ซ่งจื่อหรูเดินไปทางหลังบ้านก็เห็นบรรดาท่านป้าดายหญ้าที่สูงเกือบเท่าตัวคนจนเกือบเสร็จ มองเห็นเหล่าพืชต้นเล็กๆ มีผลยาวสีเขียวสีแดง โอ้สวรรค์จ๋า มีพริก มีฟักทอง ต้นกระเทียม ถึงแม้จะขึ้นกระจัดกระจายแต่ก็เยอะพอควร ที่ตอนแรกไม่เห็นเพราะตอนนั้นสำรวจแต่ภูเขากับบริเวณบึงบัว ที่จริงบ้านนี้มีของดีไม่น้อย
"ท่านป้า...ตรงนั้นไม่ต้องถางเจ้าค่ะ"
"เอ๋ ทำไมรึจื่อหรู หญ้าพวกนี้ถางไปเดี๋ยวก็ขึ้นอีกต้องขุดรากออก"
"ไม่ใช่เจ้าค่ะมันกินได้ ต้นนั้นเรียกว่าพริก ที่เลื้อยๆเรียกว่าฟักทองเจ้าค่ะ ส่วนนั่นต้นกระเทียมป่า ริมน้ำนั่นคือเผือกเจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเก็บเจ้าลูกเขียวๆแดงๆให้ข้าสักหน่อย มื้อกลางวันข้าจะทำอาหารที่พวกท่านไม่เคยกินให้ชิมเจ้าค่ะ"
"เอ่อ จื่อหรูลุงหกถางเจ้าฟักทองนั่นเยอะเชียว กินได้จริงๆหรือ "
"ท่านลุงเก็บลูกที่ถางไปแล้วไว้ให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ กินได้หรือไม่เดี๋ยวก็รู้"
แม้ไม่แน่ใจแต่ทุกคนก็พร้อมใจกันเก็บให้นาง อย่างไรเลยหากเด็กคนนี้บอกว่ากินได้ มีอาหารเพิ่มใครจะไม่เอากัน ซ่งจื่อหรูนำตับหมูออกมาหนึ่งพวงก่อนจะหั่นเป็นชิ้นไม่หนาไม่บาง จากนั้นก็คลุกด้วยขิงกับเหล้าเหลือง
"ให้ตายเถอะกลัวไม่มีข้าวกิน ลืมซื้อแป้งสาลี หากมีแป้งเคล้าสักหน่อยก็ดี"
จากนั้นก็นำพริกไปล้าง หั่นเฉียงๆ ต้นกระเทียมป่าเอาใบแก่ออก ฟักทองผ่าเป็นชิ้น นำมานึ่ง ตั้งกระทะใส่น้ำมันตามด้วยกระเทียมบุบ ขิง แล้วตามด้วยตับหมู พริก ปรุงรสก่อนจะใส่ต้นและใบกระเทียมที่หั่นท่อน เหยาะเหล้าอีกนิดเพิ่มความหอม นำถาดไม้ออกมาหกใบวางใบบัวรอง นำไก่ออกจากเตา ทุบดินจนแตกแกะใบบัวออกจะเหลือขั้นสุดท้าย วางบนถาด ใช้มีดค่อยๆเฉือนไก่ออก เป็นสองที่ ผัดตับหมู ฟักทองนึ่ง หมั่นโถว ยกออกไปด้านนอก คนชนบทไม่เรื่องมากไม่มีโต๊ะมีที่นั่งกินก็พอแล้ว
"ท่านปู่ ท่านอา ท่านลุงท่านป้า ทานข้าวเจ้าค่ะ เที่ยงแล้ววางมือก่อนเถอะเจ้าค่ะ"
"เอ๋ กลิ่นหอมจริงๆ หมู่บ้านพวกท่านโชคดีจริงๆ แม่หนูจื่อหรูนี่ช่างน่าอัศจรรย์"
ทุกคนนั่งร่วมวง แบ่งหญิงและชาย พอนั่งลงก็เริ่มกินแม้จะเอาอาหารมาเองเพราะรู้สถานการณ์ของนางดี แต่ก็หวังว่าจะได้กินมันเทศเผาเช่นเมื่อวาน ใครจะรู้ว่าวันนี้เด็กคนนี้กลับทำอาหารเสียพวกเขาวางตะเกียบไม่ลง
ซ่งจื่อหรูนำจานออกมาใช้ นางใส่ไก่ย่าง ฟักทองนึ่ง และตับหมูผัด ข้าวขาวหนึ่งโถ เห็ดหูหนูต้มถ้วยใหญ่ จากนั้นก็คลุมด้วยผ้าฝ้ายสีขาวที่ซื้อมา
"น้องสี่จะไปบ้านฮั่วรึ น้องสี่พี่ถามจริงๆเจ้าสนิทกับพวกเขาแค่ไหน เจ้าเป็นผู้หญิงคนไม่รู้อาจให้ร้ายเจ้าลับหลัง" หลี่หานกังวลใจ
"อย่าห่วงเลยพี่รอง ข้าเอาอาหารไปให้อาสะใภ้เท่านั้น อีกอย่างข้ายังเด็กพี่หรงคงไม่คิดอะไรหรอก ข้าแบ่งข้าวไว้แล้วท่านยกไปให้ป้าสะใภ้ใหญ่กับพี่สามเถอะ ฝากดูจื่อเย่วกับจื่อห่าวให้ด้วย"
ซ่งจื่อหรูเดินไปแล้ว หลี่หานถอนหายใจ ปล่อยให้ทุกอย่างไปตามโชคชะตาเถอะ หวังว่าฮั่วเฟยหรงคนนั้นจะเป็นคนดี เขายกอาหารเข้าไปในห้อง เห็นมารดายังคงเหม่อลอยเขาต้องการแยกบ้านหากท่านพ่อไม่ยอมเขาจะพาท่านแม่ออกมา
ซ่งจื่อหรูมาถึงบ้านสกุลฮั่วเห็นฮั่วเฟยหย่งนั่งอยู่หน้าบ้านจึงเอ่ยทัก
"คาราวะท่านอาฮั่วเจ้าค่ะ ข้าขอเข้าไปได้ไหมเจ้าคะ"
"อืม เข้ามาสิว่าแต่มีอะไรหรือไม่หลงเอ๋อร์ไม่อยู่หรอกข้าใช้เขาไปทำธุระน่ะ"
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าเอาอาหารมาให้พวกท่าน เมื่อเช้าข้าไปตำบลมาได้พี่เฟยหรงช่วยดูน้องๆให้ เกรงว่าจะไม่ได้ทำอาหารข้าจึงทำเผื่อ ในชามนี้เป็นเห็ดหูหนูขาวต้มน้ำตาลกรวด ช่วยขับเสมหะและบรรเทาอาการไอ ท่านให้อาสะใภ้ทานนะเจ้าคะ มันยังช่วยให้นอนหลับง่ายไม่ตื่นกลางดึก"
หลังจากส่งตระกร้าให้ฮั่วเฟยหย่งแล้วซ่งจื่อหรูก็ตรงไปทิศตะวันออกของหมู่บ้าน เห็นชายหญิงกำลังดายหญ้า แดดที่ร้อนนั้นทำให้ทั้งสองคนปาดเหงื่อ
"ลุงรอง ป้าสะใภ้รอง ถิงถิง "
"หลานสี่ มาได้อย่างไรมิใช่ว่าเจ้ากำลังซ่อมแซมบ้านอยู่รึ" หลี่ต้าจูเงยหน้าถามหลานสาว
"อารองข้าเอาอาหารมาให้ เดาว่าพวกท่านคงยังไม่ได้กิน"
"ท่านย่าไม่รู้เป็นอะไร เลอะเลือนแต่เช้าขว้างจานชามจนแตก ไม่ยอมให้ท่านแม่หุงข้าว ไม่ยอมให้พวกเรากินข้าว "หลี่ถิงถิงทำปากยู่
"อาหรูเจ้าบอกข้าที ข้าทำอะไรผิด ข้าทำไม่ดีหรืออย่างไร ข้าอดทนเพียงนี้นางยังต้องการสิ่งใดฮือๆๆๆ" หวงซื่อต้องออกมาทำงานทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าว
"ป้ารอง ร้องไห้มากไปไม่ดีต่อบุตรในครรภ์นะเจ้าคะตอนนี้ป้าสะใภ้ใหญ่ นางอยู่ที่บ้านข้า" ซ่งจื่อหรูพูดจบหลี่ถิงถิงก็แปลกใจจนต้องเอ่ยเสียงดัง
"เดี๋ยวนะ พี่สี่พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกรึ ปกติไปเหยียบบ้านท่านนางยังแทบจะไม่ไป"
"เฮ้อถิงถิงเมื่อเช้าคนบ้านเดิมนางมาที่บ้านข้า หาว่าข้าล่อลวงบุรุษของพวกนาง พอนางรู้ก็ตามมา จนทะเลาะตบตีกัน"
"พี่สี่ป้าสะใภ้ใหญ่นางเข้าข้างท่านหรือ แปลกเกินไปแล้ว"
"ที่จริงก็เปล่าเข้าข้างข้าหรอก คราวก่อนมีเรื่องท่านย่าทำร้ายข้า แม้ว่านางไม่ได้ลงมือแต่ก็ดูดาย ต้นเรื่องมาจากพี่ใหญ่ถูกสกุลไป๋ให้แม่สื่อมาแจ้งยกเลิกการหมั้นหมาย"
"ห๊า ไหนว่าเรียบร้อยแล้วไง"หลี่ต้าจูอุทาน ถูกยกเลิกมิน่าพี่สะใภ้ถึงโมโหหลี่เหิงจะสิบห้าอีกไม่กี่วัน ควรหมั้นหมายได้แล้ว
"อาเหิงไม่กลับบ้านมาเกือบสองปีแล้ว พ่อของลูกท่านไม่แปลกใจเลยหรือ"หวงซื่อถามสามี
"ลุงรองมีเรื่องนึงข้าไม่เจ้าใจ ข้าสงสัยเหตุใดลุงใหญ่ไม่สนใจลูกเมียเอาแต่เมาหัวราน้ำ ป้าสะใภ้ใหญ่เป็นแบบนี้ก็เพราะลุงใหญ่พึ่งพาไม่ได้ เนื้อแท้นางก็แค่สตรีอ่อนแอคนนึง เพราะบ้านนางให้ความสำคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรสาว ท่านย่าแม้จะโมโหที่ลุงใหญ่ไม่เอาไหนแต่กลับทำหูทวนลม เหมือนไม่ใส่ใจ"
หลี่ต้าจูถอนหายใจก่อนจะเอ่ย
"เมื่อก่อนพี่ใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนี้ เขารักครอบครัวมาก"
"แล้วอะไรทำให้คนเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ เจ้าคะท่านพ่อ"
"เรื่องผู้ใหญ่เจ้าอย่ารู้นักเลยถิงถิง หลานสี่แล้วเจ้าจัดการสตรีสกุลหวังเช่นไร"เขาดุบุตรสาวก่อนจะหันมาถามซ่งจื่อหรูแทน
"เรื่องนี้ข้าไม่รู้ว่าท่านย่าอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่อาเล็กพาพวกเขามาข้าให้พวกนางจ่ายค่าเสียหายไม่เช่นนั้นจะไปร้องเรียนทางการ ท่านย่าหัวเสียน่าจะเพราะอาเล็กไม่มีเงินจ่ายจึงต้องทำสัญญากู้ยืมเท่ากับนางติดหนี้ข้า สงสัยเพราะเรื่องนี้กระมังจึงมาลงกับครอบครัวท่านลุง ต่อมาคนจากหมู่บ้านเถาซานมาตามสะใภ้หวัง บอกว่าสามีพวกนางถูกคนคุมบ่อนตีจนขาหักแล้วโยนทิ้งไว้จึงได้แยกย้ายกันไป"
"เจ้าใหญ่ถูกถอนหมั้น คนบ้านเดิมยังทำเรื่องอื้อฉาวขนาดนี้ เรื่องแต่งงานเจ้ารองกับเจ้าสามคงลำบากแน่ๆ พี่สะใภ้ไม่สติแตกคงแปลกแล้ว"
"มีเรื่องเลวร้ายกว่านี้อีก วันนี้ข้าเจอพี่ใหญ่ สภาพของเขาซูบผอม ตาโหลเหมือนคนอดนอนมานาน ลุงรองข้ามีเรื่องปรึกษาท่านหากท่านเห็นด้วยคืนนี้เราไปหาท่านปู่ใหญ่ด้วยกัน ข้าแอบให้ลุงซ่งเหวินส่งจดหมายไปตามพี่ใหญ่กลับมาแล้ว"
ซ่งจื่อหรูอยากคุยกับเขาก่อนหลังจากปรึกษาเรียบร้อยหลี่ต้าจูก็เห็นดีด้วยมีเพียงหวงซี่อ ที่เอาแต่ร้องไห้จนต้องขู่ว่า หากนางร้องจนทำร้ายลูกในครรภ์ ใครจะช่วยได้หวงซื่อจึงหยุดร้อง
"ลุงรองท่านดูแลป้ารองให้ดีวันนี้อย่าปะทะกับนาง หลีกเลี่ยงท่านย่าไปก่อน หากเกิดเรื่องคงไม่ดีนักนางท้องแก่มากแล้ว"
"นางขายหมูเสร็จก็ลากอาเล็กกลับบ้านเดิมไปแล้วล่ะพี่สี่"
หลี่ถิงถิงทำสีหน้าเบื่อหน่ายซ่งจื่อหรูยีหัวนางก่อนจะหันมากำชับหลี่ต้าจูถึงเรื่องคืนนี้ แล้วเดินกลับทางเดิมที่มา มองท้องฟ้าแล้วถอนหายใจเบาๆ
เมื่อมาถึงก็เหลือแค่เก็บกวาดก็เสร็จ ตอนนี้พื้นที่ๆเคยมีวัชพืชรกเต็มไปหมด กลายเป็นพื้นที่โล่ง รั้วทั้งสี่ด้านล้อมเสร็จแล้ว หินมากมายถูกกองไว้ ต้นหลิวขนาดใหญ่ถูกเลื่อยกิ่งที่ยื่นออกไปด้านนอก เพื่อป้องกันคนจะปีนเข้ามา เดิมทีหลี่ฝูเหยาต้องการโค่นออกเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่นางบอกจะเก็บไว้เป็นร่มเงาให้น้องๆนั่งเล่น"เจ้าสี่มาแล้วรึ"หลี่ฝูเหยาเอ่ยถาม"แม่หนูสี่เข้าอยากถามเจ้าว่าจะแบ่งปันอย่างไรดี เรื่องมันเทศเหล่านั้น" ผู้นำหมู่บ้านไป๋ซานเอ่ยขึ้น"อืมให้ผู้ชายขุดมันเทศ ผู้หญิงเก็บเกาลัด เด็กๆที่พอใช้งานได้ ก็ให้รับหน้าที่ขนลงเขา เอามารวมที่ลานต้นไหวปากทางเชื่อมสามหมู่บ้านนั่นแหละเจ้าค่ะ""จริงด้วยแม่หนูสี่ ไอ้ที่เจ้าเรียกว่าพริกนั้น กินแล้วอยากกินอีกถึงจะทำให้ข้าร้องไห้ก็เถอะ" ชาวบ้านยังคิดถึงรสชาตินั้นจึงเอ่ยถาม"พริกช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลมได้เจ้าค่ะ ข้าเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้หากเพาะแล้วขยายพันธุ์ได้ พวกเราก็มีอาหารเพิ่ม จริงสิ บ้านข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รบกวนทุกท่านจนเกินไป ช่วยไปซ่อมแซมบ้านปู่เก้าให้สักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยแก่คนที่มาช่วยงาน"เจ้าไปบ้านเจ้าเก้ามา
ปลายยามซวี(19.00-20.59)เกวียนวัวค่อยๆเคลื่อนเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วหยุดตรงที่หน้าบ้านของหลี่ฝูเหยา หลี่ต้าจูยืนรออยู่แล้ว หลี่เหิงลงจากเกวียนมา ก่อนจะคาราวะเขา"เหตุใดไม่เจอเพียงปีกว่าเจ้าซูบผอมเพียงนี้ เจ้าใหญ่เงินที่ทางบ้านส่งไป ไม่พอให้เจ้ากินอยู่หรือ"หลี่ต้าจูเอ่ยถามหลานชายคนโต"พี่ใหญ่ ท่านผอมมากท่านแม่อยู่บ้านน้องสี่ ท่านย่าพอทะเลาะกับท่านพ่อเสร็จก็ออกไปนางบอกจะกลับบ้านเดิมสักสองสามวัน ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา" หลี่หานเอ่ยกับพี่ชาย ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านหลี่ฝูเหยา หลี่เหิงถามอาการของหวังซื่อกับซ่งจื่อหรู"ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่เหิงถามน้องสาวซ่งจื่อหรู"อาการ Panic ละมั้ง อ้อข้าหมายถึงนางสะเทือนใจน่ะ"หลี่ต้าจูทักทายลุงใหญ่ของเขาก่อนจะเอ่ยกับหลี่ฝูเหยาอย่างเกรงใจ"ลุงใหญ่รบกวนท่านอีกแล้ว เป็นอย่างที่ท่านกล่าวมาคนบ้านข้าหาเรื่องไม่เว้นวันจริงๆ""ช่างเถอะๆ ใครใช้ให้เจ้าเป็นลูกเจ้ารองน้องชายข้าล่ะ วันนี้มาดึกดื่นมีอะไรกันแน่"หลี่ต้าจูเป็นคนเอ่ยขึ้น จากนั้นก็ตามด้วยหลี่หาน ยังไม่ทันฟังจนจบหลี่ฝูเหยาก็แทบจะไปที่ตำบลลากคอหลี่ต้าเหวินมาลงโทษตามกฎบรรชนเสียจริงๆ"ท่านพ่ออย่าโมโหเลย ร
หลี่ต้าจูเดินเหม่อ หลี่เหิงและหลี่หานเองก็ไม่ต่างกัน ในบ้านของซ่งจื่อหรูหลี่ม่านอวี้นั่งรออยู่หลี่หวังซื่อหลับไปแล้ว ทันทีที่เห็นหลี่เหิงหลี่ม่านอวี้ก็โผเข้าใส่ร้องไห้ ซ่งจื่อหรูให้หลี่เหิงกับหลี่หานนอนอีกห้องส่วนหลี่ถิงถิงขอบิดานอนค้างกับพี่สี่ของนาง หลี่ต้าจูต้องกลับบ้านเพราะป้ารองที่กำลังตั้งครรภ์ไม่มีใครอยู่ด้วย ซ่งจื่อหรูเล่านิทานต่อจากเมื่อวานเด็กๆ หลับหมดแล้ว นางอยากเข้าไปในมิติแต่วันนี้คงไม่ไหว ทะลุมิติมาที่นี่ได้สามวันยังไม่มีวันไหนได้พัก ใครบอกว่าสมัยโบราณนั้นไม่วุ่นวาย นี่ไงวุ่นวายสุดๆหลี่เหิงรีบกลับทันทีที่ได้ข่าว จึงยังไม่ได้กินอะไร ซ่งจื่อหรูเองก็เหนื่อยมาก นางเข้าครัว หยิบไข่ไก่ออกมา ต้มกับน้ำตาลทรายแดง ให้ตัวเองและพี่ไปคนละ2ฟอง ทั้งหมดออกไปคุยหน้าบ้านที่ตอนนี้ดายหญ้าและกวาดจนเตียน ทั้งสี่คนนั่งกินไข่หวานไม่มีใครเอ่ยอะไรจนพระจันทร์ตรงศรีษะจึงรู้ว่าเป็นเวลาปลายยามจื่อแล้ว(23.00-00.59)"เหตุใดท่านพ่อไม่มาตามหาท่านแม่สักนิด"หลี่เหิงถามขึ้นมา"พี่ใหญ่ ท่านไม่กลับบ้านมานานท่านคงไม่รู้ ท่านพ่อเอาแต่ขลุกอยู่บ้านแม่หม้ายเหล่านั้น หากท่านแม่โวยวายก็จะถูกตี เมื่อก่อนตอนข้ายังเด็
หลังจากที่ทำรั้วบ้านเสร็จแล้วก็ไม่ห่วงกังวล นางหยิบเอาหม้อไห กะทะจานชามที่ท่านตาเก็บซ่อนไว้ออกมาใช้ทุกอย่าง แม้กระทั่งผ้าห่มผ้านวมที่พวกหลี่เหิงใช้นางก็นำออกมาซ่งจื่อหรูตื่นแต่เช้า นางนำหมูเนื้อแดงมาหั่นลูกเต๋า หมักเครื่องเทศจากนั้นก็นำมาเคี่ยว นำข้าวเหนียวมาแช่ และข้าวสารมาแช่ ต้มกระดูกหมูที่ซื้อมาต้มในหม้อใบใหญ่ มันหมูนำมาเจียว หลังจากได้น้ำมันก็พักไว้ กากหมูไว้กินเล่น"พี่รองท่านตื่นแล้วหรือ ไปช่วยข้าส่องไฟที่บึงบัวหน่อย"หลี่หานพยักหน้า นางสั่งให้หลี่หานเด็ดใบบัว ส่วนตนเองถกขากางเกงก้มๆเงยๆสักพักก็ได้รากบัวอวบเท่าข้อมือเด็กมาห้าท่อน ล้างดินจนเกลี้ยง พากันเดินกลับบ้าน นำรากบัวไปล้างที่ลำธารอีกที หลี่เหิงตื่นแล้วซ่งจื่อหรูให้เขารีบกลับก่อนที่หวังซื่อจะตื่น เอากากหมูห่อใบบัวส่งให้กินระหว่างทางและฝากไปให้ท่านย่าใหญ่ด้วย"พี่ใหญ่รีบไปเถอะนางไม่พบท่านมานาน หากตื่นมาเจอหน้ากันนางย่อมไม่ปล่อยท่านกลับไปโดยง่ายแน่ๆ เรื่องที่ท่านแอบกลับมาคงปิดอาสี่ไม่อยู่ รอปู่ใหญ่ทำเรื่องเสร็จเรียบร้อยข้าจะส่งข่าว เงินที่ให้เมื่อวานหากจำเป็นก็ใช้เถอะ"หลี่เหิงพยักหน้าก่อนจะมองดูมารดาที่นอนหลับด้วยสายตาห่วง
ซ่งจื่อหรูกลับมาถึงก็เห็นเด็กๆล้างหน้าเรียบร้อย เดิมวันนี้อยากให้พวกเขาสวมชุดใหม่ แต่หากไปเจอกับเด็กคนอื่นอาจเกิดปมด้อยกับเด็กเหล่านั้นได้ จึงได้แต่หวีผมให้เรียบร้อยหลี่จื่อเย่วกับหลี่ถิงถิงถักเปียสองข้างก่อนจะม้วนเป็นก้อนกลมๆ ปักด้วยดอกไม้ป่าสีชมพูสีเหลืองที่เก็บมาจากข้างทาง ดูแลเหมือนตุ๊กตาตัวน้อย หลี่ม่านอวี้ เดินออกมาเห็นซ่งจื่อหรูกำลังทำผมให้ซ่งจื่อห่าวพอดี นางหวีขึ้นก่อนจะรวบแล้วมัดก้อนกลมตรงกลาง ผูกด้วยผ้าแถบสีน้ำเงิน ปักด้วยปิ่นไม้ธรรมดา"พี่สาม พี่สี่ทำผมให้ข้างงามหรือไม่เจ้าคะ"หลี่ถิงถิงถามหลี่ม่านอวี้ที่เดินออกมา"อืมถิงถิงของพี่ งามมากนั่นจะเอาอาหารไปให้อารองกับกับอาสะใภ้รองหรือ""เจ้าค่ะ ข้าจะรีบไปรีบกลับแล้วจะกลับมากินข้าวเช้าที่นี่"หลี่ถิงถิงพูดจบก็คว้าตะกร้าวิ่งออกไปเร็วราวกับกระต่ายหลี่ม่านอวี้ได้แต่มองตามแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ถอนหายใจ"อย่าห่วงเลยพี่สาม พี่รองไปตามหาลุงใหญ่แต่เช้าแล้ว ถ้าอยู่ในหมู่บ้านเดี๋ยวก็เจอ"ซ่งจื่อหรูรู้ดีว่าหลี่ม่านอวี้กังวลสิ่งใด"น้องสี่ เจ้าว่าสวรรค์ลงโทษที่เมื่อก่อนข้าทำไม่ดีหรือไม่""พี่สาม เรื่องที่ผ่านไปแล้วท่านอย่าใส่ใจเลย พวกเราแก้ไขอ
ด้านซ่งจื่อหรูที่มาถึงต้นไหวเห็นชาวบ้านมากมายมายืนรอ ในมือมีเครื่องมือบนหลังสะพายตระกร้าก็เข้าไปทักทายอรุณสวัสดิ์ท่านปู่ไป๋ ท่านปู่หวัง ท่านปู่สาม ท่านปู่ห้า และทุกคนเจ้าค่ะ""มาแล้วๆๆๆแม่หนูสี่นางมาแล้ว""แม่หนูสี่พวกเราตื่นเต้นเลยมาแต่เช้าคงไม่รบกวนมื้อเช้าเจ้าหรอกนะ"ซ่งจื่อหรู"ไม่รบกวนเจ้าค่ะ เอ่อ ท่านน้าท่านอาที่ตั้งครรภ์ อย่าขึ้นเขาเลยนะเจ้าคะ อยู่ที่นี่คอยดูของที่แบกลงมาดีกว่า ทางบนเขาอันตรายยิ่งนัก"มีหญิงตั้งครรภ์หลายคนรวมถึงหวงซู่ป้าสะใภ้รองอีกด้วย เด็กคนนี้คิดรอบคอบเสียจริงๆผู้นำสามหมู่บ้านชื่นชมนาง เมื่อทักทายกันเสร็จก็พากันขึ้นเขา ซ่งจื่อหรูพาเหล่าสตรีไปถึงดงเกาลัด มีเกาลัดหลายสิบต้น พวกนางใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาเนื่องจากซ่งจื่อหรูเคยให้ดูแล้วว่ามีหนามแหลมจากนั้นก็พาเหล่าชายฉกรรจ์ไปชุดมันเทศ ตกบ่ายมันเทศและเกาลัดก็กองพะเนินเต็มลาน ซ่งจื่อหนูคิดว่าน่าจะใช้เวลาสองถึงสามวัน ใครจะรู้ว่าพวกเขาทำเสร็จในวันเดียว ดูถูกความอดอยากไม่ได้จริงๆ นางละจากกลุ่มคนไปหากรีดยางไม้ได้หลายกระบอกจะเอามาทำคบเพลิง ขุดต้นเหมยกุ้ยมาหลายต้น นำเถาวัลย์มามัดเป็นสองกองแล้วหาไม้มาเหลาเสียทั้งสองด้านหาบลงไ
ห้องตกแต่งวิจิตรงดงาม เชิงเทียนลวดลวยอ่อนช้อน เครื่องเรือนดูบรรยาดาศในห้องล้วนดูมีพลัง ด้านบนชายคนหนึ่งสวมชุดสีทองลายมังกรนั่งอ่านฎีกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างๆมีชายชราคอยโบกแส้พัดให้ มีเสียงจากคนที่อยู่ด้านนอก"ทูลฝ่าบาท หลิวกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ"หานกงกงกราบทูล"หลิวกุ้ยเฟยหรือดึกป่านนี้นางมีธุระอะไร หานกงกงให้นางเข้ามา" บุรุษชุดทองสั่งคนข้างๆ"แต่ว่าฝ่าบาทองครักษ์ทั้งสองรอรายงานอยู่นะพะย่ะค่ะ""เชิญนางเข้ามาเถอะกงกง ให้เกาฟ่านกับเกาหม่ารอก่อน"หรือ"รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ เชิญหลิวกุ้ยเฟยเข้าเฝ้าได้"เสียงแหลมคล้ายสตรีก็ไม่เชิงของหานกงกงตะโกนอนุญาติคนด้านนอก ชั่วอึดใจก็มีสตรีร่างระหงเกินเข้ามายามที่นางก้าวเดินนั้นเหมือนดั่งเทพธิดา อ่อนช้อยอ่อนหวานยิ่งนัก ด้านหลังมีสตรีอีกสองคนถือถาดทองเหลืองตามในถาดมีชามวางอยู่"ฝ่าบาท ดึกมากแล้วยังทรงอ่านฎีกาอยู่อีกหรือเพคะ หม่อมฉันทำน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมมาถวาย ไห่ถังยกเข้ามาให้ข้า"หลิวกุ้ยเฟยสั่งนางกำนัลที่เดินตาม"เพค่ะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง"สาวใช้ประคองถาดมาใกล้อีกคนยกชามน้ำแกส่งให้หลิวกุ้ยเฟย นางรับมาจากนั้นก็เดินมาข้างจ้าวเทียนหยู ก่อนจะวางลงพร้อมตักน้ำแ
ภายในห้องทรงอักษรจ้าวเทียนหยูนั่งหลับตา ถอนหายใจแม้ว่าจะไม่ชอบใจเสนาบดีหลิวแต่ก็ไม่อาจทำการสิ่งใดโดยไม่ใตรตรองหานกงกงกลับมาแล้ว มีบุรุษแต่งกายด้วยชุดสีดำทะมัดทะแมงเดินตามา จากนั้นก็ปิดประตู"กระหม่อมเกาฟ่าน ถวายพระพรฝ่าบาท""กระหม่อมเกาหม่าถวายพระพรฝ่าบาท""อืม ตามสบาย หานกงกงส่งแม่นมเฉินเรียบร้อยแล้วหรือ""พะย่ะค่ะ เอ่อฝ่าบาทกระหม่อมมีเรื่องนึงไม่ทราบว่าควรทูลหรือไม่"หานกงกงสีหน้าอึกอัก"ว่ามาเถอะ เราไม่ว่าท่านหรอก""องค์ชายใหญ่กับองค์ชายห้าทรงหนีออกไปเที่ยวข้างนอกนี่ก็ห้าวันแล้วยังไม่กลับวังเลยพะย่ะค่ะ หวังกุ้ยเฟยไปร้องไห้ฟูมฟายกับฮองเฮาอยู่ที่ตำหนักฉางชิง""เหลวไหล ส่งคนไปหาพากกลับมาแล้วให้ลงโทษขังในตำหนักหนึ่งเดือนไม่เอาไหนๆจริงๆ เกาหม่าวันนี้มีข่าวอะไรบ้าง?"จ้าวเทียนหยูถึงกับกุมขมับ"ฝ่าบาท ท่านอ๋องติดต่อมาแล้วพะย่ะค่ะ ยังมีเรื่องอื่นให้นำข่าวมาบอกด้วยพะย่ะค่ะ""ทำไมเรารู้สึกว่าองครักษ์ของเราช่างไร้ประโยชน์ ยังสู้คนของเสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้""กระหม่อมสมควรตาย ขอฝ่าบาทลงโทษด้วย""องครักษ์ฟ่าน เมื่อสักครู่พระนางกุ้ยเฟยเพิ่งจะกลับไป นางได้ยินข่าวท่านอ๋องยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่จึงมาเอ
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค