ด้านซ่งจื่อหรูที่มาถึงต้นไหวเห็นชาวบ้านมากมายมายืนรอ ในมือมีเครื่องมือบนหลังสะพายตระกร้าก็เข้าไปทักทายอรุณสวัสดิ์ท่านปู่ไป๋ ท่านปู่หวัง ท่านปู่สาม ท่านปู่ห้า และทุกคนเจ้าค่ะ""มาแล้วๆๆๆแม่หนูสี่นางมาแล้ว""แม่หนูสี่พวกเราตื่นเต้นเลยมาแต่เช้าคงไม่รบกวนมื้อเช้าเจ้าหรอกนะ"ซ่งจื่อหรู"ไม่รบกวนเจ้าค่ะ เอ่อ ท่านน้าท่านอาที่ตั้งครรภ์ อย่าขึ้นเขาเลยนะเจ้าคะ อยู่ที่นี่คอยดูของที่แบกลงมาดีกว่า ทางบนเขาอันตรายยิ่งนัก"มีหญิงตั้งครรภ์หลายคนรวมถึงหวงซู่ป้าสะใภ้รองอีกด้วย เด็กคนนี้คิดรอบคอบเสียจริงๆผู้นำสามหมู่บ้านชื่นชมนาง เมื่อทักทายกันเสร็จก็พากันขึ้นเขา ซ่งจื่อหรูพาเหล่าสตรีไปถึงดงเกาลัด มีเกาลัดหลายสิบต้น พวกนางใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาเนื่องจากซ่งจื่อหรูเคยให้ดูแล้วว่ามีหนามแหลมจากนั้นก็พาเหล่าชายฉกรรจ์ไปชุดมันเทศ ตกบ่ายมันเทศและเกาลัดก็กองพะเนินเต็มลาน ซ่งจื่อหนูคิดว่าน่าจะใช้เวลาสองถึงสามวัน ใครจะรู้ว่าพวกเขาทำเสร็จในวันเดียว ดูถูกความอดอยากไม่ได้จริงๆ นางละจากกลุ่มคนไปหากรีดยางไม้ได้หลายกระบอกจะเอามาทำคบเพลิง ขุดต้นเหมยกุ้ยมาหลายต้น นำเถาวัลย์มามัดเป็นสองกองแล้วหาไม้มาเหลาเสียทั้งสองด้านหาบลงไ
ห้องตกแต่งวิจิตรงดงาม เชิงเทียนลวดลวยอ่อนช้อน เครื่องเรือนดูบรรยาดาศในห้องล้วนดูมีพลัง ด้านบนชายคนหนึ่งสวมชุดสีทองลายมังกรนั่งอ่านฎีกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างๆมีชายชราคอยโบกแส้พัดให้ มีเสียงจากคนที่อยู่ด้านนอก"ทูลฝ่าบาท หลิวกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ"หานกงกงกราบทูล"หลิวกุ้ยเฟยหรือดึกป่านนี้นางมีธุระอะไร หานกงกงให้นางเข้ามา" บุรุษชุดทองสั่งคนข้างๆ"แต่ว่าฝ่าบาทองครักษ์ทั้งสองรอรายงานอยู่นะพะย่ะค่ะ""เชิญนางเข้ามาเถอะกงกง ให้เกาฟ่านกับเกาหม่ารอก่อน"หรือ"รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ เชิญหลิวกุ้ยเฟยเข้าเฝ้าได้"เสียงแหลมคล้ายสตรีก็ไม่เชิงของหานกงกงตะโกนอนุญาติคนด้านนอก ชั่วอึดใจก็มีสตรีร่างระหงเกินเข้ามายามที่นางก้าวเดินนั้นเหมือนดั่งเทพธิดา อ่อนช้อยอ่อนหวานยิ่งนัก ด้านหลังมีสตรีอีกสองคนถือถาดทองเหลืองตามในถาดมีชามวางอยู่"ฝ่าบาท ดึกมากแล้วยังทรงอ่านฎีกาอยู่อีกหรือเพคะ หม่อมฉันทำน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมมาถวาย ไห่ถังยกเข้ามาให้ข้า"หลิวกุ้ยเฟยสั่งนางกำนัลที่เดินตาม"เพค่ะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง"สาวใช้ประคองถาดมาใกล้อีกคนยกชามน้ำแกส่งให้หลิวกุ้ยเฟย นางรับมาจากนั้นก็เดินมาข้างจ้าวเทียนหยู ก่อนจะวางลงพร้อมตักน้ำแ
ภายในห้องทรงอักษรจ้าวเทียนหยูนั่งหลับตา ถอนหายใจแม้ว่าจะไม่ชอบใจเสนาบดีหลิวแต่ก็ไม่อาจทำการสิ่งใดโดยไม่ใตรตรองหานกงกงกลับมาแล้ว มีบุรุษแต่งกายด้วยชุดสีดำทะมัดทะแมงเดินตามา จากนั้นก็ปิดประตู"กระหม่อมเกาฟ่าน ถวายพระพรฝ่าบาท""กระหม่อมเกาหม่าถวายพระพรฝ่าบาท""อืม ตามสบาย หานกงกงส่งแม่นมเฉินเรียบร้อยแล้วหรือ""พะย่ะค่ะ เอ่อฝ่าบาทกระหม่อมมีเรื่องนึงไม่ทราบว่าควรทูลหรือไม่"หานกงกงสีหน้าอึกอัก"ว่ามาเถอะ เราไม่ว่าท่านหรอก""องค์ชายใหญ่กับองค์ชายห้าทรงหนีออกไปเที่ยวข้างนอกนี่ก็ห้าวันแล้วยังไม่กลับวังเลยพะย่ะค่ะ หวังกุ้ยเฟยไปร้องไห้ฟูมฟายกับฮองเฮาอยู่ที่ตำหนักฉางชิง""เหลวไหล ส่งคนไปหาพากกลับมาแล้วให้ลงโทษขังในตำหนักหนึ่งเดือนไม่เอาไหนๆจริงๆ เกาหม่าวันนี้มีข่าวอะไรบ้าง?"จ้าวเทียนหยูถึงกับกุมขมับ"ฝ่าบาท ท่านอ๋องติดต่อมาแล้วพะย่ะค่ะ ยังมีเรื่องอื่นให้นำข่าวมาบอกด้วยพะย่ะค่ะ""ทำไมเรารู้สึกว่าองครักษ์ของเราช่างไร้ประโยชน์ ยังสู้คนของเสนาบดีฝ่ายซ้ายไม่ได้""กระหม่อมสมควรตาย ขอฝ่าบาทลงโทษด้วย""องครักษ์ฟ่าน เมื่อสักครู่พระนางกุ้ยเฟยเพิ่งจะกลับไป นางได้ยินข่าวท่านอ๋องยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่จึงมาเอ
รถม้ากำลังเคลื่อนที่ ด้านในมีบุรุษสองคนนั่งอยู่คนนึงสวมอาภรณ์สีเขียว ผมบนศีรษะรวบเป็นมวยอยู่ด้านบน สวมกว้านหยกสีขาวในมือถือพัดนั่งจิบชาสบายๆ ส่วนอีกคนนอนเหยียดยาวท่าทีเกียจคร้าน รถม้าวิ่งมาตามทาง สารถีบังคับม้าไม่เร่งรีบตอนนี้พวกเขาออกจากเมืองหลวงมาได้เจ็ดวันแล้ว ป่านนี้ข่าวคงถึงในวังเรียบร้อย เดิมทีต้องใช้เวลาเดือนครึ่งไม่รู้ว่าองค์ชายห้าไปหาม้าโลหิตมาจากไหนได้กัน การเดินทางจึงรวดเร็ว"พี่ใหญ่ เมื่อไหร่จะถึงสักที ข้าเมื่อยแล้ว"จ้าวเทียนหยางบ่นไม่หยุดตั้งแต่ออกจากเมืองหลวง"น้องห้า เจ้าจะบ่นทำไมหากทนไม่ไหวก็กลับเมืองหลวงไปคนเดียว""เหอะ...ท่านกล้าพูด ไม่ใช่ท่านชวนข้ามาหาพี่หรงกับเสด็จอาหรอกหรือ""เจ้าร้องตามมาเอง ใครไปบังคับเจ้ากันเหอะ พูดก็พูดเถอะ ข้าเห็นหน้าจ้าวคังแล้วรู้สึกอยากอาเจียน ช่างเสแสร้งเก่งเหมือนหลิวกุ้ยเฟยมารดาเขาเสียจริงๆ"จ้าวเทียนเฟยระอากับน้องชายที่ขยันบ่นนั่นบ่นนี่ อีกทั้งยังพูดคุยถึงองค์ชายสามที่อยู่ในวังอีกคน"เสด็จพี่สามเดิมทีจะได้เป็นรัชทายาท เพราะเซียวฮองเฮาไม่มีบุตร ใครจะรู้ว่านางตั้งครรภ์จนคลอดน้องแปดออกมา ตอนกลับเข้าวังเทียนฉีได้เจ็ดขวบแล้ว เขาไม่โกรธก็แปลกพ
ซ่งจื่อหรูหยุดพักหายใจก่อนจะพูดต่อ"นางเกลียดพวกข้าเพราะเข้าใจว่าท่านพ่อของท่านคิดเกินเลยท่านแม่ข้า คิดว่าลุงใหญ่ไม่พอใจที่ท่านแม่แต่งกับท่านพ่อ แล้วอย่างไรเล่าพี่สาม ต่อให้เราพอจะรู้สาเหตุที่ลุงใหญ่เปลี่ยนไปก็ไม่อาจเอ่ยมันออกมา หรือท่านอยากให้ป้าใหญ่เลิกเข้าใจผิดท่านลุงอธิบานแก่นาง แล้วให้พวกเราบ้านรองทั้งหมดถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ท่านคิดหรือว่าลุงใหญ่ลุงรองจะยอมให้นางถูกใส่กรงหมูถ่วงน้ำจริงๆ ไม่เช่นนั้นลุงใหญ่จะยอมกล้ำกลืนความอัปยศไว้จนถึงทุกวันนี้หรือ ชีวิตมารดาท่านไม่ได้ง่ายตั้งแต่แรกแล้ว""น้องสี่ พรุ่งนี้ท่านย่าจะกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าหากเจอหน้ากันจะเป็นเช่นไรอีก ข้าอุ่นกับข้าวเสร็จแล้ว เจ้าล้างมือแล้วไปกินข้าวเถอะ พี่รองไปหาหมอเมิ่งพื่อขอยาบำรุงให้ท่านแม่ คราวก่อนติดหนี้ค่ายาทาแผลไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้ยามาหรือไม่"ทั้งคู่ดินเข้าบ้าน ซ่งจื่อหรูมีเงินในมิติสองพันกว่าตำลึง หากนางอยากจ่ายให้หวังซื่อก็ย่อมได้ แต่ใครเล่าจะไร้ความรู้สึกแม้วาหลี่เหิงและหลี่หานจะดี หลี่ม่านอวี้จะเริ่มสำนึกได้ แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะลืมเรื่องที่หวังซื่อทำกับร่างเดิมเอาไว้หลี่หานกลับมาแล้ว หลี่ถิงถิงยัง
หลังจากที่พ่อลูกสกุลฮั่วกลับไปแล้ว ซ่งจื่อหรูก็เข้าบ้านปิดประตู เดินไปทางห้องเล็กแล้วยกมือเคาะเบาๆ ก๊อกๆๆๆ"พี่สามท่านหลับหรือยัง ข้าอยากคุยด้วย"ซ่งจื่อหรูเรียกคนด้านใน"ยังหรอกน้องสี่ รอสักครู่กำลังไปเปิดประตูให้"หลี่ม่านอวี้ขานรับหลี่ม่านอวี้เปิดประตูออกมา ใบหน้าที่เขียวช้ำจากการถูกตีเริ่มจางแล้ว สะใภ้ตระกูลหวังคู่นั้นลงมือหนักจริงๆ"น้องสี่ มีเรื่องสำคัญหรือ ท่านแม่เพิ่งจะหลับละเมอถึงบ้านเดิม เดี๋ยวก็ด่าทอท่านยาย เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ด่าทอท่านย่า ""ไปคุยกันข้างนอกเถอะ ข้าไม่อยากให้นางได้ยิน เดี๋ยวจะกระตุ้นอาการนางอีก"ซ่งจื่อหรูเรียกหลี่ม่านอวี้มาคุยข้างนอกหลี่ม่านอวี้เดินตามซ่งจื่อหรูมาห้องด้านในหวังซื่อมีสติบางครั้งตอนนี้นางตื่นลืมตา มองร่างเล็กๆมี่เดินตามกันออกไป นางสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นได้แต่นอนนิ่งปะติดปะต่ออะไรไม่ได้นักบนเตียงเด็กสามคนนอนเรียงกันเหมือนแกะในในฝูง ซ่งจื่อเย่วขาพาดอยู่บนคางหลี่ถิงถิงที่นอนกางแขนกางขา ผ้าห่มไปคนละทิศละทาง ซ่งจื่อห่าวที่ยังคงนอนอยู่ท่าเดิม หลี่ม่านอวี้มองแล้วถอนหายใจก่อนเอ่ยเบาๆ"พวกเขาไม่มีเรื่องให้ทุกข์ใจนั้นดีจริงๆ เจ้าเรียกพี่มามีเรื่องอะ
ยามอิ๋นแล้ว(03.00-05.00)ซ่งจื่อหรูก่อไฟ ลุกสนเหลือไม่มาก โชคดีตอนที่รื้อรั้วออกพอได้ฟืนมาหลายมัด ไฟติดก็ต้มน้ำต้มกระดูกหมู ในห้องยังไม่ได้กลบหลุมไฟ จึงคงเหลือขี้เถ้าอยู่ โกยขี้เถ้าออกมานำไปร่อนจากนั้นก็ถือคบเพลิงเดินไปริมลำธารนั่งล้างล้างเครื่องใน พริกที่เก็บวันก่อนยังมีอยู่ ล้างถั่วลิสงเรียบร้อย กอไผ่อยู่ไม่ไกลถือไฟส่องหาพื้นดินที่นูนออกมาฝนเพิ่งจะหยุดแค่สองวัน หน่อไม้ยังไม่แก่ ขุดได้มาสามหัว แกะแล้วล้างทุกอย่างเรียบร้อยจึงเดินเข้าบ้านโชคดีที่ชาวบ้านช่วยกันทำเตาให้ใหม่สามารถใช้ได้ถึงสองเตาน้ำซุปเดือดแล้วหั่นใส่ถั่วลิสงในน้ำซุปปรุงรสให้พอดี หั่นหน่อไม้ซอยเป็นเส้นเรียบร้อยหันไปจัดการกับไส้หมู นำมานึ่งจนนิ่มแต่ไม่เละจนเกินไป แบ่งผัดใส้หมูกับหน่อไม้เส้นใส่พริกหนึ่งที่อีกที่สำหรับเด็กๆ แล้วหุงข้าวต่อ เสียงกุกกักอยู่ที่ประตูรั้ว ซ่งจื่อหรูกำลังจะลุกไปดูก็เห็นหลี่ม่านอวี้เดินออกมา"น้องสี่เหตุใดตื่นเช้าเพียงนี้ เดี๋ยวพี่ไปดูเอง เจ้าทำงานในมือต่อเถอะ"หลี่ม่านอวี้บอกนาง"เพิ่งจะเข้ายามเหมาใครกันมาแต่เช้ามืด พี่สามท่าน ถามให้แน่ใจก่อนเปิดประตู "สักพักหลี่ม่านอวี้เดินกลับมา พร้อมกับหลี่ต้าโจ
หลี่ม่านอวี้ต้มน้ำเสร็จแล้วก็ยกไปผสมในถังไม้ ก่อนจะเข้าไปเรียกเด็กทั้งสาม แต่พวกเขาวิ่งแซงกันออกมาแล้ว หัวฟูเหมือนกับใยข้าวโพดน้ำลายตรงมุมปากยังเป็นคราบ มีเพียงซ่งจื่อห่าวที่ก้าวเดินเรียบร้อย ราวกับบัณฑิตตัวน้อยๆ เสียงเจื้อยแจ้วของซ่งจื่อเย่วกับหลี่ถิงถิงเอ่ยพร้อมกัน"อรุณสวัสดิ์พี่สาม อรุณสวัสดิ์พี่สี่เจ้าค่ะ""อรุณสวัสดิ์พี่สาม อรุณสวัสดิ์พี่ใหญ่ขอรับ/เจ้าค่ะ""มาๆพี่สามต้มน้ำให้แล้วมาล้างหน้ากัน พี่สี่ทำอาหารไว้แล้วดูเหมือนจะน่ากินมากๆด้วย"หลี่ม่านอวี้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็เช็ดให้ซ่งจื่อเย่ว หลี่ถิงถิงโตแล้วจึงทำเอง จากนั้นก็หวีผมให้น้องๆทั้งสามคน ซ่งจื่อหรูมองภาพหลี่ม่านอวี้ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ หากไม่เกิดเรื่องขึ้นก่อนไม่รู้ว่าเด็กดีๆคนนึงจะถูกเลี้ยงให้บิดเบี้ยวแค่ไหนก่อนหน้าคงเพราะครอบครัวอบอุ่นเลยยังคงมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง ที่ยอมและเป็นลูกไล่หลี่อ้ายเสิ่นมาตลอดเพราะปกป้องมารดา สุดท้ายใครกันเล่าที่เป็นคนผิด หญิงชราคนนั้นหรือเพราะความขี้ขลาดอ่อนแอของผู้เป็นพ่อ"พี่สาม ปล่อยให้พวกเขาช่วยเหลือตนเองเถอะ วันนี้ข้าจะไปตำบลอยากพาท่านไปด้วยท่านให้พี่รองมาอยู่เป็นเพื่อ
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค