ม่อหยางขบฟันกรามแน่น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเตรียมการมาอย่างดี ปิดป้ายทะเบียนรถ พอไปถึงเมืองอื่นแล้วค่อยเปิดป้ายทะเบียนออก มีรถตู้มากมายบนถนน ใครจะรู้ว่ารถคันที่ลักพาตัวซูหยิงเซี่ยพาเธอไปไหนแล้ว ยิ่งพิถีพิถันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มาดี และตอนนี้ซูหยิงเซี่ยจะต้องตกอยู่ในอันตรายมากแน่ ๆ ในระหว่างที่หานซานเฉียนกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล เขาไม่สามารถปล่อยให้ซูหยิงเซี่ยได้รับอันตรายใด ๆ ได้ และนี่เป็นข้อผิดพลาดจากคนของเขาเอง หากเขาไม่สามารถให้คำอธิบายกับหานซานเฉียนได้ แล้วจะกล้าเอาหน้าไปโผล่ต่อหน้าหานซานเฉียนได้อย่างไร?“เรียกทุกคนรวมตัว ตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งหมู่บ้านและเมืองเล็ก ๆ ในเขตชานเมืองก็ห้ามปล่อยผ่าน” ม่อหยางกล่าวหลินหย่งออกความคิดเห็นว่า "เราควรรวมทุกคนในพื้นที่สีเทาดีไหมครับ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งมีพลัง""เล่นใหญ่ขนาดนี้ นายกลัวว่าซานเฉียนจะไม่รู้เรื่องหรือไง?" ม่อหยางจ้องหลินหย่งและพูดขึ้น แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะดูมีเหตุผล แต่เมื่ออิทธิพลแพร่กระจายออกไป ความเป็นไปได้ที่หานซานเฉียนจะได้รับข่าวก็จะเพิ่มขึ้น ในสถานการณ์นี้ม่อหยางไม่สามารถให้หานซานเฉียนรู้เรื่องนี้ไ
เมื่อเห็นการแจ้งเตือนเป็นเบอร์ของหานซานเฉียน ม่อหยางก็มีรางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เรื่องมันเพิ่งเกิดไม่นาน หานซานเฉียนอยู่ในโรงพยาบาลจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"ไม่ต้องห่วง ฉันส่งคนออกไปตามหาแล้ว" ม่อหยางพูด ในเมื่อหานซานเฉียนรู้เรื่องแล้ว เขาจึงไม่สามารถปกปิดมันต่อไปได้ ทำได้เพียงต้องบอกความจริงกับหานซานเฉียนเท่านั้น“นายคิดว่าฉันจะวางใจได้ไหม?” หานซานเฉียนกล่าว“ฉันจะตามหาน้องให้เจอโดยเร็วที่สุด และจะไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด สภาพของนายตอนนี้ ต้องพักผ่อนไปก่อน วางใจและฝากเรื่องนี้ไว้กับฉันเถอะ หรือว่านายไม่เชื่อใจฉัน?” ม่อหยางกล่าวหานซานเฉียนเชื่อในตัวม่อหยาง แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ตำแหน่งของซูหยิงเซี่ย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถวางใจได้แต่หานซานเฉียนก็รู้สภาพของตัวเองดี ร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ และแม้ว่าจะออกไป เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี "หากได้ข่าวอะไรต้องรีบบอกฉันทันที"หานซานเฉียนกล่าว“โอเค ไม่ต้องกังวล ถ้าได้ข่าวฉันจะรีบบอกนายทันที”หลังจากวางสาย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมองไปก็โชว์เบอร์ของเจี่ยงหลาน ฉี๋อีหยุนจึงถามขึ้น "จะรับสายไหม?"
ในสายตาของคนภายนอก ความสุขของซูหยิงเซี่ยนั้นไกลเกินกว่าจะบรรยายได้ แต่ในสายตาของหานซานเฉียน ทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือการปกป้องจากเขาเมื่อเห็นไหล่ที่สั่นไหวและเสียงสะอื้นของฉี๋อีหยุน หานซานเฉียนก็ไม่แม้แต่จะใจอ่อน เพราะความคิดของเขาอยู่ที่ซูหยิงเซี่ยเท่านั้น เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้หญิงคนอื่น เวลาผ่านไปแต่ละนาทีสำหรับหานซานเฉียน กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวินาทีนั้นยากมาก เขาไม่แน่ใจว่าซูหยิงเซี่ยจะปลอดภัยไหม ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้"ถ้าคุณต้องการออกจากโรงพยาบาล ฉันจะไปหารถเข็นให้คุณ" ฉี๋อีหยุนพูดกับหานซานเฉียนหานซานเฉียนพยักหน้าโดยไม่ลังเล อารมณ์ของเขาในตอนนี้จะอยู่ในโรงพยาบาลราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาพูดขึ้น "ขอบคุณมาก""คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม หากคุณไม่รักษาตัวให้ดี มันอาจจะส่งผลกระทบระยาวกับคุณก็ได้" ฉี๋อีหยุนเตือนหานซานเฉียนยิ้มเล็กน้อย ผลกระทบที่ตามมาไม่มีความหมายสำหรับเขา“แม้ฟ้าจะถล่มลงมาก็หยุดผมไม่ได้” หานซานเฉียนกล่าว ฉี๋อีหยุนพยักหน้า เธอเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย และจากนั้นไม่นานก็เข็นรถเข็นกลับมาเธอพยุ
ในโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหยุนเฉิง หลังจากเหยียนจุนกดวางสาย เขาก็ไม่ได้รีบร้อนออกเดินทางในช่วงเวลานี้เขาอยู่ในหยุนเฉิงมาโดยตลอด เพื่อปกป้องหานซานเฉียน แต่เขาไม่ต้องการให้หานซานเฉียนรู้เรื่องนี้ เพราะเขาไม่อยากทำให้หานซานเฉียนรู้สึกถึงการพึ่งพาใด ๆ เหยียนจุนไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเรื่องที่หานซานเฉียนถูกทุบตีที่โรงแรมเพนนินซูล่า เพราะเขารู้ว่าหานเหยียนจะไม่ฆ่าหานซานเฉียน ในเมื่ออันตรายไม่ถึงชีวิต เหยียนจุนก็ไม่มีเหตุผลที่จะเข้าไปช่วยแต่วันนี้ เนื่องจากหานซานเฉียนร้องขอความช่วยเหลือ นั่นหมายความว่าเขามาถึงจุดที่สิ้นหวังแล้ว และเหยียนจุนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นมือเข้าไปช่วยครึ่งชั่วโมงต่อมา เหยียนจุนก็มาถึงคลับเมจิกซิตี้เมื่อฉีฮู่เห็นเหยียนจุน เขาก็ก้มหัวลงอัตโนมัติ ชายชราคนนี้ แม้แต่อาจารย์ของเขานั้นก็ยังไม่กล้ายุ่งด้วย แค่คำพูดจากเขาเพียงคำเดียว ฉงหยางก็ตกลงตามเงื่อนไขของเขาฉีฮู่เปรียบเทียบเหยียนจุนและตี้หยางในใจโดยไม่รู้ตัว ในความเห็นของเขา ตี้หยางดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเหยียนจุน เพราะบาดแผลที่เขาได้รับจากตี้หยางนั้นรุนแรงมากกว่าบาดแผลที่ได้รับจากเหยียนจุน"คุณปู่เหยียน หยิง
เมื่อฉีฮู่เดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นอย่างพร้อมต่อสู้ คนเหล่านั้นก็แตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง และไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางฉีฮู่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยาม "ไอ้พวกไร้ประโยชน์ ไม่กล้าต่อสู้กับฉัน แล้วยังมาทำตัวหยิ่งยโสอีก"ฉี๋อีหยุนเข็นหานซานเฉียนเข้าไปในโรงแรม และฉีฮู่ก็ตะโกนเสียงดัง "รีบเรียกหานเหยียนออกมาเร็ว ๆ ไม่งั้น ฉันจะทุบสถานที่ห่วย ๆ แห่งนี้ทิ้งซะ"หลังจากพูดจบ รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่มีน้ำหนักหนึ่งร้อยสลึงก็ถูกฉีฮู่ผลักลงไปที่พื้นส่งเสียงดังกราวหานเหยียนที่กำลังอยู่ในความฝันที่แสนหวาน จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น ทำให้เธอหงุดหงิดมาก และเมื่อมองดูเวลา มันยังเป็นเวลาเที่ยงคืน นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกรำคาญมากขึ้นไปอีก“ใคร ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม กล้าดียังไงมารบกวนเวลาพักผ่อนของฉัน” หานเหยียนรับโทรศัพท์พลางกัดฟันพูดอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เมื่อได้ยินหานเหยียนโกรธ เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า "คุณหนูหาน ชายร่างใหญ่คนนั้นบุกเข้ามาในโรงแรมอีกแล้วครับ และเขาต้องการพบคุณหนู ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรมาแจ้งคุณหนู"ทันใดนั้นหาน
หานเหยียนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องการต่อสู้นัก ตอนนี้เธอกำลังขมวดคิ้วมุ่น เพราะในสายตาของเธอ ไม่ว่าตี้หยางจะเผชิญหน้ากับใคร เขาก็สามารถจัดการได้ภายในสิบกระบวนท่าเท่านั้น แต่สถานการณ์ปัจจุบันกลับไม่สามารถแยกได้ว่าใครแพ้ใครชนะได้ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!หานซานเฉียน ไอ้คนไร้ประโยชน์ ทำไมเขาถึงได้มีผู้ช่วยที่ทรงพลังแบบนี้ แม้แต่ตี้หยางก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าสามารถเอาชนะเขาได้! ตี้หยางเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหานในอเมริกา แม้แต่บอดี้การ์ดของตระกูลหานก็สู้เขาไม่ได้“หานซานเฉียน ฉันประเมินแกต่ำไปงั้นเหรอ?” หานเหยียนพึมพำกับตัวเองตี้หยางที่อยู่ระหว่างการต่อสู้ อารมณ์ของเขาแปรปรวนอย่างรุนแรง เขาเคยเป็นนักฆ่าอันดับต้น ๆ และเคยเห็นปรมาจารย์มานับไม่ถ้วน แม้ว่าบางคนจะแข็งแกร่งจนเขาสู้ไม่ได้ แต่พวกเขาล้วนเป็นตัวละครที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกทั้งนั้น ทำไมถึงได้มีคนที่ทรงพลังแบบนี้อยู่ในหัวเซี่ยกัน?อันเนื่องมาจากตระกูลหานในอเมริกาดูถูกหัวเซี่ยอยู่แล้ว ตี้หยางจึงมีทัศนคติที่ดูถูกเหยียดหยามหัวเซี่ยเช่นกัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าหัวเซี่ยจะมีคนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้ แต่ตอนนี้คน ๆ นั้นไ
"หานซานเฉียน ฉันไม่ใช่คนที่เลวร้ายขนาดนั้น ในเมื่อหานชิงได้ทำสิ่งที่น่าละอาย งั้นฉันก็จะให้โอกาสคุณแก้แค้น แต่ถ้าปัญหาของคุณไม่เกี่ยวกับหานชิง คุณจะต้องขอโทษฉันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้" หานเหยียนพูดหานซานเฉียนพยักหน้า เขามั่นใจว่าซูหยิงเซี่ยถูกหานชิงลักพาตัวไป และเขาก็รู้ว่าหานเหยียนพูดแบบนี้เพื่อรักษาหน้าตัวเองเมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปที่ห้องของหานชิงและเคาะประตู หานชิงก็เปิดประตูอย่างไม่พอใจและตะโกนใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย "มีอะไร ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังมารบกวนเวลาพักผ่อนของฉันอีก"ยกเว้นคนของตระกูลหาน หานชิงก็ทำตัวหยิ่งยโสกับทุกคน"คุณหนูหานสั่งให้คุณลงไปข้างล่างครับ" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดกับหานชิงเมื่อได้ยินคำว่าคุณหนูหานสามคำนี้ หานชิงก็ควบคุมท่าทางของเธอและถามกลับไปว่า "ดึกขนาดนี้แล้วคุณหนูเรียกฉันไปทำไม?""เมื่อไปถึงคุณก็จะรู้เอง" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวหานชิงมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ในใจ หรือว่าหานเหยียนจะรู้เรื่องที่เธอแอบทำแล้วงั้นเหรอ?แต่แม้ว่าเธอจะรู้เรื่องแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกพบเธอในตอนกลางดึกแบบนี้ หานเหยียนให้ความส
บ่อยครั้งที่หานชิงใช้อำนาจของเธอในการกลั่นแกล้งผู้อื่น เมื่อมีเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ หรือทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นธรรม เธอจะใช้ชื่อของหานเหยียนเพื่อแก้แค้น เธอคิดว่าหานเหยียนไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่เธอกลับรู้ทุกอย่างเพียงแค่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น"คุณหนู ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะคะ" หานชิงคุกเข่าลงบนพื้นทันที และร้องขอความเมตตาจากหานเหยียน"โทรซะ" หานเหยียนกัดฟันพูดทีละคำหานชิงหยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่ออันธพาลสองสามคน และสั่งให้พวกเขาพาซูหยิงเซี่ยมาที่โรงแรมเพนนินซูล่าหานซานเฉียนนั่งรออยู่บนรถเข็นเงียบ ๆ ไม่ถึงสิบนาทีคนเหล่านั้นก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับซูหยิงเซี่ยเมื่อหานซานเฉียนเห็นซูหยิงเซี่ยที่มีรอยแผล ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธซูหยิงเซี่ยที่ไม่สามารถยืนได้ เธอทรุดตัวลงบนพื้น เมื่อเธอเห็นหานซานเฉียน มุมปากของเธอก็ยกยิ้มขึ้นด้วยความเจ็บปวด “ฉันรู้ว่ายังไงคุณก็ต้องมาช่วยฉัน” ซูหยิงเซี่ยพูดอย่างมีความสุขหานซานเฉียนเดินไปที่ด้านข้างของซูหยิงเซี่ย และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง ผมปกป้องคุณได้ไม่ดี