เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันที่หานซานเฉียนมีต่อเขา ม่อหยางรู้สึกว่าเหงื่อเย็น ๆ ไหลหยดลงตามหลังของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขายืนอยู่คนละฝั่งกับหานซานเฉียน "ซานเฉียน เขาไปที่โรงแรมเพนนินซูลา" ม่อหยางทนแรงกดดันที่หานซานเฉียนที่มีต่อเขาไม่ได้ เขาจึงต้องพูดความจริงออกมาเท่านั้น เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานซานเฉียนก็กัดฟันทันที ฉีฮู่คงไม่ไปที่โรงแรมเพนนินซูลาได้โดยไม่มีเหตุผล เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงแรมเพนนินซูลาอยู่ที่ไหน เห็นได้ชัดว่าม่อหยางเป็นคนบงการเรื่องนี้! "ม่อหยาง ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าฉีฮู่จะมีประโยชน์มากขึ้นในอนาคต ปล่อยให้เขาไปเสี่ยงในเวลานี้ได้อย่างไร" หานซานเฉียนพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ถ้านายไม่รู้ความแข็งแกร่งของตี้หยาง ทุกสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการเสี่ยง”ม่อหยางกล่าว “ถ้านายขอให้ฉีฮู่ไปเพื่อทดสอบ มันก็เหมือนกับผลักฉันลงไปในหลุมไฟไม่ใช่เหรอ?” หานซานเชียนดุอย่างโกรธเกรี้ยว "ถ้าเขาไม่อาจต่อสู้กับตี้หยางได้ ฉันจะหาทางพานายออกจากหยุนเฉิง ฉันจะรับผลที่ตามมาทั้งหมดเอง ตราบใดที่นายยังมีชีวิตอยู่ นายจะสามารถช่วยล้างแค้นให้ฉันได้ เมื่อนายยังมีชีวิตอยู่เท
คำพูดของหลินหย่งทำให้ม่อหยางทรุดลงบนพื้น เขาจัดเตรียมการทั้งหมดอย่างละเอียด แต่เขามองข้ามไปอีกจุดหนึ่งนั่นคือตัวหานซานเฉียนเอง ถ้าหากว่าเขาถูกส่งออกไปจากหยุนเฉิง แล้วเขาจะไม่กลับมาอีกงั้นเหรอ? ดังที่หลินหย่งพูด หานซานเฉียนจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไร! ม่อหยางยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดก็ได้รู้ว่าการรับมือของเขานั้นงี่เง่าเพียงใด ความตั้งใจทั้งหมดของเขานั้นก็ไร้ความหมายทันทีเมื่อเผชิญกับความต้องการของหานซานเฉียน ไม่ว่าโอกาสจะมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของหานซานเฉียนได้ “ตราบเท่าชีวิตนี้ การมีพี่น้องแบบนี้ น่าจะเป็นของขวัญจากพระเจ้า” ม่อหยางพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หลินหย่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูจากท่าทางของม่อหยางแล้ว เขาคงไม่ออกไป ซึ่งหมายถึงว่าชีวิตของเขาเองก็คงจะรอดแล้ว "พี่ใหญ่ม่อ คุณควรวางใจพี่ซานเฉียน เขาจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน" หลินหย่งกล่าว ม่อหยางพยักหน้าละไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่หานซานเฉียนมาถึงโรงแรมแพนินซูลา เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามที่หน้าประตู หากไม่มีคำสั่งของหานเหยียน คนเหล่านี้จะไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้าไป สถ
เธอไม่กลัวคำขู่ของหานซานเฉียน แต่หากหานเหยียนรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก "ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงอะไร" หานชิงพูด ในขณะที่ซ่อนสีหน้าที่ลุกลี้ลุกลนของเธอไว้ "ไม่กล้าบอกให้หานเหยียนรู้เหรอ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกเธอ เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริง ๆ" หานซานเฉียนยิ้มเยาะ หานชิงกัดฟันอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอออกจากห้องมาเพื่อเหยียดหยามหานซานเฉียนด้วยท่าทีที่เหนือกว่า แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายที่ถูกเหยียดหยามเสียเอง ซึ่งมันทำให้เธอรับไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะระรานหานซานเฉียน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงกังวลว่าหานซานเฉียนจะบอกหานซานเฉียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หานชิงจับจ้องที่หลังของหานซานเฉียน พลางคิดในใจ เมื่อใดที่ซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในมือฉัน มาดูกันว่าแกจะยังหยิ่งยโสอยู่อีกหรือเปล่า เมื่อเดินเข้าไปในห้อง หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก เมื่อเขาเห็นฉีฮู่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของตี้หยาง และแน่นอนว่าแม้แต่ฉีฮู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตี้หยาง "หานเหยียน พี่น้องของได้ผมก้าวก่ายมาโดยพละการ เขาชอบที่จะแข่งขันกับเหล่าปรมาจารย์ นั่นคือเหตุผลที่เขามาท้าทายตี้หยาง ในเมื่อเขาแพ้แล้ว คุณปล่อย
เมื่อตี้หยางเดินไปถึงด้านหน้าของหานซานเฉียนแล้ว หานซานเฉียนซึ่งประหม่าอยู่นั้นก็เกิดภาพลวงตาขึ้น ตี้หยางเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายลมฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายและลดความระมัดระวังโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นหานซานเฉียนไม่ทันได้เห็นการเคลื่อนไหวของตี้หยาง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกกระแทกเข้าอย่างแรง และร่างกายของเขาก็เสียการทรงตัวไปในทันที ขาของเขาลอยอยู่เหนือพื้น ก่อนที่ตัวจะลอยออกไป จนกระทั่งกระแทกเข้ากับกำแพงถึงได้หยุดลง ความเจ็บปวด ความตกใจ ความเหลือเชื่อ และอารมณ์ต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาในใจของหานซานเฉียนแม้ว่าเขาจะเดาได้ว่าตี้หยางนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เขาแทบจะมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทัน ถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะใช้ความระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงลูกเตะนี้ได้เลย ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทำไมถึงได้ปรากฏอยู่บนตัวของชายชราคนนี้ได้หานซานเฉียนหมอบอยู่กับพื้น หน้าอกของเขารู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชน มันทั้งร้อนและเจ็บปวด หานเหยียนมองดูฉากนี้ด้วยรอยยิ้ม และพูดกับหานซานเฉียนว่า "ฉันลืมบอกไป ถ้า
"จะตายแล้วก็ยังปากแข็ง คนอย่างนายไม่มีทักษะอะไรเลย แต่กลับมีนิสัยดื้อรั้น หรือนี่จะเป็นความหยิ่งในศักดิ์ศรีของนายอย่างงั้นเหรอ?" หานเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม"ไม่นึกเลยว่าพื้นของโรงแรมจะนอนสบายขนาดนี้ หลังจากที่คุณออกจากหยุนเฉิงไปแล้ว ผมก็จะจองโรงแรมนี้และสนุกกับมันสักหน่อย" หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนตะคอกอย่างเย็นชา "อีกไม่นานหยุนเฉิงก็จะกลายเป็นพื้นที่ของฉัน นายมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันออกไปจากหยุนเฉิง ดูสิว่าตอนนี้นายน่าสมเพชแค่ไหน ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน"หานซานเฉียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกผ่อนคลายได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงรอยยิ้มจาง ๆ แต่ก็ทำให้ความเจ็บปวดในหน้าอกของเขานั้นรุนแรงขึ้น"หานเหยียน คุณไม่ได้พึ่งพาอำนาจทางการเงินของตระกูลหานในอเมริกาเหรอไง? นอกจากนี้ คุณมีอะไรอีกบ้าง คุณกล้าใช้ความสามารถของตัวเองในการต่อสู้ไหมล่ะ?" หานซานเฉียนกล่าว"ท้าฉันเหรอ?" หานเหยียนเหยียบหัวของหานซานเฉียนและพูดว่า "กลอุบายของนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ ฉันมีเงินทุนตั้งมายมาย ทำไมจะใช้ไม่ได้ แล้วจะต้องมาต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับนาย? คนอ่อนแออย่างนาย นึกว่าคนที่
ผลจากการโจมตีของตี้หยาง ร่างของหานซานเฉียนทะยานขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง และกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังจะสั่นสะเทือน และมีรอยแตกหลายจุดปรากฏขึ้นบนผนังหานซานเฉียนอาเจียนเป็นเลือดและล้มลงบนพื้นอย่างแรง โดยไม่มีวี่แววว่าจะขยับฉีฮู่จุกไปถึงลำคอ แม้ว่าหานเหยียนจะบอกว่าเธอจะไม่ฆ่าหานซานเฉียน แต่เขาไม่แน่ใจว่าตี้หยางสามารถควบคุมพละกำลังของตนเพื่อป้องกันไม่ให้หานซานเฉียนตายได้หรือไม่ แล้วอีกอย่าง หานซานเฉียนก็จงใจยั่วยุเขาไปด้วยเมื่อครู่นี้ในกรณีที่ตี้หยางไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้ภายในกระบวนท่าเดียว“พี่ซานเฉียน” ฉีฮู่ตะโกนอย่างกระวนกระวายขณะที่ฉีฮู่กำลังลนลาน ในทางกลับกันหานเหยียนนั้นดูเฉยเมย เธอเคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าตี้หยางสามารถแยกแยะได้ หากเขาพูดว่าจะไม่ปล่อยให้หานซานเฉียนตาย นั่นก็แสดงว่าเขาจะไม่ทำให้หานซานเฉียนตายแม้ว่าตอนนี้เขาจะขยับไม่ได้ แต่อย่างมากเขาก็คงแค่สลบไปเท่านั้น"ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยนายไม่ได้ น่าเสียดายจริง ๆ" หานเหยียนกล่าวกับฉีฮู่ด้วยรอยยิ้มดวงตาของฉีฮ
หานเหยียนมองไปที่หานชิงด้วยท่าทางเย็นชา หานชิงทำสิ่งที่นอกเหนือจากคำสั่งของเธอ! นี่เป็นการเพิกเฉยต่อเจ้านายโดยสิ้นเชิง"หานชิง ฉันสั่งให้เธอทำแบบนั้นรึไง?" หานเหยียนตำหนิอย่างเย็นชา หานชิงก้มหัวลงและพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก "ขอโทษค่ะคุณหนู"“ในเมื่อคำพูดคุณหนูคนโตของตระกูลหานในอเมริกาไม่เป็นคำพูด หากเรื่องนี้หลุดออกไปล่ะก็ เกรงว่ามันจะทำลายชื่อเสียงของคุณนะ” หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนกัดฟันแน่น สิ่งที่พูดออกไปก็เหมือนน้ำลายที่ถุยออกมา เธอจะไม่มีวันเลียมันกลับเข้าไปอีกแน่นอน เพราะมันจะทำให้คุณหนูอย่างเธอเสียชื่อ!"หากนายสามารถยืนขึ้นมาได้ ฉันจะปล่อยนายไป และฉันจะไม่มีวันผิดสัญญา" หลังจากมองไปที่หานชิง หานเหยียนก็พูดกับหานซานเฉียนดูจากสภาพของหานซานเฉียนในตอนนี้ มันยากมากสำหรับเขาที่จะยกมือขึ้นมา ดังนั้นหานเหยียนจึงไม่เชื่อว่าเขาจะลุกขึ้นยืนได้ตี้หยางก็มีความคิดแบบเดียวกัน เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าหานซานเฉียนจะไม่สามารถยืนขึ้นได้ เมื่อครู่ที่เขาเพิ่งพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมา อย่างมากสุดก็แค่พลังเฮือกสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่เท่านั้นสภาพของหานซานเฉียนในตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงการยืนขึ้
“ผมไปได้แล้วใช่ไหม” หานซานเฉียนกล่าว หานเหยียนบดเคี้ยวฟันกรามแน่น เธอไม่คิดไม่ฝันว่าหานซานเฉียนจะลุกขึ้นยืนได้หลังจากถูกตี้หยางโจมตีถึงสามครั้ง แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ หานเหยียนก็จะไม่มีวันผิดสัญญา ถึงหานซานเฉียนจะจากไปได้ในวันนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องพ่ายแพ้ต่อเธออยู่ดี“วันนี้ถือว่านายโชคดี ไปให้พ้น” หานเหยียนพูดเสียงเย็น หานซานเฉียนมองไปที่ฉีฮู่ ฉีฮู่จึงรีบเข้าไปพยุงหานซานเฉียนในทันทีเมื่อทั้งสองออกจากห้องไป ตี้หยางก็ก้มหัวลงและพูดกับหานเหยียนว่า "คุณหนู ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าเขา..."หานเหยียนขัดจังหวะตี่หยางและพูดว่า "คุณปู่หยาง นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีก"แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหานเหยียนและตี้หยางจะค่อนข้างแน่นแฟ้น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคือเจ้านายและคนรับใช้ ตี้หยางไม่เคยเพิกเฉยต่อหานเหยียน แม้ว่าตนเองจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะถูกเธอจะตำหนิ ตี้หยางก็จะไม่ขัด เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดของเขาเอง"คุณหนูไม่ต้องกังวล เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก" ตี้หยางกล่าวหานเหยียนมองไปที่หานชิง และหานชิงก็เดินมาที่ด้านหน้าของหานเห
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ