บนเขาถัวซานบุรุษวัยสามสิบกว่าคนนึงนั่งรอเมิ่งหย่งชวนอยู่ ทันทีที่เห็นก็ลุกขึ้นเอ่ยทักทาย"รองแม่ทัพ เหตุใดท่านช้านักข้าเกือบจะกลับก่อนเสียแล้ว""ภรรยาข้านางนอนยากน่ะ ใต้เท้าโจวมีเรื่องอันใดหรือ""จางถูลี่ถูกปลดจากตำแหน่งทั่นฮวาแล้ว เดิมทีเขาได้ที่หนึ่งแต่เพราะเรื่องที่ท่านส่งหลักฐานการโกงข้อสอบให้กับไท่จื่อทำให้การสอบครั้งนี้เป็นโมฆะ สกุลจางกับสกุลลู่เป็นผู้คุมการสอบครั้งนี้จึงถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกว่าพวกเขาเป็นคนลักลอบนำข้อสอบออกมา อีกอย่าหัวข้อการสอบออกโดยฝ่าบาท นี่เท่ากับตบหน้าสำนักราชบัณฑิต ตบหน้าราชครูต้วนอีกด้วย""หึ พวกเขาอยากได้ตำแหน่งขุนนางเพื่อกินรวบทั้งราชสำนัก ใต้เท้าโจวอีกสามเดือนข้าจะไปชายแดนเพื่อรับตำแหน่งแม่ทัพตะวันออกต่อจากแม่ทัพหาน เรื่องนี้อย่าให้ใครในเมืองหลวงรู้โดยเฉพาะสกุลลู่ ข้าต้องการตามหาท่านพ่อของข้าก่อน""แล้วทางด้านสกุลจางเล่าท่านต้องการทำเช่นไร""เดิมทีสกุลจางไม่ใช่ศัตรูของข้า แต่เมื่อสิบเดือนก่อนจางฮั่นกลับมาข่มขู่ข้าไม่ให้เข้าสอบ เพื่อให้น้องชายตนเองได้ตำแหน่งเขาจึงเท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับข้าไปแล้ว""รองแม่ทัพ เหตุใดท่านไม่เปิดเผยไปเลย ยอมให้บ้านให
เมิ่งหย่งชวนเข้าบ้านมาปิดประตูพอดีกับที่สายฝนกระหน่ำลงมา ภรรยาเขาพูดถูกต้องเร่งซ่อมแซมบ้าน พรุ่งนี้ต้องเบิกเงินของบิดาเสียแล้ว เขาต้องล้อมรั้วอิฐให้สูงกว่านี้เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่ เขาจะแจ้งท่านปู่ใหญ่ว่าเป็นเงินจากการที่เศรษฐีจางจ้างไปสอนบุตรชายเพื่อสอบซิ่วไฉเมิ่งหย่งชวนเหนื่อยกับการวางแผนเล่นงานศัตรูแบบที่ไม่ให้พวกเขาตั้งตัวมานานปีกว่าแล้วนับแต่วันที่ท่านอาคนนั้นบอกว่าคนสุดท้ายที่บิดาไปพบน่าจะเป็นลู่หาน เขาแทบไม่ได้นอนต้องแกล้งป่วยว่าตนเข้าสอบไม่ได้ ต้องทนคำดูถูกเหยียดหยามเพื่อให้ได้แยกบ้าน ทุกอย่างทำเขาคิดหนักไปหมดน้องชายก็ถูกรังแกจนกลายเป็นเด้กหวาดระแวง แต่เพราะเสิ่นเยี่ยนฟางเมิ่งลู่เจินถึงได้หัวเราะออกมาได้ จากที่เขาเอาแต่ก้มหน้า เขาผิดเองที่เพิกเฉยน้องชายไปเพราะความประมาท แม้จะกดดันทุกอย่างแต่พอเขานอนเคียงข้างเสิ่นเยี่ยนฟางกลิ่นกายนางกลับทำให้เขาผ่อนคลายในเรื่องทุกอย่างเมิ่งหย่งชวนอยากเอานางไปกองทัพด้วยจัง แต่เขามีเรื่องต้องไปทำให้รัชทายาทอีกทั้งต้องตามหาบิดาจึงไม่สามารถเอานางไปด้วยได้ เงินสามหมื่นตำลึงที่ต้องคุ้มครองสินค้าไปเจียงหนานนั้นคงชดเชยให้นางได้ ดูเหมือนเมียจะหน้า
เสิ่นเยี่ยนฟางหุงข้าวแล้วก็ต้มน้ำอุ้นให้เมิ่งหย่งชวนกับเมิ่งลู่เจินล้างหน้า วันนี้นางหุงข้าวขาว ตุ๋นไข่ นำเนื่อหมูมาผัดกับผักดองที่ซื้อมาจากตลาดวันก่อน ให้กินผักดองบ่อยๆนางคงได้ฟอกไตแน่ๆ ต้องปลูกผักกินเองแล้วแบบนี้ เมิ่งลู่เจินตื่นแล้วเขาออกมาช่วยพี่สะใภ้ ส่วนเมิ่งหย่งชวนหลับเป็นตายยังไม่ตื่นไม่ให้ง่วงได้ยังไง เมียร้องหาแต่เขาเอาแต่ป้อนนมเข้าปากเขาทั้งคืนต้องดูดนมให้เมียทั้งคืนนี่ก็ง่วงเป็นนะ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นว่าสายมากแล้วเขายังไม่ตื่นจึงเข้าไปปลุก คนตัวโตเอาแต่งึมงำๆ"ท่านพี่ๆ สายแล้วเจ้าค่ะตื่นได้แล้ว เห้อตื่นสักทีสิโว้ยเมิ่งหย่งชวนเจ้าจะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง กลางคืนเจ้าทำอะไรไม่หลับไม่นอนห๊ะ"ในเมื่อปลุกดีๆไม่ชอบๆแบบฮาร์ดคอแม่ก็จัดให้ไอ้เด็กบ้านนี่ เสิ่นเยี่ยนฟางเขย่าจนเขามึนเหมือนกันแรงเยอะจริงๆลุกกวางน้อยตัวนี้ เมิ่งหย่งชวนที่ปรือตามามองเมียสาวก็อมยิ้ม เวลานางโมโหมันช่างน่าดูจริงๆ ก่อนจะแกล้งละเมอคว้าเอาร่างบางลงมาหาแล้วพลิกไว้ใต้ร่างหนาของตนจมูกโด่งไซ้พวงแก้มขาว ไต่ลงมายังซอกคอนก่อนจะมาถึงไหปลาร้ามือหนาปลดสาบเสื้อนางออก อยากรู้ว่าเขาลิ้นดีแค่ในฝันไหมหรือ เดี๋ยวจะให้ได้รู้
ทั้งสามคนกินข้าวเรียบร้อยแล้วเสิ่นเยี่ยนฟางก็เก็บสำรับไปล้าง เมิ่งหย่งชวนตั้งใจจะไปเอาที่ดินคืนจึงไปบ้านู่ใหญ่ก่อนเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเขาจะซ่อมบ้าน แต่พอออกมาถึงหน้าบ้านก้เจอกับสตรีนางนึงอายุไม่น่าเกินสิบหกสิบเจ็ด แต่งตัวมอมแมมถือห่อผ้าอยู่น้ำตาเกรอะกรังจึงเอ่ยถามไถ่"แม่นางเจ้ามาหาใคร ที่นี่มีแค่ข้ากับเมียหากต้องการมาหาคนต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน""พี่ชายข้ามาหาเสี่ยวฟาง พวกเขาบอกว่านางอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ"เสี่ยวฟางหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางหรือ""ใช่เจ้าค่ะ ข้าแซ่เจียงชื่อเจียงเสี่ยวฮวาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนาง ท่านช่วยเรียกน้องสาวข้าให้หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนคิดไม่ออก ไหนว่านางไม่มีพี่น้องไง อยู่กับอาหญิงของนางบิดาไปค้าขายส่งเงินมาให้อย่างเดียวก็ถูกอาหญิงนางยึดไปหมด แล้วนี่คืออะไรอยู่ๆมีญาติโผล่มาเมิ่งหย่งชวนเดินไปหาเสิ่นเยี่ยนฟางในบ้าน นางกำลังซ่อมตะกร้าอยู่เพื่อไปเก็บผักป่า เขาดุนางไม่อยากให้นางออกไปโดนลมแต่นางกลับบ่นเขาว่าให้กินแต่ผักดองพอดีนางคงขึ้นเกลือ ไตวายอะไรอีกอย่างก็ไม่รู้เขาเลยตามใจนาง"เสี่ยวฟางมีคนมาหาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องเจ้าชื่อเจียงเสี่ยวฮวา""หื้ม เจียงเสี่ยวฮวาหรื
ทั้งสามคนไปหาผักป่า เมิ่งลู่เจินเจอเข้ากับเด็กอันธพาลประจำหมู่บ้าน เด็กเหล่านั้นแย่งผักป่าในตะกร้าขอเขาแล้วผลักเมิ่งลู่เจินจนหกล้มเข่าแตก เมิ่งลู่เจินสะพายตะกร้ามาหาเสิ่นเยี่ยนฟาง ใบหน้าบวมช้ำเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นจึงตรงมาหาทันที"อาเจินใครทำเจ้าบอกพี่สะใภ้มาสิ""ไม่มีขอรับข้าหกล้มเองขอรับ""อย่าโกหกบอกพี่มาว่าใครทำ"เมิ่งลู่เจินจำต้องบอก แต่เขากลัวพี่สะใภ้จะไปเอาคืนเหมือนบ้านใหญ่แต่ว่าพ่อแม่ของหวงเฉา ไม่เหมือนท่านปู่ท่านย่าพวกเขาร้ายกาจกว่า"เป็นหวงเฉาขอรับ เขาแย่งผักป่ากับข้าๆกับเขาเลยลงมือทะเลาะกันขอรับพี่สะใภ้ แต่ว่าบิดาของเขาท่านลุงหวงเป็นคนฆ่าหมู พี่สะใภ้ปล่อยเขาไปเถอะขอรับ""หืม ไปกลับบ้านไปอาบน้ำทายาก่อน ส่วนเรื่องเอาคืนหรือไม่พี่จัดการเอง"ทั้งสามคนกลับมาที่บ้าน ยังไม่ทันถึงบ้านรั้วโย้เย้อยู่แล้วก็ถูกคนทำลายจนพัง ข้าวของในบ้านถุกรื้อค้น เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสองผัวเมียแซ่หวงขโมยข้าวของๆนางก็ยืนข่มอารมณ์พักนึงก่อนจะเดินเข้าไปจับสะใภ้หวงทุ่มลงกับพื้นทันที"โอ๊ยยย ฆ่าคนแล้วตาแก่นังแพศยายั่วยวนอาเขยตัวเองนางโสเภณีนี่ฆ่าคนแล้ว มาจัดการมันให้ข้าที""เจ้าๆๆ กล้าทำเมียข้าหรือนังแพศยา"หวงเฉิ
หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนฟางจัดการสองผัวเมียแซ่หวงเรียบร้อยแล้วก็จัดการนำผักป่ามาจัดการ ได้ผักป่ามามากมาย ชาวบ้านไม่รู้จักหลายชนิดเลยไม่มีใครมาแย่งพวกนาง เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่เคยรู้จักได้แต่ช่วยน้องสาว ก่อนจะเอ่ยถามนาง"เสี่ยวฟาง บุรุษที่ข้าเจอเมื่อเช้าคือสามีเจ้าใช่หรือไม่""อ้อเจ้าค่ะ เขาชื่อเมิ่งหย่งชวน ว่าแต่พี่หญิงคู่หมั้นของท่านเขายอมให้ทางบ้านบิดาท่านส่งท่านไปเป็นอนุผู้อื่นหรือเจ้าคะ""เฮ้อ พอท่านแม่จากไปคู่หมั้นข้าก็กลายเป็นคู่หมั้นน้องสาวลูกแม่เลี้ยงข้าทันที ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ว่าท่านพ่อแอบเลี้ยงดูนางมานานแล้ว บุตรสาวของนางก็คือบุตรสาวอีกคนของท่านพ่อ นางอายุสิบห้ากำลังน่ารักสมวัย คู่หมั้นข้าคงพึงใจมากกว่าที่ได้แต่งกับนาง"น่ารักสมวัย เฮ้อนี่นังหนูอายุขนาดพวกหล่อนนี่ยังไม่พ้นมัธยมต้นเลยนะ คงต้องหาทางให้พี่สาวคนนี้มีที่อยู่แต่จะให้อยู่ด้วยไม่ได้ มิใช่ว่านางหึงหวงแต่พี่สาวคนนี้จะถูกคนนินทาเอาได้ เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้ล้างผักป่าเรียบร้อยก็นำมาผึ่ง คว้าจอบเล็กมาถางหญ้าบริเวณบ้าน บ้านนี้มีพื้นที่หลายหมู่พอให้ปลูกผักกิน เมื่อเช้าเมิ่งหย่งชวนบอกนางว่าจะไปเอาที่ดินคืน ที่ดินของเขามีกี่หม
เมิ่งหลงไม่ได้ยินสองผัวเมียปรึกษากันแต่เขาเองก็เห็นใจเมิ่งหย่งชวนจริงๆ บ้านน้องรองช่างละโมบไม่รู้จักพอจริงๆทั้งห้าคนเดินไปที่แปลงนาฝั่งตรงข้ามบ้านของเมิ่งหย่งชวน มีหญ้าขึ้นรกทึบเพราะบ้านใหญ่ไม่ใส่ใจดูแลและทำกิน พวกเขาจ้องจะขายมันให้เศรษฐีวั่น แต่บังเอิญเมิ่งหย่งชวนกลับมาพอดีจึงไม่สามารถขายได้ ยิ่งเขามีตำแหน่งซิ่วไฉยิ่งยากขึ้นไปอีกที่ดินตรงนี้เสิ่นเยี่ยนฟางเพิ่งเดินสำรวจเมื่อเช้านี้ มีของดีอยู่ไม่น้อย แต่ชาวบ้านไม่รู้จักในพืชผักเหล่านั้น ในเมื่อเป็นที่ดินของเมิ่งหย่งชวนนางก็มีสิทธิ์ เงินจ๋ารอเจ๊ก่อนนะ ฉันอยากค้าขายหาเงินแล้วแต่ผัวมันหวงไม่ให้ออกนอกบ้านเดี๋ยวให้มันไม่อยู่ก่อนแม่จะขุดทองให้เกลี้ยงเลยฮ่าๆๆๆเมื่อสำรวจเรียบร้อยทุกคนก็พูดคุยกันเล็กน้อย จนกระทั่งเมิ่งหย่วชวนหันมาถามภรรยาก็เห็นนางยืนตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จึงเข้าไปหาพร้อมกับกระซิบถาม"เสี่ยวฟางดีในอะไรหรือบอกข้าได้ไหม""อ้อ ไม่มีอะไรแค่ดีใจที่จะมีที่ดินไว้ปลุกผักกิน เออนี่ท่านพี่ข้าอยากปรึกษาเรื่องพี่เสี่ยวฮวาสักหน่อยน่ะ นางถูกบ้านบิดาขายจะให้ไปเป็นอนุขุนนาง แต่นางหนีมาได้ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมาตามนางกลับไป มีวิธีให้นางไม่ต้องถ
สุดท้ายพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ดินแปดสิบหมู่จึงคืนกลับไปยังเมิ่งหย่งชวน ทั้งหมดกลับไปแล้วเมิ่งอี้กัดฟันแน่น มองตามเมิ่งหย่งชวนไปด้วยแววตาอาฆาตแค้น ก่อนจะเอ่ยกับท่านปู่ของตน บิดาเขาเมิ่งซานที่ตอนนี้นอรักษาหัวไหล่อยู่ เสิ่นเยี่ยนฟางมือหนักจริงๆ"ท่านปู่ รอมันไปเรียนที่เมืองหลวงก่อนเราค่อยเอาคืนจากนังเมียแก้ชงมัน""หึ มันมีเงินไปเรียนหรือแต่ไม่เคยเอามากตัญญูข้ากับบ้านใหญ่สักอีแปะ ไอ้สารเลว ช่างเหมือนบิดามันเหลือเกินหายจากบ้านไปหลายปีกลับมาแค่มีเงินซื้อที่ดินผืนเดียว"เมิ่งหลงเสร็จเรื่องก็กลับบ้านทันที ส่วนโจวหยวนไม่อยากกลับเขาอยากเห็นหน้าเจียงเสี่ยวฮวาอีกเลยหาเรื่องตามกลับมาด้วย เมื่อมาถึงบ้านเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งลู่เจินกำลังทำผักดอง เจียงเสี่ยวฮวากำลังนวดแป้งเพราะน้องสาวบอกว่าจะห่อเกี๊ยวแฮ่มๆๆ!!แค่กๆ!! อะหึ่มๆ!! เมิ่งหย่งชวนนั่งลงกระแอมไม่หยุดสักทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางเงยหน้ามามองเขาก่อนจะก้มหน้าทำงานในมือต่อ คนตัวโตงอนที่เมียไม่สนใจจึงลุกเดินเข้าห้องแสร้งไอหนักๆ จนเมิ่งลู่เจินเป็นห่วงพี่ชาย"พี่สะใภ้พี่ใหญ่คงเจออากาศเย็นเพราะไปข้างนอกมากระมังขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางวางงานในมือก่อนจะพยักห
นางทะลุมิติมาอยู่ที่นี่สี่เดือนกว่าแล้ว ทุกครั้งที่เมิ่งหย่งชวนจะเดินทางก็มีเหตุให้ชะงักมาหลายครั้ง นางอยากให้เขาเจอบิดาโดยไวนางอยากให้เด็กๆได้เกิดเป็นบุตรของนางจริง เสิ่นเยี่ยนฟางตัดสินใจจะถอนเข็มที่นางฝังไว้ออก ช่วงระยะสิบวันนี้หากมีสัมพันธ์ผัวเมียกันนางมีโอกาสตั้งครรภ์ เขาดีเพียงนี้นางอยากมีบุตรให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่เด็กในอุปถัมภ์"ท่านพี่ ข้าต้มน้ำเก็กฮวยไว้ท่านรับสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ"ขาสั้นๆดุ๊กดิ๊กของเสี่ยวเฟิงเดินที่ถือเอาน้ำมาให้บิดา ส่วนเสี่ยวฮวาถืออีกถ้วยมาให้ท่านอาที่ตามท่านพ่อมา เสี่ยวเย่าจุงมือเสี่ยวเหอถือจานขนมมา เด็กๆเอ่ยเรียกบิดาเมิ่งหย่งชวนมองภาพตรงหน้าแล้วอบอุ่นนัก หากเขามีลูกจริงๆคงดี เด็กเหล่านี้หากไม่เจอครอบครัวเขาจะเลี้ยงไว้เอง ว่าไปก็แปลก เด็กทั้งหกคนนี้ยิ่งใกล้ชิดรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนเขากับเมียแทบจะคัดลอกกันออกมา เสียงหวานๆของเสี่ยวเฟิงเรียกเขา เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้เจ้าตัวน้อย"ท่านพ่อน้ำเก็กฮวยหวานๆชื่นใจเจ้าค่ะ""ท่านอา น้ำเก็กฮวยหวานๆเจ้าค่ะ""ท่านพ่อ ขนมขอรับ"เมิ่งหย่งชวนรับขนมมาก่อนจะค่อยๆกินทีละนิด จางเหมิ่นถึงกับเอ่ยปากชม ขนมนี่อร่อยมากนัก"อาจารย์หญิงนับว่
ยามเซินเมิ่งหย่งชวนจ้างรถม้าจากในตำบลกลับมา ทันทีที่รถม้าจอดสนิทเมิ่งหย่งชวนก็ลงจากรถม้า ตามด้วยจางเหมิ่นทันทีที่เห็นพี่ชายจางลี่ก็หน้างอกันที จะมาจับผิดอะไรกันอีกมาลำมากขนาดนี้ยัง ไม่พอใจอีกหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสามีกลับมาก็แปลกใจไหนเขาบอกว่าจะไปสิบวัน"ท่านพี่ ไหนว่าไปสิบวันไงเจ้าคะ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาการป่วยของท่านกำเริบ"เสิ่นเยี่ยนฟางรีบไปดูเขาทันที มือบางอังหน้าผากกว้างเมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อน ก็จับมือหนามากุมเกรงว่าอาการป่วยกลับมาเขาจะหนาวสั่นอีก เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอดเอาไว้กดปลายคางกับเรือนผมงามก่อนจะเอ่นถามด้วยความกังวล" เสี่ยวฟาง.. ที่บ้านเกิดเรื่องอันใดหรือไม่นกเหยี่ยวของอาเจินคาบปิ่นเงินของเจ้าไปตามพี่ที่บ้านเศรษฐีจาง""หืม.. นกเหยี่ยวของอาเจินหรือเจ้าคะ"สิ่นเยี่ยนฟางนึกถึงลูกนกที่เมิ่งลู่เจินเลี้ยงเอาไว้ยังผลัดขนไม่เต็มเลยจะบินไปได้อย่างไรกัน ดูท่าดงเป็นบุตรชายคนเล็กมากกว่า เด็กๆ ที่ตอนนี้ท่านอาจารย์หม่ากลับไปแล้ว เหลือเพียงหวงหย่งเหนียนที่ยังสอนเมิ่งสู่เจินอยู่ และเพิ่งไปไม่นานรถม้าน่าจะสวนกันกับสามี เด็กทั้งสี่รีบวิ่งมาหาก่อนจะพักทายบิดา"คารวะท่
ทางด้านของเมิ่งอี้ที่ได้เห็นหน้าตาของเด็กๆ ทั้งหกคนก็คิดที่จะอุ้มเด็กๆ ไปขายทันที หน้าตาน่ารักขายได้คนหนึ่งไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยตำลึงแน่ๆ เขารู้จักพวกชอบเด็กวัยนี้หน้าตาเช่นนี้ราคาดี ต้องวางแผนดีๆ เมิ่งอี้ไม่รู้ว่าตนเองชะตาขาดแล้วนับแต่คิดจับเด็กๆไปขายวันนี้จากคนที่ไม่เคยหยิบทำสิ่งใดกลับมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางแต่เช้าเพื่อขอช่วยงาน"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเองเมิ่งอี้ท่านอยู่หรือไม่ขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังเกล้าผมให้เสี่ยวอิงอยู่ เพราะเขายังเล็กจึงไม้ได้เรียนหนังสือไม่เช่นนั้นจะถูกสงสัยได้ ก็ชะโงกหน้าออกมาตามเสียงเรียก เห็นเมิ่งอี้ยืนอยู่นอกรั้ว หืมพ่อบัณฑิตรูปงามสะโอดสะองเหลือเกินเขาเก็บกันจนจะไถกลบปลูกใหม่เพิ่งจะโผล่หัว ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆมาทำไมกัน เสี่ยวเย่าส่งข้อความผ่านมารดาทางจิต"ท่านแม่ คนนิสัยเลวคนนี้ต้องการจับพวกเราพี่น้องไปขายขอรับ""หืม เมิ่งอี้กล้าคิดขายลูกข้าหรือ เสี่ยวเย่าลูกจัดการได้เลยอย่าให้แปลกปะหลาดจนชาวบ้านตกใจก็พอ แล้วตั้งแต่เช้าเสี่ยวเถาไปไหนกันนอนอีกแล้วหรือ""พี่ห้าหลับขอรับท่านแม่ พี่ห้าจะนอนอะไรนักหนาเก้าหมื่นปียังนอนไม่พอหรือไงกันเฮ้อ""หุบปากไปเลยนะ ไม่งั้นข
เมิ่งหย่งซินนำโจวหยวนกับหวงหย่งเหนียนไปพบคนด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าโจวหยวนก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเมิ่งหย่งซิน"แม่นางเมิ่ง รบกวนท่านช่วยออกไปก่อนสักครู่ เขาคือน้องชายคนเล็กของข้าโจวหยางน่ะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยขออภัยแม่นางเมิ่งด้วยที่เสียมารยาท""อ้อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่แท้ก็คนกันเองถ้าเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญใต้เท้าทั้งสองตามสบายเจ้าคะ"เมิ่งหย่งซินออกไปแล้ว หวงหย่งเหนียนก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม รอฟังสองพี่กับน้องคุยกัน"เห็นอาซ้อเมิ่งบอกว่าเจ้าหนีหมาป่าจนตกเขา หยางเอ๋อร์ อย่างเจ้านะหรือจะหนีหมาป่า ฝีมือเช่นเจ้ามิใช่หมาป่าต้องวิ่งหนีหรอกหรือ""ข้าหนีคนขององค์ชายรอง บังเอิญไปเจอพวกเขาสมคบศัตรูแอบค้าขายแร่เหล็กกับแร่เงินเข้า แต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าแกล้งเป็นคนตาบอดเดินคลำทาง พวกเขาไม่ไว้ใจจึงพยายามไล่ล่าข้าจึงแกล้งตกเขาลงมา แต่ไม่คิดว่าด้านล่างจะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ข้าเลยกระแทกอย่างแรง กระดูกร้าวน่ะไม่ถึงกับหัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนขององค์ชายรองยังอยู่ไหมเลยต้องอยู่แต่ในบ้านไปก่อน ไม่อยากให้คนบ้านนี้เดือดร้อนเพราะช่วยข้านะขอรับพี่รอง"โจวหยางเอ่
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งหน้าบ้านรอจางลี่ก็ยังไม่มา คิดจะลองดีกับนางหรือ หากยามซื่อไม่มาข้าจะไปลากถึงที่นอนเลยเชียว ปลายยามซื่อรถม้าก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เลยมาทางด้านท้ายหมู่บ้านเศรษฐีจางลากบุตรชายลงมา จางลี่หน้าเง้าหน้างอพอเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางก็ถลึงตาใส่ จากนั้นจางหมิ่นก็พูดคุยกับนาง"ข้าพาเขามาส่ง อาจารย์หญิงท่านจะเปลี่ยนใจหรือไม่บุตรชายข้าดื้อด้านนัก""ช่างเถอะ ท่านลุงหกมาพาคนงานใหม่ไปเก็บดอกฝ้ายในไร่ด้วยเจ้าค่ะ"ทันทีที่นางเอ่ยจบก็มีชายฉกรรจ์อายุประมาณสี่สิบเดินมาก่อนจะนำทางจางลี่ไป แต่เขาอิดออดจนบิดาต้องดุ จางหมิ่นเดินตามเสิ่นเยี่ยนฟางไปที่แปลงฝ้าย ทันทีที่เห็นผักในแปลงดินก็ตกตะลึงก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อ"อาจารย์หญิงผักสดนี่ครั้งก่อนที่อาจารย์เมิ่งนำไปฝากรสหวานยิ่งนัก ครั้งนี้ท่านช่วยขายให้ข้าได้หรือไม่เล่า""ข้าเก็บไว้ให้แล้ว สามีข้าเพิ่งซื้อที่ดินเพิ่มข้าจะขยายแปลงผักอีกหน่อยเราอาจเป็นคู่ค้ากันก็ได้ อ้อถึงแปลงฝ้ายแล้วเชิญท่านดูเถอะ"จางหมิ่นทันทีที่เห็นดอกฝ้ายที่คุณภาพนับว่าดียิ่งนัก เขาไม่เคยเจอฝ้ายที่ดอกหนาสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนจึงเผยสีหน้ายินดีออกมา จางลี่ไม่ยอมทำงานยื
เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปที่จางลี่จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จางลี่เห็นรอยยิ้มนางถึงกับขนลุกทันที ได้ยินนางเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก"ท่านจาง ข้ามิอาจอวดเก่งต่อหน้าพ่อค้าใหญ่เช่นท่านได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าช่วยท่านได้นะเจ้าค่ะ""เมิ่งฮูหยินเชิญกล่าวมาเถอะ""บุตรชายของท่านจางลี่ หากท่านไม่รังเกียจข้าที่เป็นสตรี ข้ายินดีเป็นอาจารย์ให้เขาเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ให้เขาเข้าไร่เก็บดอกฝ้าย จากนี้ท่านห้ามให้เงินเขา หากวันใดเขาทำงานข้าจะจ่ายค่าแรงเอง หากไม่ทำก็ให้เขาอดข้าว เขากินดีอยู่ดีเกินไปไม่รับรู้ความลำบากของบิดามารดาที่ต้องทำงานหาเลี้ยงเขา""เอ่อเมิ่งฮูหยินคือเรื่องนี้ข้าว่า.....""นังตัวดีเจ้ากล้าหรือ ท่านพ่อนางถือว่าสามีเป็นอาจารย์ของพี่ใหญ่ก็เลยอยากทำให้ข้าอับอายนะขอรับ ท่านอย่าหลงกลนางสารเลวนี่เชียว"เมิ่งหย่งชวนมองหน้าภรรยาอย่างหาคำตอบ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางแค่เพียงยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ย"ท่านจาง ดอกฝ้ายเหล่านั้นข้าจะส่งมอบให้ท่าน บุตรชายท่านหากข้าสั่งสอนเขาให้เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ภายในหนึ่งเดือนข้ายินดีไม่รับเงินค่าดอกฝ้ายสักอีแปะเจ้าค่ะ หากข้าทำได้ท่านก็แค่จ่ายค่าฝ้ายข้า
เสิ่นเยี่ยนฟางนำหมั่นโถวกับซาลาเปาใส่กะละมังไม้หลายใบก่อนจะเข็นเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแจกซาลาเปากับหมั่นโถว"ทุกท่านนี่คือบุตรชายบุตรสาวของข้า ทั้งหกคน เด็กๆคารวะท่านปู่ท่านย่าท่านลุงท่านอาทั้งหลายสิ ยังมีพี่สาวพี่ชายท่านน้าอีกด้วย""พวกเราคารวะทุกท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ"ชาวบ้านต่างยิ้มให้เด็กหกคนนี้น่ารักเสียจริงๆ"นี่ภรรยาซิ่วไฉ หากบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรสาวของเจ้าข้าเชื่อสนิทใจเชียวล่ะ""ใช่ๆ หน้าตาถอดเจ้ากับเมิ่งซิ่วไฉมาเชียว""ขอบคุณพวกท่านมาก ฝากเอ็นดูลูกๆข้าด้วยนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางทยอยแจกอาหารจนครบทุกหลังคาเรือนจากนั้นก็เข็นรถพาลูกๆกลับบ้าน เมิ่งหย่งชวนเตรียมตัวกินข้าวแล้วจะไปค้างคืนที่จวนจางสิบคืน"ท่านพ่อพวกเรากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาวิ่งนำหน้าถลามากอดขาเมิ่งหย่งชวนก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ เมิ่งหย่งชวนก้มลงอุ้มนางขึ้นมาก่อนจะดุ"วันหลังอย่าวิ่งแบบนี้อีก หากหกล้มลูกจะเจ็บได้ วันนี้พ่อไม่อยู่อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อเสี่ยวฮวาไม่ดื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวาอยากมีท่านพ่อเสี่ยวฮวาอยากมีท่านแม่"เมิ่งหย่งชวบบีบจมูกโด่งที่ถอดแบบเขามาไม่ผิดเพี้ยน นี่ถ้าเขามีลูกเ
เมิ่งซุนยื่นมือไปขออุ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเสี่ยวอิงบุตรชายคนที่หกที่เกินจากข้อตกลงมา เสี่ยวอิงกางแขนหาท่านปู่ทวดทันที"อืม ไหนเรียกท่านปู่ทวดสิ""ท่านปู่ทวด ท่านปู่ทวดขอรับ"เมิ่งซุนยืนมือเหี่ยวย่นไปลูบศรีษะ จากนั้นเมิ่งหย่งซินก็ไปจัดห้องให้เด็กๆ ต้นยามเหมาแล้ว นางกับเสิ่นเยี่ยนฟางไม่นอนต่อแต่ติดไฟนวดแป้งทำซาลาเปา นึ่งหมั่นโถว ต้มไก่ทำกับข้าวไปไหว้บิดามารดาของท่านปู่"อาเล็ก ทำเยอะหน่อยเถอะพรุ่งนี้จะไปแจกในหมู่บ้านด้วย พาเด็กๆไปแนะนำกับคนในหมู่บ้านด้วย""อืม เจ้าไปพักเถอะเสี่ยวฟางงานตรงหน้าอาเล็กทำได้""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาเล็กช่วยกันทำงานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาพัก"เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้เป็นท่านอาแล้วก็มีหน้าที่พาหลานๆไปเดินเล่นระหว่างที่ผู้ใหญ่ทำงาน"อย่ามาเล่นแถวนี้อันตราย เจ้าชื่ออะไรนะ""ข้าชื่อเสี่ยวเฟิงเจ้าค่ะท่านอา อีกอย่างข้าไม่ซนเจ้าค่ะข้าอยากช่วยงาน""อืมๆๆ อาเล็กรู้แต่ว่าในครัวมีฟืนไฟต้องระวัง เสี่ยวเย่าเจ้าเป็นพี่คนโตใช่หรือไม่"เสี่ยวเย่าเดินมาหาเมิ่งลู่เจินเขาก้มลงอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ย"เสี่ยวเย่า เจ้าเป็นพี่ต้องดูแลน้องๆ ห้ามเข้าใกล้เตาไฟ ห้าม
เสิ่นเยี่ยนฟางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่เมิ่งหย่งชวนยังคงไขว่คว้าสองเต้าอย่างไม่ยอมแพ้ เสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ก่อนจะส่งสายตาดุไปให้ คนตัวโตต้องยอมปล่อยเพราะเมียเริ่มดุแล้ว"นอนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องไปสอนหนังสืออีก ท่านคึกทุกคืนเช่นนี้ร่างกายจะแย่เอา""เมียจ๋า อีกครึ่งเดือนต้องเดินทางแล้วนะ""ท่านพี่นอนเจ้าค่ะ"เมิ่งหย่งชวนยอมนอนเสิ่นเยี่ยนฟานนอนหนุนแขนเขาจนกระทั่งปลายยมอิ๋นเสียงเรียกของเสี่ยวเย่าดังขึ้นมา"ท่านแม่ขอรับน้องตื่นแล้วขอรับ""ท่านแม่เจ้าขาเสี่ยวเหอกับเสี่ยเถาตื่นแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางหูผึ่งทันที เสี่ยวอิงหรือคือใครกันมาจากไหนอีกเล่า ไหนว่าห้าคนไง ก่อนจะค่อยๆเอาแขนของสามีออกจากนั้นก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม เนื่องจากชาติก่อนนางเป็นหน่วยซีลเก่าการเคลื่อนไหวจึงนับว่าเบามาก เสิ่นเยี่ยนฟางห่มผ้าให้เมิ่งหย่งชวนก่อนจะจุมพิตแก้มสากจากนั้นก็เปิดประตูออกไปเมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่ลืมตาทันที ภรรยาลุกไปกลางดึกอีกทั้งสวมเสื้อคลุม ใส่มิดชิดเพียงนี้คงมิได้ไปสุขาแน่ๆ เสียงเดินไปทางป่าท้อ เมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นก่อนเดินออกมาเห็นหลังนางไวๆ เสิ่นเยี่ยนฟางที่มาถึงก็เห็นสามคนรออยู