“ผมไปได้แล้วใช่ไหม” หานซานเฉียนกล่าว หานเหยียนบดเคี้ยวฟันกรามแน่น เธอไม่คิดไม่ฝันว่าหานซานเฉียนจะลุกขึ้นยืนได้หลังจากถูกตี้หยางโจมตีถึงสามครั้ง แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ หานเหยียนก็จะไม่มีวันผิดสัญญา ถึงหานซานเฉียนจะจากไปได้ในวันนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องพ่ายแพ้ต่อเธออยู่ดี“วันนี้ถือว่านายโชคดี ไปให้พ้น” หานเหยียนพูดเสียงเย็น หานซานเฉียนมองไปที่ฉีฮู่ ฉีฮู่จึงรีบเข้าไปพยุงหานซานเฉียนในทันทีเมื่อทั้งสองออกจากห้องไป ตี้หยางก็ก้มหัวลงและพูดกับหานเหยียนว่า "คุณหนู ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าเขา..."หานเหยียนขัดจังหวะตี่หยางและพูดว่า "คุณปู่หยาง นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีก"แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหานเหยียนและตี้หยางจะค่อนข้างแน่นแฟ้น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคือเจ้านายและคนรับใช้ ตี้หยางไม่เคยเพิกเฉยต่อหานเหยียน แม้ว่าตนเองจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะถูกเธอจะตำหนิ ตี้หยางก็จะไม่ขัด เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดของเขาเอง"คุณหนูไม่ต้องกังวล เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก" ตี้หยางกล่าวหานเหยียนมองไปที่หานชิง และหานชิงก็เดินมาที่ด้านหน้าของหานเห
ขณะที่ทั้งสามคนเฝ้าอยู่นอกวอร์ด ก็มีสาวสวยคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นเหนือกว่าซูหยิงเซี่ยซะอีก ทำให้ผู้คนถึงกับตกตะลึงในความงามกันถ้วนหน้า"คุณคือฉี๋อีหยุนใช่ไหม?" ม่อหยางยืนขึ้นและถามคนที่เพิ่งมาคือฉี๋อีหยุน เธอตรวจสอบโรงแรมเพนนินซูล่าอย่างเข้มงวด ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับหานซานเฉียนหลังจากที่เขาออกจากโรงแรมเพนนินซูล่าช่วงนี้ฉี๋อีหยุนไม่ได้ติดต่อกับหานซานเฉียน เพราะเธอพยายามคิดหาวิธีช่วยเขา และตอนนี้เธอมีเงินจำนวนมากอยู่ในมือ ซึ่งเธอรวบรวมเอามาจากในบ้านให้ได้มากที่สุด ฉี๋อีหยุนไม่สามารถช่วยในเรื่องอื่นได้ เธอเพียงแต่สามารถใช้เงินนี้ช่วยเหลือเขาได้เท่านั้น“เขาเป็นยังไงบ้าง” ฉี๋อีหยุนถาม“ยังไม่ตื่นเลย” ม่อหยางกล่าว "ผู้ชายอย่างพวกคุณคงดูแลเขาได้ไม่ถี่ถ้วน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นคนดูแลเขาในโรงพยาบาลเอง" ฉี๋อีหยุนกล่าวม่อหยางก็คำนึงถึงเรื่องนี้มาก่อน เดิมทีเขาจะบอกซูหยิงเซี่ยให้มาดูแลหานซานเฉียน แต่พอคิดไปคิดมา ตอนนี้ทั้งสองคนหย่ากันแล้ว และเพื่อปกป้องซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนจึงทำตัวเหินห่างจากตระกูลซู หากซูหยิงเซี่ยมาดูแลหานซานเฉียนแล้วมีข่
"คุณ... คุณจะทำอะไร!"หานซานเฉียนไม่สามารถขยับตัวได้ เขามองไปที่ฉี๋อีหยุนด้วยความตกใจ สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ หากกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบ มันจะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญหน้ากับฉี๋อีหยุน ถ้า...ถ้าฉี๋อีหยุนต้องการทำแบบนั้นกับเขาจริง ๆ ดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น?"แอร์เย็นเกินไป ฉันแค่จะห่มผ้านวมไม่ได้รึไง? คุณคงไม่คิดว่าฉันต่ำต้อยขนาดนั้นหรอกใช่ไหม คนสวย ๆ อย่างฉันจะขาดแคลนผู้ชายงั้นเหรอ?" ฉี๋อีหยุนจ้องไปที่หานซานเฉียนและกล่าว ปฏิกิริยาของเขาทำให้ฉี๋อีหยุนทำอะไรไม่ถูก เพราะเธอรู้ดีว่ายิ่งหานซานเฉียนปฏิเสธเธอมากเท่าไหร่ ความสำคัญของซูหยิงเซี่ยในใจของเขาก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้นบางครั้งฉี๋อีหยุนก็รู้สึกอิจฉาซูหยิงเซี่ย อิจฉาที่เธอได้รับความสัมพันธ์ที่จริงใจเช่นนี้ และไม่ว่าเขาจะถูกล่อลวงอย่างไร หานซานเฉียนก็ไม่มีวันทรยศเธอในสังคมปัจจุบัน นอกจากต้องพึ่งดวงพึ่งโชคแล้ว ฉี๋อีหยุนก็คิดไม่ออกว่าจะเจอกับผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไรแต่ฉี๋อีหยุนไม่รู้ว่า ในขณะที่หานซานเฉียนยึดติดกับความสัมพันธ์นี้ ซูหยิงเซี่ยเองก็
"เรื่องแบบนี้มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ รอวันที่เธอได้พบคนที่เธอรัก เธอก็จะเข้าใจเอง" ซูหยิงเซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มเฉินหลิงเหยาถอนหายใจ เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะได้เจอกับผู้ชายที่เธอรักไหม แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธความรักอันแรงกล้าที่มีต่อหานซานเฉียนในหัวใจของเธอได้นับตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าหานซานเฉียนเป็นเจ้าชายเปียโนตัวน้อย ความรู้สึกที่เฉินหลิงเหยามีต่อหานซานเฉียนก็มากขึ้นทุกวัน แม้ว่าเธอจะพยายามยับยั้งตัวเองแล้ว แต่ความรู้สึกของเธอก็เหมือนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่สามารถควบคุมมันได้แน่นอนว่าเฉินหลิงเหยามีเหตุผลพอ เธอจะไม่ทำอะไรเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยอย่างแน่นอน"ประธานซู คนข้างนอกตีกันแล้วครับ" ขณะนั้นเอง พนักงานคนหนึ่งของบริษัทก็วิ่งเข้ามาที่ห้องทำงานของซูหยิงเซี่ยด้วยความตื่นตระหนกและพูดขึ้นมาพวกคนที่ตามจีบซูหยิงเซี่ยด้านนอกประตูนั้น ตอนแรกก็แค่ทะเลาะถกเถียงกัน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นการต่อยตีจนเริ่มเกิดความโกลาหลแล้วหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เฉินหลิงเหยาก็พูดขึ้นว่า "คนเหล่านี้รักเธอจนคลั่ง ดูเหมือนว่าพวกเขาพวกเขากำลังจะขึ้นสังเวียนประชันกันว่าใครมีคุณสมบัติในการ
"คุณเป็นใคร" ซูหยิงเซี่ยมองคน ๆ นั้นด้วยดวงตาที่ลุกโชน ราวกับต้องการมองให้ทะลุหน้ากากของเธอ"ฟ้ามีตาสักที เธอถูกจับหลังจากหานซานเฉียนถูกทุบตีเข้าโรงพยาบาล ช่างเป็นปีที่อับโชคของพวกเธอจริง ๆ นะ" คนที่มาคือหานชิง แม้ว่าเธอจะเห็นหานซานเฉียนถูกทุบตีเมื่อวานนี้ แต่นั่นก็ไม่ถือเป็นการแก้แค้นส่วนตัว ดังนั้นหานชิงจึงไม่หยุดแผนการที่จะจับกุมซูหยิงเซี่ย แต่เธอไม่คิดว่าสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นพร้อมกันเร็วขนาดนี้ หานซานเฉียนเพิ่งเข้าโรงพยาบาล และซูหยิงเซี่ยก็ถูกจับ"ซานเฉียนเข้าโรงพยาบาล? เกิดอะไรขึ้น!" อารมณ์สงบของซูหยิงเซี่ยระเบิดขึ้นในทันที เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงแรมเพนนินซูล่า แต่เมื่อเธอได้ยินหานชิงพูดอย่างนั้น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาทันที"เธอไม่รู้เหรอ?" หานชิงภายใต้หน้ากากแสดงรอยยิ้ม และพูดต่อ "เมื่อวานนี้เขาถูกทุบตีเหมือนสุนัข และเขาก็อาเจียนเป็นเลือดด้วยนะ ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาลขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ""เป็นไปไม่ได้ เธอตั้งใจโกหกฉันใช่ไหม" ซูหยิงเซี่ยพูดอย่างกระหืดกระหอบ เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร และเธอก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอพูด"โกหกงั้นเหรอ? เธออยากดูว่าเขาถูกซ้อมย
"จะกลัวทำไม? แม้ว่าจะตีจนตายพวกแกก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ถ้ายังอยากได้เงินก็ตีต่อไป" หานชิงกล่าวหลายคนต่างมองหน้ากัน ในสายตานั้นอดที่จะสงสารไม่ได้ อย่างไรซะซูหยิงเซี่ยก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง มันคงจะน่าอายไม่น้อยที่ชายร่างใหญ่หลายคนรุมกลั่นแกล้งเธอ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับซูหยิงเซี่ย ทุบตีเธอเขนาดนนี้ก็คงเพียงพอแล้วแต่เงินยังอยู่ในมือของหานชิง และพวกเขาต้องฟังคำสั่งของเธอการเตะต่อยยังคงดำเนินต่อไป ซูหยิงเซี่ยไม่สามารถแม้แต่จะส่งเสียงร้องเจ็บปวดได้ มุมปากของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงที่น่าตกใจ และดูเหมือนว่าใกล้จะไม่ไหวแล้วและตอนนั้นเองหานชิงจึงสั่งให้พวกเขาหยุด ก่อนจะเดินไปหาซูหยิงเซี่ย เธอคุกเข่าลงและพูดว่า "นังผู้หญิงโสโครก ตอนนี้รู้แล้วรึยังว่าถ้าหากทำให้ฉันโมโหจะต้องเจอกับอะไร?"ซูหยิงเซี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังจะแตกสลาย ไม่มีส่วนใดที่ไม่รู้สึกเจ็บปวด คำพูดของหานชิง เธอก็ได้ยินไม่ชัดสักคำ เธอพูดขึ้นด้วยเสียงงึมงำ "ซานเฉียนจะต้องล้างแค้นให้ฉันแน่"หานชิงยิ้มอย่างเย็นชา เธอจับผมของซูหยิงเซี่ยบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นและพูดว่า "ดูใบหน้าที่น่าสงสารของเธอสิ หานซ
ม่อหยางขบฟันกรามแน่น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเตรียมการมาอย่างดี ปิดป้ายทะเบียนรถ พอไปถึงเมืองอื่นแล้วค่อยเปิดป้ายทะเบียนออก มีรถตู้มากมายบนถนน ใครจะรู้ว่ารถคันที่ลักพาตัวซูหยิงเซี่ยพาเธอไปไหนแล้ว ยิ่งพิถีพิถันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มาดี และตอนนี้ซูหยิงเซี่ยจะต้องตกอยู่ในอันตรายมากแน่ ๆ ในระหว่างที่หานซานเฉียนกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล เขาไม่สามารถปล่อยให้ซูหยิงเซี่ยได้รับอันตรายใด ๆ ได้ และนี่เป็นข้อผิดพลาดจากคนของเขาเอง หากเขาไม่สามารถให้คำอธิบายกับหานซานเฉียนได้ แล้วจะกล้าเอาหน้าไปโผล่ต่อหน้าหานซานเฉียนได้อย่างไร?“เรียกทุกคนรวมตัว ตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งหมู่บ้านและเมืองเล็ก ๆ ในเขตชานเมืองก็ห้ามปล่อยผ่าน” ม่อหยางกล่าวหลินหย่งออกความคิดเห็นว่า "เราควรรวมทุกคนในพื้นที่สีเทาดีไหมครับ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งมีพลัง""เล่นใหญ่ขนาดนี้ นายกลัวว่าซานเฉียนจะไม่รู้เรื่องหรือไง?" ม่อหยางจ้องหลินหย่งและพูดขึ้น แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะดูมีเหตุผล แต่เมื่ออิทธิพลแพร่กระจายออกไป ความเป็นไปได้ที่หานซานเฉียนจะได้รับข่าวก็จะเพิ่มขึ้น ในสถานการณ์นี้ม่อหยางไม่สามารถให้หานซานเฉียนรู้เรื่องนี้ไ
เมื่อเห็นการแจ้งเตือนเป็นเบอร์ของหานซานเฉียน ม่อหยางก็มีรางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เรื่องมันเพิ่งเกิดไม่นาน หานซานเฉียนอยู่ในโรงพยาบาลจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"ไม่ต้องห่วง ฉันส่งคนออกไปตามหาแล้ว" ม่อหยางพูด ในเมื่อหานซานเฉียนรู้เรื่องแล้ว เขาจึงไม่สามารถปกปิดมันต่อไปได้ ทำได้เพียงต้องบอกความจริงกับหานซานเฉียนเท่านั้น“นายคิดว่าฉันจะวางใจได้ไหม?” หานซานเฉียนกล่าว“ฉันจะตามหาน้องให้เจอโดยเร็วที่สุด และจะไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด สภาพของนายตอนนี้ ต้องพักผ่อนไปก่อน วางใจและฝากเรื่องนี้ไว้กับฉันเถอะ หรือว่านายไม่เชื่อใจฉัน?” ม่อหยางกล่าวหานซานเฉียนเชื่อในตัวม่อหยาง แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ตำแหน่งของซูหยิงเซี่ย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถวางใจได้แต่หานซานเฉียนก็รู้สภาพของตัวเองดี ร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ และแม้ว่าจะออกไป เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี "หากได้ข่าวอะไรต้องรีบบอกฉันทันที"หานซานเฉียนกล่าว“โอเค ไม่ต้องกังวล ถ้าได้ข่าวฉันจะรีบบอกนายทันที”หลังจากวางสาย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมองไปก็โชว์เบอร์ของเจี่ยงหลาน ฉี๋อีหยุนจึงถามขึ้น "จะรับสายไหม?"