Home / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 260 เสพสุขกับหญิงงามสองนาง

Share

บทที่ 260 เสพสุขกับหญิงงามสองนาง

Author: โม่เชียนซาง
ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่อาจควบคุมตัวเองไม่ให้ขุดคุ้ยความลับในตัวนางได้

แต่เขาก็ไม่อยากให้ตัวเองจมดิ่งลงไปมากเกินไป

ช่างสับสนยิ่งนัก

ในขณะที่ซ่างกวนซีกำลังเหม่อลอย ก็มีร่างสองร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นที่หน้าประตูจวนผิงอี้โหว

“ฝ่าบาท ท่านดูสิ! นั่นอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น!” เยี่ยนเว่ยฉือเตือนซ่างกวนซี

ซ่างกวนซีมองตามสายตาของนาง ก็เห็นอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นกับพั่วจวินจริงๆ

เพิ่งจะยื่นหนังสือราชการไป บอกว่าจะเข้าเมืองในอีกเจ็ดวัน อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?

เห็นอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นพาพั่วจวินเข้าไปในจวนผิงอี้โหว

ซ่างกวนซีพูดว่า “พวกเราก็เข้าไปดูเถอะ”

ทุกคนไม่มีข้อโต้แย้ง

ในเวลาเดียวกัน ทหารองครักษ์ของจวนองค์ชายรองยังคงต่อสู้กับสุนัขป่าที่ดาหน้าเข้ามาไม่หยุด

ซ่างกวนหลีเองก็ถือกระบี่ ยืนอยู่ที่ประตู ทำท่าทางเหมือนองครักษ์ปกป้องหญิงงาม

อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นยืนมองซ่างกวนหลีตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วจึงยิ้ม “หน้าตาใช้ได้!”

พั่วจวินไม่พูดอะไร เพียงแต่มองสุนัขป่ารอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง กลัวว่าองค์หญิงของพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ

อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นตะโกนใส่ซ่างกวนหลี “องค์ชาย ท่านไล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 261 งามพิศ กับ งามเสน่หา

    ไหนเล่าเอวหนาเท่าถังน้ำกลับเป็นเอวบางร่างน้อย งามพิศชวนมองซ่างกวนหลีมองหญิงสาวตรงหน้าที่มีกลิ่นอายของชนเผ่าอื่นแล้ว อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “องค์หญิงล้อเล่นแล้ว เพียงแต่...เหตุใดพวกท่านจึงมาอยู่ที่นี่?”คณะทูตจากต่างแดน พวกเขาควรจะส่งคนออกไปต้อนรับนอกเมือง ไหนเลยจะมีเหตุผลให้พวกเขาเข้าเมืองมาเองได้ไม่ให้เกียรติกันเลยอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเอียงศีรษะยิ้ม “ฝ่าบาทอยากรู้ว่าเหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่ หรืออยากรู้ว่าหญิงงามในจวนผู้นั้นปลอดภัยดีหรือไม่?”“เอ่อ นี่...”ซ่างกวนหลีพูดไม่ออก เพราะคำพูดของอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการให้เขาเลือกระหว่างหญิงงามสองนางเห็นซ่างกวนหลีตอบไม่ได้ ซ่างกวนเจวี๋ยที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงพูดแก้ต่าง “ที่นี่วุ่นวายมาก ยังมีซากหมาป่าอีกมากมายด้วย เสด็จพี่ พวกเราไปพูดคุยกันที่อื่นดีกว่า”ซ่างกวนหลีพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ ๆ ๆ ถูกต้อง ๆ ๆ องค์หญิงเสด็จมาจากแดนไกล ข้าควรจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ เช่นนั้นก็...”“ไม่จำเป็น” อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นขัดจังหวะซ่างกวนหลี “หากฝ่าบาทอยากร่วมโต๊ะกับข้า ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมาก พวกเราไปกันเถอะ!”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นส่งสายตาที่คลุมเครือ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 262 ซ่างกวนหลีต้องการแต่งงานกับผู้ใด

    เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือ เร่งฝีเท้า เดินนำหน้าคนทั้งสามซ่างกวนซีเห็นท่าทางกระโดดโลดเต้นเหมือนกระต่ายน้อยของนาง ก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างจนปัญญาฉินเซียงหรูที่ยืนอยู่ข้างๆ สังเกตปฏิกิริยาระหว่างสามีภรรยาคู่นี้โดยไม่แสดงสีหน้าใดๆเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ้มมุมปาก คิดในใจว่า ‘คนหนึ่งภายนอกดูอบอุ่น ภายในเย็นชา ไม่ใคร่สนใจสิ่งใด อีกคนภายนอกดูเย็นชา ภายในอบอุ่น จิตใจจมดิ่งลงไปนานแล้ว องค์รัชทายาทผู้มีสง่าราศีท่านนี้ สุดท้ายก็คงจะสู้แม่นางเยี่ยนผู้มีอารมณ์ขันไม่ได้!’…… จวนองค์รัชทายาทหลังจากที่ทุกคนกลับถึงจวนองค์รัชทายาทแล้ว ต่างก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะปฏิกิริยาของซ่างกวนหลีเมื่อครู่ทุกคนต่างก็กำลังคิดว่า ซ่างกวนหลีผู้นั้นต้องการแต่งงานกับผู้ใดกันแน่อวี๋เฟยเหยียนเกาหัวด้วยความสับสน “ซ่างกวนหลีดูเจ้าซู้ พวกเจ้าว่า เขาต้องการแต่งงานกับผู้ใด?”ฉินเซียงหรูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วยิ้ม ไม่พูดอะไรซ่างกวนซีเอามือเคาะพนักวางแขนของเก้าอี้เบาๆ ไม่ได้ตอบกลับเช่นกันมีเพียงเยี่ยนเว่ยฉือที่ขมวดคิ้ว ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดถึงคำถามของอวี๋เฟยเหยียนอย่างจริงจังอวี๋เฟยเหยียนรอคำตอบอยู่นานก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 263 ใครเล่าจะเฉลียวฉลาดกว่าซ่างกวนซี

    เยี่ยนเว่ยฉือวางจานในมือลง แล้วจึงหยิบขนมตรงหน้าอวี๋เฟยเหยียนกับฉินเซียงหรูขึ้นมาทีละชิ้นด้วยมือซ้ายและขวา จากนั้นก็สลับตำแหน่ง “ง่ายมาก ซ่างกวนหลีอยากทำเช่นไร เราก็ทำตรงกันข้าม!”ฉินเซียงหรูพูดต่อ “เจ้าหมายความว่า ให้ซ่างกวนหลีแต่งงานกับอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น ให้ซ่างกวนเจวี๋ยแต่งงานกับเยี่ยนชิงชู?”แปะ!เยี่ยนเว่ยฉือดีดนิ้ว “ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น หากซ่างกวนเจวี๋ยแต่งงานกับเยี่ยนชิงชู ก็จะได้รับการสนับสนุนจากจวนผิงอี้โหวและจวนอ๋องจ่างซิ่น ในราชสำนัก เขาก็จะมีอำนาจต่อกรกับซ่างกวนหลีได้ ซ่างกวนเจวี๋ยผู้นี้ ตอนที่ไม่มีอำนาจก็ยังคงสงบเสงี่ยม หากมีอำนาจขึ้นมาคงจะไม่อยู่นิ่งเฉยเป็นแน่! ฝ่าบาท ท่านว่ามีเรื่องใดที่น่ายินดีไปกว่าการนั่งดูพวกเขาแว้งกัดกันเองเล่า?”เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีด้วยรอยยิ้มซ่างกวนซีเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยปากชม เพียงแต่พูดว่า “ตามใจเจ้า!”อวี๋เฟยเหยียนมองด้วยความอิจฉา คิดในใจว่า “มีพี่สะใภ้อยู่ ต่อไปหากศิษย์พี่จะจัดการกับซ่างกวนหลีก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเองแล้ว”ฉินเซียงหรูมองด้วยสายตาเหมือนกำลังดูละคร ตะโกนในใจว่า “คนฉลาดใช้สมอง คนโง่ใช้กำลัง ใครเล่าจะเฉลียวฉลาดกว่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 264 เพียงแก้มแดงระเรื่อก็เกินถ้อยคำนับพัน

    “มรดกตกทอดของสำนัก? หมายความว่าสำคัญเทียบเท่าตราหยกของท่านเลยหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ พลางมองซ่างกวนซีซ่างกวนซีถอนหายใจเบา ๆ พลางส่ายหน้า “อย่าพูดเช่นนั้น ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้”เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปากเล็กน้อย นึกว่าซ่างกวนซีบางครั้งก็ระมัดระวังตัวเกินไปในห้องนี้มีเพียงพวกเขาสองคน จะพูดอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ?เยี่ยนเว่ยฉือมองกำไลงามบนข้อมือ แล้วเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นมรดกตกทอดของสำนักท่าน เหตุใดจึงมอบให้ข้า? หรือท่านจะรับข้าเป็นศิษย์?”ซ่างกวนซีถึงกับหมดคำพูดกับความคิดของเยี่ยนเว่ยฉือเขาใช้มือแตะหน้าผากนางเบา ๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “สิ่งนี้เมื่อนำติดตัวไว้ ฤดูร้อนก็ช่วยป้องกันแมลง ฤดูหนาวก็ช่วยให้รู้สึกอบอุ่น หากเจ้าไม่สบาย สีของมันก็จะเข้มขึ้น เป็นการเตือนเจ้าให้พักผ่อน เราเป็นสามีภรรยากัน เจ้าพกติดตัวไว้ก็เหมือนกับมีข้าอยู่ใกล้ตัวไม่ห่าง ไม่ต่างกัน”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตาโพลง มองซ่างกวนซีด้วยความประหลาดใจน้ำเสียงของเขาสงบเยือกเย็น แต่เหตุใดจึงฟังดูอบอุ่นเช่นนี้?‘เราเป็นสามีภรรยากัน’ นี่เขากำลังสารภาพรักอยู่หรือ?ซ่างกวนซีเห็นเยี่ยนเว่ยฉือมองเขาตาค้

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 265 ต้อนรับคณะทูตจากเป่ยอิ้น

    ประตูเมืองฝั่งเหนือตามธรรมเนียมแล้ว คณะทูตจากต่างแดนต้องมีผู้ที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งเป็นผู้ออกไปต้อนรับ นำทหารหกสิบหกนายไปรอรับนอกเมืองถนนสายหลักในเมืองต้องสะอาดตา ราษฎรล้วนหลีกทางให้เนื่องจากวันนี้มีองค์หญิงจากเป่ยอิ้นเสด็จมา นางเป็นสตรีดังนั้นจึงต้องมีสตรีผู้สูงศักดิ์ไปต้อนรับด้วยฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้องค์รัชทายาทซ่างกวนซีเป็นผู้ไปต้อนรับ ดังนั้นสตรีที่ไปด้วยย่อมต้องเป็นพระชายาของซ่างกวนซี เยี่ยนเว่ยฉือหลังจากที่ทั้งสองแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงประตูเมืองก่อนสิ่งที่ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือประหลาดใจคือ หลังจากที่ทั้งสองยืนรอ ก็เห็นม้าหลายตัววิ่งมาจากที่ไกลๆทุกคนมองตามเสียงไป ก็พบว่าเป็นองค์ชายรองซ่างกวนหลีพร้อมด้วยองค์ชายสี่ซ่างกวนเจวี๋ย และทหารองครักษ์ของพวกเขาอวี๋เฟยเหยียนถามอย่างสงสัย “ศิษย์พี่ เหตุใดพวกเขาจึงมาด้วยเล่า?”เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะเยาะก่อนที่ซ่างกวนซีจะตอบ “ก็มาหาหญิงงามอย่างไรเล่า ซ่างกวนหลีผู้นี้ช่างโลภมาก อยากได้ทั้งของในหม้อและในชาม”ซ่างกวนซีมองศิษย์น้องทั้งสองคนของเขา ครุ่นคิดแล้วจึงส่ายหน้า “ไม่ง่ายดายเพียงนั้นหรอก”“หืม? แล้วฝ่าบาทคิดว่าเป็นเช่นไร?”

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 266 ผู้มาเยือนไม่มีเจตนาดี

    ซ่างกวนหลีตระหนักดีว่า ในอดีตสมัยที่อันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นต่างปรารถนาจะยกน้องสาวของตนให้อภิเษกสมรสกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันน้องสาวของอันกั๋วกงเชื่อฟังคำสั่งของพี่ชาย จึงได้ขึ้นมาเป็นฮองเฮาในปัจจุบัน ซึ่งก็คือพระมารดาของซ่างกวนหลีทว่าน้องสาวของอ๋องจ่างซิ่นชื่อท่านหญิงหมิงหยาง กลับร้องไห้โวยวายจะผูกคอตาย หากไม่ได้แต่งงานกับเยี่ยนหานซานเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซ่างกวนหลีก็ยิ้มแย้มด้วยความรู้สึกขอบคุณท่านหญิงหมิงหยางที่โปรดปรานบุรุษรูปงามมากกว่า ไม่เช่นนั้น หากท่านหญิงหมิงหยางมีโอรสขึ้นมา อ๋องจ่างซิ่นคงไม่ช่วยเหลือเขาเป็นแน่เมื่อคิดได้ดังนี้ ซ่างกวนหลีก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าตนนั้นโชคดีนักขณะที่องค์ชายทั้งสองกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่นั้น องค์ชายสามแห่งแคว้นเป่ยอิ้น อวี้ฉืออวิ๋นจ้าว และองค์หญิงห้าแห่งแคว้นเป่ยอิ้น อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นก็มาถึงแล้วทั้งสองไม่ได้นั่งรถม้า แต่ขี่ม้ามาอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวลงจากหลังม้า เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าซ่างกวนซี แล้วกล่าวว่า "ข้า อวี้ฉืออวิ๋นจ้าว องค์ชายสามแห่งแคว้นเป่ยอิ้น คารวะองค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าหลี่"ซ่างกวนซีตอบอย่างสุภาพ "องค์ชายสามไม่ต้องม

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 267 จูงม้าข้ามประตูเมือง

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นถาม "พระชายาองค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่?"เยี่ยนเว่ยฉือยังคงยิ้มแย้ม "องค์หญิงคงจะไม่ทราบ คนเรากินข้าวเป็นอาหาร ย่อมต้องมีบ้างที่เจ็บป่วย คำโบราณกล่าวไว้ว่า 'โรคเล็กน้อยไม่ขาด โรคร้ายแรงไม่เกิด' คนเราย่อมมีโรคภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รักษาไม่หาย ต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต เช่น โรคเท้า โรคผมร่วง หรือโรคน้ำตาไหลเมื่อโดนลม โรคเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการดำรงชีวิตหรืออายุขัย"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นมองเยี่ยนเว่ยฉือแล้วยิ้มเย็น "ตามที่เจ้าว่า พิษในกายขององค์รัชทายาทจะรักษาหรือไม่รักษา ก็ไม่เป็นปัญหางั้นสิ? เช่นนั้น ยาถอนพิษชั้นดีที่ข้านำมาก็ไร้ประโยชน์น่ะหรือ?"เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม "องค์หญิงตรัสเช่นนี้ได้อย่างไร ยาดี ๆ ย่อมมีประโยชน์ หากองค์รัชทายาทไม่ได้ใช้ ก็มอบให้ผู้อื่นที่ต้องการได้ แคว้นต้าหลี่ของเรากว้างใหญ่ไพศาล ประชากรมากมาย ย่อมมีผู้ที่ต้องการรับความหวังดีจากฝ่าบาทแคว้นท่าน ส่วนความหวังดีนี้ จวนรัชทายาทของพวกเราขอรับไว้เพียงในใจ ไม่อาจแย่งชิงยารักษาโรคของผู้อื่นเพื่อสนองความต้องการของตนเอง องค์หญิงคิดเช่นนั้นหรือไม่?"อวี้ฉืออว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 268 ใครจะจูงม้ากันแน่

    สิ้นคำ องค์ชายและองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยอิ้น รวมถึงขุนนางและองครักษ์แห่งแคว้นต้าหลี่ ต่างก็หันไปมองม้าที่อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นนั่งอยู่ม้าตัวนี้มีขนสีขาวปลอดทั้งตัว มีเพียงแค่กีบเท้าทั้งสี่ที่เป็นสีดำสนิท ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีฟ้าซ่างกวนหลีผู้ยืนอยู่ด้านข้างร้องด้วยความประหลาดใจ "นี่คือ... ม้าอ้าวเสวี่ยชั้นดีของแคว้นเป่ยอิ้นนี่?"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเผยรอยยิ้มหวานละไมให้กับซ่างกวนหลี "องค์ชายรองช่างรอบรู้ ม้าอ้าวเสวี่ยมีเพียงแค่ในแคว้นเป่ยอิ้นเท่านั้น ม้าตัวนี้หนึ่งวันสามารถเดินทางได้พันลี้ เมื่อวิ่งอยู่บนหิมะก็ยิ่งราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากแล่ง เร็วที่สุดในใต้หล้า"ผู้ใดที่ฝึกฝนวรยุทธ์ ย่อมหลงใหลในอาชาซ่างกวนหลีและซ่างกวนเจวี๋ยต่างก็ถูกดึงดูดด้วยม้าตัวนี้ซ่างกวนเจวี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ยินมาว่าม้าอ้าวเสวี่ยนี้ แม้แต่ในแคว้นเป่ยอิ้นก็หาได้ยากยิ่ง ต้องคัดเลือกจากม้าป่าหลายพันตัวจึงจะพบเจอสักตัว ทั้งยังฝึกยากอีกด้วย เห็นองค์หญิงประทับม้าอ้าวเสวี่ยได้เช่นนี้ คงจะมีฝีมือในการขี่ม้ายิงธนูเป็นเลิศ"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นยิ้มอย่างภาคภูไม่ใจ "องค์ชายสี่ชมเกินไปแล้ว ข้าเพียงมีวาสนาต่อม้าตัวนี้เท่านั้น แต่ถึง

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status