คำพูดของหลินหย่งทำให้ม่อหยางทรุดลงบนพื้น เขาจัดเตรียมการทั้งหมดอย่างละเอียด แต่เขามองข้ามไปอีกจุดหนึ่งนั่นคือตัวหานซานเฉียนเอง ถ้าหากว่าเขาถูกส่งออกไปจากหยุนเฉิง แล้วเขาจะไม่กลับมาอีกงั้นเหรอ? ดังที่หลินหย่งพูด หานซานเฉียนจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไร! ม่อหยางยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดก็ได้รู้ว่าการรับมือของเขานั้นงี่เง่าเพียงใด ความตั้งใจทั้งหมดของเขานั้นก็ไร้ความหมายทันทีเมื่อเผชิญกับความต้องการของหานซานเฉียน ไม่ว่าโอกาสจะมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของหานซานเฉียนได้ “ตราบเท่าชีวิตนี้ การมีพี่น้องแบบนี้ น่าจะเป็นของขวัญจากพระเจ้า” ม่อหยางพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หลินหย่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูจากท่าทางของม่อหยางแล้ว เขาคงไม่ออกไป ซึ่งหมายถึงว่าชีวิตของเขาเองก็คงจะรอดแล้ว "พี่ใหญ่ม่อ คุณควรวางใจพี่ซานเฉียน เขาจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน" หลินหย่งกล่าว ม่อหยางพยักหน้าละไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่หานซานเฉียนมาถึงโรงแรมแพนินซูลา เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามที่หน้าประตู หากไม่มีคำสั่งของหานเหยียน คนเหล่านี้จะไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้าไป สถ
เธอไม่กลัวคำขู่ของหานซานเฉียน แต่หากหานเหยียนรู้เรื่องนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก "ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงอะไร" หานชิงพูด ในขณะที่ซ่อนสีหน้าที่ลุกลี้ลุกลนของเธอไว้ "ไม่กล้าบอกให้หานเหยียนรู้เหรอ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่บอกเธอ เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริง ๆ" หานซานเฉียนยิ้มเยาะ หานชิงกัดฟันอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอออกจากห้องมาเพื่อเหยียดหยามหานซานเฉียนด้วยท่าทีที่เหนือกว่า แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายที่ถูกเหยียดหยามเสียเอง ซึ่งมันทำให้เธอรับไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะระรานหานซานเฉียน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงกังวลว่าหานซานเฉียนจะบอกหานซานเฉียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หานชิงจับจ้องที่หลังของหานซานเฉียน พลางคิดในใจ เมื่อใดที่ซูหยิงเซี่ยตกอยู่ในมือฉัน มาดูกันว่าแกจะยังหยิ่งยโสอยู่อีกหรือเปล่า เมื่อเดินเข้าไปในห้อง หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก เมื่อเขาเห็นฉีฮู่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของตี้หยาง และแน่นอนว่าแม้แต่ฉีฮู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตี้หยาง "หานเหยียน พี่น้องของได้ผมก้าวก่ายมาโดยพละการ เขาชอบที่จะแข่งขันกับเหล่าปรมาจารย์ นั่นคือเหตุผลที่เขามาท้าทายตี้หยาง ในเมื่อเขาแพ้แล้ว คุณปล่อย
เมื่อตี้หยางเดินไปถึงด้านหน้าของหานซานเฉียนแล้ว หานซานเฉียนซึ่งประหม่าอยู่นั้นก็เกิดภาพลวงตาขึ้น ตี้หยางเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงสายลมฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายและลดความระมัดระวังโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นหานซานเฉียนไม่ทันได้เห็นการเคลื่อนไหวของตี้หยาง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกกระแทกเข้าอย่างแรง และร่างกายของเขาก็เสียการทรงตัวไปในทันที ขาของเขาลอยอยู่เหนือพื้น ก่อนที่ตัวจะลอยออกไป จนกระทั่งกระแทกเข้ากับกำแพงถึงได้หยุดลง ความเจ็บปวด ความตกใจ ความเหลือเชื่อ และอารมณ์ต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาในใจของหานซานเฉียนแม้ว่าเขาจะเดาได้ว่าตี้หยางนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เขาแทบจะมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทัน ถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะใช้ความระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงลูกเตะนี้ได้เลย ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทำไมถึงได้ปรากฏอยู่บนตัวของชายชราคนนี้ได้หานซานเฉียนหมอบอยู่กับพื้น หน้าอกของเขารู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชน มันทั้งร้อนและเจ็บปวด หานเหยียนมองดูฉากนี้ด้วยรอยยิ้ม และพูดกับหานซานเฉียนว่า "ฉันลืมบอกไป ถ้า
"จะตายแล้วก็ยังปากแข็ง คนอย่างนายไม่มีทักษะอะไรเลย แต่กลับมีนิสัยดื้อรั้น หรือนี่จะเป็นความหยิ่งในศักดิ์ศรีของนายอย่างงั้นเหรอ?" หานเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม"ไม่นึกเลยว่าพื้นของโรงแรมจะนอนสบายขนาดนี้ หลังจากที่คุณออกจากหยุนเฉิงไปแล้ว ผมก็จะจองโรงแรมนี้และสนุกกับมันสักหน่อย" หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนตะคอกอย่างเย็นชา "อีกไม่นานหยุนเฉิงก็จะกลายเป็นพื้นที่ของฉัน นายมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันออกไปจากหยุนเฉิง ดูสิว่าตอนนี้นายน่าสมเพชแค่ไหน ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน"หานซานเฉียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดในร่างกายทำให้เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกผ่อนคลายได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงรอยยิ้มจาง ๆ แต่ก็ทำให้ความเจ็บปวดในหน้าอกของเขานั้นรุนแรงขึ้น"หานเหยียน คุณไม่ได้พึ่งพาอำนาจทางการเงินของตระกูลหานในอเมริกาเหรอไง? นอกจากนี้ คุณมีอะไรอีกบ้าง คุณกล้าใช้ความสามารถของตัวเองในการต่อสู้ไหมล่ะ?" หานซานเฉียนกล่าว"ท้าฉันเหรอ?" หานเหยียนเหยียบหัวของหานซานเฉียนและพูดว่า "กลอุบายของนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ ฉันมีเงินทุนตั้งมายมาย ทำไมจะใช้ไม่ได้ แล้วจะต้องมาต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับนาย? คนอ่อนแออย่างนาย นึกว่าคนที่
ผลจากการโจมตีของตี้หยาง ร่างของหานซานเฉียนทะยานขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง และกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังจะสั่นสะเทือน และมีรอยแตกหลายจุดปรากฏขึ้นบนผนังหานซานเฉียนอาเจียนเป็นเลือดและล้มลงบนพื้นอย่างแรง โดยไม่มีวี่แววว่าจะขยับฉีฮู่จุกไปถึงลำคอ แม้ว่าหานเหยียนจะบอกว่าเธอจะไม่ฆ่าหานซานเฉียน แต่เขาไม่แน่ใจว่าตี้หยางสามารถควบคุมพละกำลังของตนเพื่อป้องกันไม่ให้หานซานเฉียนตายได้หรือไม่ แล้วอีกอย่าง หานซานเฉียนก็จงใจยั่วยุเขาไปด้วยเมื่อครู่นี้ในกรณีที่ตี้หยางไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้ภายในกระบวนท่าเดียว“พี่ซานเฉียน” ฉีฮู่ตะโกนอย่างกระวนกระวายขณะที่ฉีฮู่กำลังลนลาน ในทางกลับกันหานเหยียนนั้นดูเฉยเมย เธอเคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าตี้หยางสามารถแยกแยะได้ หากเขาพูดว่าจะไม่ปล่อยให้หานซานเฉียนตาย นั่นก็แสดงว่าเขาจะไม่ทำให้หานซานเฉียนตายแม้ว่าตอนนี้เขาจะขยับไม่ได้ แต่อย่างมากเขาก็คงแค่สลบไปเท่านั้น"ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยนายไม่ได้ น่าเสียดายจริง ๆ" หานเหยียนกล่าวกับฉีฮู่ด้วยรอยยิ้มดวงตาของฉีฮ
หานเหยียนมองไปที่หานชิงด้วยท่าทางเย็นชา หานชิงทำสิ่งที่นอกเหนือจากคำสั่งของเธอ! นี่เป็นการเพิกเฉยต่อเจ้านายโดยสิ้นเชิง"หานชิง ฉันสั่งให้เธอทำแบบนั้นรึไง?" หานเหยียนตำหนิอย่างเย็นชา หานชิงก้มหัวลงและพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก "ขอโทษค่ะคุณหนู"“ในเมื่อคำพูดคุณหนูคนโตของตระกูลหานในอเมริกาไม่เป็นคำพูด หากเรื่องนี้หลุดออกไปล่ะก็ เกรงว่ามันจะทำลายชื่อเสียงของคุณนะ” หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนกัดฟันแน่น สิ่งที่พูดออกไปก็เหมือนน้ำลายที่ถุยออกมา เธอจะไม่มีวันเลียมันกลับเข้าไปอีกแน่นอน เพราะมันจะทำให้คุณหนูอย่างเธอเสียชื่อ!"หากนายสามารถยืนขึ้นมาได้ ฉันจะปล่อยนายไป และฉันจะไม่มีวันผิดสัญญา" หลังจากมองไปที่หานชิง หานเหยียนก็พูดกับหานซานเฉียนดูจากสภาพของหานซานเฉียนในตอนนี้ มันยากมากสำหรับเขาที่จะยกมือขึ้นมา ดังนั้นหานเหยียนจึงไม่เชื่อว่าเขาจะลุกขึ้นยืนได้ตี้หยางก็มีความคิดแบบเดียวกัน เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าหานซานเฉียนจะไม่สามารถยืนขึ้นได้ เมื่อครู่ที่เขาเพิ่งพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมา อย่างมากสุดก็แค่พลังเฮือกสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่เท่านั้นสภาพของหานซานเฉียนในตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงการยืนขึ้
“ผมไปได้แล้วใช่ไหม” หานซานเฉียนกล่าว หานเหยียนบดเคี้ยวฟันกรามแน่น เธอไม่คิดไม่ฝันว่าหานซานเฉียนจะลุกขึ้นยืนได้หลังจากถูกตี้หยางโจมตีถึงสามครั้ง แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจ หานเหยียนก็จะไม่มีวันผิดสัญญา ถึงหานซานเฉียนจะจากไปได้ในวันนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องพ่ายแพ้ต่อเธออยู่ดี“วันนี้ถือว่านายโชคดี ไปให้พ้น” หานเหยียนพูดเสียงเย็น หานซานเฉียนมองไปที่ฉีฮู่ ฉีฮู่จึงรีบเข้าไปพยุงหานซานเฉียนในทันทีเมื่อทั้งสองออกจากห้องไป ตี้หยางก็ก้มหัวลงและพูดกับหานเหยียนว่า "คุณหนู ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าเขา..."หานเหยียนขัดจังหวะตี่หยางและพูดว่า "คุณปู่หยาง นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีก"แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหานเหยียนและตี้หยางจะค่อนข้างแน่นแฟ้น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคือเจ้านายและคนรับใช้ ตี้หยางไม่เคยเพิกเฉยต่อหานเหยียน แม้ว่าตนเองจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะถูกเธอจะตำหนิ ตี้หยางก็จะไม่ขัด เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดของเขาเอง"คุณหนูไม่ต้องกังวล เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก" ตี้หยางกล่าวหานเหยียนมองไปที่หานชิง และหานชิงก็เดินมาที่ด้านหน้าของหานเห
ขณะที่ทั้งสามคนเฝ้าอยู่นอกวอร์ด ก็มีสาวสวยคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นเหนือกว่าซูหยิงเซี่ยซะอีก ทำให้ผู้คนถึงกับตกตะลึงในความงามกันถ้วนหน้า"คุณคือฉี๋อีหยุนใช่ไหม?" ม่อหยางยืนขึ้นและถามคนที่เพิ่งมาคือฉี๋อีหยุน เธอตรวจสอบโรงแรมเพนนินซูล่าอย่างเข้มงวด ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับหานซานเฉียนหลังจากที่เขาออกจากโรงแรมเพนนินซูล่าช่วงนี้ฉี๋อีหยุนไม่ได้ติดต่อกับหานซานเฉียน เพราะเธอพยายามคิดหาวิธีช่วยเขา และตอนนี้เธอมีเงินจำนวนมากอยู่ในมือ ซึ่งเธอรวบรวมเอามาจากในบ้านให้ได้มากที่สุด ฉี๋อีหยุนไม่สามารถช่วยในเรื่องอื่นได้ เธอเพียงแต่สามารถใช้เงินนี้ช่วยเหลือเขาได้เท่านั้น“เขาเป็นยังไงบ้าง” ฉี๋อีหยุนถาม“ยังไม่ตื่นเลย” ม่อหยางกล่าว "ผู้ชายอย่างพวกคุณคงดูแลเขาได้ไม่ถี่ถ้วน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นคนดูแลเขาในโรงพยาบาลเอง" ฉี๋อีหยุนกล่าวม่อหยางก็คำนึงถึงเรื่องนี้มาก่อน เดิมทีเขาจะบอกซูหยิงเซี่ยให้มาดูแลหานซานเฉียน แต่พอคิดไปคิดมา ตอนนี้ทั้งสองคนหย่ากันแล้ว และเพื่อปกป้องซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนจึงทำตัวเหินห่างจากตระกูลซู หากซูหยิงเซี่ยมาดูแลหานซานเฉียนแล้วมีข่