หลี่ม่านอวี้ต้มน้ำเสร็จแล้วก็ยกไปผสมในถังไม้ ก่อนจะเข้าไปเรียกเด็กทั้งสาม แต่พวกเขาวิ่งแซงกันออกมาแล้ว หัวฟูเหมือนกับใยข้าวโพดน้ำลายตรงมุมปากยังเป็นคราบ มีเพียงซ่งจื่อห่าวที่ก้าวเดินเรียบร้อย ราวกับบัณฑิตตัวน้อยๆ เสียงเจื้อยแจ้วของซ่งจื่อเย่วกับหลี่ถิงถิงเอ่ยพร้อมกัน"อรุณสวัสดิ์พี่สาม อรุณสวัสดิ์พี่สี่เจ้าค่ะ""อรุณสวัสดิ์พี่สาม อรุณสวัสดิ์พี่ใหญ่ขอรับ/เจ้าค่ะ""มาๆพี่สามต้มน้ำให้แล้วมาล้างหน้ากัน พี่สี่ทำอาหารไว้แล้วดูเหมือนจะน่ากินมากๆด้วย"หลี่ม่านอวี้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าซ่งจื่อห่าว จากนั้นก็เช็ดให้ซ่งจื่อเย่ว หลี่ถิงถิงโตแล้วจึงทำเอง จากนั้นก็หวีผมให้น้องๆทั้งสามคน ซ่งจื่อหรูมองภาพหลี่ม่านอวี้ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ หากไม่เกิดเรื่องขึ้นก่อนไม่รู้ว่าเด็กดีๆคนนึงจะถูกเลี้ยงให้บิดเบี้ยวแค่ไหนก่อนหน้าคงเพราะครอบครัวอบอุ่นเลยยังคงมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง ที่ยอมและเป็นลูกไล่หลี่อ้ายเสิ่นมาตลอดเพราะปกป้องมารดา สุดท้ายใครกันเล่าที่เป็นคนผิด หญิงชราคนนั้นหรือเพราะความขี้ขลาดอ่อนแอของผู้เป็นพ่อ"พี่สาม ปล่อยให้พวกเขาช่วยเหลือตนเองเถอะ วันนี้ข้าจะไปตำบลอยากพาท่านไปด้วยท่านให้พี่รองมาอยู่เป็นเพื่อ
"วันนี้จะเข้าตำบลเพื่อเรื่องของพี่ใหญ่หรือ ส่วนตัวพี่เองเพิ่งจะเรียนไม่กี่ครั้งหากไปสอบจะขายหน้าผู้อื่นหรือไม่ เอาไว้คราวหน้าเถอะน้องสี่""พี่รอง ข้าไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะสามารถสอบผ่าน ข้าแค่อยากให้ท่านได้ลองทำดูอย่างน้อยก็หาประสบการณ์"ซ่งจื่อหรูไม่ได้หวังว่าเขาจะสอบได้จริง แค่อยากให้ชินสนาม เมื่อวานแอบปรึกษาปู่ใหญ่แล้วแต่เรื่องนี้ยังไม่พูดจะดีกว่า หลังกินข้าวเสร็จก็เตรียมตัวไปให้ทันเกวียนบ้านปู่ใหญ่ ท่านอาฮั่วจะพาครอบครัวไปบ้านท่านหมอเมิ่งนางจึงไม่ทำมื้อเช้าเผื่อ หากปล่อยไว้นานพิษในตัวอาสะใภ้จะกระจายและรักษายาก ซ่งจื่อหรูบอกทุกคนว่าลืมหยิบเงินในบ้านจึงบอกทุกคนให้ล่วงหน้าไปก่อนหลี่หานพาน้องๆไปพรวนดินหลังบ้านเพราะซ่งจื่อหรูเคยบอกว่าจะปลูกผัก ตอนนี้ในบ้านจึงเหลือวังซื่อเพียงคนเดียว ซ่งจื่อหรูเปิดประตูเข้าไป หวังซื่อเหลือบตามองก่อนจะนั่งหันหลังให้ ซ่งจื่อหรูกรอกตามองบนให้นางหนึ่งที สงสัยเมื่อคืนลงมือหนักไปหน่อย เช้ามาเลยทำให้นางหายฟั่นเฟือน จากนั้นจึงเอ่ยปากเรียก"ซ่งจื่อหรูป้าสะใภ้ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านได้ยิน ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน"ซ่งจื่อหรูพูดกับคนที่หันหลังให้นาง"แต่ข้าไม่มี ลูกนางแพ
ซ่งจื่อหรูแอบหยิกสีข้างหลี่ม่านอวี้ก่อนจะส่งสัญญาณ เพียงพริบตาหลี่ม่านอวี้ก็น้ำตาไหล ก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้นท่าทีน่าสางสาร ท่านย่าท่านยายต่างปลอบใจจนถึงตัวตำบล ปากคนนั้นยาวกว่าปากกา แม่บ้านเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากโลกโซเชียลในยุคปัจจุบัน จริงบ้างแต่งบ้างตามอรรถรสที่ตนเองพึงใจ แม่สามีรังแกสะใภ้จนคุ้มคลั่ง ผู้เป็นอากีดกันไม่ให้หลานเข้าสอบ เอาหลานตนมาร่ำรียนด้วยเพียงเพื่อใช้เป็นตัวรีดไถเงินจากพี่ชายและพี่สะใภ้ เมื่อมาถึงตัวตำบล ก็ลงจากเกวียนหลี่ม่านอวี้มองหน้ากับซ่งจื่อหรูทั้งสองพี่น้องพยักหน้าให้กันหลี่ซ่งเหวินนัดให้ทุกคนมาเจอกันอีกทียามซื่อเพื่อขึ้นเกวียนหากใครมาไม่ทันต้องเดินกลับเอง หลี่ซ่งเหวินไปร้านเถ้าแก่เหลียงเพื่อซื้อสินค้ามาขาย ทั้งสามหมู่บ้านส่วนมากต้องมาซื้อที่บ้านของหลี่ฝูเหยาโชคดีที่มีทางเชื่อมต่อกันจึงไม่ได้ลำบาก หลังจากแยกย้ายหูเจียวเจียวทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น"อาหรู ข้าเห็นเจ้าหยิกนางไหนพวกเจ้าคืนดีปรับความเข้าใจกันแล้วไม่ใช่หรือ"หลี่ม่านอวี้จึงหัวเราะขำท่าทีของนางก่อนจะเอ่ยขึ้น"เจียวเจียวเจ้าอย่าเข้าใจนางผิด นางหยิกข้าก็จริงแต่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายข้า แต่น้องสี่เจ้ามือหนักจริงๆ
เมื่อเห็นทั้งคู่ไม่ขยับจางอวิ๋นก็ส่งสัญญานให้ลิ่วล้อไปล้อมพวกนาง ชาวบ้านได้แต่ยืนดูไม่กล้าช่วย เศรษฐีจางขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด แม้จะสงสารแต่ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องใส่ตัว มือที่กำลังจะแตะถูกหลี่ม่านอวี้อยู่ดีก็เกิดเสียงดังกร๊อบ ก่อนจะตามมาด้วยตัวคนลอยไปกระแทกกับต้นไม้ที่ผูกรถม้า เมื่อมีสิ่งมากระทบกระเทือนม้าจึงตกใจดีดใส่บุรุษผู้นั้นจนสลบ"แก อีเด็กสารเลวนั่นคือคุณชายสวีบุตรชายมือปราบสวี เจ้ากล้าตีเขาเจ้าตายแน่ๆ""ข้าตายนอนไหนไม่รบกวนอาสี่เป็นห่วงหรอก เพราะถึงอย่างไรท่านคงไม่ได้อยู่เห็น"ก่อนจะคว้าหลี่ต้าเหวินทุ่มผ่านหัวไหล่ไป มีมือปราบวิ่งเข้ามากลังจากเสียงเอะอะ สวีเจียวเห็นสภาพบุตรชายก็ถึงกับหน้าเขียวเรียกหาคนทำทันที"ใครๆทำลูกชายข้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะ"สวีเจียวโกรธจนหนวดกระดิก"ข้าเอง"ซ่งจื่อหรูยืนมองหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว"นังตัวดี ไปที่ว่าการกับข้าวันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย""บุตรชายท่านคิดฉุดข้าสองคนพี่น้องรวมถึงสหายข้า ท่านไม่ถามไถ่เหตุผลกลับตรงมาจับกุมข้า ตำบลซานสุ่ยยังมีกฎหมายหรือไม่""ข้าสวีเจียวผู้นี้ก็คือกฎหมาย ไม่ต้องพูดมากไปกับข้าเดี๋ยวนี้ เด็กๆลากตัวมันมา"ทหารล้อมวงเข้ามา
จินเหนียงคาดหวังว่าจะฟื้นวิกฤตอีกรอบ ซ่งจื่อหรูเข้ามาถึงด้านในจึงเอ่ยปาก" ข้าต้องการให้ท่านตัดชุดตามแบบที่ข้าวาดมาให้ ตัดให้สวยที่สุด อ้อชุดของเด็กตัดตามขนาดที่ซื้อร้านท่านวันก่อน หากท่านทำได้ แม่ฮวาเหยียนจะลอกเลียนเช่นใดก็ไม่อาจเหมือน เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เมื่อสักครู่ข้าเพิ่งจะส่งลูกชายจางฟ่านเข้าคุกหลวงน่ะ""จะ จะ เจ้าว่าอะไรนะ จางอวิ๋นนะหรือ เป็นไปไม่ได้ จางฟ่านไม่เอาเจ้าไว้แน่ๆ เจ้าต้องระวัง อีกอย่างจางอี้หรูพี่สาวเขาก็คือเถ้าแก่ร้านฮวาเหยียน"จินเหนียงเป็นห่วงสหายตัวน้อย นายท่านจางเป็นคนเช่นไรเหตุใดนางจะไม่รู้ จึงเอ่ยเตือน"ใช่จริงๆ นั่นแหละ จางอวิ๋นบอกว่าที่ซานสุ่ยบิดาเขาก็คือฮ่องเต้ ใครจะรู้ว่าเขาดันกล่าวคำเหล่านั้นต่อหน้าเจ้าเมืองกว่างผิงเซี่ยหนานอินคนเถรตรงนั่น ว่ากันว่าถึงแม้กว่างผิงจะยากจนเก็บภาษีไม่ค่อยได้ แต่เซี่ยหนาน อินคนนี้กลับไม่เคยถูกลดขั้น เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทให้ความสำคัญกับคนๆนี้ คราวนี้สกุลจางชนตอใหญ่เพียงนั้นเศษเนื้อสกุลจางคงกระจัดกระจายแล้วกระมัง เศรษฐีบ้านนอกคนนึงจะมีค่ามากกว่าขุนนางที่สำคัญได้อย่างไร อ้อนี่คือรูปที่ข้าวาด ท่านลองดูก่อน"จินเหนียงคลี่ภาพออกก
เกวียนวัวเคลื่อนมาท้ายหมู่บ้าน หลังจากส่งหูเจียวเจียวแล้วก็เหลือเพียงนางกับหลี่ซ่งเหวิน ซ่งจื่อหรูจึงเอ่ยขึ้น"ท่านลุง ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่เจ้าคะ""เรียบร้อยดี อาซ่งเต๋อจัดการค่าที่พักให้แล้ว โรงเตี๊ยมไม่หรูหราแต่ก็ไม่ถึงกับแย่ ให้พอได้อาศัยตามที่เจ้าบอก""เงินตำลึงพอหรือไม่ หากไม่พอข้าจะหาเพิ่มเจ้าค่ะ"ซ่งจื่อหรูกังวล"ไม่ต้องหรอก ต้าซานกับต้าโจวมีบุญคุณกับเขานัก เขาเองก็อยากตอบแทนพวกเจ้าพอดีเลยถือโอกาสนี้"หลี่ซ่งเหวินตอบนาง เขารู้ว่าน้องชายไม่ใช่แค่พ่อค้าธรรมดาแต่เขาก็ไม่อยากสงสัยให้มากความ"อ้อ แล้วเรื่องที่ข้ารบกวนท่านปู่ใหญ่ล่ะเจ้าคะ ท่านว่าอย่างไรบ้าง""หลี่ซิ่วไฉตอบตกลง เดิมทีเขารังเกียจการกระทำของย่ากับอาสี่เจ้า แต่เห็นแก่ที่เจ้ากับหลี่หานช่วยเหลือชาวบ้านเขาจึงรับปากว่าจะช่วยสอนให้ น้องชายเจ้าจื่อห่าวเองเขาเคยมีโอกาสทดสอบเห็นว่าเป็นเด็กฉลาด อยากจะสอนมานานรอเพียงเจ้าเอ่ยปากเท่านั้น""ขอบคุณปู่ใหญ่กับท่านลุงมากเจ้าค่ะ ไว้ข้าจะพาพี่ใหญ่กับพี่รองไปหาและขอบคุณเขาด้วยตนเอง""อืมจื่อหรู...ถึงบ้านเจ้าแล้ว"ทั้งสองมาถึงบ้านก็เห็นประตูเปิดอยู่ หลี่หานไม่อยู่ เช่นนั้นใครอยู่กับเด็กก
ซ่งจื่อหรูถือตะกร้าเดินไปยังหมู่บ้าน วันก่อนหลี่ฝูเหยาบอกแล้วว่าทางการถามถึงเรื่องมันเทศ วันนี้อำเภอเล็กที่แม้แต่ยุงยังไม่บินผ่าน เจ้าเมืองกว่างผิงกลับมาเยือน นางเดาถูกตั้งแต่อยู่ตำบลแล้ว จึงตั้งใจทำอาหารเหล่านี้ เมื่อเห็นซ่งจื่อหรูเดินมาทุกคนก็เหมือนเห็นแสงสว่าง ชาวบ้านบางคนถึงกับน้ำตาไหล"อาหรู เจ้ามาสักที""นั่นสิ ข้ากังวลแทบแย่"เดี๋ยวนี้ทุกคนเรียกนางว่าอาหรูคำว่าเจ้าสี่หลานสี่นั้นฟังดูห่างเหินเกินไป คนชนบทคิดอะไรง่ายๆ"เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ท่านป้าร้องไห้ทำไมกัน มิใช่ว่าพวกท่านมาแบ่งเสบียงกันหรอกหรือ""นั่นก็ใช่ แต่ใต้เท้าท่านนี้ถามว่าเสบียงเหล่านี้อยากนำกลับไปวังหลวง พวกเราจำทำยังไงดีหลานสี่ ปู่เองก็มืดไปหมดแล้ว"ผู้นำหมู่บ้านไป๋ซานโอดครวญคงมีแต่ปู่ใหญ่หลี่ฝูเหยาที่นั่งตัวตรงไม่สะท้าน แม่ว่าคนข้างหน้าจะเป็นถึงเจ้าเมืองเซี่ยหนานอินเห็นคนตรงหน้าก็หนวดกระตุก นี่มันเจ้าเด็กแสบที่เจอที่ตำบลนี่"นี่หลี่เจิ้งที่เจ้าให้ข้าเสียเวลารอ ก็คือรอเด็กที่สูงยังไม่ถึงครึ่งจั้งคนนี้หรือ หึนี่หลี่จิ้งเจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนเล่นหรืออย่างไร""ท่านเจ้าเมือง อาหารเหล่านี้เป็นนางที่หามาได้ ผู้นำตัวเล็กๆเช่น
หลี่ฝูเหยาเอ่ยปากกับผู้นำอีกสองหมู่บ้านแล้วถอนหายใจ ซ่งจื่อหรูไม่ออกความเห็น นางตกลงกับหวังซื่อแล้วว่านางจะเล่นบท หลานสาวแสนกตัญญู ชาวบ้านพากันคัดมันเทศหัวใหญ่ หัวเล็ก เกาลัดถูกกระเทาะเปลือกเกือบหมดแล้ว"ท่านปู่ทุกท่าน ข้าคำนวณแล้วจะได้มันเทศบ้านละ50ชั่ง เกาลด20ชั่ง เศษที่เหลือเอาไว้ทำพันธุ์เพื่อปลูกตอนฝนลง เห็นด้วยหรือไม่เจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูขอความเห็นยังไงก็ช่วยกันขุด ต้องให้พวกเขาแสดงความคิดบ้าง ด้านอกเริ่มมีเสียงคนโหวกเหวกโวยวายอยู่ตรงทางเข้า มองออกไปก็เห็นคนจำนวนมากวิ่งตรงเข้ามาจะแย่งมันเทศ ชาวบ้านจึงคว้าไม้ป้องกัน หัวขโมยคนนึงโกยมันเทศใส่ถุงก่อนจะผลักหลี่ม่านอวี้จนล้มลง จากนั้นก็เหยียบขานางจนหลี่ม่านอวี้ร้องไห้ออกมา หลี่ต้าโจวเห็นบุตรสาวถูกทำร้ายก็คว้าท่อนไม้ตรงเข้าไป ซ่งจื่อหรูกระชากท่อนไม้มาจากหลี่ต้าโจวอยากตายนักใช่มั้ยได้เจ๊เคยฟาดไอ้เด็กอันธพาลที่เกเรซ่งอวิ่นห่าวจนแตกกระเจิงมานักต่อนักแล้ว ขนาดครูพละที่บลูลี่อาห่าวเจ๊ก็ทุ่มกลางโรงยิมมาแล้ว หัวหน้าคนงานที่ชอบก่อม๊อบพวกนั้นอีก ตั้งแต่มาที่นี่เจ๊อึดอัดจะตายอยู่แล้วเอะอะก็ผู้อาวุโสขอระบายหน่อยเถอะมาๆแม่จะฟาดให้หมดเลยอยากลองของก็ม
หลี่เสี่ยวม่านไม่อยู่รอท่านยายตื่นนางเกรงใจไห่เมิ่งหยวน จึงพูดคุยกับป้าสะใภ้ใหญ่ไม่นานก็ขอตัวกลั บ ไห่เมิ่งหยวนพานางกลับแต่ขากลับมาถึงครึ่งทางเขาก็เลี้ยวไปอีกทาง มีเส้นทางเส้นเล็กๆแยกลงไป"ท่านพี่เมิ่งหยวนเราจะไปที่ใดเจ้าคะ" หลี่เสี่ยวม่านเห็นเขาไม่กลับทางเดิมจึงสงสัย" เด็กดีข้าอยากพาเจ้าไปดูอะไรสักหน่อย"ไม่นานทุ่งดอกไม้หลากหลายสีก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หลี่เสี่ยวม่านชอบมันมาก ไห่เมิ่งหยวนอุ้มนางลงจากหลังม้า หลี่เสี่ยวม่านวิ่งเล่นกลางทุ่ง นางอายุเพียงสิบแปดไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีความเป็นเด็กสาวหลี่เสี่ยวม่านยืนกางแขนสูดอากาศตรงหน้า ไห่เมิ่งหยวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง เขาโอบเอวนางไว้รั้งแผ่นหลังนางเข้าหาตัว หลี่เสี่ยวม่านตกใจเล็กน้อย จนได้ยินเสียงลมหายใจข้างหู เขากระซิบชื่อนางเสียงหวาน" เสี่ยวม่าน ข้ารักเจ้าข้าอยากดูแลเจ้าชั่วชีวิต เจ้ารังเกียจข้าหรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านหันกลับมามองหน้าเขา ก่อนจะถามให้แน่ใจ"ท่านพี่เมิ่งหยวน ท่านรักข้าจริงๆหรือ ข้าเป็นสตรีน่าเบื่อมากนะเจ้าคะ นอกจากปรนนิบัติท่านยาย หุงหาอาหารพอได้ ข้าก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย"" ข้าต้องการสตรีอ่อนหวาน ยามข้าเหนื่อยมาแค่เห็นหน้
ร่างเล็กๆวิ่งไปแล้วไห่เมิ่งหยวนหลั่งน้ำตาเบาๆ ไว้อาลัยให้กับลูกรักของเขา แต่พอเอ่ยถึงหลี่เสี่ยวม่านไห่เมิ่งหยวนก็เงียบทันที เขาให้ศิษย์รักของเขาซ่งจื่อหรูช่วยเป็นแม่สื่อให้ นางรับปากจะช่วยแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความจริงใจของเขาด้วยหลี่เสี่ยวม่านมารับยาบำรุงไปให้ท่านยายของนางทุกๆสามวัน เดิมทีเขาสามารถจัดยาบำรุงให้นางได้หลายเทียบแต่เช่นนั้นจะได้เห็นหน้านางในดวงใจบ่อยๆได้อย่างไรเล่า ซ่งจื่อเย่วเรียกอาหญิงเสียงหวานก่อนจะมีขนมเต็มปากวันนี้หลี่เสี่ยวม่านมารับยาแล้วจะเลยไปบ้านท่านยายเลย นางเห็นเขาจึงยิ้มให้รอยยิ้มที่ส่งมาให้เขานั้นช่างงดงามเสียจริง ไห่เมิ่งหยวนยอมรับแล้วว่าว่าเหตุใดเหล่าองค์ชาย องครักษ์ และคุณชายทั้งหลายรวมถึงตัวเขา จึงอยากมาเป็นเขยหมู่บ้านหลี่ซานกันทั้งนั้นไม่มีหมู่บ้านไหนจะรวมเอาบุตรหลานหน้าตาดีและงดงามไว้ได้เท่าที่นี่อีกแล้ว สายเลือดสกุลหลี่ตั้งแต่หลี่ฝูเหยามาจนถึงหลี่เป่าเป่า และบุตรของจิงอี้กับหลี่อ้ายเสิ่นนั้นรูปงามทุกคนสกุลหลี่หมู่บ้านหลี่ซานแห่งนี้กว่าสามร้อยชีวิตไม่มีบุตรหลานขี้เหร่จริงๆซ่งจื่อเย่วกินขนมที่อาหญิงนางเอามาให้ นอกจากพี่ใหญ่ก็มีท่านอาเสี่ยวม่านนี่แหล
จ้าวเฟยหรงเสียงแหบพร่าข้างล่างของเขาทรมานยิ่งนักมันตึงจนแทบจะระเบิด มือหนาละจากดอกบัวงามค่อยๆไต่ลงจนเจอกุหลาบดอกตูม นิ้วเรียวสวยทักทายหยอกล้อกับเกสรจนซ่งจื่อหรูต้องชันเข่าขึ้นให้เขาสำรวจกลีบดอกที่อ่อนนุ่มของนางนิ้วเรียวยาวส่งเข้าไปทักทายในกายสาวจนซ่งจื่อหรูต้องจิกไหล่เขาแน่น อ้าปากหายใจเพื่อลดความหวามรัญจวนที่เขามอบให้ ในที่สุดหน้าท้องแบนราบก็กระตุกเกร็งนางหอบหายใจจ้าวเฟยหรงเลื่อนใบหน้าลงดูดดื่มน้ำหวานที่ผลิออกมาจากกุหลาบแสนสวย ก่อนจะมองร่างงามตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซ่งจื่อหรูจับศรีษะเขาแน่นแนบกับกลางความสาวหวีดร้องกระตุกเกร็งอีกครั้งจากนั้นนางก็ช่วยคนตัวโตให้ได้ปลดปล่อย สะโพกแกร่งของจ้าวเฟยหรงเกร็งกระตุกยามที่มือนุ่มนิ่มนั้นเร่งจังหวะให้เขา จนต้องเขาต้องครวญครางเสียงแหบพร่าแล้วฟุบลงบนทรวงอกของนาง ดูดเม้มยอดทับทิมสีหวานของนางเพื่อคลายความเสียวซ่านของตนเองจ้าวเฟยหรงมองหญิงคนรักดวงตาเยิ้มหวาน มือหนากอบกุมทรวงอกสาวเขาอยากชื่นใจอีกรอบแต่ถูกนางดุตีมือเขาแล้วจับออก" พอแล้วท่านพี่ เดี๋ยวก็ใจอ่อนจนได้เลยเถิดกันพอดี ข้ารักท่านจึงอยากเก็บไว้ให้ท่านจนถึงวันที่เราเข้าหอ" ซ่งจื่อหรูประท้วง
เพราะช่วงนี้เพราะการก่อสร้างตำหนักใหม่ของจ้าวอ๋องมำให้บางครั้งจ้าวเฟยหรงต้องไปคุมแทนพระบิดา จ้าวอ๋องเลือกที่ดินเชิงเขาไท่ซานห่างจากตัวตำบลเสียนหยางเพียงหกสิบลี้ เขารู้ดีว่าบุตรชายอยากให้ตำหนักใหม่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านหลี่ซาน เมื่อบุตรชายเขาแต่งงานกับซ่งจื่อหรูการไปกลับเป็นเรื่องง่ายจิงเสวียนเดินทางกลับเมืองหลวงไปได้เกือบปีแล้ว ส่วนซ่งจื่อห่าวนั้นตอนนี้ยังอยู่ที่หมู่บ้านหลี่ซาน เนื่องจากซ่งจื่อหรูทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องชายวัยเจ็ดขวบต้องไปเดียวดายที่เมืองหลวงแม้ว่าจะพักที่จวนหาน มีพี่สาวเช่นหลี่ม่านอวี้ดูแลซ่งจื่อหรูก็ยังไม่วางใจ หลี่ม่านอวี้เป็นนายหญิงของจวน นางมีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงให้ซ่งจื่อห่าวอยู่ก่อน12เมื่อไหรนางจึงจะปล่อยไปเรือกลไฟสร้างเสร็จแล้วและเริ่มทดลองใช้ เดิมทีขนส่งอาหารพืชพันธุ์เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาถึงเดือนครึ่ง แต่ตอนนี้เพียงแค่เจ็ดวันคนที่เมืองหลวงก็ได้อาหารสดใหม่แล้ว รถรางติดตั้งในอำเภอต่างๆของเมืองกว่างผิง ไม่มีมูลวัวมูลม้าให้เห็น ม้าและวัวถูกใช้ยามเดินทางไกลหรือต้องขนข้าวของหนักๆซ่งจื่อหรูช่วงนี้ได้เข้าไปในมิติบ่อยขึ้นเพราะชายคนรักบางครั้งต้องค้างคืนที่ตำบ
ทั้งคู่ส่งสายตาฟาดฟันกันอยู่ ไห่เมิ่งหยวนไปที่โรงครัวให้คนงานนำอาหารมาส่งให้สาวๆที่นั่งรออยู่ เขานำสุราสมุนไพรที่หมักเองมาหนึ่งกา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ"คุณหนูจื่อหรู นี่เป็นสุราสมุนไพรที่ข้าเพิ่งจะหมักได้ที่ เห็นท่านบอกว่าอยากลองชิมข้าเลยนำมาให้ เรื่องที่ท่านอยากเรียนวิชาแพทย์จริงจัง หากท่านไม่รังเกียจที่ข้าเคยทำไม่ดีกับท่านก่อนหน้า ข้าก็ยินดีสอน"ไห่เมิ่งหยวนเริ่มชักชวนซ่งจื่อหรูดีใจนางอยากเรียนวิชาแพทย์เคยอ้อนวอนเขามาหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนพอเรียนรู้เล็กน้อยไม่แตกฉาน จึงไม่รู้ว่ากำลังถูกไห่เมิ่งหยวนหลอกนางให้มาอยู่ฝ่ายเขา นางเริ่มกรึ่มๆจึงรินสุราที่เขาเพิ่งให้มา ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาส่งจอกสุราน้ำเสียงอ้อแอ้แต่สติยังรับรู้"ศิษย์ซ่งจื่อหรูคาราวะอาจารย์เจ้าค่ะ วันนี้มีแต่สุราไว้รอฤกษ์งามยามดีข้าจะยกน้ำชากราบท่านอย่างเป็นทางการนะเจ้าคะ"ซ่งจื่อหรูที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้นิดๆ" เด็กดีๆ อาจารย์รับรู้ความตั้งใจเจ้าแล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็มาเริ่มเรียนได้"ไฟเมิ่งหยวนรับจอกเหล้าคาราวะทันทีไหเมิ่งหยวนลูบศรีษะนางเบาๆ ที่จริงเขาเอ็นดูเด็กคนนี่มานานตั้งแต่เรื่องราวยังไม่พัวพันขนาดนี้ ไม่คิดว่าวันน
เพราะต้องเตรียมงานแต่งซ่งจื่อหรูจึงให้คนงานหยุดเจ็ดวันเพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อนแต่ยังคงจ่ายค่าแรงให้ทุกคนดีใจ ตลาดหลี่ซานที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน คึกคักเพราะคนมาหาซื้อสินค้าเนื่องจากเป็นตลาดโต้รุ่ง แม้จะกลางคืนก็ไม่เงียบเหงาแสงจากต้นเหมันต์ส่องสว่างตามทางเดิน โคมไฟประดับประดาทั่วทั้งสามหมู่บ้าน เมืองหลวงยังไม่คึกคักเท่านี้เลย เพราะซ่งจื่อหรูชอบหิวตอนดึก ตลาดนี้จึงขายทั้งกลางวันและกลางคืนซ่งจื่อหรูนอนไม่หลับยืนมองลงไปยังโรงทอผ้าความทรงจำบางอย่างเหมือนหายไป จำได้แค่ว่าคุณปู่มาบอกลาและอวิ่นห่าวมาหาครั้งสุดท้ายตอนนั้นเขาอายุสี่สิบแล้วบุตรสาวคนโตอยู่ชั้นมัธยมใบหน้าคล้ายกับนางตอนอยู่มัธยมเช่นกันส่วนคนเล็กเหมือนแม่ซ่งจื่อหรูมาอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็ครบสามปี ผ่านเรื่องราวมากมายแต่เหมือนเรื่องราวบางอย่างอยู่ๆก็เหมือนกับค่อยๆหายไปจากความทรงจำบางครั้งก็เหมือนจะเลือนลางจากนั้นก็นึกไม่ออกอีกเลยจ้าวเฟยหรงเห็นคนรักยืนมองเหม่อไปยังที่บ้านเก่าจึงเดินมากอดนาง เขาจับไหล่นางหันกลับมาก่อนจะจุมพิตอ้อยอิ่งอยู่นานจึงถอนริมฝีปาก ซ่งจื่อหรูกอดเอวหนาไว้ซบหน้ากับอกกว้าง"เป็นอะไรไปเด็กดี ข้าเห็นเจ้ายืนนิ่ง
ไห่เมิ่งหยวนสะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเตรียมเดินจากไป สายตาเขาเห็นสตรีนางหนึ่งแต่กายด้วยกระโปรงสีเขียวอ่อน ทำผมทรงมวยต่ำปล่อยผมครึ่งศรีษะ ปักด้วยปิ่นผีเสื้อ มีกระดิ่งเงินลูกเล็กๆห้อยตรงปลาย เวลาก้าวเดินเสียงดังกรุ๊งกริ๊งกำลังเดินมาทางเขาไห่เมิ่งหยวน มองร่างบางระหงกำลังเดินใกล้เข้ามา นางเป็นใครกันเหตุใดถึงไม่เคยเห็นนางช่างงดงาม หลี่เสี่ยวม่านที่กำลังเดินมาทางศาลาเจอกับไห่เมิ่งหยวนนางจึงยิ้มให้แล้วค้อมศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาได้ยินเสียงหวานนั่นเรียกหาบิดา"เสี่ยวม่านถวายพระพรท่านอ๋อง คาราวะซื่อจื่อ ลูกคาราวะท่านพ่อ ท่านอารอง พี่รอง และใต้เท้าเซี่ยเจ้าค่ะ"หลี่เสี่ยวม่านเคารพทุกคนที่อยู่ในศาลา"เจ้าเล็ก กลับมาแล้วหรือท่านยายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"หลี่ฝูเหยาทักทายบุตรสาว"ท่านยายทานข้าวได้เยอะแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่นางขออยู่เป็นเพื่อนท่านยายก่อน ท่านแม่เกรงว่าไม่อยู่บ้านนานๆ ท่านพ่อเองก็งานยุ่งจึงให้ลูกกลับมาช่วยงานพี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ต้องระวังการลุกนั่งเจ้าค่ะ""เสี่ยวม่านเอ๊ยลำบากเจ้าแล้ว แม่เจ้าจะกลับมางานแต่งม่านอวี้หรือไม่"หลี่เสี่ยวม่านเดินไปประคองบิดาให้
ซ่งจื่อหรู หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา จ้าวอ๋องเซี่ยหนานอินและหลี่ซ่งเต๋อที่กำลังปรึกษาเรื่องสั่งงานให้คนงานประกอบชิ้นส่วนของเรือ ซ่งจื่อหรูให้ท่านปู่ของนางสร้างศาลากลางบึงบัวเป็นศาลากว้างถึงสี่จั้งยาวแปดจั้ง(กว้าง10ม.ยาว20ม.โดยประมาณ)สร้างโต๊ะประชุมกว้างหนึ่งจั้งยาวสามจั้งเอาไว้ประชุมงานสำคัญแบบแปลนเรือกางอยู่บนโต๊ะจ้าวเฟยหรงพาจิงอี้กับจิงเสวียนไปคุมการต่อเรือ ซ่งจื่อหรูต้องการสร้างเรือสามแบบ แบบที่หนึ่งขนาดกลางสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้ท่องเที่ยวพักผ่อน ขนาดใหญ่มีโกดังสำหรับพ่อค้าที่ต้งการเดินทางๆเรือเพื่อค้าขายต่างแดน และขนาดใหญ่สำหรับกองทัพ ซ่งจื่อหรูจะติดอาวุธให้เรือด้วย"ลูกสะใภ้ เรือที่เจ้าสร้างออกมาหากสำเร็จจะขายอย่างไร"จ้าวอ๋องที่ตอนนี้เรียกซ่งจื่อหรูว่าลูกสะใภ้ทูกคำ ใครจะกล้าคัดค้านพวกเขากัน สองพ่อลูกสกุลจ้าวนี้นอกจากวรยุทธที่เหนือคนอื่นยังมีความหน้าด้านอีกด้วยที่ไม่มีใครเปรียบได้" ลำเล็กสำหรับครอบครองในครัวเรือนได้ ลูกว่าลำละห้าแสนตำลึงกำลังดีเพคะ ลำใหญ่สำหรับกลุ่มการค้าสักสองล้านห้าหมื่นตำลึง ส่วนเรือที่ขายให้กองทัพลูกจะติดอาวุธให้ด้วย ลำละห้าล้านตำลึง ห้าล้านตำลึงถ้าเทียบกับการที่จ
จ้าวเฟยหรงนอนกอดร่างระหงอย่างหวงแหน ซ่งจื่อหรูกับซ่งจื่อเย่วยิ่งโตเป็นสาวยิ่งงดงามเปรียบดังดอกไม้งามเมืองกว่างผิงเลยทีเดียว ทั้งคู่นอนหลับจนนางรู้สึกมีมือหยาบกร้านมาลูบผม ซ่งจื่อหรูรู้สึกตัวจึงลืมตา พอเห็นคนที่ปรากฏตรงหน้าก็ลุกขึ้นทันทีสวมกอดแล้วร้องไห้"เหลียนฮวาหนูร้องไห้ทำไมกัน บอกปู่สิ"ส่งฮั่นเหลียงลูบหลังหลานสาว"คุณปู่คะ คุณปู่มาหาหนูสักทีอวิ่นห่าวเขามาไม่ได้อีกแล้ว หนูอยู่ที่นี่คิดถึงทุกคน""เหลียนฮวา ไปคุยกับปู่ข้างนอกเถอะ"ซ่งจื่อหรูหันไปมองคนที่นอนหลับข้างๆ หันกลับมามองหน้าปู่ของนาง"มาเถอะเขาไม่ตื่นหรอก"ซ่งฮั่นเหลียงบอกนางซ่งจื่อหรูจึงลุดเดินตามซ่งฮั่นเหลียงออกไป ทั้งคู่ยืนอยู่ริมระเบียงทอดมองลงมาที่โรงทอผ้าที่ก่อนหน้าเคยเป็นบ้านนางมาก่อนและเป็นสถานที่ๆเกิดเรื่องราว"คุณปู่คะ ทำไมตราประทับนั่งถึงเลือกหนู สกุลเฟิ่งผ่านมาหลายรุ่นเหตุใดต้องเป็นหนูที่มาแก้ไข""เดิมทีไข่มุกจันทราไม่ใช่ของดี ตั้งแต่ฮั่นอู๋ตี้ได้มันมาก็เริ่มเปลี่ยนไป โหดร้ายไล่ฆ่าคนไม่เลือกแม้กระทั่งบุตรตนเอง แต่ไข่มุกก็เสริมพลังอำนาจให้แก่เขา ตำหนักเทพในตอนนั้นออกอุบายให้เขาสร้างสุสานและบอกวิธีคืนชีพหลังจากตาย ค