"งั้นเธอก็อยู่พักผ่อนที่นี่สักครู่ก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะไล่พวกนี้ออกไป" หานซานเฉียนกล่าว เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินโหรวก็เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เธอมีภาพที่ค้างคาจิตใจกับสถานที่แห่งนี้ เธอจะกล้าพักผ่อนได้อย่างไร "ฉันไม่พักแล้ว ฉันเดินได้" ฉินโหรวประคองร่างของเธอ แต่พอลงจากเตียง ขาของเธอก็อ่อนลงและนั่งลงบนพื้น หานซานเฉียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ หยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำแล้วสวมให้ฉินโหรว จากนั้นจึงโอบฉินโหรวด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วเดินออกจากห้อง ในอ้อมแขนของหานซานเฉียน ฉินโหรวรู้สึกถึงความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาก เธอเคยประทับใจหานซานเฉียนบนเครื่องบินมาก่อน แต่พราะเธอเชื่อคำพูดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดังนั้นเธอจึงเกลียดหานซานเฉียน แต่ตอนนี้เธอรู้ตัวตนของหานซานเฉียนแล้ว และหานซานเฉียนก็ช่วยชีวิตเธอ อารมณ์ที่ไม่คงที่เช่นนี้ทำให้เธอชอบหานซานเฉียนมากขึ้น "ฉันขอโทษที่ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจคุณผิด" ฉินโหรวกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลง “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากเธอ” หานซานเฉียนพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงของหานซานเฉียน ฉินโหรวได้ยินถึงความเฉยเมยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เธอเจ็บปวดอย่างอธ
หลังจากที่ผู้จัดการพูดจบ เขาก็มองไปที่หานซานเฉียนอย่างระมัดระวัง และพบว่าเขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงผ่อนคลายเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้จัดการ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับม่อหยาง และดูเหมือนว่าสถานะของเขาก็ไม่ต่ำต้อยเลย เขาจะทนให้คนอื่นเรียกเขาว่าคนไร้ค่าได้อย่างไร? และเป็นเวลากว่าสามปีที่แม้แต่ขอทานข้างถนนยังหัวเราะเยาะเขาได้ ในสายตาของผู้จัดการ แม้แต่เขาก็ยังทนความอับอายแบบนี้ไม่ได้ เมื่อฉินโหรวและเฉินเหมี่ยวได้ยินคำว่าแต่งออก พวกเธอแสดงสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เพียงแต่แต่งงานแล้ว แต่ยังแต่งออกอีกด้วย! แม้ว่าปรากฏการณ์แบบนี้จะไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมปัจจุบัน แต่ในสายตาของคนส่วนใหญ่ การแต่งออกหมายถึงคนที่ไร้ความสามารถ และหมายความว่าผู้ชายไม่มีความสามารถซึ่งเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของผู้ชายเอง และหลายคนก็ไม่ยอมรับสภาพนี้ เขาดีขนาดนี้ ทำไมถึงอยากแต่งออก? เมื่อเทียบกับเฉินเหมี่ยว ฉินโหรวรู้สึกตกใจมากยิ่งกว่าเพราะเธอรู้จักตัวตนของหานซานเฉียนจากฉินหลิน นี่คือนายน้อยของตระกูลหานในเหยียนจิง มาถึงเมืองหยุนเฉิงแล้วกลับเลือกที่จะแต่งงานออกไป? "ตอนนี
“เดาว่าเป็นใคร?” ม่อหยางถามอย่างสงสัย "อาจจะเป็นสาวใช้ของหานเหยียน หานชิง" หานซานเฉียนกล่าว “เป็นแค่สาวใช้ กล้าดียังไงถึงได้ทำขนาดนี้” ม่อหยางถามด้วยความประหลาดใจ "ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่ แต่ตระกูลหานจะไม่ทำให้ใครแปลกใจ" หานซานเฉียนไม่รู้ว่าตระกูลในสหรัฐอเมริกาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ทำให้หานซานเฉียนรู้สึกถึงอำนาจล้นเหลือของครอบครัวนี้ และไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวใช้จะมีนิสัยเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หานซานเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาและหานชิงไม่ได้มีความขัดแย้งระหว่างกันมากนัก และหานชิงก็เสี่ยงที่จะถูกหานเหยียนตำหนิเพื่อตอบโต้ ผู้หญิงประเภทนี้ไม่ง่ายเลยที่จะยุ่งด้วย ภายในบ้านเช่าในหยุนเฉิง หานชิงมองดูชายตรงหน้าด้วยใบหน้าเย็นชา นี่เป็นการเตรียมการของเธอที่จะไปคลับเมจิกซิตี้เพื่อสร้างปัญหา แต่เธอไม่คาดคิดว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะยุ่งเหยิงขนาดนี้ "พวกไร้ค่า จะมีประโยชน์อะไรถ้าแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้พวกแกก็ทำไม่ได้" หานชิงพูดอย่างเฉียบขาด ชายร่างใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะหักหน้าหานชิง หลังจากนั้นพวกเขาก็รับเงินของหานชิง และตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย พวกเขากังวลว่าหานชิงจะขอเงินคืน
เงินเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจที่สุดในโลกนี้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ขัดสนเงิน พวกเขาเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อเงินนั้น หลังจากได้ยินคำพูดของหานชิง พวกนี้ดูเหมือนจะพร้อมที่จะเคลื่อนไหว แม้ว่าการลักพาตัวซูหยิงเซี่ยจะทำให้เกิดปัญหามากมาย ตราบใดที่พวกเขามีเงินเพียงพอ พวกเขาก็สามารถใช้เงินเพื่อบินหนีไปหลังจากนั้น และออกจากหยุนเฉิงไปตลอดกาล ถึงมีคนพยายามตามสืบก็ไม่พบ "คุณหาน ถ้าคุณยินดีจ่ายมากกว่านี้ พี่น้องของผมจะทำให้เรื่องนี้ราบรื่นสำหรับคุณอย่างแน่นอน" หนึ่งในนั้นพูดกับหานชิง สำหรับผลลัพธ์ดังกล่าว หานชิงไม่แปลกใจเลย การเติบโตในตระกูลหาน เธอตระหนักดีถึงอำนาจของเงิน ที่ตระกูลหานมีอำนาจในพื้นที่จีน อเมริกา ไม่ใช่เพราะเงินหรือ? ดังคำกล่าวที่ว่า เงินสามารถเปลี่ยนผีได้ นับประสาอะไรกับคนไม่กี่คน "ไปซะ แล้วค่อยกลับมาหาฉันหลังจากทำสิ่งนี้สำเร็จ ฉันหวังว่าครั้งนี้พวกแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง" หานชิงพูดอย่างเย็นชา หลังจากที่คนเหล่านั้นออกจากบ้านเช่าไป ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ทัศนคติของหานชิงนั้นยากที่คนธรรมดาทั่วไปจะยอมรับได้ “ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้หยิ่งทะนงเกินไ
หานเหยียนดูลังเลเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน หานเหยียนก็พูดว่า "ถึงคราวที่เธอต้องตาย มันก็สมควรที่จะตาย" ตี้หยางหยุดพูด เขารู้ว่าหานเหยียนมีแผน และแผนนี้ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับหานซานเฉียน ในกรณีนี้ตี้หยางไม่จำเป็นต้องถามคำถามเพิ่มเติม ก่อนที่เธอจะตัดสินใจ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นในคลับเมจิกซิตี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น ทุกคนที่เข้าไปในสถานที่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาตให้นำสิ่งที่อาจกลายเป็นอาวุธกระทบกระทั่งเข้ามาในบริเวณข้างในได้ ในขณะเดียวกัน หานซานเฉียนยังได้เตรียมการสำหรับการคุ้มครองของซูหยิงเซี่ยอีกด้วย จิตใจของผู้หญิงจะชั่วร้ายเพียงใด หานซานเฉียนไม่รู้ แต่เนื่องจากหานชิงสามารถทำอะไรบางอย่างกับคลับเมจิกซิตี้ได้ หานซานเฉียนจึงต้องระแวดระวังภัยคุกคามของเธอที่มีต่อซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนไม่เคยต้องการให้ซูหยิงเซี่ยได้รับอันตรายใด ๆ จากเรื่องนี้ ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด แม้ว่าหานชิงจะไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับซูหยิงเซี่ย แต่หานซานเฉียนก็เสียกำลังคนไปเพียงสองคน สำหรับเขา มันไม่ส
ม่อหยางผู้มีความรู้สึกผิดอยู่ในใจ กลับซ่อนความรู้สึกผิดไว้ลึก ๆ เมื่อเขาคิดว่าสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของตี้หยางโดยใช้ฉีฮู่ “โรงแรมเพนนินซูล่า แต่ถ้าไม่คิดว่าป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่ต้องไป...” ก่อนที่ม่อหยางพูดจบ ฉีฮู่ก็ขัดจังหวะ "ให้คนพาฉันไปที่นั่น ฉันไม่รู้ทาง" "ลองคิดดูให้ดี ถ้านายตายที่โรงแรมเพนนินซูลา จะไม่มีใครไปเก็บศพให้นาย" ม่อหยางกล่าว ฉีฮู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม เขาไม่คิดว่าโลกนี้เต็มไปด้วยปรมาจารย์ ชายชราที่เขาพบครั้งล่าสุดควรเป็นปรมาจารย์ที่หายากและยิ่งใหญ่ และเขาคงจะไม่โชคร้านที่จะได้พบกับคนแบบนั้นหรอก "ไม่ต้องกังวล ฉันสามารถฆ่าคนได้หลายคนด้วยหมัดเดียว มีคนไม่มากนักหรอกโลกนี้ที่สามารถฆ่าฉันได้" ฉีฮู่กล่าวด้วยความมั่นใจ "ตกลง" ม่อหยางพูดแล้วเรียกลูกน้องพาฉีฮู่ไปที่โรงแรมเพนนินซูลา หลังจากฉีฮู่จากไป ม่อหยางก็หายใจเข้าลึก เขารู้ว่าหานซานเฉียนจะตำหนิเขา แต่ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้ ม่อหยางจะไม่มีทางรู้ว่าตี้หยางจะคุกคามหานซานเฉียนได้มากเพียงใด อย่างไรก็ตาม เขายังคงหวังว่าฉีฮู่จะสามารถเอาชนะตี้หยางได้ เพื่อให้หานซานเฉียนมีอิสระมากขึ้นในการแข่งขันทางการตลาดกับหานกรุ๊ป ในหมู่บ้า
เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันที่หานซานเฉียนมีต่อเขา ม่อหยางรู้สึกว่าเหงื่อเย็น ๆ ไหลหยดลงตามหลังของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขายืนอยู่คนละฝั่งกับหานซานเฉียน "ซานเฉียน เขาไปที่โรงแรมเพนนินซูลา" ม่อหยางทนแรงกดดันที่หานซานเฉียนที่มีต่อเขาไม่ได้ เขาจึงต้องพูดความจริงออกมาเท่านั้น เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานซานเฉียนก็กัดฟันทันที ฉีฮู่คงไม่ไปที่โรงแรมเพนนินซูลาได้โดยไม่มีเหตุผล เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงแรมเพนนินซูลาอยู่ที่ไหน เห็นได้ชัดว่าม่อหยางเป็นคนบงการเรื่องนี้! "ม่อหยาง ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าฉีฮู่จะมีประโยชน์มากขึ้นในอนาคต ปล่อยให้เขาไปเสี่ยงในเวลานี้ได้อย่างไร" หานซานเฉียนพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ถ้านายไม่รู้ความแข็งแกร่งของตี้หยาง ทุกสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการเสี่ยง”ม่อหยางกล่าว “ถ้านายขอให้ฉีฮู่ไปเพื่อทดสอบ มันก็เหมือนกับผลักฉันลงไปในหลุมไฟไม่ใช่เหรอ?” หานซานเชียนดุอย่างโกรธเกรี้ยว "ถ้าเขาไม่อาจต่อสู้กับตี้หยางได้ ฉันจะหาทางพานายออกจากหยุนเฉิง ฉันจะรับผลที่ตามมาทั้งหมดเอง ตราบใดที่นายยังมีชีวิตอยู่ นายจะสามารถช่วยล้างแค้นให้ฉันได้ เมื่อนายยังมีชีวิตอยู่เท
คำพูดของหลินหย่งทำให้ม่อหยางทรุดลงบนพื้น เขาจัดเตรียมการทั้งหมดอย่างละเอียด แต่เขามองข้ามไปอีกจุดหนึ่งนั่นคือตัวหานซานเฉียนเอง ถ้าหากว่าเขาถูกส่งออกไปจากหยุนเฉิง แล้วเขาจะไม่กลับมาอีกงั้นเหรอ? ดังที่หลินหย่งพูด หานซานเฉียนจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไร! ม่อหยางยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดก็ได้รู้ว่าการรับมือของเขานั้นงี่เง่าเพียงใด ความตั้งใจทั้งหมดของเขานั้นก็ไร้ความหมายทันทีเมื่อเผชิญกับความต้องการของหานซานเฉียน ไม่ว่าโอกาสจะมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของหานซานเฉียนได้ “ตราบเท่าชีวิตนี้ การมีพี่น้องแบบนี้ น่าจะเป็นของขวัญจากพระเจ้า” ม่อหยางพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หลินหย่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูจากท่าทางของม่อหยางแล้ว เขาคงไม่ออกไป ซึ่งหมายถึงว่าชีวิตของเขาเองก็คงจะรอดแล้ว "พี่ใหญ่ม่อ คุณควรวางใจพี่ซานเฉียน เขาจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน" หลินหย่งกล่าว ม่อหยางพยักหน้าละไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่หานซานเฉียนมาถึงโรงแรมแพนินซูลา เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามที่หน้าประตู หากไม่มีคำสั่งของหานเหยียน คนเหล่านี้จะไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้าไป สถ