หานเหยียนดูลังเลเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน หานเหยียนก็พูดว่า "ถึงคราวที่เธอต้องตาย มันก็สมควรที่จะตาย" ตี้หยางหยุดพูด เขารู้ว่าหานเหยียนมีแผน และแผนนี้ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับหานซานเฉียน ในกรณีนี้ตี้หยางไม่จำเป็นต้องถามคำถามเพิ่มเติม ก่อนที่เธอจะตัดสินใจ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นในคลับเมจิกซิตี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น ทุกคนที่เข้าไปในสถานที่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาตให้นำสิ่งที่อาจกลายเป็นอาวุธกระทบกระทั่งเข้ามาในบริเวณข้างในได้ ในขณะเดียวกัน หานซานเฉียนยังได้เตรียมการสำหรับการคุ้มครองของซูหยิงเซี่ยอีกด้วย จิตใจของผู้หญิงจะชั่วร้ายเพียงใด หานซานเฉียนไม่รู้ แต่เนื่องจากหานชิงสามารถทำอะไรบางอย่างกับคลับเมจิกซิตี้ได้ หานซานเฉียนจึงต้องระแวดระวังภัยคุกคามของเธอที่มีต่อซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนไม่เคยต้องการให้ซูหยิงเซี่ยได้รับอันตรายใด ๆ จากเรื่องนี้ ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด แม้ว่าหานชิงจะไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับซูหยิงเซี่ย แต่หานซานเฉียนก็เสียกำลังคนไปเพียงสองคน สำหรับเขา มันไม่ส
ม่อหยางผู้มีความรู้สึกผิดอยู่ในใจ กลับซ่อนความรู้สึกผิดไว้ลึก ๆ เมื่อเขาคิดว่าสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของตี้หยางโดยใช้ฉีฮู่ “โรงแรมเพนนินซูล่า แต่ถ้าไม่คิดว่าป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่ต้องไป...” ก่อนที่ม่อหยางพูดจบ ฉีฮู่ก็ขัดจังหวะ "ให้คนพาฉันไปที่นั่น ฉันไม่รู้ทาง" "ลองคิดดูให้ดี ถ้านายตายที่โรงแรมเพนนินซูลา จะไม่มีใครไปเก็บศพให้นาย" ม่อหยางกล่าว ฉีฮู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม เขาไม่คิดว่าโลกนี้เต็มไปด้วยปรมาจารย์ ชายชราที่เขาพบครั้งล่าสุดควรเป็นปรมาจารย์ที่หายากและยิ่งใหญ่ และเขาคงจะไม่โชคร้านที่จะได้พบกับคนแบบนั้นหรอก "ไม่ต้องกังวล ฉันสามารถฆ่าคนได้หลายคนด้วยหมัดเดียว มีคนไม่มากนักหรอกโลกนี้ที่สามารถฆ่าฉันได้" ฉีฮู่กล่าวด้วยความมั่นใจ "ตกลง" ม่อหยางพูดแล้วเรียกลูกน้องพาฉีฮู่ไปที่โรงแรมเพนนินซูลา หลังจากฉีฮู่จากไป ม่อหยางก็หายใจเข้าลึก เขารู้ว่าหานซานเฉียนจะตำหนิเขา แต่ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้ ม่อหยางจะไม่มีทางรู้ว่าตี้หยางจะคุกคามหานซานเฉียนได้มากเพียงใด อย่างไรก็ตาม เขายังคงหวังว่าฉีฮู่จะสามารถเอาชนะตี้หยางได้ เพื่อให้หานซานเฉียนมีอิสระมากขึ้นในการแข่งขันทางการตลาดกับหานกรุ๊ป ในหมู่บ้า
เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันที่หานซานเฉียนมีต่อเขา ม่อหยางรู้สึกว่าเหงื่อเย็น ๆ ไหลหยดลงตามหลังของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขายืนอยู่คนละฝั่งกับหานซานเฉียน "ซานเฉียน เขาไปที่โรงแรมเพนนินซูลา" ม่อหยางทนแรงกดดันที่หานซานเฉียนที่มีต่อเขาไม่ได้ เขาจึงต้องพูดความจริงออกมาเท่านั้น เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานซานเฉียนก็กัดฟันทันที ฉีฮู่คงไม่ไปที่โรงแรมเพนนินซูลาได้โดยไม่มีเหตุผล เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงแรมเพนนินซูลาอยู่ที่ไหน เห็นได้ชัดว่าม่อหยางเป็นคนบงการเรื่องนี้! "ม่อหยาง ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าฉีฮู่จะมีประโยชน์มากขึ้นในอนาคต ปล่อยให้เขาไปเสี่ยงในเวลานี้ได้อย่างไร" หานซานเฉียนพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ถ้านายไม่รู้ความแข็งแกร่งของตี้หยาง ทุกสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการเสี่ยง”ม่อหยางกล่าว “ถ้านายขอให้ฉีฮู่ไปเพื่อทดสอบ มันก็เหมือนกับผลักฉันลงไปในหลุมไฟไม่ใช่เหรอ?” หานซานเชียนดุอย่างโกรธเกรี้ยว "ถ้าเขาไม่อาจต่อสู้กับตี้หยางได้ ฉันจะหาทางพานายออกจากหยุนเฉิง ฉันจะรับผลที่ตามมาทั้งหมดเอง ตราบใดที่นายยังมีชีวิตอยู่ นายจะสามารถช่วยล้างแค้นให้ฉันได้ เมื่อนายยังมีชีวิตอยู่เท
คำพูดของหลินหย่งทำให้ม่อหยางทรุดลงบนพื้น เขาจัดเตรียมการทั้งหมดอย่างละเอียด แต่เขามองข้ามไปอีกจุดหนึ่งนั่นคือตัวหานซานเฉียนเอง ถ้าหากว่าเขาถูกส่งออกไปจากหยุนเฉิง แล้วเขาจะไม่กลับมาอีกงั้นเหรอ? ดังที่หลินหย่งพูด หานซานเฉียนจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไร! ม่อหยางยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดก็ได้รู้ว่าการรับมือของเขานั้นงี่เง่าเพียงใด ความตั้งใจทั้งหมดของเขานั้นก็ไร้ความหมายทันทีเมื่อเผชิญกับความต้องการของหานซานเฉียน ไม่ว่าโอกาสจะมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของหานซานเฉียนได้ “ตราบเท่าชีวิตนี้ การมีพี่น้องแบบนี้ น่าจะเป็นของขวัญจากพระเจ้า” ม่อหยางพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หลินหย่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูจากท่าทางของม่อหยางแล้ว เขาคงไม่ออกไป ซึ่งหมายถึงว่าชีวิตของเขาเองก็คงจะรอดแล้ว "พี่ใหญ่ม่อ คุณควรวางใจพี่ซานเฉียน เขาจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน" หลินหย่งกล่าว ม่อหยางพยักหน้าละไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่หานซานเฉียนมาถึงโรงแรมแพนินซูลา เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามที่หน้าประตู หากไม่มีคำสั่งของหานเหยียน คนเหล่านี้จะไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้าไป สถ
เธอไม่กลัวคำขู่ของหานซานเฉียน แต่หากหานเหยียนรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก "ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงอะไร" หานชิงพูด ในขณะที่ซ่อนสีหน้าที่ลุกลี้ลุกลนของเธอไว้ "ไม่กล้าบอกให้หานเหยียนรู้เหรอ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกเธอ เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริง ๆ" หานซานเฉียนยิ้มเยาะ หานชิงกัดฟันอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอออกจากห้องมาเพื่อเหยียดหยามหานซานเฉียนด้วยท่าทีที่เหนือกว่า แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายที่ถูกเหยียดหยามเสียเอง ซึ่งมันทำให้เธอรับไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะระรานหานซานเฉียน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงกังวลว่าหานซานเฉียนจะบอกหานซานเฉียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หานชิงจับจ้องที่หลังของหานซานเฉียน พลางคิดในใจ เมื่อใดที่ซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในมือฉัน มาดูกันว่าแกจะยังหยิ่งยโสอยู่อีกหรือเปล่า เมื่อเดินเข้าไปในห้อง หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก เมื่อเขาเห็นฉีฮู่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของตี้หยาง และแน่นอนว่าแม้แต่ฉีฮู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตี้หยาง "หานเหยียน พี่น้องของได้ผมก้าวก่ายมาโดยพละการ เขาชอบที่จะแข่งขันกับเหล่าปรมาจารย์ นั่นคือเหตุผลที่เขามาท้าทายตี้หยาง ในเมื่อเขาแพ้แล้ว คุณปล่อย
เมื่อตี้หยางเดินไปถึงด้านหน้าของหานซานเฉียนแล้ว หานซานเฉียนซึ่งประหม่าอยู่นั้นก็เกิดภาพลวงตาขึ้น ตี้หยางเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายลมฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายและลดความระมัดระวังโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นหานซานเฉียนไม่ทันได้เห็นการเคลื่อนไหวของตี้หยาง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกกระแทกเข้าอย่างแรง และร่างกายของเขาก็เสียการทรงตัวไปในทันที ขาของเขาลอยอยู่เหนือพื้น ก่อนที่ตัวจะลอยออกไป จนกระทั่งกระแทกเข้ากับกำแพงถึงได้หยุดลง ความเจ็บปวด ความตกใจ ความเหลือเชื่อ และอารมณ์ต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาในใจของหานซานเฉียนแม้ว่าเขาจะเดาได้ว่าตี้หยางนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เขาแทบจะมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทัน ถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะใช้ความระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงลูกเตะนี้ได้เลย ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทำไมถึงได้ปรากฏอยู่บนตัวของชายชราคนนี้ได้หานซานเฉียนหมอบอยู่กับพื้น หน้าอกของเขารู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชน มันทั้งร้อนและเจ็บปวด หานเหยียนมองดูฉากนี้ด้วยรอยยิ้ม และพูดกับหานซานเฉียนว่า "ฉันลืมบอกไป ถ้า
"จะตายแล้วก็ยังปากแข็ง คนอย่างนายไม่มีทักษะอะไรเลย แต่กลับมีนิสัยดื้อรั้น หรือนี่จะเป็นความหยิ่งในศักดิ์ศรีของนายอย่างงั้นเหรอ?" หานเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม"ไม่นึกเลยว่าพื้นของโรงแรมจะนอนสบายขนาดนี้ หลังจากที่คุณออกจากหยุนเฉิงไปแล้ว ผมก็จะจองโรงแรมนี้และสนุกกับมันสักหน่อย" หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนตะคอกอย่างเย็นชา "อีกไม่นานหยุนเฉิงก็จะกลายเป็นพื้นที่ของฉัน นายมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันออกไปจากหยุนเฉิง ดูสิว่าตอนนี้นายน่าสมเพชแค่ไหน ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน"หานซานเฉียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกผ่อนคลายได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงรอยยิ้มจาง ๆ แต่ก็ทำให้ความเจ็บปวดในหน้าอกของเขานั้นรุนแรงขึ้น"หานเหยียน คุณไม่ได้พึ่งพาอำนาจทางการเงินของตระกูลหานในอเมริกาเหรอไง? นอกจากนี้ คุณมีอะไรอีกบ้าง คุณกล้าใช้ความสามารถของตัวเองในการต่อสู้ไหมล่ะ?" หานซานเฉียนกล่าว"ท้าฉันเหรอ?" หานเหยียนเหยียบหัวของหานซานเฉียนและพูดว่า "กลอุบายของนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ ฉันมีเงินทุนตั้งมายมาย ทำไมจะใช้ไม่ได้ แล้วจะต้องมาต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับนาย? คนอ่อนแออย่างนาย นึกว่าคนที่
ผลจากการโจมตีของตี้หยาง ร่างของหานซานเฉียนทะยานขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง และกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังจะสั่นสะเทือน และมีรอยแตกหลายจุดปรากฏขึ้นบนผนังหานซานเฉียนอาเจียนเป็นเลือดและล้มลงบนพื้นอย่างแรง โดยไม่มีวี่แววว่าจะขยับฉีฮู่จุกไปถึงลำคอ แม้ว่าหานเหยียนจะบอกว่าเธอจะไม่ฆ่าหานซานเฉียน แต่เขาไม่แน่ใจว่าตี้หยางสามารถควบคุมพละกำลังของตนเพื่อป้องกันไม่ให้หานซานเฉียนตายได้หรือไม่ แล้วอีกอย่าง หานซานเฉียนก็จงใจยั่วยุเขาไปด้วยเมื่อครู่นี้ในกรณีที่ตี้หยางไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้ภายในกระบวนท่าเดียว“พี่ซานเฉียน” ฉีฮู่ตะโกนอย่างกระวนกระวายขณะที่ฉีฮู่กำลังลนลาน ในทางกลับกันหานเหยียนนั้นดูเฉยเมย เธอเคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าตี้หยางสามารถแยกแยะได้ หากเขาพูดว่าจะไม่ปล่อยให้หานซานเฉียนตาย นั่นก็แสดงว่าเขาจะไม่ทำให้หานซานเฉียนตายแม้ว่าตอนนี้เขาจะขยับไม่ได้ แต่อย่างมากเขาก็คงแค่สลบไปเท่านั้น"ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยนายไม่ได้ น่าเสียดายจริง ๆ" หานเหยียนกล่าวกับฉีฮู่ด้วยรอยยิ้มดวงตาของฉีฮ