Share

ตอนที่ 6 ขึ้นเขา

last update Last Updated: 2025-01-03 02:16:19

 หลังจากที่เตรียมของเสร็จแล้วทั้ง 4 คนก็พร้อมใจกันเดินขึ้นเขาไปทันที จื้อโหยวนั้นแม้ในใจจะแอบบ่นก่นด่าพระเจ้าอยู่ไม่น้อยที่ให้นางตายไปแล้วก็ไม่ให้ตายไปเลยหรือเกิดใหม่ทั้งทีแต่ไม่ได้อยู่ในร่างของเด็กทารกแต่ให้มาอยู่ในร่างคนที่บังเอิญมีชื่อแซ่เดียวกับตัวเอง ยังดีที่ไม่ลบความสามารถและความทรงจำก่อนตายของนาง

“ข้าขอโทษเจ้านะภรรยา ที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

“หาใช่ความผิดของท่านเจ้าค่ะ ถือเสียว่าเรามีชะตาต้องกัน ข้าเชื่อว่าในวันข้างหน้าพวกเราจะต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเจ้าค่ะ”

ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงป่าไผ่ อวิ๋นเซียวแยกกับทั้งสามคนตรงนี้ เขาเพียงกำชับว่าให้นางและน้อง ๆ ดูแลตัวเองให้ดีและอย่าเข้าไปในป่าลึกอาจจะพบเข้ากับสัตว์ป่าอันตรายได้ 

ซึ่งทั้งสามคนก็รับปาก แต่เว่ยจื้อโหยวนั้นแม้ในใจนางรับปากแต่ไม่แน่ว่านางอาจจะไม่ทำตามก็เป็นได้ หากว่านางยังไม่เจออะไรที่สามารถนำมากินเป็นอาหารได้จำเป็นจะต้องเดินเข้าป่าลึกไปอีกหน่อย อย่างน้อย ๆ ให้มีอะไรติดไม้ติดมือออกมาบ้าง

นางทะลุมิติมาแต่ตัว พรวิเศษหรือก็ไม่มี มีเพียงแค่สองมือ ความทรงจำ และความสามารถติดมาเท่านั้น นี่จะไม่เป็นการรังแกกันมากไปหรอกหรือ

“เฮอะ ไม่ยุติธรรมเลย ไม่แน่ว่าจะได้อดตายแล้วจริง ๆ ยากจนข้นแค้นเสียขนาดนี้ คงได้ตายรอบสอง หวังว่าท่านจะให้ข้าตายไปเสียจริง ๆ นะเจ้าคะ พระเจ้าช่างกลั่นแกล้งข้าเสียจริง ๆ ” เว่ยจื้อโหยวเดินไปบ่นไป

“พี่สะใภ้ ท่านว่าอันใดนะขอรับ ข้าได้ยินไม่ถนัด”

“ไม่มีอะไรข้าแค่คิดดังไปหน่อย เราเดินกันมาตั้งนานแล้วยังไม่เจออะไรเลยนะอาซวน”

“ป่าแถวนี้ชาวบ้านมาหาของป่าเป็นจำนวนมากแล้ว วันนี้พวกเราก็มาช้า ก็คงไม่เหลืออะไรให้เราเก็บแล้วขอรับ"

“นั่นสิเจ้าคะพี่สะใภ้ แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันดีเจ้าคะ”

“เอาเถอะพวกเราลองเดินเข้าไปอีกหน่อยหากไม่เจออะไรจริง ๆ ก็คงจะต้องกลับไปมือเปล่า แต่ข้าจะไม่ยอมกลับบ้านไปมือเปล่าหรอกนะ”

“เช่นนั้นพวกเราเดินต่อไปอีกหน่อยก็แล้วกันนะขอรับ”

“ข้าหวังว่าจะพบเจอสมุนไพรหายากและล้ำค่าจะได้นำไปขายแล้วนำเงินไปจ่ายกับหัวหน้าหมู่บ้านพี่ใหญ่จะได้ไม่ต้องไปเป็นทหาร ข้าเกลียดสงคราม หากพี่ใหญ่ไม่อยู่ บ้านใหญ่จะต้องมารังแกพวกเราอีกแน่เลยเจ้าค่ะพี่สะใภ้”

“เชื่อใจพี่สะใภ้ได้เลย ข้าจะไม่ยอมให้ป้าสะใภ้มหาภัยมารังแกพวกเราได้อีก ที่ผ่านมาเป็นเพราะข้ายอมให้คนอื่นรังแกถึงได้มีสภาพเช่นนี้ หลังจากที่ข้าผ่านความเป็นความตายมาข้าตั้งใจว่าต่อไปนี้ใครมารังแกข่มเหงข้า ข้าจะไม่ยอมอีกต่อไป พี่สะใภ้คนนี้จะสู้เพื่อพวกเจ้าเอง”

“ขอบคุณพี่สะใภ้มากเจ้าค่ะ”

“ข้าก็ขอบคุณพี่สะใภ้เช่นกันขอรับ”

“ไม่ต้อง ไม่ต้องขอบคุณข้า พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ย่อมเป็นหน้าที่ข้าที่จะปกป้องพวกเจ้าในตอนที่พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่”

ในตอนที่ทั้งสี่คนเข้าป่าไปแล้วนั้น มีม้าเร็วจากทางการมาส่งหนังสือที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เนื้อหาในจดหมายระบุว่าให้ชายหนุ่มที่มีอายุครบ 15 หนาวเข้าร่วมกองทัพไปรบที่ชายแดนเพื่อช่วยปกป้องบ้านเมือง และยกเลิกการจ่ายเงินทดแทน 10 ตำลึงเงินแทนการไปร่วมรบ ซึ่งหมายความว่าทุกคนที่อายุครบ 15 หนาวจะต้องเข้าร่วมรบครอบครัวละ 1 คน 

หัวหน้าหมู่บ้านอ่านเนื้อความในจดหมายที่ทางการส่งมาให้เขาได้แต่ถอนใจ แน่นอนว่า 1 ครอบครัวต่อ 1 คน จะต้องส่งคนเข้าร่วมกองทัพ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ตอนนี้มีเงิน 10 ตำลึงทองก็ไม่อาจช่วยให้รอดพ้นได้ในตอนนี้

 อวิ๋นเซียวตั้งหน้าตั้งตาตัดไม้ไผ่จนได้กองใหญ่ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ขนลงไปไว้ที่สวนหลังบ้าน จากนั้นเขาก็เดินกลับมาขนกลับไป เขาทำอยู่อย่างนั้นหลายรอบจนไม้ไผ่ที่ตัดเอาไว้หมด จากนั้นเขาก็เริ่มตัดไม้ไผ่ต่อเพราะเท่าที่เขาขนลงไปยังไม่พอสำหรับล้อมรั้วที่ดิน 3 หมู่ของเขา

ตัดมาที่จื้อโหยวและน้องสามีทั้งสอง หลังจากที่เดินเข้าป่ามานานสองนานก็ได้เพียงผักป่าเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งสามคนไม่ย่อท้อและเดินมุ่งหน้าเข้าป่าไปลึกไปเรื่อย ๆ โดยที่ทั้งสามคนได้ลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองได้รับปากพี่ชายและสามีว่าจะไม่เข้าไปในป่าลึก

“อาเฟย อาซวน พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดชาวบ้านไม่จับปลาในลำธารไปกิน เท่าที่ข้าเห็นปลาเยอะมากลำธารหลังบ้านพวกเราเองก็มีปลาเยอะมากเช่นกัน”

“ปลาว่ายน้ำเร็วถึงเพียงนั้นต่อให้อยากจะจับพวกมันมาทำอาหารก็คงยากขอรับ ขนาดพี่ใหญ่ถือว่าพอมีฝีมือล่าสัตว์อยู่บ้างยังจับไม่ได้เลย นาน ๆ จะจับได้สักตัวขอรับ ต่อให้อยากกินขนาดไหนก็คงทำได้แค่มองเท่านั้น”

“อ่อ เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าเข้าใจแล้ว เอาเป็นว่ากลับไปแล้วข้าจะลองไปจับปลาดูบ้าง แล้วปูกับกุ้งเล่าเหตุใดถึงไม่จับมาทำอาหาร”

“พี่สะใภ้ขอรับ เปลือกแข็งออกปานนั้นจะกินยังไงเล่าขอรับ”

“อ่อ ไม่รู้วิธีกินนี่เอง เช่นนั้นก็ดีแล้วจะได้มีอาหารเพิ่ม”

“พี่สะใภ้ รู้วิธีกินหรือเจ้าคะ”

“แน่นอนว่ารู้ เอาไว้กลับบ้านแล้วเราไปจับมาทำอาหารกัน รับรองว่าพวกเจ้าจะต้องชอบแน่”

“ขอรับ ข้าเชื่อพี่สะใภ้ขอรับ”

“โอ๊ะ เห็ดหอมล่ะ มาช่วยข้าเก็บเห็ดหอมเร็วเข้า ดอกใหญ่มาก”

“พี่สะใภ้ท่านโชคดีจริง ๆ เห็ดหอมตากแห้งมีราคาแพงมากขอรับ”

หลังจากที่จื้อโหยวเจอเห็ดหอม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็เจอกับเห็ดหูหนูดำ เมื่อเก็บเห็ดจนหมดแล้วพวกเขาจึงเดินต่อ ด้วยความดีใจที่สามารถเก็บผักป่าและเห็ดได้เป็นจำนวนมาก ทำให้พวกเขาทั้งสามคนเดินเข้าป่าลึกไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว

ยิ่งเดินเข้าป่าลึกไปมากเท่าไหร่ผลการเก็บเกี่ยวย่อมมีมากขึ้น ในตอนที่ทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บผักป่าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรวิ่งมาทางพวกเขา ด้วยความตกใจเว่ยจื้อโหยวหันหลังกลับไปมองว่าเจ้าของเสียงวิ่งนี้เป็นตัวอะไรนางได้แต่หวังว่าจะไม่ใช่สัตว์ป่าดุร้าย

เจ้าหมูป่าที่วิ่งหนีตายมาจากฝูงหมาป่า มันวิ่งเร็วสุดฝีเท้าโดยไม่สนใจว่าข้างหน้าจะมีอะไรขวางอยู่หรือไม่ ขอเพียงแค่มันรอดพ้นจากเจ้าฝูงหมาป่าพวกนั้นได้ก็พอแล้ว มันเองก็ย่อมอยากรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้เพียงเท่านั้น

เมื่อเว่ยจื้อโหยวเห็นว่าเจ้าของฝีเท้าเป็นหมูป่าตัวใหญ่ ด้วยความตกใจนางจึงหันไปบอกน้อง ๆ ทั้งสองคนให้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้หลังหินก้อนใหญ่ด้านหน้า

“อาซวน อาเฟย แย่แล้วหมูป่ากำลังวิ่งมาทางนี้ พวกเจ้ารีบขึ้นไปบนต้นไม้หลังก้อนหินเร็วเข้า”

“อะไรนะ มะ..หมูป่าหรือ แย่แล้ว ตายแน่ ๆ พี่รองเร็วเข้า พี่สะใภ้เร็วเข้า วิ่งขอรับวิ่ง”

เว่ยจื้อโหยวกลัวว่าทั้งสองคนจะปีนขึ้นต้นไม้ไม่ทัน นางจึงจับน้องสามีให้ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ส่วนตัวเองคิดว่าคงหนีไม่ทันแล้วได้แต่หลบอยู่หลังก้อนหินก้อนใหญ่ ส่วนเจ้าหมูที่หลับหูหลับตาวิ่งไม่มองทางเพราะกลัวว่าฝูงหมาป่าจะวิ่งตามมาทันทำให้มันมองไม่เห็นว่าข้างหน้ามีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่

“ปัง!!”

หมูป่าที่วิ่งมาด้วยความเร็วพุ่งเข้าชนกับหินก้อนใหญ่อย่างจัง อนิจจาหนีรอดเงื้อมมือหมาป่ามาได้ตั้งนานเหตุใดมันถึงมาตายเพราะก้อนหินด้วย หมูป่าตายลงไปทั้งที่ใจไม่ยินยอม

“เอ่อ.. พี่สะใภ้ เหตุใดมันถึงไม่หลบก้อนหินเล่าขอรับ มันจงใจฆ่าตัวตายใช่หรือไม่”

“ข้าเองก็ไม่รู้ หรือว่ามันจะตาบอด”

“เล่นเอาข้าตกอกตกใจหมด ข้ากลัวจนฉี่จะราดแล้วเจ้าค่ะ”

“พวกเจ้าลงมา เราต้องรีบไปแล้ว หากว่าเราอยู่ที่นี่อาจจะมีสัตว์ร้ายตามกลิ่นเลือดมาก็ได้ เร็วเข้า”

“ขอรับ แล้วหมูป่าเล่า เราจะทิ้งเอาไว้อย่างนี้หรือขอรับ”

“ไม่ทิ้งแล้วเจ้าจะให้พี่สะใภ้แบกไปหรือ เราเองก็ยังเด็กนะอาซวนถึงแม้ว่าข้าจะเสียดายก็ตามที แต่ข้าเองก็ยังไม่อยากเป็นอาหารสัตว์ในป่านี่หรอกนะ”

“พวกเจ้าไม่ต้องห่วง พี่สะใภ้จะแบกเจ้าหมูนี่ไปเอง ไปกันเถอะ”

ถึงแม้เด็กน้อยทั้งสองคนจะไม่พูดอะไรแต่ในแววตากลับมีคำถาม

“พี่สะใภ้ตัวท่านก็เล็กผอมบางขนาดนี้จะแบกหมูป่าตัวใหญ่ไปได้เช่นไร ไม่แน่ว่าหากเป็นพี่ใหญ่ก็ยังไม่สามารถจะแบกมันไปได้ด้วยตัวคนเดียว”

แต่เมื่อทั้งสองเห็นพี่สะใภ้ของตัวเองยกหมูป่าตัวใหญ่ขึ้นพาดบ่า อีกทั้งนางยังเดินออกจากป่าไปด้วยความรวดเร็วประหนึ่งว่าที่นางแบกอยู่นั้นเบาดุจปุยนุ่น ทั้งสองคนวิ่งตามหลังพี่สะใภ้ออกจากป่าไปด้วยความโง่งม

เมื่อนางเห็นว่าเดินออกจากป่ามาไกลจนเกือบจะถึงป่าไผ่ที่สามีนางกำลังตัดไม้ไผ่อยู่นั้น เว่ยจื้อโหยวก็หยุดเดินและวางหมูป่าลง ตัวนางเองก็นั่งลงด้วยความเหนื่อยล้า เพราะร่างกายยังไม่ฟื้นเต็มสิบส่วน ถึงนางจะหายดีแล้วแต่ร่างกายนี้นับว่าอ่อนแออยู่บ้างเพราะขาดสารอาหาร

“โอย เหนื่อยมาก ข้าเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว” เว่ยจื้อโหยวพูดออกมาพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้างหมูป่า

“พี่สะใภ้ท่านเป็นอะไรขอรับ ไหวหรือไม่ หรือไม่สบายตรงไหน”

“ข้าไม่เป็นไรแค่เหนื่อย อาเฟยเจ้าไปตามพี่ใหญ่ของเจ้ามาเอาหมูตัวนี้กลับบ้านไป ข้าไม่ไหวแล้ว หากพี่ใหญ่ของพวกเจ้าถามว่าพวกเราเข้าป่าลึกไปหรือไม่ พวกเจ้าต้องบอกว่า เจ้าหมูตัวนี้วิ่งหนีอะไรมาถึงป่าชั้นนอกที่พวกเราหาของป่ากันและมันวิ่งชนก้อนหินตายเอง และพวกเราไม่ได้เข้าไปในป่าลึกเข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจขอรับ”

“เข้าใจเจ้าค่ะ”

“อือ เช่นนั้นเจ้าไปตามพี่ใหญ่เจ้ามา”

“เจ้าค่ะพี่สะใภ้ อาซวนดูแลพี่สะใภ้ด้วย”

"ขอรับพี่รอง”

อวิ๋นเฟยรีบเดินมุ่งหน้าตรงไปป่าไผ่ที่พี่ชายของนางอยู่ อวิ๋นเซียวที่หันไปเห็นน้องสาวเดินมาเขาก็ขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัยทันที ภรรยาและน้องชายของเขาหายไปที่ใดแล้วเหตุใดจึงมีเพียงน้องสาวกลับมาเพียงแค่คนเดียว

“พี่ใหญ่ ไปช่วยพี่สะใภ้ที่ชายป่าทีเจ้าค่ะ”

“นางเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น” เขาถามน้องสาวแต่ไม่รอเอาคำตอบก็มุ่งหน้าวิ่งไปยังทิศทางที่น้องสาวชี้ทันทีด้วยความร้อนใจ

“อ้าว ข้ายังพูดไม่จบเลยพี่ใหญ่ รอข้าด้วย”

Related chapters

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 7 ภรรยาเจ้าทำข้าตกใจจะตายแล้ว

    อวิ๋นเซียวที่ไม่ทันฟังคำพูดน้องสาวให้กระจ่าง ก็รีบวางไม้ไผ่ในมือลงและรีบวิ่งไปยังชายป่าตามทิศทางที่น้องสาวชี้ไปด้วยความร้อนใจ เขาไม่น่าปล่อยให้นางกับน้องสาวเข้าป่าไปกันตามลำพังเลย หากเกิดอะไรขึ้นกับนางเขาเองคงไม่มีหน้าไปพบท่านพ่อตาท่านแม่ยาย ไหนจะครอบครัวท่านยายเหลียนและน้อง ๆ ของนางอีกอวิ๋นเฟยที่ยืนอ้าปากค้างมองตามหลังพี่ชายที่รีบวิ่งออกไปทั้งที่นางยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ได้แต่ส่ายหน้าในความใจร้อนและร้อนใจของผู้เป็นพี่ชาย แต่นางก็สามารถเข้าใจได้ตั้งแต่พวกนางสามพี่น้องโดนบีบบังคับให้ต้องออกมาจากบ้านสายหลักพี่ชายนางคิดอยู่เสมอว่าเขาจะไม่สามารถแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ คงไม่มีใครอยากจะยกลูกสาวให้เขาที่มีฐานะยากจนแต่ในเมื่อเขามีโอกาสได้แต่งภรรยาเข้ามาแล้ว เขาย่อมต้องรักและเป็นห่วงพี่สะใภ้มาก ด้วยรูปโฉมของพี่สะใภ้เองก็งดงามออกปานนั้น อีกทั้งพี่สะใภ้ยังรูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอมขนาดนี้หากนางเป็นพี่ชายก็คงต้องร้อนใจไม่ต่างกันอวิ๋นเซียววิ่งมาด้วยความเร็ว ด้วยความร้อนใจไม่นานเขามาถึงชายป่าพี่มีภรรยาและน้องชายรออยู่ เขาวิ่งมาก็พบว่าภรรยาของตัวเองนอนอยู่ข้าง ๆ หมูป่าตัวใหญ่ เขาตกใจจนหน้าไม่มีสีเลือด

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 8 ไม่มีทางหลีกเลี่ยง

    อวิ๋นเซียวกลับเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เขาไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากบอกกับภรรยาได้เช่นไร เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วใช่ว่าเขาอยากจากนางไปเป็นทหารเสียเมื่อไหร่ เห็นกันอยู่ว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลย“ภรรยา พวกเจ้ากินข้าวกันไปก่อน เมื่อสักครู่ข้าได้ยินเสียงสัญญาณที่หัวหน้าหมู่บ้านเรียกรวมชาวบ้าน ข้าในฐานะตัวแทนครอบครัวจะต้องไปเข้าร่วมประชุม เจ้าพาน้อง ๆ กินข้าวไปก่อนไม่ต้องรอข้า”“เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ ท่านพี่รู้หรือไม่”“น่าจะเรื่องเกณฑ์ชาวบ้านไปเป็นทหาร ข้าเองก็ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ เอาไว้ไปถึงก็คงจะรู้”“เจ้าค่ะ”ที่ลานหน้าศาลพรรพชนของหมู่บ้าน ตอนนี้แต่ละครอบครัวส่งตัวแทนมาแล้วครอบครัวละ 1 คน เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่ามากันครบทุกคนแล้วก็เริ่มเอ่ยปากบอกสาเหตุที่เขาเรียกทุกครอบครัวมาในวันนี้“เอาล่ะ ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาในวันนี้ ข้ามีเรื่องอยู่สองเรื่องที่จะแจ้งให้พวกเจ้าได้รับรู้กันเอาไว้และจะต้องทำตามไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ข้าเองก็หนักใจเช่นกันแต่ถ้าหากพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งไม่ทำตามแล้วครอบครัวของเจ้าจะมีความผิดร้ายแรง”“มันเรื่องอันใดกันแน่ท่านหัวหน้าหมู่บ้านรีบ ๆ พูดมาเถอะ พวกข้าเองก็ร้อน

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 9 ขายปลา

    เว่ยจื้อโหยวพาน้องชายน้องสาวเดินไปดูหลุมดักปลาที่นางขุดเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน เมื่อเดินมาถึงอวิ๋นซวนที่วิ่งนำหน้าไปก่อนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาเอากิ่งไม้ที่วางทับข้างบนปากหลุมออกในหลุมที่ขุดเอาไว้มีปลาอยู่แน่นไปหมดแถมปลายังมีขนาดใหญ่อีกด้วย“อู้วว ปละ..ปลา ปลาเต็มไปหมดเลยขอรับพี่สะใภ้ อีกทั้งมีแต่ตัวใหญ่ ๆ พี่สะใภ้เก่งที่สุดเลยขอรับ”“จริงหรืออาซวน ในนั้นมีปลาจริงหรือเจ้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่” “ข้าพูดเรื่องจริงพี่รองข้าจะไปโกหกท่านทำไม หรือท่านไม่เชื่อในตัวพี่สะใภ้กันแน่”“ข้าเปล่าสักหน่อย เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล อย่ามากล่าวหาข้า ข้าหาได้คิดดังเช่นที่เจ้าว่ามา”“เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว อาเฟยไปเอาถังน้ำมา เราจะจับปลาไปขังเอาไว้ในโอ่งก่อนพรุ่งนี้เราค่อยนำไปขายในเมือง จะได้ซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่มด้วย”“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”“อาซวนหากเราต้องการเข้าไปในตัวเมืองเราจะต้องทำเช่นไร เดินไปหรือแล้วตัวเมืองอยู่ไกลหรือไม่”“นั่งเกวียนรับจ้างไปขอรับ หากเดินเท้าก็ร่วม 2 ชั่วยาม หากเรานำปลาเข้าไปขายข้าเกรงว่าเดินไปคงไม่สะดวก”“เอาเช่นนี้ อาซวนเจ้าวิ่งไปบ้านเดิมข้าสักประเดี๋ยว บอกกับท่านลุงใหญ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 10 ลาที่ไม่ใช่ลา

    หลังจากออกมาจากเหลาอาหารแล้วเหลียนอี้ปิงพาน้องเขยไปที่ตลาดค้าสัตว์เพื่อเลือกซื้อเกวียนเทียมลาหรือวัวขึ้นอยู่กับว่าเงินในมือพวกเขาพอหรือไม่ เงิน 10 ตำลึงทองที่เตรียมเอาไว้เพื่อจ่ายให้กับทางการแทนการไปเป็นทหารตั้งแต่แรกนั้น ได้จากการนำสินเดิมของท่านแม่และภรรยาของเขาไปจำนำเอาไว้ที่โรงรับจำนำ“พี่ใหญ่ขอรับ หลังจากเราซื้อเกวียนแล้วข้าว่าพี่ใหญ่ไปเอาสินเดิมของแม่ยายกับพี่สะใภ้มาคืนพวกนางเถอะขอรับ ข้าคิดว่าต่อไปในภายภาคหน้าพวกเราคงไม่ขัดสนเงินทองเท่าไหร่ เป็นไปได้หากข้ามีเงินในอนาคตข้าก็อยากจะซื้อที่ดินเป็นของครอบครัวตัวเองขอรับ”“ได้ตกลง เช่นนั้นเราก็แวะโรงรับจำนำก่อนก็แล้วกัน ข้าคิดว่าเงินเรามีพอที่จะซื้อเกวียนวัวหรือเกวียนลาได้”เมื่อตกลงกันได้แล้วเหลียนอี้ปิงขับเกวียนมุ่งหน้าไปที่โรงรับจำนำและทำการไถ่ถอนสินเดิมของภรรยาและมารดาออกมาทั้งหมด รวมเป็นเงิน 8ตำลึงทอง ทำให้ในตอนนี้เงินในมือเหลืออยู่เพียง 2 ตำลึงทองกับอีก 6 ตำลึงเงินที่ได้จากการขายปลาหลังจากจัดการธุระที่โรงรับจำนำเสร็จแล้วทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปยังตลาดค้าสัตว์ทันที ด้วยจำนวนเงินที่มีในมือ คงจะซื้อได้เพียงเกวียนเทียมลาเท่านั้น หรือ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 11 ขึ้นเขา เข้าป่า

    เว่ยจื้อโหยวที่วันนี้ว่างมาก งานพลิกหน้าดินก็ทำเสร็จแล้ว ในระหว่างที่ต้องใช้เวลาตากหน้าดินหลายวัน ในระหว่างรอนางจึงคิดว่าสมควรจะเข้าป่าเพื่อหาของป่านำไปขายเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ไม่แน่ว่านางที่มาจากอนาคตอาจจะพบเจออะไรที่กินได้แต่ชาวบ้านที่นี่ไม่รู้จักก็เป็นได้ ป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์มากขนาดนี้นางมั่นใจว่าจะต้องมีของกินมากมายในป่าที่สามารถทำเงินให้กับนางได้แน่นอนเมื่อคิดได้ว่าจะเข้าป่ามันก็ต้องมีการเตรียมตัวกันสักนิด ก่อนอื่นต้องหาเสียมเล็ก ๆ หรือพลั่วเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วย ต่อมาก็เป็นมีด กระบอกใส่น้ำดื่ม แล้วอาวุธล่ะจะเอาอะไรติดตัวไปด้วย ธนูสามีของนางก็เอาติดตัวไปด้วยแล้ว ลองหาในห้องเก็บของดูเผื่อจะมีหลงเหลืออยู่บ้างเว่ยจื้อโหยวค้นหาของในห้องเก็บของนางพบธนูอันใหญ่ที่มีสภาพเก่าแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดี พร้อมทั้งลูกธนูอีก 1กระบอกมีประมาณ 15 ลูกได้ นี่อาจจะเป็นสมบัติตกทอดมาจาดพ่อสามีก็เป็นได้ นอกจากธนูแล้วนางยังเอาเชือกสำหรับกับดักสัตว์ไปด้วย หลังจากหาของที่ต้องการครบแล้วนางก็นำไปใส่ตะกร้าไม้ไผ่อันใหญ่ยกขึ้นสะพายหลังเตรียมเข้าป่าตามที่ตั้งใจเอาไว้เว่ยจื้อโหยวสะพายตะกร้าออกจากบ้านอย่างอาร

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 12 คืนหนึ่ง คืนนี้

    เว่ยจื้อโหยวเดินแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยไก่ป่าและกระต่ายป่า ในมือยังถือหน่อไม้มาด้วย 2 หน่อ วันนี้นางใช้เวลาเดินในป่ามากไปหน่อย ตอนนี้ถึงกับหมดแรงไปเลยทีเดียวเมื่อเดินมาได้ใกล้จะถึงบ้าน นางก็ต้องหยุดยืนขมวดคิ้วแน่นเสียงด่าทอน้องชายน้องสาวดังมาจากหน้าบ้าน คงจะเป็นนังมนุษย์ป้าสะใภ้มหาภัยแน่ ๆ หาไม่แล้วใครจะกล้าและหน้าด้านมาด่าเด็กที่อายุยังไม่ถึง 10 หนาวด้วยซ้ำ จิตใจไร้สำนึกขนาดนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น เว่ยจื้อโหยวสาวเท้าเดินกลับบ้านทันที นางเข้าด้านหลังบ้าน หลังจากนำตะกร้าเข้าไปวางไว้ในห้องนอนของนางเสร็จแล้วจึงปิดประตูใส่กุญแจเอาไว้ ไม่รอช้านางรีบเดินออกไปด้านหน้าบ้านก็พบน้องชายและน้องสาวยืนมองป้าสะใภ้อยู่ข้างหน้าต่าง“ข้ากลับมาแล้ว พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”“พี่สะใภ้ท่านกลับมาเสียที ข้าหนวกหูจะตายแล้วเจ้าค่ะ นางจะเข้ามาในบ้านแต่ข้ากับน้องไม่ยอมเปิดประตูเพราะทุกครั้งที่นางเข้ามานางจะมาหยิบฉวยเอาของในครัวไปจนหมด”“พวกเจ้าทำดีแล้ว ไม่ต้องกลัวข้าจะจัดการเอง”“เจ้าค่ะ”“โอ้ย หนวกหูจริง ๆ ผู้ใดปล่อยสุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นช่างไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง”สิ้นเสียงของเว่ยจื้อ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 13 พึ่งพาตนเอง

    เช้าวันต่อมาเว่ยจื้อโหยวตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจเท่าไหร่ นางไม่รู้ว่าฝันหรือเรื่องจริงแต่จะอะไรก็ช่างมันก่อน คนเราย่อมต้องพึ่งพาตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ถึงปากนางจะก่นด่าไปบ้างมันก็สมควรแล้ว นางแค่ต้องการระบายความอัดอั้นตันใจเพียงเท่านั้นนางไม่แน่ใจว่าความฝันนางจะใช่เรื่องจริงหรือไม่เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์อันใดได้เพราะนางยังไม่ได้ลงมือเพาะปลูกอันใดเลย หรือเพียงทางเดียวเท่านั้นมิติจะใช่เรื่องจริงหรือไม่คงต้องลองดูเมื่อได้ข้อสรุปของตนเองเพื่อพิสูจน์ว่าความฝันมันจะเป็นจริงหรือไม่ นางจึงกำหนดจิตให้เข้า ทันใดนั้นนางก็เข้ามาอยู่ในสถานที่แปลก ๆ ที่ดูแห้งแล้งและแร้นแค้น สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่เพียงแค่ 1หมู่เท่านั้น มีบ่อน้ำที่ทำจากหิน 1บ่อเพียงเท่านั้น นอกเหนือจากนี้แล้วไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งต้นไม้ใบหญ้า นี่คงจะเป็นบ่อน้ำแร่อย่างที่บอกแน่นอนเมื่อแน่ใจแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน นางจึงกลับออกไปข้างนอกและเริ่มทำมื้อเช้าสำหรับน้องทั้งสองปลายยามอิ๋นท่านพ่อและท่านลุงบังคับเกวียนมาถึงบ้านของนางเพื่อนำปลาไปขายเช่นเมื่อวาน “อาโหยวตื่นแล้วหรือลูก เจ้านอนไม่หลับหรือ เหตุใดถึงได้ขอบตาดำคล้ำขนาดนั้น

    Last Updated : 2025-01-03
  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ที่ 14 เรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง

    ทางด้านเว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิงที่วันนี้นำปลาไปส่งที่เหลาอาหารพร้อมทั้งกระต่ายกับไก่ที่เว่ยจื้อโหยวล่ามาได้ ทำให้วันนี้พวกเขาได้เงินมาไม่น้อย เพราะจำนวนปลาที่จับได้มากขึ้นและมีขนาดตัวที่ใหญ่ ส่วนปลาตัวเล็กนั้นพวกเขาปล่อยกลับลงลำธารไป ทั้งสองคนติดสินใจว่าจะมาขุดหลุมดักปลาเพิ่ม เพราะหลงจู๊บอกว่าปลาที่พวกเขานำไปส่งเมื่อวานไม่พอขาย ถึงแม้วันนี้จะได้ปลาเพิ่มมาจากเมื่อวานนับ 100 ชั่ง แต่หลงจู๊คิดว่าไม่น่าจะพอขาย เพราะไม่มีใครสามารถจับปลามาส่งที่เหลาอาหารแบบที่ยังมีชีวิตอยู่และไร้บาดแผลเช่นนี้มาก่อน ทำให้เวลานำปลาไปปรุงอาหารจะได้รสชาติสดใหม่และอร่อยยิ่งขึ้น ตอนนี้อาหารเมนูปลาจึงเป็นอาหารขึ้นชื่อของเหลาอาหารไปแล้ว“น้องเขย ข้าว่าเรากลับไปขุดหลุมกับดักเพิ่มสัก 3 หลุมดีหรือไม่ ขุดห่างกันออกไปหน่อยลำธารสายนี้ไม่ค่อยมีชาวบ้านเดินผ่านมาเพราะมันอยู่ติดกับชายป่า เหมาะสำหรับให้พวกเราขุดหลุมดักปลา”“ข้าเห็นด้วยกับพี่ใหญ่ กระต่ายป่าและไก่ป่าของอาโหยวก็ขายได้ราคาดีไม่น้อย เลยเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วข้าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงนางมาก นางสามารถดูแลตัวเองได้ หากข้าไม่ตัดสินใจแยกบ้านออกมาพวกเราคงจะไม่มีวันคืนที่ด

    Last Updated : 2025-01-03

Latest chapter

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 113 บทส่งท้าย

    หลังจากเหลียนอี้หลุนแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ไม่นาน หยวนจิ้งเองก็พบรักเข้ากับหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านแถบชานเมือง นางเป็นบุตรสาวพรานป่าที่มีนิสัยใจคอกล้าหาญไม่ต่างไปจากน้องสะใภ้อย่างเว่ยจื้อโหยว ที่สำคัญนางเป็นคนจิตใจดี หยวนจิ้งแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ทันที ต่างจากอี้หลุนที่ไม่ว่าจะทำยังไง ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที ส่วนภรรยาของกู้ตงและสหายทั้งสองตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความพยายามของอี้หลุนในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์เสียที เซี่ยเหิงเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น อ้ายหลินเองก็ท้องโตและกำลังใกล้คลอดตามเว่ยจื้อโหยวมาติด ๆ หมู่บ้านต้าลี่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ เว่ยเจี้ยนป๋อได้เป็นบิดาของจอหงวนฝ่ายบุ๋น อวิ๋นเซียวนั้นมีน้องชายเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ อวิ๋นเฟยกับหย่งคังก็มีลูกชายหญิงให้บิดามารดาได้เลี้ยงหลานไม่เหงา ทำเอาลุงใหญ่อย่างเหลียนอี้ปิงอิจฉาตาร้อนไปหมดเจ้าแฝดต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า หลังจากมารดาคลอดน้อง ๆ แล้วทั้งสองคนจะเข้าไปศึกษาที่เมืองหลวงตามที่รับปากกับท่านลุงเฟยหลงเอาไว้ เว่ยจื้อโหยวมีความสุขที่ได้อยู่กับลู

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 112 คนดีพี่มาง้อ

    เหลียนอี้หลุนตอนนี้กำลังชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะทำตามใจตัวเองหรือจะยอมเดินออกมาอย่างเช่นที่เคยทำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พึงใจในตัวม่านหลิน เพียงแต่เขาคิดว่าตัวเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บิดามารดาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เจ้าเมืองเตี้ยนถงเองไม่เคยคิดดูถูกชาติกำเนิดของเหลียนอี้หลุนอย่างที่ตัวอี้หลุนเข้าใจ ที่ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกุเรื่องว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของสหายของนางนั้นเพื่อกระตุ้นให้อี้หลุนรู้ใจตัวเองเพียงเท่านั้น เหลียนอี้หลุนทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้ามานานแล้วและนางเองก็รู้ดีว่าเขาพึงใจในตัวบุตรสาวคนเล็กของนาง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเช่นนางกับสามีนั้นมีหรือจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไรกับบุตรสาวของตัวเอง ม่านหลินนั้นตกหลุมรักเหลียนอี้หลุนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงในสายตาคนอื่นนางเป็นคุณหนูจวนขุนนางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากวิ่งออกไปเที่ยวตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหาร งานเย็บปักและการต่อสู้ไม่ได้ด้อยเลย ม่านหลินเองก็เริ่มถอดใจแล้วเช่นเดียวกัน นางคิดว่าความพยายามของตัวเองไม่เป็นผลสำเร็จ ขนาดที่นาง

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 111 ยอดลูกสะใภ้

    หมู่บ้านหนานซานตอนนี้ข่าวการกลับมาของสามสหายปากร้ายแห่งหมู่บ้านหนานซานที่กลับมาจากเมืองหลวงพร้อมทั้งนำภรรยากลับมาด้วยเป็นที่เลื่องลือไปสี่หมู่บ้านยี่สิบลี้เลยก็ว่าได้ชาวบ้านหลายคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษปากคมเช่นสามคนนั้นจะสามารถแต่งภรรยาจากเมืองหลวงกลับมาได้ อีกทั้งเหล่าภรรยายังเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่มาพร้อมกับสินเดิมมากมายและเช้าวันนี้หลังจากที่ส่งสามีออกไปทำงานแล้วเหล่าสะใภ้ทั้งสามก็นัดแนะกันเข้าป่าล่าสัตว์หาของป่าดังเช่นชาวบ้านทั่วไป ทั้งสามคนคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่แต่งงานมาอยู่หมู่บ้านหนานซานแห่งนี้“ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่สะใภ้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ป่านี้เสวี่ยเหลียนกับซินเหมยคงมารอแล้ว” ม่อจื่อ“จื่อเอ๋อร์ระวังตัวด้วยนะ อย่าเข้าป่าลึกมากนัก บ้านเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใดอย่าทำอะไรให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าใจหรือไม่” แม่สามีบอกลูกสะใภ้ชาวเมืองอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ผิงม่อจื่อหลังจากบอกลาแม่สามีแล้วก็มุ่งหน้ามาที่จุดนัดหมายที่มีสหายสองคนรออยู่ที่ทางขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน เส้นทางนี้ชาวบ้านในหมู่บ้า

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 110 ของฝากจากเมืองหลวง

    หลังจากผ่านพ้นการแต่งงานแบบที่แปลกประหลาดไปแล้ว สี่หนุ่มแห่งหมู่บ้านต้าลี่ต่างได้ภรรยากลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนอกเหนือจากของฝากที่พวกเขาซื้อเอาไว้มากมายเพราะทั้งสี่คนแต่งงานแล้วและภรรยายังตามสามีกลับไปด้วย ขากลับทำให้มีขบวนรถม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เว่ยจื้อโหยวเองถึงแม้จะดีใจที่เจ้าพวกลิงทโมนทั้งสี่ในที่สุดก็รู้จักแต่งภรรยามีครอบครัวเสียทีจะได้ไม่ต้องรวมหัวกันไปทำเรื่องอะไรพิเรน ๆ อีก แต่ดูท่าทีภรรยาของแต่ละคนแล้ว เว่ยจื้อโหยวคิดว่าคงมีเรื่องปวดหัวตามมาอีกไม่น้อย “เดินทางปลอดภัยนะ อาเซียวน้องสะใภ้” เฟยหลง“ขอบคุณขอรับพี่รอง ท่านกลับไปดูแลพี่สะใภ้กับหลานชายเถอะไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเซียว“เจ้าแฝดไม่อยู่กับลุงที่เมืองหลวงหรือ” เฟยหลงถามหลานชาย“ไม่ขอรับ ข้าจะไปช่วยท่านพ่อทำงาน เอาไว้ถึงเวลาเข้าสำนักศึกษาแล้วค่อยมาอยู่กับท่านลุงที่เมืองหลวงขอรับ แต่ต้องรอให้ท่านแม่มีน้องก่อนนะขอรับ เพราะหากพวกเราสองคนมาอยู่ที่เมืองหลวงข้ากลัวท่านแม่จะเหงา” ต้าเป่า“ได้ เช่นนั้นลุงรองจะสร้างเรือนเอาไว้ให้พวกเจ้าสองคนนะ เอาติดกับเรือนของน้องชายเลยดีหรือไม่”“ดีขอรับ ท่านลุงรักษาตัวด้วยนะขอรับ เอาไว้ต้าเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 109 เอาคืนให้ชุยต้า(2)

    เวลาผ่านไปอีกสองวันก็มีข่าวออกมาว่าชุยต้าหวังพร้อมนางจินซื่อถูกจับข้อหาร่วมมือกันทำให้อดีตภรรยาเอกถึงแก่ความตาย และยึดเอาสินเดิมภรรยาพร้อมทั้งใส่ความบุตรที่เกิดกับภรรยาเอกให้มีความผิดและส่งขายไปเป็นทาสหลวงหลังจากเจ้าหน้าที่ทางการสอบสวนแล้วนางจินซื่อสารภาพว่าเป็นคนวางยาอดีตภรรยาเอกเพื่อต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทน ส่วนชุยต้าหวังมีความผิดฐานยึดเอาสินเดิมภรรยาและขายลูกชายทั้งสี่ไปเป็นทาส ด้วยเหตุนี้นางจินซื่อมีโทษประหารข้อหาฆ่าคนตาย ชุยต้าหวังมีโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกชายอย่างชุยตงหลางนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่บิดามารดาได้กระทำลงไปจึงไม่มีความผิด ลูกสาวอย่างชุยรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือกับมารดาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันทางการได้คืนสินเดิมของมารดาชุยต้าทั้งหมดให้กับพวกเขาสี่พี่น้อง ชุยต้าเองย่อมรู้ว่าเป็นฝีมือของฮูหยิน แต่พวกเขาไม่ยินดีที่จะอยู่เมืองหลวงอีกต่อไป เพราะต่างก็ตั้งใจลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านต้าลี่แล้ว ชุยต้ากลับไปคงต้องคุยกับพี่น้องของตัวเองเรื่องสินเดิมมารดาที่เหลือไม่มากแล้วเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชุยต้าหวังและนางจินซื่

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 108 เอาคืนให้ชุยต้า (1)

    หย่งซีและชุยต้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพพร้อมกับที่เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากวังหลวงเช่นเดียวกัน หย่งซีใบหน้าบูดบึ้งเดินกระแทกเท้าตึง ๆ เข้าไปหาพี่สาวเพื่อบอกกับนางว่าเขาและชุยต้าถูกคนรังแกอย่างไรบ้าง“เป็นอะไรเสี่ยวซีทำไมหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น ใครทำอะไรให้โมโหมาหรือ” เว่ยจื้อโหยวถามน้องชาย“ก็วันนี้ข้าไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองมาแล้วไปเจอยายป้าปากแดงอยู่ ๆ ก็เข้ามาด่าว่าพี่ชายชุยต้ากับข้า แถมยังบอกว่าพี่ชายชุยต้าเป็นอดีตพี่ชายของนาง เท่านั้นยังไม่พอนางยังด่าว่าเป็นทาสด้วย เป็นทาสอะไรกันไม่ได้เป็นทาสเสียหน่อย”“ใครกันน่ะ เหตุใดถึงได้กล้าด่าคนอื่นกลางตลาดขนาดนั้น ไม่กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีแล้วไม่มีใครมาสู่ขอหรือ แถมเป็นสตรีด้วย”“ข้าไม่รู้หรอกพี่ใหญ่ รู้แค่ว่านางไม่สวย ทาหน้าขาวโพลนแถมยังปากแดงอีกด้วย ใครจะไปสนใจกันว่านางเป็นใคร ไม่ได้รู้จักแต่เข้ามาด่า นางบอกว่าพี่ชุยต้าเป็นอดีตพี่ชาย”“สรุปที่เจ้าโมโหขนาดนี้ แม่นางผู้นั้นด่าเจ้าหรือด่าชุยต้า” “ด่าข้าด้วย ด่าพี่ชายชุยต้าด้วย นางด่าข้าว่าไอ้เด็กเหลือขอ พ่อแม่ไม่สั่งสอน” หย่งซีหน้างอตอบพี่สาว“ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะไปถามชุยต้าเดี๋ยวพี่สาวจะจัดก

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 107 ไม่ยอมก็ต้องยอม

    หลังจากที่ราชครูเถียนได้ตัดสินใจออกไปแบบนั้นแล้ว เขาไม่เสียใจที่ต้องทำเช่นนี้ หาไม่แล้วตระกูลเถียนคงได้ล่มสลายเพราะสตรีสมองหมูสองคนนี้เป็นแน่ เถียนเสี่ยวมี่ไม่ยินยอมจึงได้โวยวายว่าบิดาไม่ยุติธรรม“ท่านพ่อ ท่านจะมาทำแบบนี้กับข้าและท่านแม่ไม่ได้ เหตุใดเราสองแม่ลูกจะต้องไปอยู่ที่หมู่บ้านบรรพบุรุษด้วยเจ้าคะ การที่ลูกรักพี่จิ้งลูกผิดหรือเจ้าคะ”“ผิด เพราะหยวนจิ้งไม่ได้มีไมตรีต่อเจ้า การที่เจ้าไปวิ่งตามหยวนจิ้งแบบนั้นนอกจากจะด้อยค่าตัวเองแล้วยังทำลายเกียรติของตระกูลเถียนด้วย เจ้าไม่รู้สึกอับอายผู้คนบ้างหรือ”“ท่านพี่ ให้โอกาสเราแม่ลูกสักครั้งได้หรือไม่เจ้าคะ ต่อไปข้าจะดูแลมี่มี่ให้ดี จะไม่ให้ออกไปก่อเรื่องได้อีก”“ข้าตัดสินใจแล้ว การกระทำของเสี่ยวมี่ที่ผ่านมามันบ่งบอกได้ถึงว่านางไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี ตัวข้าเป็นขุนนางตำแหน่งราชครู แม้แต่ลูกสาวของตัวเองยังสั่งสอนไม่ได้แล้วข้าจะมีหน้าไปสั่งสอนผู้อื่นได้เช่นไร พวกเจ้าสองแม่ลูกอย่าลืมว่ายังมีลูกชายทั้งสองคนที่เป็นขุนนางอนาคตไกล อย่าให้การกระทำสิ้นคิดของเจ้ามาทำลายตระกูลเถียนและหน้าที่การงานของทุกคน นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าให้ได้ปรับปรุงตัวเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 106 จวนราชครูสั่นสะเทือน

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้หยวนจิ้งอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก หลังจากส่งหลาน ๆ กลับจวนแม่ทัพแล้ว ตัวเขาเองก็มุ่งหน้ากลับจวนกั๋วกงทันทีหยวนจิ้งกลับมาถึงก็ตรงไปที่เรือนของฮูหยินทันที เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เขาไม่อาจใจเย็นได้อีก ก่อนจะจัดการคนอื่นต้องจัดการคนในครอบครัวก่อน คนแรกคือท่านแม่ของเขาเอง“ท่านแม่อยู่หรือไม่”“อยู่เจ้าค่ะคุณชาย กำลังสนทนาอยู่กับฮูหยินท่านราชครูเจ้าค่ะ”“ขอบใจ มีอะไรก็ไปทำเถอะ"“เจ้าค่ะคุณชาย”หยวนจิ้งเดินหน้าดำคร่ำเครียดเข้าไปหาผู้เป็นมารดาที่ตอนนี้นั่งคุยกันอย่างออกรสอยู่กับฮูหยินจวนราชครู หยวนจิ้งเองไม่คิดจะไว้หน้าอยู่แล้ว ในใจเขาคิดว่าดีแล้วจะได้ไม่ต้องไปถึงจวนราชครู หวังว่าฮูหยินจะกลับไปสั่งสอนลูกสาวหรือตัวฮูหยินเองที่ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างและอย่าได้คิดมาเล่นแง่หาข้ออ้างอะไรอีก แม้แต่ท่านแม่ของตัวเองวันนี้หยวนจิ้งเองก็ไม่คิดจะอ่อนข้อให้“คารวะท่านแม่ขอรับ คารวะฮูหยินท่านราชครู"“อ้าว อาจิ้งทำไมกลับมาไวนักล่ะลูก ไหนว่าไปที่ตำหนักองค์ชายสามไม่ใช่หรือ” “อุ๊ย ดูพูดเข้าสิ หลานจิ้งฮูหยงฮูหยินอะไรกัน เรียกท่านป้าเถอะจ้ะ” ฮูหยินราชครู“ไม่ล่ะขอรับ ข้าไม่ส

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 105 พวกเจ้าเป็นลูกหลานบ้านไหนกัน??

    เว่ยจื้อโหยวพาลูก ๆ และสามีเดินทางรอนแรมจากหมู่บ้านต้าลี่ในที่สุดก็ถึงเมืองหลวงเสียที คนที่มารอรับพวกเขาอยู่นอกประตูเมืองคือเฟยหลงกับหยวนจิ้ง เด็กน้อยทั้งสี่ต่างขดตัวนอนหลับอยู่ภายในรถม้ากับพี่เลี้ยงสี่ขาทั้งสี่เฟยหลงพาน้องชายนอกสายเลือดที่เขารักไม่ต่างจากคนสายเลือดเดียวกันเข้าไปพักที่จวนแม่ทัพ ก่อนหน้านั้นหลายปีจวนแม่ทัพแห่งนี้มีอวิ๋นซวนกับหย่งคังและหย่งหมิงพักอยู่ ถึงแม้ตอนนี้จะมีเพียงหย่งหมิงกับอวิ๋นซวนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นี่เพื่อศึกษาเล่าเรียนในสถานศึกษาหลวง“ถึงแล้ว ที่นี่ล่ะ ตอนนี้อาซวนกับอาหมิงคงยังไม่กลับจากสถานศึกษา” หยวนจิ้ง“พาหลาน ๆ ไปนอนในห้องหับเสียก่อน เดินทางมาไกล ต้าเป่ากับน้อง ๆ คงเหนื่อยแย่” เฟยหลง “ขอรับพี่ใหญ่ พี่รอง” อวิ๋นเซียว"เอาล่ะ ซ้ายมือเป็นเรือนของอาเหิงกับครอบครัว ส่วนอาเซียวอยู่เรือนหน้าก็แล้วกัน เรือนด้านขวานั้นอาหมิงกับอาซวนพักอยู่ก่อนแล้ว ส่วนพวกเจ้าที่เหลือไปพักอยู่ที่เรือนหลังก็แล้วกัน" เฟยหลงแจกแจงที่พักหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายเข้าเรือนพักเรียบร้อยแล้ว รถม้าทั้ง 10 คันก็เขาไปจอดเรียบร้อยที่พื้นที่ด้านหลังของจวน ม้าเองก็ต้องการพักผ่อนเช่นเดียวก

DMCA.com Protection Status