Home / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 266 ผู้มาเยือนไม่มีเจตนาดี

Share

บทที่ 266 ผู้มาเยือนไม่มีเจตนาดี

Author: โม่เชียนซาง
ซ่างกวนหลีตระหนักดีว่า ในอดีตสมัยที่อันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นต่างปรารถนาจะยกน้องสาวของตนให้อภิเษกสมรสกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

น้องสาวของอันกั๋วกงเชื่อฟังคำสั่งของพี่ชาย จึงได้ขึ้นมาเป็นฮองเฮาในปัจจุบัน ซึ่งก็คือพระมารดาของซ่างกวนหลี

ทว่าน้องสาวของอ๋องจ่างซิ่นชื่อท่านหญิงหมิงหยาง กลับร้องไห้โวยวายจะผูกคอตาย หากไม่ได้แต่งงานกับเยี่ยนหานซาน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซ่างกวนหลีก็ยิ้มแย้มด้วยความรู้สึกขอบคุณท่านหญิงหมิงหยางที่โปรดปรานบุรุษรูปงามมากกว่า ไม่เช่นนั้น หากท่านหญิงหมิงหยางมีโอรสขึ้นมา อ๋องจ่างซิ่นคงไม่ช่วยเหลือเขาเป็นแน่

เมื่อคิดได้ดังนี้ ซ่างกวนหลีก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าตนนั้นโชคดีนัก

ขณะที่องค์ชายทั้งสองกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่นั้น องค์ชายสามแห่งแคว้นเป่ยอิ้น อวี้ฉืออวิ๋นจ้าว และองค์หญิงห้าแห่งแคว้นเป่ยอิ้น อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นก็มาถึงแล้ว

ทั้งสองไม่ได้นั่งรถม้า แต่ขี่ม้ามา

อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวลงจากหลังม้า เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าซ่างกวนซี แล้วกล่าวว่า "ข้า อวี้ฉืออวิ๋นจ้าว องค์ชายสามแห่งแคว้นเป่ยอิ้น คารวะองค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าหลี่"

ซ่างกวนซีตอบอย่างสุภาพ "องค์ชายสามไม่ต้องม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 267 จูงม้าข้ามประตูเมือง

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นถาม "พระชายาองค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่?"เยี่ยนเว่ยฉือยังคงยิ้มแย้ม "องค์หญิงคงจะไม่ทราบ คนเรากินข้าวเป็นอาหาร ย่อมต้องมีบ้างที่เจ็บป่วย คำโบราณกล่าวไว้ว่า 'โรคเล็กน้อยไม่ขาด โรคร้ายแรงไม่เกิด' คนเราย่อมมีโรคภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รักษาไม่หาย ต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต เช่น โรคเท้า โรคผมร่วง หรือโรคน้ำตาไหลเมื่อโดนลม โรคเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการดำรงชีวิตหรืออายุขัย"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นมองเยี่ยนเว่ยฉือแล้วยิ้มเย็น "ตามที่เจ้าว่า พิษในกายขององค์รัชทายาทจะรักษาหรือไม่รักษา ก็ไม่เป็นปัญหางั้นสิ? เช่นนั้น ยาถอนพิษชั้นดีที่ข้านำมาก็ไร้ประโยชน์น่ะหรือ?"เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม "องค์หญิงตรัสเช่นนี้ได้อย่างไร ยาดี ๆ ย่อมมีประโยชน์ หากองค์รัชทายาทไม่ได้ใช้ ก็มอบให้ผู้อื่นที่ต้องการได้ แคว้นต้าหลี่ของเรากว้างใหญ่ไพศาล ประชากรมากมาย ย่อมมีผู้ที่ต้องการรับความหวังดีจากฝ่าบาทแคว้นท่าน ส่วนความหวังดีนี้ จวนรัชทายาทของพวกเราขอรับไว้เพียงในใจ ไม่อาจแย่งชิงยารักษาโรคของผู้อื่นเพื่อสนองความต้องการของตนเอง องค์หญิงคิดเช่นนั้นหรือไม่?"อวี้ฉืออว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 268 ใครจะจูงม้ากันแน่

    สิ้นคำ องค์ชายและองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยอิ้น รวมถึงขุนนางและองครักษ์แห่งแคว้นต้าหลี่ ต่างก็หันไปมองม้าที่อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นนั่งอยู่ม้าตัวนี้มีขนสีขาวปลอดทั้งตัว มีเพียงแค่กีบเท้าทั้งสี่ที่เป็นสีดำสนิท ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีฟ้าซ่างกวนหลีผู้ยืนอยู่ด้านข้างร้องด้วยความประหลาดใจ "นี่คือ... ม้าอ้าวเสวี่ยชั้นดีของแคว้นเป่ยอิ้นนี่?"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเผยรอยยิ้มหวานละไมให้กับซ่างกวนหลี "องค์ชายรองช่างรอบรู้ ม้าอ้าวเสวี่ยมีเพียงแค่ในแคว้นเป่ยอิ้นเท่านั้น ม้าตัวนี้หนึ่งวันสามารถเดินทางได้พันลี้ เมื่อวิ่งอยู่บนหิมะก็ยิ่งราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากแล่ง เร็วที่สุดในใต้หล้า"ผู้ใดที่ฝึกฝนวรยุทธ์ ย่อมหลงใหลในอาชาซ่างกวนหลีและซ่างกวนเจวี๋ยต่างก็ถูกดึงดูดด้วยม้าตัวนี้ซ่างกวนเจวี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ยินมาว่าม้าอ้าวเสวี่ยนี้ แม้แต่ในแคว้นเป่ยอิ้นก็หาได้ยากยิ่ง ต้องคัดเลือกจากม้าป่าหลายพันตัวจึงจะพบเจอสักตัว ทั้งยังฝึกยากอีกด้วย เห็นองค์หญิงประทับม้าอ้าวเสวี่ยได้เช่นนี้ คงจะมีฝีมือในการขี่ม้ายิงธนูเป็นเลิศ"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นยิ้มอย่างภาคภูไม่ใจ "องค์ชายสี่ชมเกินไปแล้ว ข้าเพียงมีวาสนาต่อม้าตัวนี้เท่านั้น แต่ถึง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 269 ม้ารู้ภาษากว่าคนเสียอีก

    "เอาแต่ใจ?" เยี่ยนเว่ยฉือชี้นิ้วไปที่ม้าตัวนั้น พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก "ข้าจะเอาแต่ใจยิ่งกว่ามันได้อย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวพลางเดินไปที่ม้าของซ่างกวนหลี ลูบหัวม้าเบาๆ แล้วพูดต่อ "ม้าแคว้นต้าหลี่ของพวกเรา แม้จะไม่มีชื่อเสียงพอให้โอ้อวด แต่ทุกตัวล้วนเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย องค์ชายรองเห็นด้วยหรือไม่? ไม่เหมือนม้าของแคว้นเป่ยอิ้น หากไม่มีคนจูงก็ไม่ยอมเดิน"ซ่างกวนหลีเม้มปาก ไม่ตอบโต้เยี่ยนเว่ยฉือเยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ใส่ใจ แต่หันไปมองอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น แล้วพูดต่อ "เอ๊ะ? เมื่อครู่ข้าได้ยินองค์หญิงตรัสว่าม้าอ้าวเสวี่ยวิ่งในหิมะราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากแล่ง แปลกจริง หรือว่าเวลาออกรบ ก็ต้องมีคนที่วิ่งเร็วราวกับลูกธนูมาจูงมันวิ่ง? หากแคว้นเป่ยอิ้นมีบุคคลที่เก่งกาจเช่นนั้น องค์หญิงจะนั่งบนหลังม้าไปทำไมกัน? นั่งบนหัวคนผู้นั้นไม่ดีกว่าหรือ?""ใช่แล้ว บอกว่าไม่มีคนจูงก็ไม่ยอมเดิน เช่นนั้นเวลาออกรบก็ต้องหาคนจูงหรือ?" อวี๋เฟยเหยียนพูดเสริม"เสียมารยาท!" อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวตวาด "องค์รัชทายาท พวกเรามีเจตนาดี นำม้าอ้าวเสวี่ยที่หายากมาให้ เหตุใดเพียงเพราะพระชายาเอาแต่ใจเพียงคนเดียว ถึงกับต้องปฏิเสธไมตร

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 270 โอ๊ะ พวกมันกำลังทำอะไรกัน?

    ซ่างกวนซีขึ้นนั่งบนหลังม้า แล้วยื่นมือไปยังเยี่ยนเว่ยฉือเยี่ยนเว่ยฉือวางมือบนฝ่ามือใหญ่ของเขา ซ่างกวนซีออกแรงดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้าสู่อ้อมแขน ให้นั่งบนหลังม้าเคียงข้างเขาอวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเห็นว่าซ่างกวนซีผู้มีรูปโฉมงดงามโปรดปรานพระชายาของเขายิ่งนัก ก็อดไม่ได้ที่จะริษยานางกระชับบังเหียนม้า ดูเหมือนว่าแม้ม้าอ้าวเสวี่ยจะต้องสิ้นใจอยู่หน้าประตูเมือง นางก็จะไม่ยอมให้มันก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียวอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวผู้ยืนอยู่ด้านข้างก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจซ่างกวนซียืนกรานไม่ยอมให้ใครจูงม้า เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่เข้าเมืองจริง ๆ หรือ?แล้วจะบรรลุเป้าหมายในการเดินทางมาครั้งนี้ได้อย่างไร?แต่หากยอมแพ้ในตอนนี้ เดินเข้าเมืองไปเอง ก็คงจะเสียหน้ายิ่งนักขณะที่อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวลังเล ไม่ทราบว่าจะตัดสินใจเช่นไร ซ่างกวนซีก็พาคนอื่น ๆ มุ่งหน้าเข้าเมืองไปแล้วซ่างกวนหลีและซ่างกวนเจวี๋ยสบตากัน แล้วก็ตามซ่างกวนซีเข้าเมืองไปแม้พวกเขาจะอยากเห็นซ่างกวนซีขายหน้า แต่พวกเขาก็เป็นถึงองค์ชายแห่งแคว้นต้าหลี่ ไม่อาจทำให้แคว้นเสียหน้าในการเจรจาระหว่างประเทศได้เมื่อเห็นว่าคนของแคว้นต้าหลี่เข้าเมืองไปหมดแล้ว

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 271 จงมีเมตตา จงมีพรอันประเสริฐ

    ม้าสองตัว ตัวหนึ่งสีดำ ตัวหนึ่งสีขาว ตัวหนึ่งอยู่ข้างหน้า ตัวหนึ่งอยู่ข้างหลัง ตัวหนึ่งอยู่บน ตัวหนึ่งอยู่ล่าง‘นี่... นี่มันกำลังทำอะไรกัน?’ทุกคนตื่นตระหนก ตะลึงงันเยี่ยนเว่ยฉือนั่งอยู่บนหลังม้า เอ่ยขึ้น "โอ๊ะ ฝ่าบาท ดูสิ ม้าของแคว้นเป่ยอิ๋นชอบม้าศึกของแคว้นต้าหลีาเรามากเลย! ฤดูใบไม้ผลิช่างเป็นฤดูที่เหมาะสมแก่การ... สืบพันธุ์เสียจริง!"ซ่างกวนซีก็ตะลึงงันกับภาพตรงหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือ เขาก็ได้สติ หลุบตาลงมองนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงระอา "อย่าพูดจาเหลวไหล!"ทุกคนคิดว่าซ่างกวนซีจะตำหนิเยี่ยนเว่ยฉือที่พูดจาไม่เหมาะสมแต่เขากลับกล่าวต่อว่า "ตอนนี้เดือนห้าแล้ว ฤดูใบไม้ผลิผ่านไปนานแล้ว"ทุกคนอึ้ง "...."‘นี่เป็นประเด็นสำคัญหรือ?’เยี่ยนเว่ยฉือเห็นว่าซ่างกวนซีไม่ได้ตำหนินาง จึงรีบยิ้มตอบ "ใช่ ๆ ๆ ท่านกล่าวถูกต้อง ยามนี้เป็นฤดูร้อน แต่ฤดูร้อนก็เป็นฤดูที่ดีเช่นกัน อากาศร้อน อารมณ์ยิ่งพลุ่งพล่าน ยากที่จะควบคุมเป็นเรื่องธรรมดา""ฮ่า ๆ ๆ! ฮ่า ๆ ๆ!"อวี๋เฟยเหยียนอดหัวเราะไม่ได้ "ข้าไม่เคยเห็นม้าที่หื่นกระหายเช่นนี้มาก่อน เรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีของเจ้านายยังไม่ท

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 272 ยาสำหรับคน

    ซ่างกวนซีควบม้าออกไปอย่างช้าๆ พลางถามด้วยเสียงแผ่วเบา "ม้าจะกลับเป็นปกติเมื่อไร?"เยี่ยนเว่ยฉือตอบ "นั่นเป็นยาสำหรับคน ข้ายังไม่เคยใช้กับม้า คนกินแล้วยังตื่นตัวอยู่สองสามวัน ม้าตัวใหญ่ขนาดนั้น คงใช้เวลาประมาณหนึ่งวันยาจึงจะหมดฤทธิ์!"ซ่างกวนซีนำมือที่ปิดตาเยี่ยนเว่ยฉือออก แล้วบีบต้นคอของนางเบาๆ บังคับให้นางหันมามองตนเยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงงซ่างกวนซีขมวดคิ้ว "ยาสำหรับคน? สำหรับใคร?"เยี่ยนเว่ยฉือชะงักค้างนางจะบอกได้อย่างไรว่าเตรียมไว้สำหรับเขา?ครั้งก่อน ฉินเซียงหรูใช้ตำราลับ "ห้องหอวสันตฤดู" ปลุกเร้าไฟปรารถนาในกายของซ่างกวนซีนางจึงคิดมาตลอดว่าจะใช้สิ่งใดมาปลุกเร้าไฟปรารถนาในกายของเขาได้บ้างแต่สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย นางจึงยังไม่ได้ลงมือ เป็นเพียงความคิดคร่าว ๆ เท่านั้นตอนนี้มาถูกถามเช่นนี้...เอ่อ...เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มแห้ง "ไม่... ไม่ได้ทำไว้สำหรับผู้ใดทั้งนั้น ข้าแค่อยากทำไปขายที่หอหงซิ่ว! บุรุษที่หอหงซิ่วล้วนไร้น้ำยา ของดี ๆ เช่นนี้ หากนำไปขาย ย่อมทำให้ต้นไม้แก่แตกใบใหม่ ต้นไม้เหี่ยวแห้งออกดอกผล ได้เงินทองมามากมาย!"ซ่างกวนซีเคาะศีรษะเยี่ยนเว่ย

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 273 ผู้ใดมีอำนาจที่สุด

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นกล่าวต่อ "แต่หมากแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกัน บางตัวเป็นเพียงหมากไร้ค่า แต่บางตัวสามารถกำหนดชัยชนะได้ ดังคำกล่าวที่ว่า 'วางหมากผิดตาเดียว เสียทั้งกระดาน' เสด็จพี่สามคงเข้าใจความหมายนี้ดี"อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวพยักหน้า เห็นด้วยกับน้องสาว"เช่นนั้น เจ้าจงบอกมา เหตุใดเจ้าจึงจะเปลี่ยนแผนการ? ข้าให้เจ้าแต่งงานกับองค์ชายผู้ที่มีอำนาจที่สุดในแคว้นต้าหลี่ก็เพื่อวันข้างหน้า หากข้าต้องสู้รบกับพี่รองและน้องเจ็ด ก็จะได้มีกำลังใจ มีโอกาสชนะมากขึ้น"อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นเดินไปหาอวี้ฉืออวิ๋นจ้าว ค่อย ๆ นั่งลงบนตักของเขา กอดคอเขาไว้ แล้วกล่าวต่อ "เสด็จพี่สามก็กล่าวเองมิใช่หรือว่า ผู้ที่มีอำนาจที่สุด แต่ในความคิดของข้า ซ่างกวนหลีอาจจะไม่ใช่ผู้อำนาจที่สุดก็ได้"อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวสงสัย "ซ่างกวนหลีเป็นโอรสของฝ่าบาทแคว้นต้าหลี่ที่มีมารดาเป็นถึงฮองเฮา ลุงเป็นถึงอันกั๋วกง ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ขุนนาง ในราชสำนักนี้ ใครเล่าจะมีอำนาจยิ่งกว่าเขา? แม้ว่าซ่างกวนซีจะเป็นองค์รัชทายาท แต่มารดาก็มีชาติกำเนิดต่ำต้อย และอดีตฮองเฮาก็สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เขาไม่มีอำนาจจากฝ่ายใดมาช่วยเหลือ ในราชสำนักก็ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 274 อุบายพิฆาต

    อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นมองไปยังอวี้ฉืออวิ๋นจ้าวแล้วกล่าวว่า “เสด็จพี่สามพิจารณาเถิด องค์รัชทายาทซ่างกวนซี สูญเสียอำนาจในวัยเยาว์ ไม่มีวงศ์สกุลทางมารดาค้ำจุน ในขณะนั้น เขาโดดเดี่ยวไร้ผู้ช่วยเหลือ ผู้คนมากมายต่างหมายปองบัลลังก์รัชทายาท ฝ่าบาทแห่งแคว้นต้าหลี่ เพื่อคุ้มครองพระโอรส จึงได้แพร่กระจายข่าวลวง เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ลดความระแวง และละทิ้งการลอบปลงพระชนม์ ปล่อยให้เขาดำรงอยู่ต่อไป ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลยเสียหน่อย”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวประหลาดใจยิ่งนัก จึงถามว่า “ความหมายของเจ้าคือ นี่เป็นเพียงกลอุบายของฝ่าบาทแห่งแคว้นต้าหลี่ เพื่อคุ้มครองซ่างกวนซีเท่านั้นหรือ?”อวี้ฉืออวิ๋นจิ่นพยักหน้า กล่าวว่า “ข้าก็เพียงแต่คาดคะเนเช่นนั้น”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้เห็นพ้องกับความคิดของอวี้ฉืออวิ๋นจิ่น แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว จึงกล่าวว่า “เช่นนั้นแล้ว เรามาลองทดสอบเขาดูเถิด!”“ความหมายของเสด็จพี่สามคือ ลองทดสอบดูว่าเขาถูกพิษจริงหรือไม่เช่นนั้นหรือ?”อวี้ฉืออวิ๋นจ้าวพยักหน้า กล่าวว่า “ถูกต้องแล้ว ข้ายังจำพิษกู่เย็นได้ แม้จะมีคำว่า ‘เย็น’ แต่พิษนี้กลับกลัวสิ่งที่หนาวเย็น ครั้งนี้ที่เราม

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status