"อะไรนะ บัณฑิตจะไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร เมียต้าโจวเรื่องนี้กระทบถึงเด็กคนอื่นในหมู่บ้านนะเจ้าพูดให้ดีๆ" หลี่ฝูเหยาถึงกับหน้าดำเป็นก้นหม้อ ชื่อเสียงหมู่บ้านจะถูกทำลายไม่ได้
"ลุงใหญ่ แม่สื่อที่ข้าคุยนางบอกข้าเอง นางบอกว่าสกุลไป๋ทางนั้นไม่ต้องการหมั้นหมาย แล้วฮือๆข้าลำบากเพื่ออะไร ลูกข้าคัดหนังสือจนมือไร้เรี่ยวแรง อาของเขากลับเอาเปรียบถึงเพียงนี้ เงินที่ข้าส่งไปกลับไม่ถึงมือ ฮือๆๆ"
"อีสารเลว เจ้าเป็นสะใภ้แบบไหนมาข้าจะตีเจ้าให้ตาย เหอะบุตรสาวเจ้ากับเจ้าห้าไม่ช้าก็จะถูกขายแล้ว ข้าไม่สนใจพวกเจ้าหรอก"หลี่อ้ายเสิ่นชี้หน้าด่าพี่สะใภ้คนโต
"อาเล็ก ท่านเป็นสตรียังไม่ออกเรือนแสดงท่าทีเช่นนี้สมควรรึ ท่านอยากเป็นฮูหยินแต่กิริยาที่ท่านทำยังเทียบไม่ได้กับสาวใช้เลย หากท่านย่ากล้าขายน้องสาวข้าไปก็ไม่จำเป็นต้องกตัญญูอีกต่อไป"
หลี่หานกางแขนป้องมารดาเอ่ยพร้อมกับมองเหยียดอาสาว
"นี่พวกเจ้าสองคนมาทำอะไรอยู่ที่นี่ สามีพวกเจ้าถูกคนคุมบ่อนตีจนขาหักตอนนี้ถูกหามกลับมาที่บ้านแล้ว" ชาวบ้านหมู่บ้านเถาซานวิ่งมาตามสะใภ้แซ่หวังมั้งสองคน
" เสียเวลาข้ามากแล้ว ก่อนจะไปจ่ายมาคนละแปดตำลึงยกเว้นป้าใหญ่ นางเสียหายพอแล้ว ข้าซ่งจื่อหรูไม่หาเรื่องผู้อื่น แต่ก็ใช่จะยืนเฉยๆให้คนอื่นมาหาเรื่อง"
ซ่งจื่อหรูเอ่ยขึ้นนางไม่ยอมให้คนพวกนี้ลอยตัวแล้วจากไปเฉยๆ
"ข้าไม่มีหรอก เด็กน้อยนี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเจ้าเห็นแก่ข้าเป็นผู้อาวุโสกว่าเรื่องนี้จบแค่นี้เถอะนะ" สตรีแซ่หวังขอร้องนาง
"พี่ใหญ่ หากพวกนางไม่มีจ่ายก็ให้เขียนสัญญากู้ยืมขอรับ ถึงกำหนดไม่จ่ายก็ปรับดอกเบี้ยวันละ10อีแปะ วันไหนมีจ่ายก็ให้จ่ายทั้งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย หรือไม่พวกเราก็ไปร้องเรียนทางการ พวกนางเป็นคนสกุลหวัง ใส่ร้ายสกุลหลี่ หากทางการตัดสินไม่กระทบต่อหมู่บ้านเรามากนัก ท่านปู่ใหญ่ขอรับถ้าพวกนางไม่อยากขึ้นศาลก็ให้จ่ายตรงนี้เถอะ หากไม่มีเงินให้พวกนางทำสัญญากู้ยืมเถอะขอรับ เสียเวลากับพวกนางมามากแล้ว ชาวบ้านยังต้องหาอาหารมาเติมท้อง"
ซ่งจื่อห่าวจับมือพี่สาวแล้วเอ่ยปากกับหลี่ฝูเหยาให้พวกนางเขียนสัญญากู้ยืม
อู้ ทุกคนซู๊ดดปาก ซ่งจื่อห่าว ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อหรู สามคนนี้ไม่ควรหาเรื่องจริงๆ ลำพังเรื่องสัญญาเงินกู้พวกเขายังคิดไม่ถึง แต่เด็กสามขวบกลับทำให้พวกเขาประหลาดใจจริงๆ อีกอย่างพวกเขาอยากไปขุดมันเทศจะแย่แล้วหากคนพวกนี้ไม่จบพวกเขาจะจัดการเอง
"เอาตามที่จื่อห่าวบอกนี่แหละนี้แหละ เสียเวลามามากแล้วจะได้ทำงานสักที"
หลี่ฝูเหยาเห็นด้วย ใครใช้ให้พวกเจ้าหาเรื่องหลานข้ากัน เขามองหน้าชาวบ้านคนนึงก่อนจะพยักหน้า คนบ้านหวังยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
สะใภ้หวังตกใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ต้องยอมจ่ายสุดท้ายต่อรองไปๆมาๆซ่งจื่อหรูก็ยอมให้พวกนางจ่ายคนละ5ตำลึง ชาวบ้านหมู่บ้านเถาซานล้วนอยู่ที่นี่ พวกนางหวาดกลัวจนต้องยอมจ่ายแล้วรีบกลับ หลี่อ้ายเสิ่นไม่มีเงินจึงต้องเขียนสัญญาเงินกู้ แต่ต้องจ่ายภายในสิบวัน ไม่เช่นนั้นนอกจากเข้าคุกก็ต้องมาทำงานใช้หนี้เด็กทั้งสามจนกว่าจะครบห้าตำลึง มีผู้นำหมู่บ้านทั้งสามคนเป็นพยาน
หวังซื่อนั่งเหม่อเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ นางถูกบ้านเดิมดูถูกทุกครั้งที่แม่เฒ่าหลี่ไล่ให้ไปขนอาหารกลับมา ถูกน้องสะใภ้ทั้งสองรังเกียจ บุตรชายบุตรสาวยังถูกเอาเปรียบ นางไม่เก่งเหมือท่าทีที่แสดงออกสักนิด หลี่ม่านอวี้เช็ดน้ำตาให้มารดา หลี่หานเองก็น้ำตาไหลเช่นกัน
"ให้ตายเถอะแม่เจ้านี่มันครอบครัว Toxic จริงๆ "ซ่งจื่อหรูปวดหัว
"พี่ใหญ่ว่าอะไรนะเจ้าคะ"
"ไม่มีอะไรหรอกจื่อเย่ว นี่พี่สามท่านพาป้าใหญ่ไปนั่งในบ้านเถอะตรงนี้มีคนทำงาน พี่รองรบกวนท่านนำซาลาเปาไปให้ปู่เก้าที่ รบกวนท่านดูให้หน่อยดูว่าอาไช่ลุกได้หรือยังข้าจะไปทำอาหาร เช้าป่านนี้พวกนางเอาแต่ก่อเรื่องใครไม่หิวแต่ข้ากับน้องหิวแล้ว"
ซ่งจื่อหรูสั่งหลี่ม่านอวี้ให้พามารดาไปหลบข้างในและสั่งหลี่หานไปบ้านปู่เก้าแทนนาง ชาวบ้านเห็นหมดเรื่องแล้วก็ต่างคนต่างทำงานของตน เด็กบ้านนี้ถ้าหากผูกมิตรไม่ได้ก็อย่าเป็นศัตรูจะดีกว่า
ซ่งจื่อหรูกลับเข้าบ้านตอนนี้นางทำห้องครัวชั่วคราวไว้ นำดินมาร่อนจนละเอียดจากนั้นนำน้ำที่ต้มจนเดือดมารดดินค่อยๆนวดจนเหนียว ผสมเหล้าเหลืองลงไป ที่นี่ไม่มีเหล้าเหชั้นดีนางน่าจะหาเงินจากการหมักเหล้าได้ จากนั้นล้างมือจนสะอาดนำไก่มาห่อใบบัวหลายชั้น มัดด้วยตอกแช่น้ำเส้นเล็กๆจากนั้นนำดินที่นวดจนได้ที่มาห่อทับอีกที ไฟลาไปนานแล้ว เพราะเรื่องวุ่นวายจึงต้องเพิ่มฟืนใหม่ นำน้ำตาลแดงมาต้มเล็กน้อย ก่อนจะส่งให้หลี่ม่านอวี้
"ให้นางดื่มหน่อยเถอะ ท่านก็ด้วยเกิดเรื่องแต่เช้านางคงยังไม่ได้กินอะไร ยังไงท่านลุงใหญ่ก็เป็นลูกที่นางคลอดมาคงไม่ให้อดตายหรอก แต่ป้าใหญ่ไม่ใช่นางเป็นแค่สะใภ้ จริงสิพี่สามท่านป้าใหญ่รู้เรื่องอาสี่ได้อย่างไร"
ซ่งจื่อหรูเอ่ยถาม จากนั้นก็นำไก่ทั้งสองตัวลงในหลุมก่อนจะกลบไฟ นำเห็ดหูหนูที่ล้างสะอาดมาฉีกเป็นช่อเล็กๆ ใส่น้ำสะอาดในหม้อ พอน้ำเดือดก็ใส่น้ำตาลกรวด จากนั้นตามด้วยเห็ดหนูขาว เดือดสักพักก็ยกลง หูก็ฟังหลี่ม่านอวี้ไปด้วย
"เดิมทีมีเรื่องหมั้นหมายกับสกุลไป๋มีแววว่าจะเรียบร้อย ใครจะรู้ว่าคนในตระกูลไป๋ไปเห็นอาสี่อยู่ที่หอนางโลม พอไปคาดคั้นที่สำนักศึกษาจึงรู้ว่าพี่ใหญ่ไม่เคยได้ไปเข้าสอบสักครั้ง มีสหายของพี่ใหญ่แอบมาบอกว่าอาสี่รีดไถเงินจนหมด ไม่มีแม้แต่ค่าซื้อใบสมัครจึงให้แม่สื่อมายกเลิก ท่านแม่ถามหาสาเหตุจึงได้รู้"
"เมื่อเช้าข้าก็เจอพี่ใหญ่" ซ่งจื่อหรูบอกหลี่ม่านอวี้ หวังซื้อได้ยินก็พุ่งออกมาจากในห้อง
"เจ้าเจออาเหิง เจ้าสี่เขาเป็นไงบ้าง พี่ใหญ่ของเจ้าเขาอดอยากมากไหมข้าๆเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้จริงๆ"
หวังซื่อจับร่างบางเขย่าถามคาดคั้นจนหัวสั่นหัวคลอน ซ่งจื่อหรูต้องแกะมือนางออก ค่อยๆพูดตอนนี้หวังซื่อสติไม่ค่อยจะรับรู้
"ท่านป้าใหญ่ท่านเป็นแม่ที่ดี เพียงแต่ท่านคาดหวังเกินไปพี่ใหญ่อยากเป็นช่างไม้เขาไม่อยากเรียน แต่ท่านเอาปมด้วยตัวเองมากดดันเขาอยากให้เขาเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป เพียงเพื่อให้บ้านเดิมอิจฉาที่ท่านได้ดี ข้าคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ท่านดูไม่ออกจริงๆหรือว่าท่านย่าต้องการให้อาสี่ได้ประโยชน์ไม่ใช่บ้านใหญ่"
"ท่านแม่น้องสี่พูดถูก น้องสามนี่เป็นยาทาแก้ฟกช้ำพอดีข้าเจอท่านหมอเมิ่งจึงขอมานิดหน่อย ทาให้ท่านแม่กับตัวเองเถอะ"หลี่หานที่เพิ่งมาจากบ้านปู่เก้าเอ่ยขึ้นพร้อมส่งตลับยาให้หลี่ม่านอวี้แล้วหันมาพูดกับซ่งจื่อหรู
"น้องสี่ อาไช่ลูกได้แล้ว เมื่อเช้าท่านปู่เก้าต้มไข่ให้กิน เจ้าซื้อน้ำตาลทรายแดงให้ปู่เก้าด้วยหรือ ข้าเห็นใส่ไว้ในตระกร้า"
"อืม ทานปู่เก้ากับหลานขาดสารอาหารมากนัก ความหวานช่วยให้กินอาหารได้ดีขึ้น อาไช่ลุกขึ้นได้ก็นับว่าดี พี่รองเหตุใดท่านไปนานนัก" ซ่งจื่อหรูเอ่ยถามหลี่หาน
"ข้าเห็นน้ำในโอ่งปู่เก้าหมดแล้วจึงเติมให้น่ะ แล้วนั่นเจ้าเลื่อยท่อนไผ่ทำไมเยอะแยะ"
"ใช้แทนถ้วยชามนะ ท่านย่าทุบจนหมดแล้ว"
"ท่านพ่อถูกท่านย่าทุบตีด่าทอ ตอนนี้คงไปดื่มทีไหนสักที่แล้ว นางตามคนขายหมูมาจากนั้นก็ลากอาเล็กกลับบ้านเดิม"
หลี่หานมองเหม่อออกไปพร้อมสายตาไร้ความหมาย
"พี่สามท่านไปกวาดห้องเล็กเถอะ เมื่อวานลุงหกทำกำแพงให้แล้ว ให้ป้าสะใภ้ใหญ่ไปพักตรงนั้นก่อน"
ข้างนอกทำงานเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงทำหลังคา หลี่ฝูเหยาตัดสินใจรื้อออกทั้งหมด นำหญ้าคามามัดใหม่ ก้อนหินที่ตอนแรกจะทิ้งลงลำธารแต่ซ่งจื่อหรูบอกให้กองไว้ริมกำแพงบ้าน หากนางต้องการใช้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขน
คนแซ่หวังสองคนนั้นเดิมทีถูกสั่งให้ทิ้งบนภูเขา ใครจะรู้ว่ามัจจุราชน้อยเปลี่ยนใจ ให้คนตีขาจนหักแล้วไปทิ้งไว้หน้าโรงบ่อน
ซ่งจื่อหรูเดินไปทางหลังบ้านก็เห็นบรรดาท่านป้าดายหญ้าที่สูงเกือบเท่าตัวคนจนเกือบเสร็จ มองเห็นเหล่าพืชต้นเล็กๆ มีผลยาวสีเขียวสีแดง โอ้สวรรค์จ๋า มีพริก มีฟักทอง ต้นกระเทียม ถึงแม้จะขึ้นกระจัดกระจายแต่ก็เยอะพอควร ที่ตอนแรกไม่เห็นเพราะตอนนั้นสำรวจแต่ภูเขากับบริเวณบึงบัว ที่จริงบ้านนี้มีของดีไม่น้อย"ท่านป้า...ตรงนั้นไม่ต้องถางเจ้าค่ะ""เอ๋ ทำไมรึจื่อหรู หญ้าพวกนี้ถางไปเดี๋ยวก็ขึ้นอีกต้องขุดรากออก""ไม่ใช่เจ้าค่ะมันกินได้ ต้นนั้นเรียกว่าพริก ที่เลื้อยๆเรียกว่าฟักทองเจ้าค่ะ ส่วนนั่นต้นกระเทียมป่า ริมน้ำนั่นคือเผือกเจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเก็บเจ้าลูกเขียวๆแดงๆให้ข้าสักหน่อย มื้อกลางวันข้าจะทำอาหารที่พวกท่านไม่เคยกินให้ชิมเจ้าค่ะ""เอ่อ จื่อหรูลุงหกถางเจ้าฟักทองนั่นเยอะเชียว กินได้จริงๆหรือ ""ท่านลุงเก็บลูกที่ถางไปแล้วไว้ให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ กินได้หรือไม่เดี๋ยวก็รู้"แม้ไม่แน่ใจแต่ทุกคนก็พร้อมใจกันเก็บให้นาง อย่างไรเลยหากเด็กคนนี้บอกว่ากินได้ มีอาหารเพิ่มใครจะไม่เอากัน ซ่งจื่อหรูนำตับหมูออกมาหนึ่งพวงก่อนจะหั่นเป็นชิ้นไม่หนาไม่บาง จากนั้นก็คลุกด้วยขิงกับเหล้าเหลือง"ให้ตายเถอะกลัวไม่มีข้าวกิน ลืมซื้อแ
เมื่อมาถึงก็เหลือแค่เก็บกวาดก็เสร็จ ตอนนี้พื้นที่ๆเคยมีวัชพืชรกเต็มไปหมด กลายเป็นพื้นที่โล่ง รั้วทั้งสี่ด้านล้อมเสร็จแล้ว หินมากมายถูกกองไว้ ต้นหลิวขนาดใหญ่ถูกเลื่อยกิ่งที่ยื่นออกไปด้านนอก เพื่อป้องกันคนจะปีนเข้ามา เดิมทีหลี่ฝูเหยาต้องการโค่นออกเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น แต่นางบอกจะเก็บไว้เป็นร่มเงาให้น้องๆนั่งเล่น"เจ้าสี่มาแล้วรึ"หลี่ฝูเหยาเอ่ยถาม"แม่หนูสี่เข้าอยากถามเจ้าว่าจะแบ่งปันอย่างไรดี เรื่องมันเทศเหล่านั้น" ผู้นำหมู่บ้านไป๋ซานเอ่ยขึ้น"อืมให้ผู้ชายขุดมันเทศ ผู้หญิงเก็บเกาลัด เด็กๆที่พอใช้งานได้ ก็ให้รับหน้าที่ขนลงเขา เอามารวมที่ลานต้นไหวปากทางเชื่อมสามหมู่บ้านนั่นแหละเจ้าค่ะ""จริงด้วยแม่หนูสี่ ไอ้ที่เจ้าเรียกว่าพริกนั้น กินแล้วอยากกินอีกถึงจะทำให้ข้าร้องไห้ก็เถอะ" ชาวบ้านยังคิดถึงรสชาตินั้นจึงเอ่ยถาม"พริกช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลมได้เจ้าค่ะ ข้าเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้หากเพาะแล้วขยายพันธุ์ได้ พวกเราก็มีอาหารเพิ่ม จริงสิ บ้านข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รบกวนทุกท่านจนเกินไป ช่วยไปซ่อมแซมบ้านปู่เก้าให้สักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยแก่คนที่มาช่วยงาน"เจ้าไปบ้านเจ้าเก้ามา
ปลายยามซวี(19.00-20.59)เกวียนวัวค่อยๆเคลื่อนเข้ามาในหมู่บ้าน แล้วหยุดตรงที่หน้าบ้านของหลี่ฝูเหยา หลี่ต้าจูยืนรออยู่แล้ว หลี่เหิงลงจากเกวียนมา ก่อนจะคาราวะเขา"เหตุใดไม่เจอเพียงปีกว่าเจ้าซูบผอมเพียงนี้ เจ้าใหญ่เงินที่ทางบ้านส่งไป ไม่พอให้เจ้ากินอยู่หรือ"หลี่ต้าจูเอ่ยถามหลานชายคนโต"พี่ใหญ่ ท่านผอมมากท่านแม่อยู่บ้านน้องสี่ ท่านย่าพอทะเลาะกับท่านพ่อเสร็จก็ออกไปนางบอกจะกลับบ้านเดิมสักสองสามวัน ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา" หลี่หานเอ่ยกับพี่ชาย ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านหลี่ฝูเหยา หลี่เหิงถามอาการของหวังซื่อกับซ่งจื่อหรู"ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่เหิงถามน้องสาวซ่งจื่อหรู"อาการ Panic ละมั้ง อ้อข้าหมายถึงนางสะเทือนใจน่ะ"หลี่ต้าจูทักทายลุงใหญ่ของเขาก่อนจะเอ่ยกับหลี่ฝูเหยาอย่างเกรงใจ"ลุงใหญ่รบกวนท่านอีกแล้ว เป็นอย่างที่ท่านกล่าวมาคนบ้านข้าหาเรื่องไม่เว้นวันจริงๆ""ช่างเถอะๆ ใครใช้ให้เจ้าเป็นลูกเจ้ารองน้องชายข้าล่ะ วันนี้มาดึกดื่นมีอะไรกันแน่"หลี่ต้าจูเป็นคนเอ่ยขึ้น จากนั้นก็ตามด้วยหลี่หาน ยังไม่ทันฟังจนจบหลี่ฝูเหยาก็แทบจะไปที่ตำบลลากคอหลี่ต้าเหวินมาลงโทษตามกฎบรรชนเสียจริงๆ"ท่านพ่ออย่าโมโหเลย ร
หลี่ต้าจูเดินเหม่อ หลี่เหิงและหลี่หานเองก็ไม่ต่างกัน ในบ้านของซ่งจื่อหรูหลี่ม่านอวี้นั่งรออยู่หลี่หวังซื่อหลับไปแล้ว ทันทีที่เห็นหลี่เหิงหลี่ม่านอวี้ก็โผเข้าใส่ร้องไห้ ซ่งจื่อหรูให้หลี่เหิงกับหลี่หานนอนอีกห้องส่วนหลี่ถิงถิงขอบิดานอนค้างกับพี่สี่ของนาง หลี่ต้าจูต้องกลับบ้านเพราะป้ารองที่กำลังตั้งครรภ์ไม่มีใครอยู่ด้วย ซ่งจื่อหรูเล่านิทานต่อจากเมื่อวานเด็กๆ หลับหมดแล้ว นางอยากเข้าไปในมิติแต่วันนี้คงไม่ไหว ทะลุมิติมาที่นี่ได้สามวันยังไม่มีวันไหนได้พัก ใครบอกว่าสมัยโบราณนั้นไม่วุ่นวาย นี่ไงวุ่นวายสุดๆหลี่เหิงรีบกลับทันทีที่ได้ข่าว จึงยังไม่ได้กินอะไร ซ่งจื่อหรูเองก็เหนื่อยมาก นางเข้าครัว หยิบไข่ไก่ออกมา ต้มกับน้ำตาลทรายแดง ให้ตัวเองและพี่ไปคนละ2ฟอง ทั้งหมดออกไปคุยหน้าบ้านที่ตอนนี้ดายหญ้าและกวาดจนเตียน ทั้งสี่คนนั่งกินไข่หวานไม่มีใครเอ่ยอะไรจนพระจันทร์ตรงศรีษะจึงรู้ว่าเป็นเวลาปลายยามจื่อแล้ว(23.00-00.59)"เหตุใดท่านพ่อไม่มาตามหาท่านแม่สักนิด"หลี่เหิงถามขึ้นมา"พี่ใหญ่ ท่านไม่กลับบ้านมานานท่านคงไม่รู้ ท่านพ่อเอาแต่ขลุกอยู่บ้านแม่หม้ายเหล่านั้น หากท่านแม่โวยวายก็จะถูกตี เมื่อก่อนตอนข้ายังเด็
หลังจากที่ทำรั้วบ้านเสร็จแล้วก็ไม่ห่วงกังวล นางหยิบเอาหม้อไห กะทะจานชามที่ท่านตาเก็บซ่อนไว้ออกมาใช้ทุกอย่าง แม้กระทั่งผ้าห่มผ้านวมที่พวกหลี่เหิงใช้นางก็นำออกมาซ่งจื่อหรูตื่นแต่เช้า นางนำหมูเนื้อแดงมาหั่นลูกเต๋า หมักเครื่องเทศจากนั้นก็นำมาเคี่ยว นำข้าวเหนียวมาแช่ และข้าวสารมาแช่ ต้มกระดูกหมูที่ซื้อมาต้มในหม้อใบใหญ่ มันหมูนำมาเจียว หลังจากได้น้ำมันก็พักไว้ กากหมูไว้กินเล่น"พี่รองท่านตื่นแล้วหรือ ไปช่วยข้าส่องไฟที่บึงบัวหน่อย"หลี่หานพยักหน้า นางสั่งให้หลี่หานเด็ดใบบัว ส่วนตนเองถกขากางเกงก้มๆเงยๆสักพักก็ได้รากบัวอวบเท่าข้อมือเด็กมาห้าท่อน ล้างดินจนเกลี้ยง พากันเดินกลับบ้าน นำรากบัวไปล้างที่ลำธารอีกที หลี่เหิงตื่นแล้วซ่งจื่อหรูให้เขารีบกลับก่อนที่หวังซื่อจะตื่น เอากากหมูห่อใบบัวส่งให้กินระหว่างทางและฝากไปให้ท่านย่าใหญ่ด้วย"พี่ใหญ่รีบไปเถอะนางไม่พบท่านมานาน หากตื่นมาเจอหน้ากันนางย่อมไม่ปล่อยท่านกลับไปโดยง่ายแน่ๆ เรื่องที่ท่านแอบกลับมาคงปิดอาสี่ไม่อยู่ รอปู่ใหญ่ทำเรื่องเสร็จเรียบร้อยข้าจะส่งข่าว เงินที่ให้เมื่อวานหากจำเป็นก็ใช้เถอะ"หลี่เหิงพยักหน้าก่อนจะมองดูมารดาที่นอนหลับด้วยสายตาห่วง
ซ่งจื่อหรูกลับมาถึงก็เห็นเด็กๆล้างหน้าเรียบร้อย เดิมวันนี้อยากให้พวกเขาสวมชุดใหม่ แต่หากไปเจอกับเด็กคนอื่นอาจเกิดปมด้อยกับเด็กเหล่านั้นได้ จึงได้แต่หวีผมให้เรียบร้อยหลี่จื่อเย่วกับหลี่ถิงถิงถักเปียสองข้างก่อนจะม้วนเป็นก้อนกลมๆ ปักด้วยดอกไม้ป่าสีชมพูสีเหลืองที่เก็บมาจากข้างทาง ดูแลเหมือนตุ๊กตาตัวน้อย หลี่ม่านอวี้ เดินออกมาเห็นซ่งจื่อหรูกำลังทำผมให้ซ่งจื่อห่าวพอดี นางหวีขึ้นก่อนจะรวบแล้วมัดก้อนกลมตรงกลาง ผูกด้วยผ้าแถบสีน้ำเงิน ปักด้วยปิ่นไม้ธรรมดา"พี่สาม พี่สี่ทำผมให้ข้างงามหรือไม่เจ้าคะ"หลี่ถิงถิงถามหลี่ม่านอวี้ที่เดินออกมา"อืมถิงถิงของพี่ งามมากนั่นจะเอาอาหารไปให้อารองกับกับอาสะใภ้รองหรือ""เจ้าค่ะ ข้าจะรีบไปรีบกลับแล้วจะกลับมากินข้าวเช้าที่นี่"หลี่ถิงถิงพูดจบก็คว้าตะกร้าวิ่งออกไปเร็วราวกับกระต่ายหลี่ม่านอวี้ได้แต่มองตามแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ถอนหายใจ"อย่าห่วงเลยพี่สาม พี่รองไปตามหาลุงใหญ่แต่เช้าแล้ว ถ้าอยู่ในหมู่บ้านเดี๋ยวก็เจอ"ซ่งจื่อหรูรู้ดีว่าหลี่ม่านอวี้กังวลสิ่งใด"น้องสี่ เจ้าว่าสวรรค์ลงโทษที่เมื่อก่อนข้าทำไม่ดีหรือไม่""พี่สาม เรื่องที่ผ่านไปแล้วท่านอย่าใส่ใจเลย พวกเราแก้ไขอ
ด้านซ่งจื่อหรูที่มาถึงต้นไหวเห็นชาวบ้านมากมายมายืนรอ ในมือมีเครื่องมือบนหลังสะพายตระกร้าก็เข้าไปทักทายอรุณสวัสดิ์ท่านปู่ไป๋ ท่านปู่หวัง ท่านปู่สาม ท่านปู่ห้า และทุกคนเจ้าค่ะ""มาแล้วๆๆๆแม่หนูสี่นางมาแล้ว""แม่หนูสี่พวกเราตื่นเต้นเลยมาแต่เช้าคงไม่รบกวนมื้อเช้าเจ้าหรอกนะ"ซ่งจื่อหรู"ไม่รบกวนเจ้าค่ะ เอ่อ ท่านน้าท่านอาที่ตั้งครรภ์ อย่าขึ้นเขาเลยนะเจ้าคะ อยู่ที่นี่คอยดูของที่แบกลงมาดีกว่า ทางบนเขาอันตรายยิ่งนัก"มีหญิงตั้งครรภ์หลายคนรวมถึงหวงซู่ป้าสะใภ้รองอีกด้วย เด็กคนนี้คิดรอบคอบเสียจริงๆผู้นำสามหมู่บ้านชื่นชมนาง เมื่อทักทายกันเสร็จก็พากันขึ้นเขา ซ่งจื่อหรูพาเหล่าสตรีไปถึงดงเกาลัด มีเกาลัดหลายสิบต้น พวกนางใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาเนื่องจากซ่งจื่อหรูเคยให้ดูแล้วว่ามีหนามแหลมจากนั้นก็พาเหล่าชายฉกรรจ์ไปชุดมันเทศ ตกบ่ายมันเทศและเกาลัดก็กองพะเนินเต็มลาน ซ่งจื่อหนูคิดว่าน่าจะใช้เวลาสองถึงสามวัน ใครจะรู้ว่าพวกเขาทำเสร็จในวันเดียว ดูถูกความอดอยากไม่ได้จริงๆ นางละจากกลุ่มคนไปหากรีดยางไม้ได้หลายกระบอกจะเอามาทำคบเพลิง ขุดต้นเหมยกุ้ยมาหลายต้น นำเถาวัลย์มามัดเป็นสองกองแล้วหาไม้มาเหลาเสียทั้งสองด้านหาบลงไ
ห้องตกแต่งวิจิตรงดงาม เชิงเทียนลวดลวยอ่อนช้อน เครื่องเรือนดูบรรยาดาศในห้องล้วนดูมีพลัง ด้านบนชายคนหนึ่งสวมชุดสีทองลายมังกรนั่งอ่านฎีกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างๆมีชายชราคอยโบกแส้พัดให้ มีเสียงจากคนที่อยู่ด้านนอก"ทูลฝ่าบาท หลิวกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ"หานกงกงกราบทูล"หลิวกุ้ยเฟยหรือดึกป่านนี้นางมีธุระอะไร หานกงกงให้นางเข้ามา" บุรุษชุดทองสั่งคนข้างๆ"แต่ว่าฝ่าบาทองครักษ์ทั้งสองรอรายงานอยู่นะพะย่ะค่ะ""เชิญนางเข้ามาเถอะกงกง ให้เกาฟ่านกับเกาหม่ารอก่อน"หรือ"รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ เชิญหลิวกุ้ยเฟยเข้าเฝ้าได้"เสียงแหลมคล้ายสตรีก็ไม่เชิงของหานกงกงตะโกนอนุญาติคนด้านนอก ชั่วอึดใจก็มีสตรีร่างระหงเกินเข้ามายามที่นางก้าวเดินนั้นเหมือนดั่งเทพธิดา อ่อนช้อยอ่อนหวานยิ่งนัก ด้านหลังมีสตรีอีกสองคนถือถาดทองเหลืองตามในถาดมีชามวางอยู่"ฝ่าบาท ดึกมากแล้วยังทรงอ่านฎีกาอยู่อีกหรือเพคะ หม่อมฉันทำน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมมาถวาย ไห่ถังยกเข้ามาให้ข้า"หลิวกุ้ยเฟยสั่งนางกำนัลที่เดินตาม"เพค่ะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง"สาวใช้ประคองถาดมาใกล้อีกคนยกชามน้ำแกส่งให้หลิวกุ้ยเฟย นางรับมาจากนั้นก็เดินมาข้างจ้าวเทียนหยู ก่อนจะวางลงพร้อมตักน้ำแ
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ