกไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังคุยธุระกับพี่ซานเฉียนอยู่ รีบออกไปซะ ทะเล่อทะล่าเข้ามา ไม่มีสมองรึยังไง?"ลูกน้องคนนั้นรู้ตัวอยู่แล้วว่าจะถูกดุ แต่เขาต้องรีบรายงานเรื่องนี้โดยด่วน "พี่ซานเฉียน มีคนต้องการพบพี่ครับ แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากด้วยครับ"หยางซิ่งแอบชำเลืองมองหานซานเฉียน ที่แท้ก็เป็นเรื่องของเหล่าดอกไม้ของหานซานเฉียนนี่เอง เรื่องนี้เขาไม่สามารถออกความเห็นได้หานซานเฉียนขมวดคิ้ว ผู้หญิงสวยอย่างงั้นเหรอ
"อ๊ะ!" หยางซิ่งเหลือบมองหานซานเฉียนด้วยความตกใจ ก่อนจะตระหนักขึ้นมาได้และรีบตะเกียกตะกายออกไปทันที พร้อมทั้งบอกลูกน้องของเขาให้ปิดประตูเมื่อออกมานอกประตู หยางซิ่งก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นและพูดอย่างมีความสุข "ให้ตายเถอะ ฉันเกือบจะหลงใหลจนเสียสติไปแล้ว ถ้าไปขัดขวางเรื่องดี ๆ ของพี่ซานเฉียนล่ะก็ สิบชีวิตของฉันก็คงชดใช้ไม่พอแน่ ๆ"หลังจากที่คิดไปคิดมา หยางซิ่งก็พูดด้วยความอิจฉาอีกครั้ง "วาสนาทางความรักของพี่ซานเฉียนนั้นดีจริง ๆ ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยที่สุดในหยุนเฉิง และตอนนี้ก็มีสาวงามขนาดนี้มาหาเขาถึงประตู"ขณะที่พูดไป หยางซิ่งก็เริ่มกังวลอีกครั้ง สภาพแวดล้อมในบ้านของเขาสกปรกเละเทะมาก ไม่รู้ว่าจะให้ประสบการณ์ที่ดีกับพี่ซานเฉียนได้หรือไม่ หากสภาพแวดล้อมทำให้เขาเสียอารมณ์ เขาต้องตายแน่ “ให้ตายเถอะ คราวหน้าฉันต้องทำความสะอาดบ้านให้สะอาดเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแบบนี้อีก”หยางซิ่งคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ เขาคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมดแต่สถานการณ์ในห้องกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลยถึงหานเหยียนจะสวย แต่เธอก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหานซานเฉียน และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่
“หมอจีนอะไร ทำไมต้องแนะนำหมอให้ฉัน?” หานซานเฉียนถามอย่างงงงวยหยางซิ่งยิ้มและพูดว่า "พี่ซานเฉียน พี่ไม่ต้องอายหรอกครับ ทุกคนเป็นผู้ชาย และต่างก็เข้าใจความทุกข์หากเวลาสั้นเกินไป อันที่จริงเรื่องนี้ก็โทษพี่ไม่ได้ ผู้หญิงสวยแบบนั้นมันก็คงจะควบคุมไม่ได้เป็นธรรมดา”หานซานเฉียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นหยางซิ่งก็ร้องโอดครวญเพราะถูกทุบตี“พี่ซานเฉียน พี่ตีผมทำไม ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า?” หยางซิ่งพูดพร้อมกับเอามือกุมศีรษะด้วยความเสียใจหานซานเฉียนโกรธมากจนอยากจะฆ่าใครสักคน แต่การทุบหยางซิ่งนั้นถือว่าเบามากแล้ว“เธอคือหานเหยียน นายยังคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเธออยู่ไหม?” หานซานเฉียนพูดอย่างโกรธเคืองหยางซิ่งตกใจ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า สมควรแล้วที่ถูกทุบตี“พี่ซานเฉียน ผมคิดผิดไปไกลเลย ขอโทษครับพี่” หยางซิ่งกล่าวหานซานเฉียนจ้องมาที่เขา ทำให้หยางซิ่งกลัวมากจนรีบวิ่งหนีออกไปหลังจากออกจากหมู่บ้านเฉิงจง หานซานเฉียนก็กลับบ้านฉี๋อีหยุนที่เตรียมใจว่าจะไม่ได้เจอหานซานเฉียนเป็นเวลาสองสามวัน รู้สึกประหลาดใจมากที่เขากลับมาอย่างกะทันหัน“ทำไมคุณกลับมาเร็วจัง มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่
"คุณไม่เคยได้ยินคำว่าจิตใจผู้หญิงก็เหมือนงูพิษเหรอ?" ฉี๋อีหยุนไม่ได้ซ่อนด้านที่ชั่วร้ายของเธอ ในทางกลับกันเธออยากจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอต่อหน้าหานซานเฉียนให้มากที่สุด เพื่อที่หานซานเฉียนจะได้รู้จักตัวตนของเธอจริง ๆถึงการเสแสร้งจะให้ถูกใจผู้คนมากกว่า แต่ฉี๋อีหยุนคิดว่าเมื่อการเสแสร้งถูกเปิดโปงมันจะยิ่งน่าขยะแขยงมากกว่าทุกสิ่งที่ฉี๋อีหยุนทำ เธอได้คิดในมุมของหานซานเฉียนแล้ว และดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของเธอไปแล้ว“หานเหยียนไม่ได้โง่ขนาดที่จะปล่อยจุดอ่อนไว้ในมือของผม” หานซานเฉียนพูด"ถ้าไม่สุดหนทางจริง ๆ เธอก็คงไม่ทำแบบนั้นแน่ แต่คุณสามารถบีบเธอไปสู่ทางตันได้ ฉันเชื่อว่าความไม่พอใจของเธอจะทำให้เธอสามารถทำเรื่องบ้า ๆ ได้ทุกอย่าง" ฉี๋อีหยุนกล่าวสุดหนทาง?ระดับไหนถึงจะเรียกว่าสุดหนทางกันล่ะ จุดนี้มันไม่มีความชัดเจน และเขาทำได้เพียงค่อย ๆ มองหาด้วยตัวเอง"ตอบแทนคำแนะนำของคุณ วันนี้ผมจะเลี้ยงข้าวคุณ เป็นไง?" หานซานเฉียนกล่าว"ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน" ฉี๋อีหยุนลุกขึ้นจากโซฟาโดยไม่ลังเล เธอไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงมื้ออาหารธร
“หน้าตาสวยแล้วยังไงล่ะ อยู่กับขยะอย่างเขา ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็กลายเป็นหญิงแก่หน้าเหลืองอยู่ดี” มี่เฟยเอ๋อร์พูดอย่างเหยียดหยาม"พี่เฟยเอ๋อร์ พี่ไม่รู้ว่าพี่หาน..." พูดถึงตรงนี้ หยางเหมิงก็ปิดปากของตัวเองทันที เธอเกือบจะโพล่งตัวตนที่แท้จริงของหานซานเฉียนออกมาซะแล้ว“รู้อะไร?” มี่เฟยเอ๋อร์ถามอย่างงุนงง"ไม่...ไม่มีอะไร" หยางเหมิงรีบปกปิดความตื่นตระหนกและพูดว่า "พี่เฟยเอ๋อร์ รีบกลับบ้านกันเถอะ ฉันต้องทำอาหารอีก ฉันหิวจนท้องร้องแล้ว"มี่เฟยเอ๋อร์ก้าวไปขวางหน้าหยางเหมิงและพูดว่า "เด็กน้อย ตอนนี้เธอกำลังปกปิดฉันอย่างงั้นเหรอ"หยางเหมิงก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้ามองหน้ามี่เฟยเอ๋อร์ เพราะหากยังไม่ได้รับการอนุญาติจากหานซานเฉียน เธอก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาแก่มี่เฟยเอ๋อร์“พี่เฟยเอ๋อร์ ฉันไม่มีอะไรปกปิดพี่จริง ๆ” หยางเหมิงกล่าวมี่เฟยเอ๋อร์กัดฟัน เธอแน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหานซานเฉียน และไมรู้ว่าไอ้ขยะนั่นได้ล้างสมองอะไรหยางเหมิงอีก“ก็ได้ ฉันจะไม่บังคับเธอ รอเขากลับมา ฉันค่อยไปถามเขาเอาเอง ถ้าเขากล้าโกหกเธอ หรือว่าทำร้ายเธอล่ะก็ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่” มี่เฟยเอ๋อ