.
.
4 ปีผ่านไป
หลังจากที่กะทิคลอดลูกชายตัวน้อย ทิศเหนือก็ยังคงดูแลไม่ห่างแต่ถึงอย่างนั้นเธอและลูกก็ออกจากบ้านไร่เมื่อครบสามเดือนเหมือนที่ตกลงไว้ ทิศเหนือเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เขายังคงคอยเทียวไปหาเธอและลูกที่บ้านไม่ได้ห่าง แถมยังไม่ยอมนอนบ้านของตนเองอีกด้วย ในทุกๆ วันเขาจะมีข้ออ้างเพื่อได้นอนที่บ้านของภรรยาสาว แม้จะต้องนอนที่โซฟาก็ตามก็ยังดีกว่าช่วงปีแรกๆ ที่ต้องนอนในรถ ปีหลังๆ มานี้กะทิก็ดูจะใจอ่อนลงอยู่บ้าง ส่วนการันต์กับอัญญาก็ได้แต่งงานกันเรียบร้อยในปีที่สาม
ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่หน้าโรงเรียนเด็กเล็กแห่งหนึ่งเหมือนทุกครั้ง ด้วยใบหน้าที่หล่อร้ายของเขาทำเอาครูสาวถึงกับมองค้าง ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรชายคนนี้ได้เลย แม้จะเป็นสูญรวมสายตาแต่ทิศเหนือกลับไม่ได้สนใจใดๆ ยังคงก้มมองนาฬิกาเพื่อรอเวลาที่ลูกชายตัวน้อยของเขาเลิกเรียน
“ปะป๊าฮับ!”
เสียงเรียกของเด็กชายดังขึ้น ทิศเหนือรีบหันไปตามเสียงเรียกนั้น ก่อนที่ลูกชายตัวน้อยจะวิ่งกางแขนไปหาผู้เป็นพ่ออย่างดีใจเช่นทุกวัน ครูสาวยืนม
..ภายในบ้านที่กระจัดกระจายไปด้วยสิ่งของที่ถูกผู้คนทำลาย ชายหญิงโดนกระชากผมลากมากองรวมกัน ผู้ชายสี่ห้าคนที่มีอาวุธยืนคุมอยู่ รอยเลือดหยดเต็มพื้นชายหนุ่มรูปร่างกำยำนั่งไขว้อยู่ที่เตียงหรูพร้อมจุดบุหรี่หนึ่งมวนและสูบเข้าเต็มปอด ก่อนพ่นควันของมันไปยังใบหน้าของชายหญิงวัยกลางคนทั้งสอง"ท่านครับ...ผมขอร้องล่ะ...ปล่อยเมียกับลูกผมไปเถอะครับ""ฮึกๆ ฮือๆ คุณคะ อย่าไปขอร้องพวกมัน! ไอ้พวกชั่ว!"ชายวัยกลางคนที่มีเลือดท่วมเต็มหน้าตาที่เคยดูดี ตอนนี้หน้าตาบวมช้ำและรอยแตกเป็นทางยาว เขายกมือขึ้นร้องขอชีวิตของลูกและภรรยาทั้งน้ำตา แต่ภรรยาของเขากลับห้ามไม่ให้เขาทำแบบนั้นผัวะ!!หนึ่งในลูกน้องของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงใช้ด้ามปืนตบเข้าไปที่หน้าหญิงผู้นั้นจนล้มเลือดกบปากไปกองกับพื้นหญิงผู้นั้นสำลักเลือดออกมาอย่าทรมานลูกน้องคนเดิมทำท่าจะเข้าไปเตะซ้ำแต่ผู้เป็นสามีได้เข้าไปกอดไว้ พร้อมกับก้มหัวร้องของชีวิตชายที่อายุน้อยกว่าเขาอีกครั้ง"ขอร้องล่ะครับ ไว้ชีวิตภรรยา
..ชายหนุ่มนั่งหน้าขรึมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสักเท้าแขนกับกระจกรถ พร้อมมองออกไปด้านนอกรถ บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทไม่มีคำพูดหรือถามไถ่ใดๆ จากปากของชายหนุ่ม เด็กสาวก็ได้แต่นั่งตัวลีบและก้มหน้างุด ตัวเล็กๆ บางๆ ของเธอสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวง เนื้อตัวมอมแมมเปื้อนดินโคลนเต็มไปหมดพร้อมกับคิดในใจว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่มากับชายคนนี้ เขาช่างดูน่ากลัวและน่าเกรงขามจนเธอแทบจะไม่กล้าหายใจแรงทิศเหนือปรายตาเรียวมองไปที่เด็กสาวที่นั่งตัวสั่นเล็กน้อย สายตาคมกริบนั้นมองสำรวจเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าของเด็กคนนี้ไม่ได้ขี้เหร่เลย กลับดูสวยสดใสเว้นแต่เพียงความสดใสมันได้ถูกขโมยไป จนเหลือเพียงใบหน้าสวยที่ดูเศร้าสร้อยคล้ายกับวิญญาณใกล้จะหลุดออกจากร่างยังไงอย่างนั้นเขามองดูท่าทีแบบนั้นก็ขัดตาไม่น้อย เพราะเขาไม่ชอบคนอ่อนปวกเปียก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กสาวคนนี้สวยจนดึงดูดเขาได้และตรงสเปคไปเสียหมด ถ้าโตขึ้นคงจะสวยมากกว่านี้ไม่น้อย แต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้เธอยังดูเด็กเกินไปสำหรับเขา"อายุเท่าไหร่?""...18 ค่ะ"
..หลังจากที่กะทิจัดเก็บห้องของตนพร้อมกับอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินออกมายังลานฝึกเพื่อไปหาเทมป์และถามเขาว่าเธอต้องเริ่มทำอะไรหรือฝึกยังไง เทมป์ที่คุยโทรศัพท์อยู่ก็หันไปมองผู้มาเยือนที่เดินเข้ามาหาเขา ก่อนจะรับปากปลายสายและกดวางไป"นายเหนือสั่งให้ฉันดูแลเธอ""ค่ะ...""ห้ามเธอเข้าไปที่ผับและหอนารี...เด็ดขาด""นายเหนือได้บอกไว้แล้ว""และเธอจะต้องฝึกเหมือนทุกคนที่นี่ เธอจะเปรียบเสมอเทียบเท่ากับลูกน้องนายเหนือเพื่อทำตามสิ่งที่เธออยากทำจนกว่าจะมหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม""แล้ว...หนูพอจะไปเดินเล่นหรือนั่งเล่นได้ที่ไหนบ้างคะ""ห้ามออกไปทางที่เข้ามาก็พอ จะเดินที่ไหนก็เรื่องของเธอ แต่ต้องทำงานช่วยที่โรงฝึกนี้ ไม่ว่าจะเป็นความสะอาด ทำอาหาร ซักผ้า ล้างจาน""แล้วหนูจะได้พบกับนายเหนืออีกไหมคะ?""คืนนี้นายจะเข้ามาหาเธอเอง หลังเสร็จงาน""ค่ะ"กะทิตอบแค่นั้นก่อนจะเดินตามเทมป์ไปอ่างล้างจานที่ติดกับกำแพงของโกดัง จานชามกองพะเนินอยู่ที่อ่างนั้น กะทิมองอย่างท้แท้ก่อนจะเข้าไปย
..ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงหลังจากที่กะทิกลับเข้ามาในโรงฝึก เธอเอาแต่นั่งขลุกตัวอยู่แต่ในห้องของตนเองเงียบๆ เพราะเธอยังช็อกกับภาพที่เห็นเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ความรู้สึกขยะแขยงก่อตัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เคยดื้อแล้วดูหนังโป๊กับเพื่อนมาบ้างแต่ไม่เคยพบเจอจะจะ ตา หรือสัมผัสด้วยตัวเองแบบนี้ แค่นึกถึงตอนที่ตัวเองจะโดนทำแบบนั้นตอนโดนทำมิดีมิร้ายก็รู้สึกคลื่นไส้ ถ้าการันต์ไม่ได้มาช่วยไว้เธอคงจะเป็นสภาพน่าเกลียดแบบนั้นแน่ๆก๊อกๆ“นายเหนือให้มาเรียก”“...ค่ะ”กะทิตะโกนตอบรับก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง เพราะเธอจะต้องออกไปเจอหน้าคนที่เธอพึ่งเห็นเขามีบทรักอย่างดุเดือดในสวนเมื่อครู่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องและออกไปยังลานกลางโกดังชายหนุ่มสองคนก่อนหน้านั่งคุกเข่าอยู่กลางลาน ใบหน้าฟกซ้ำและเลือดเต็มใบหน้าไปหมด คนที่ยืนอยู่หน้าชายหนุ่มทั้งสองก็คือทิศเหนือและการันต์ รวมถึงเทมป์เด็กสาวเดินเข้าไปยืนข้างๆ การันต์โดยที่ไม่กล้าเงยหน้ามองผู้เป็นนาย เธอก้มมองแต่รองเท้าหนังราคาแพงของเขาเท่านั้น ทิศเหนือยกย
..“มันคืออะไรล่ะคะ?”“มันคือ.......”“มาแล้วครับน้ำเปล่า”ปกป้องเดินเข้ามาพอดีก่อนที่ปรินทร์จะทันได้พูดจบ กะทิที่ตั้งใจฟังอย่างจดจ่อก็ถึงกับทำหน้าสลด มันอาจจะเป็นหลักฐานที่สามารถบ่งบอกถึงคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอก็ได้ หญิงสาวปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะหันไปยิ้มให้ปกป้อง“ขอบคุณค่ะ”"ว่าแต่คุยอะไรกันหรอครับ ดูท่าทางเคร่งเครียดเชียว”“คุยเรื่องนายรึเปล่านะ”ปรินทร์พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อน้องชาย ก่อนจะปรายตามองกะทิที่แอบทำหน้าเสียดายไม่น้อย จริงๆ เขาตั้งใจจะกระตุ้นความอยากรู้ของเธอ เพื่อหวังให้หญิงสาวเข้าไปหาเขาเองโดยที่เขาไม่ต้องไปวิ่งเต้นขอร้องทิศเหนือเพื่อพบเธอก็เท่านั้น และเหมือนว่ามันจะได้ผล ปรินทร์มั่นใจว่ากะทิจะเข้าไปหาเขาที่สน.แน่นอน หรือไม่ก็ติดต่อเขามาทางใดทางหนึ่งไม่ทันได้พูดอะไรต่อของขวัญและเดซี่ก็ถือจานเนื้อสัตว์และผักเข้ามาก่อนจะนั่งลงข้างๆ กะทิ และเริ่มย่างเนื้อที่ตักมาอย่างสนุกสนาน ปรินทร์และกะทิลอบมองกันไปมาก่อนที่ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบจะยื่นทิช
..“งั้นพี่ขอเบอร์น้องหน่อยได้ไหม? เป็นการไถ่โทษ”หนุ่มรุ่นพี่ลดโทรโข่งลงก่อนพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้ากะทิด้วยรอยยิ้มหวาน ทุกคนต่างส่งเสียงโห่เมื่อรุ่นพี่สุดหล่อเดือนคณะจอมเจ้าชู้ได้เลือกเฟรชชี่ที่ถูกใจเสียแล้ว สาวๆ ต่างพาทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจที่ตนไม่ถูกเลือกบ้าง“ขอไปทำไมคะ?”“เผื่อมีอะไรพี่จะได้แนะนำให้ไงล่ะครับ”“ที่นี่ไม่มีพี่รหัสหรอคะ?”“อู้หู้วววว วิ้วๆ”ทุกคนถูกใจกับคำตอบของกะทิที่ตอกกลับรุ่นพี่หนุ่มหน้าหล่อจนหน้าหงาย ชายหนุ่มช็อกค้างก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำตอบของเธอ หญิงสาวตรงหน้าช่างไม่เหมือนใครจนน่าสนใจ“โอเคๆ พี่ชื่อปกป้องนะ เรียกพี่ป้องก็ได้”“ค่ะ”“จ้า...คนสวยได้หมด ไม่สนแปลกๆ บ้างหรอคะพี่ปกป้องขา”“เดซี่ เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก”ของขวัญสะกิดแขนเดซี่ที่พูดแหนบแนมกะทิและปกป้อง รุ่นพี่หนุ่มเกาหัวแก้เขินก่อนจะบอกบทลงโทษด้วยการให้เต้นท่าตลก เรียกเสียงเฮฮาให้กับวันรับน้องได้เป็นอย่างดี.
..(สวัสดีครับ ปรินทร์ครับ)“เอ่อ....”(ใครครับ?)“กะทิค่ะ”(....กำลังรออยู่เลย)“ค่ะ คือเรื่อง...”(ครับ...คือว่าตอนนี้คุยทางโทรศัพท์ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เธอพอจะมีเวลาออกมาเจอกันหน่อยไหม?”“ที่ไหน เมื่อไหร่คะ?”(แล้วตอนนี่เธออยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวผมจะได้นัดที่ใกล้ๆ)“บ้านนายเหนือ”(...งั้นเป็นที่.....)“คุยกับใคร?”(........)เสียงทุ้มต่ำแทรกเข้าไปในสายจึงทำให้คนปลายสายเงียบลงไม่ทันที่จะได้นัดแนะกันให้เรียบร้อยกะทิถึงกับสะดุ้งจนโทรศัพท์ล่วงไปที่พื้นทั้งที่ยังไม่กดวางสาย สายตาคมกริบมองท่าทีของเธออย่างเรียบนิ่ง ก่อนจะหลุบตามองไปยังโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่“นายเหนือ!...”ทิศเหนือในชุดเชิ้ตสีดำทับในกางเกงสแลกดูเรียบร้อยเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่ตกโดยไม่พูดอะไร ในขณะที่หยิบมันขึ้นมาสายตาคมก็จ้องมองเธอเขม็งก่อน
..ภายในงานครึกครื้นและเต็มไปด้วยผู้คน รวมถึงลูกน้องของทิศเหนือที่นานๆ ที จะได้มาปลดปล่อย เสียงเพลงดังไปทั่วบริเวณที่จัดงาน เป็นงานเลี้ยงถูกจัดขึ้นข้างสระว่ายน้ำภายในบ้าน คนที่ถูกเชิญมางานนี้ล้วนเป็นคนรู้จักของทิศเหนือ จะมีก็แต่เพียงเดซี่และของขวัญที่ถูกเชิญมาร่วมงานด้วยถึงแม้กะทิจะไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้ว แต่เธอยังคงเป็นนิสิตโดยทิศเหนือให้ข้ออ้างว่าเธอป่วยจึงไปเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ไม่ได้ แต่มีการส่งงานหรือโปรเจกต์ผ่านทางออนไลน์แทนและจ้างอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนั้นมาสอนส่วนตัวโดยให้ค่าจ้างมากกว่าเงินเดือนที่มหาวิทยาลัยถึงสองเท่ากะทิและเพื่อนทั้งสองยังคงติดต่อกันอยู่บ้าง ถึงจะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ก็มีการวิดีโอคอลหากันตลอดด้วยเรื่องเรียนแต่ไม่บ่อยนักเพราะกะทิเองก็วุ่นอยู่แต่กับการฝึกซ้อมอย่างอื่นและหาหลักฐานเพิ่มเติมของคดีครอบครัวด้วย แต่ที่น่าแปลกใจคือปกป้องและปรินทร์ก็ได้รับเชิญมางานเลี้ยงนี้“เมื่อไหร่กะทิจะมาเนี่ย”“หล่อนก็ใจเย็นๆ สิยะ เดี๋ยวนางก็มา...แม่งานนะ จะเปิดตัวช้าก็ไม่แปลก”
..4 ปีผ่านไปหลังจากที่กะทิคลอดลูกชายตัวน้อย ทิศเหนือก็ยังคงดูแลไม่ห่างแต่ถึงอย่างนั้นเธอและลูกก็ออกจากบ้านไร่เมื่อครบสามเดือนเหมือนที่ตกลงไว้ ทิศเหนือเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เขายังคงคอยเทียวไปหาเธอและลูกที่บ้านไม่ได้ห่าง แถมยังไม่ยอมนอนบ้านของตนเองอีกด้วย ในทุกๆ วันเขาจะมีข้ออ้างเพื่อได้นอนที่บ้านของภรรยาสาว แม้จะต้องนอนที่โซฟาก็ตามก็ยังดีกว่าช่วงปีแรกๆ ที่ต้องนอนในรถ ปีหลังๆ มานี้กะทิก็ดูจะใจอ่อนลงอยู่บ้าง ส่วนการันต์กับอัญญาก็ได้แต่งงานกันเรียบร้อยในปีที่สามชายหนุ่มยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่หน้าโรงเรียนเด็กเล็กแห่งหนึ่งเหมือนทุกครั้ง ด้วยใบหน้าที่หล่อร้ายของเขาทำเอาครูสาวถึงกับมองค้าง ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรชายคนนี้ได้เลย แม้จะเป็นสูญรวมสายตาแต่ทิศเหนือกลับไม่ได้สนใจใดๆ ยังคงก้มมองนาฬิกาเพื่อรอเวลาที่ลูกชายตัวน้อยของเขาเลิกเรียน“ปะป๊าฮับ!”เสียงเรียกของเด็กชายดังขึ้น ทิศเหนือรีบหันไปตามเสียงเรียกนั้น ก่อนที่ลูกชายตัวน้อยจะวิ่งกางแขนไปหาผู้เป็นพ่ออย่างดีใจเช่นทุกวัน ครูสาวยืนม
..“เริ่มเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเด็กจะไม่มีน้ำนมดื่ม เพราะเด็กยังทานอย่างอื่นไม่ได้นอกจากน้ำนมจากอกคุณแม่”“เอ่อ....”พยาบาลสาวไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปลากมือของทิศเหนือไปยังหญิงสาวที่ยังนั่งอ้าปากค้างอยู่ กะทิเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ส่วนพยาบาลก็สอนวิธีนวดให้ทิศเหนืออย่างตั้งใจ ทิศเหนือเองก็ไม่ต่างจากกะทิเท่าไหร่ อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำมันแบบเขินๆ ที่กะทิไม่แย้งเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องปัญหาที่มีของตน จึงทำได้แค่เงียบ“อย่างนั้นแหละค่ะ...ต้องนวดแบบนี้บ่อยๆ นะคะ”“...ครับ”“เพราะว่าถ้าคุณพ่อช่วยนวดจะทำให้น้ำนมไหลออกมาได้เร็ว”“เอ่อ...ครับ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พยาบาลขอตัวก่อนนะคะ”พยาบาลยิ้มก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้คนทั้งคู่อยู่ด้วยกันเงียบๆ ในห้อง กะทิเองก็ไม่ได้พูดอะไรเอนตัวนอนและหลับตานิ่ง เพื่อรอเวลาที่คุณหมอจะส่งตัวลูกชายของตน ทิศเหนือมองหน้าไร้อารมณ์ของกะทิก็หย่อนตัวนั่งโซฟาข้างๆ เตียงพร้อมกับถอนหายใจ อาจจะเป็นเพราะความเพลียจึงทำให้กะทิผล็อยหลับไป ทิศเหนือมองกะทิอยู่เงียบๆ อย่างนั้
..เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ทิศเหนือไม่เคยออกไปทำงานนอกบ้านอีกเลย แถมยังใช้เวลาเกือบสองเดือนที่ทำงานอยู่ที่บ้านไร่ไม่หนีหายไปไหนแม้แต่นาทีเดียว กะทิเองจะยังไม่ค่อยพูดคุยกับเขาเหมือนเดิม แถมยังพยายามทำตัวห่างจากเขาอีกตามเคย แม้กระทั่งถึงวันคลอดเธอก็ไม่เคยถามหาเขา ยังคงถามหาแต่การันต์ลูกน้องของเขาแทนจนตอนนี้มาอยู่หน้าห้องคลอดทิศเหนือก็แทบจะนั่งไม่อยู่ ลุกเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววหมอคนไหนจะเดินออกมาจากห้องคลอดเลย การันต์นั่งมองผู้เป็นนายไปมา แม้ตัวเขาเองจะตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าหลานแต่ก็ไม่เท่าทิศเหนือเลย“นั่งก่อนดีไหมครับนาย”“เป็นมึงนั่งใจเย็นได้หรอวะ กูตื่นเต้นจนอยากจะไปทำคลอดเองแล้วเนี่ย”“อย่างน้อยนายเหนือก็น่าจะใจเย็นลงหน่อยนะครับ”“แม่ง...ช้าฉิบหาย หมอมัวทำอะไรกันอยู่วะ”ทิศเหนือเดินไปเดินมาพร้อมกับสบถไป คิ้วเข้มขมวดยุ่งเมื่อรู้สึกว่ามันนานเกินไปสำหรับเขา การันต์ยิ้มกริ่มเพราะความใจร้อนอยากเห็นหน้าลูกชายของผู้เป็นนาย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเขาไม่เคยคิดจะมีล
..หลังจากขับรถมานานกว่าสองชั่วโมง ก็ถึงบ้านไร่เดชาเสียที คนในบ้านต่างออกมาต้อนรับพวกเขาเพราะยังไม่ค่ำจึงมีคนงานในบ้านเดินเข้ามาช่วยหอบหิ้วข้าวของของเจ้านายเข้าบ้านไป แม้กะทิจะอยู่ที่นี่มาหลายเดือนแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะสนิทสนมด้วย เพราะถือว่าเธอเป็นคุณนายเดชาเดชจึงมีหลายครั้งที่กะทิมักจะออกไปเดินเล่นคนเดียว ถึงจะมีผู้ติดตามไปแต่กลับไม่มีใครกล้าพูดคุยกับเธอทิศเหนือเองก็ไม่ได้ถามไถ่เธอเรื่องนี้ และกะทิก็ไม่ยอมบอกเขากลัวว่าจะไปเป็นเรื่องรบกวนเวลาเขาทำงานเสียเปล่าๆ แต่การไม่ที่เธอไม่อยากงอแงใส่เขาหรือเอาแต่ใจกับเขา กลายเป็นการเปิดทางให้เขามีคนอื่นเสียอย่างนั้น ถึงจะพูดไม่ได้เต็มปากว่ามีคนอื่นแต่ช่วงเวลานั้นทิศเหนือก็ได้แปรใจปันให้คนอื่นไปแล้วกะทิเดินเข้าบ้านที่คุ้นเคยอย่างเงียบๆ ไม่มีคำพูดหรือสนทนาใดๆ กับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอเดินเข้าห้องนอนของตัวเองโดยไม่หันหลังกลับไปมองมาเฟียหนุ่มที่กำลังเดินตามเธอต้อยๆ เหมือนสุนัขเชื่องๆ ที่เลี้ยงไว้ กะทิหันไปมองชายหนุ่มที่เดินตามเธอเข้าในห้องด้วยสายตาเรียบนิ่งอย่างที่ชอบทำ ใบหน้าหล่อทำทีท่าสงสัย
..“เลือกได้ดีค่ะ”กะทิพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่แสดงถึงความดีใจ แม้ภายในใจจะไม่ได้เป็นอย่างสีหน้าที่แสดงออกไป แววตาของมาเฟียหนุ่มผู้โหดร้ายกลับแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขามองกะทิด้วยความรู้สึกเจ็บปวด มันเจ็บปวดมากกว่าการโดนแย่งแฟนคนแรกเสียอีก แม้แต่ลูกเขาก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นการเติบโตของลูกชายตัวเอง“แต่...เธอต้องอยู่กับพี่จนกว่าจะคลอดได้สามเดือน เพราะร่างกายเธอยังคงไม่หายดี”“ไม่จำเป็น”“พี่ขอแค่สามเดือน ให้เวลาพี่หาบ้านที่จะซื้อให้และรถ”“คนอย่างคุณมันไม่ใช่เรื่องยากหรอกแค่เรื่องพวกนั้น”“ก็จริง...แต่พี่ขอ..ขอร้อง...ให้พี่คุกเข่าตรงนี้ก็ยอม”“ทำสิ”กะทิพูดออกมาอย่างไม่แยแส การันต์เองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อทิศเหนือยอมคุกเข่าทันทีที่กะทิพูดจบ เพราะคนอย่างทิศเหนือไม่เคยทำแบบนี้ให้ใคร มีแต่คนอื่นที่คุกเข่าต่อหน้าเขาเพราะความเกรงกลัว ทิศเหนือยอมจำนนทุกอย่างจริงๆ เพื่อให้ได้อยู่กับลูกและเมียเพียงแค่สามเดือน“กะทิ นายเหนือ”“ได้ ฉันจะยอมอยู่กับคุณสามเดือน และค
..“อะไรนะครับ?”“กูให้มึงไปสืบหาเรื่องของอัญญา...แต่มึงกลับมาสภาพนี้ มึงสืบแบบไหน?”“ก็....”“อย่าบอกนะว่าแบบเดิมที่เคยทำ”“.......”การันต์ไม่ได้ตอบคำถามทีเล่นทีจริงของผู้เป็นนาย เพียงเท่านั้นทิศเหนือก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นอย่างที่เขาคิดแน่นอน เพราะเขาและการันต์อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำไมจะไม่รู้วิธีการของลูกน้องคนสนิท ทิศเหนือยกยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ“ขอโทษครับนาย”“กูยังไม่ได้ว่าอะไรมึงเลย”“ผมนึกว่านายจะโกรธที่...”“ทำไมกูต้องโกรธ กูดีใจด้วยซ้ำ กะทิจะได้ไม่คิดมาก”“นายจะบอกเรื่องนี้กับกะทิหรอครับ?”“มีเหตุผลอะไรที่กูต้องบอก...เดี๋ยวเธอก็เห็นท่าทีของพวกมึงเอง”“ครับ? ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”“กูไม่ได้หมายถึงมึงหรอก กูหมายถึงอัญญาต่างหาก”ทิศเหนือพูดด้วยความมั่นใจ เพราะดูจากผู้หญิงแล้วไม่ว่าจะรักหรือไม่รักถ้าได้มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอที่ทำให้จำไม่ลืมก็ไม่แปลกที่ท่าทีที่มีต่อกันมันจะเปลี่ยนไปเองตามธรรมชาติ และยิ่งเป็นคนที่
..“ช้ากว่านี้ ฉันจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น”“ฉันทำเพราะแม่ของฉันต้องการให้ฉันเป็นนายหญิงของตระกูลเดชาเดช...ฮึกๆ ...ฉันจำเป็นต้องทำ”“มันมีความจำเป็นจนต้องแย่งขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้านายเหนือไม่มีครอบครัวฉันจะไม่ว่าเลย”“จะให้ทำยังไงได้ล่ะ! แม่ของฉันเป็นหนี้นอกระบบ...ถึงจะเป็นเมียน้อยแต่คงได้ค่าตอบแทนไม่น้อย”อัญญาพูดทั้งน้ำตาถึงแม้เธอจะดูสวยเก่งโปรไฟล์ดี แต่ความจริงแล้วชีวิตของเธอก็ลำบากมาไม่น้อย ดีแค่ไหนแล้วพวกเจ้าหนี้ยอมปล่อยเธอมาและไม่เอาเธอไปขัดดอก อัญญาคิดเพียงว่าถวายตัวให้ทิศเหนือดีกว่าไปเสียตัวให้เสี่ยเจ้าหนี้พวกนั้น แถมอาจจะยังได้รับการคุ้มครองจากมาเฟียหนุ่มในฐานะผู้หญิงของเขาอีกก็ได้“โง่”“ฮึกๆ ..ฮือ”คำพูดของการันต์สั้นๆ ทำให้น้ำตาของเธอพรั่งพรูออกก่อนที่เธอจะเอามือปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างนั้น มันคือความคิดโง่ๆ อย่างที่ชายหนุ่มพูดจริงๆ นั่นแหละ เพราะเธอคิดว่าแค่เสียตัวคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้รับรู้แล้วว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน ถ้ายิ่งทำอย่างนั้นเพื่อเงินและอยู่ในฐานะคนบนเตียงลับๆ
..การันต์ตรงดิ่งเข้ามายังบริษัทหลังจากที่ทิศเหนือพากะทิเข้าโรงพยาบาลและนอนแอดมิทเพื่อรอดูอาการ แม้ใบหน้าของการันต์จะนิ่งเฉยแต่ภายในใจกลับเหมือนไฟสุมอก เมื่อลิฟต์เลื่อนขึ้นมาถึงยังชั้นบนสุด เขาก็รีบย่างสามขุมเข้าไปหาเลขาสาวหน้าห้องของผู้เป็นนายที่กำลังเก็บข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน มือหนาคว้าข้อมือเล็กของเลขาสาวสวยคมนั้นและกำไว้แน่น“คุณการันต์!! ฉันเจ็บนะ!”“คนอย่างเธอมีความรู้สึกด้วยหรอ?”“คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย!”“เธอสิเป็นบ้าอะไร? รู้ไหมว่าทำครอบครัวของคนอื่นแตกแยกร้ายแรงขนาดไหน”“แล้วไง? ก็ฉันรักของฉัน มันผิดตรงไหนที่จะแสดงความรู้สึกออกมา?”“ผิดตรงที่เธอแสดงกับคนมีเจ้าของแล้วทั้งที่รู้! ทำไม? มันคันมากหรอ?”“คุณการันต์!! พูดอะไรให้เกียรติฉันด้วย”“เธอยังเหลือเกียรติอยู่หรออัญญา มันไม่มีตั้งแต่ที่คิดจะเป็นเมียน้อยของนายเหนือแล้ว!”“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาโวยวายใส่ฉัน?”การันต์จ้องมองหน้าสวยเขม็งอย่างโกรธเคือง แต่อัญญากลับไม่ได้เกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะเริ่มเข้าใจว่าท
..การันต์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหันไปมองหน้ากะทิอย่างจริงจัง แต่กะทิเพียงแค่ปรายตามองเขาเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะหันหน้าออกไปรับลมทะเล แต่ในใจยังคงรอรับฟังเหตุการณ์จริงๆ ทั้งหมด ที่มันทำให้เรื่องยุ่งเหยิงขนาดนี้ เพราะถึงความจริงจะเป็นยังไง เธอก็มีความคิดและตัดสินใจเรื่องทั้งหมดไว้อยู่แล้ว“นายเหนือ...พอเลิกกับดุจดาวแล้วเขาก็บินไปเมืองนอก และกลับมาตอนที่รู้ข่าวว่าพ่อแม่เริ่มมีอาการป่วยแปลกๆ และทรุดหนัก ...ทั้งที่ตอนแรกนายเหนือไม่คิดจะรับช่วงต่อของตระกูล...”“แล้วตอนแรกเขาคิดจะทำอะไร?”“นายเหนือมีความฝันที่จะเป็นนักธุรกิจร้านอาหารธรรมดาโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาชื่อเสียงของครอบครัว เขาต้องการที่จะสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง...”“........”“แต่...พอเกิดเรื่องขึ้นเขาก็กลับมาสืบเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเองหลังจากที่รู้ว่ามีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นในตระกูล รวมทั้งสืบเรื่องของครอบครัวเธอ นั่นคือครั้งแรกที่นายเหนือได้พบเธอ”“แต่ฉันไม่เคยพบเขา....”“ก็ไม่แปลก เพราะนายเหนือแอบสืบและตามเธอโดยไม่ให้เธอหรือครอบครัวรู้ตัว...