ตอนนี้หนุ่มหล่อทั้งสองคนทั้งเหมันต์และคีริน ได้เดินทางมาถึงที่เมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาเดินทางมากันอย่างเงียบ ๆโดยได้รับการช่วยเหลือ จากคุณพินิจ คุณตาแท้ ๆ ของเหมันต์และคีริน ที่ส่งคนไปรับพวกเขาถึงสนามบิน
“ไม่ได้กลับมาซะนาน อะไรต่อมิอะไรเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ว่าไหมคีย์” ชายหนุ่มสุดหล่อที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้ารูป สวมทับด้วยเสื้อโค้ทหนัง และแว่นตาสีดำ พูดขึ้นทันทีที่พวกเขาเดินทางมาถึง
“ผมเองก็แทบจำอะไรไม่ได้เหมือนกันครับพี่เหม เพราะผมไปอยู่ที่นู่นพร้อมป๋ากับแม่ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ” ชายหนุ่มสุดหล่อ ที่แต่งตัวสบาย ๆคล้ายกันพูดขึ้น
ทั้งสองหนุ่มยืนคุยกันอยู่สักพัก ก็มีชายหนุ่มวัยประมาณ สามสิบกว่าเดินเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับบอกว่าคุณตาพินิจส่งให้เขามารับคนทั้งคู่ พวกเขาทั้งหมดจึงได้เดินทางออกจากสนามบินออกไปด้วยกัน เวลาผ่านไปไม่นานรถหรูสีดำสนิท ก็ขับเข้ามาจอด ณ.บริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะมีชายหนุ่มที่พึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศลงมาจากรถ แม่บ้านที่ยืนรออยู่หน้าบ้านออกมาต้อนรับ พร้อมกับช่วยพวกเขาขนกระเป๋าเข้าไปด้านใน และพาพวกเขาไปพบกับประมุขของบ้าน ที่นั่งรออยู่ที่ห้องโถงด้านใน“สวัสดีครับคุณตา ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงคุณตาจังครับ” เหมันต์ยกมือไหว้ชายวัยสูงวัยที่นั่งอยู่ที่โซฟากลางห้องโถง พร้อมกับเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง
“ตาก็คิดถึงเหมเหมือนกันลูก หลายปีแล้วนะ ที่เราไม่ได้เจอกันเลย” ชายสูงวัยบอกกับหลานชายของเขาด้วยน้ำเสียงเอ็นดูและอบอุ่นใจดี
“แล้วคุณตาไม่คิดถึงคีย์เลยเหรอครับ น้อยใจจัง” คีรินที่ยืนอยู่แกล้งทำน้ำเสียงกระเง้ากระงอดน้อยใจ บอกคุณตาของเขา
“คิดถึงสิลูก ตาก็คิดถึงคีย์เหมือนกัน มาให้ตากอดให้หายคิดถึงหน่อยมาลูกมา” เมื่อเห็นหลานคนเล็ก กระเง้ากระงอดทำท่าทีเหมือนน้อยใจ ชายสูงวัยก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะเรียกให้เจ้าตัวเข้ามากอดให้หายคิดถึง
หลังจากที่พูดคุยกันอยู่สักพัก ทั้งสองหนุ่มก็ขอตัวขึ้นไปนอนพัก เพราะอ่อนเพลียจากการนั่งเครื่องบินมาเป็นเวลานาน ๆ การสนทนาจึงจบลงเพียงแค่นั้น งานแต่งงานระหว่างนักธุรกิจใหญ่กับดาราระดับตำนาน ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการหรูหราสมฐานะ แขกที่มาร่วมงาน มีแต่ระดับผู้บริหาร คุณหญิงคุณนาย ไฮโซ และคนในวงการบันเทิง ที่ต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ เจ้าสาวของงานอยู่ในชุดแต่งงานสีขาวราคาแพง ที่ถูกประดับไปด้วย คริสตัล หลายพันเม็ด กำลังนั่งรอเพื่อเข้าพิธีอย่างใจจดใจจ่อ วันนี้แหละ เธอจะได้กลับมาเฉิดฉายในฐานะคนรักของนักธุรกิจใหญ่ ที่ใคร ๆต่างก็ต้องยอมรับและให้เกียรติเธอ และใครต่อให้ที่เคยดูถูกเธอ ก็จะต้องก้มหัวให้เธอ“ลมหนาวไปไหน ทำไมฉันถึงไม่เห็น” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวถามคนที่มาช่วยดูแลเธอขึ้น เมื่อเธอพยายามมองหาลูกชายบุญธรรม ที่ควรจะมาดูและเธอ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เห็นแม้แต่เงา
“คุณลมหนาว ช่วยงานอยู่ด้านนอกค่ะ เห็นบอกว่าพนักงานเสิร์ฟไม่พอ คุณเขาเลยอาสาไปช่วยค่ะ” หญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในห้องพูดขึ้น
เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นพูดทำให้วิภาถึงกับมีอาการหงุดหงิดขึ้นมาแต่ก็พยายามเก็บอาการ รักษาภาพลักษณ์เอาไว้ นี่ลูกชายบุญธรรมของเธอออกไปช่วยงานเสิร์ฟด้านนอก แทนที่จะมาดูแลเธออย่างนั้นเหรอ“ให้คนไปตามเขาเข้ามาให้ทีค่ะ พนักงานเสิร์ฟไม่พอ ก็ให้คนรับผิดชอบเขาจัดการกันเอาเอง จะมาให้ลูกชายพี่ไปช่วยได้ยังไง เขาเป็นถึงลูกชายของเจ้าสาวในงานนะคะ เดี๋ยวชุดหล่อ ๆของลูกชายพี่ก็เลอะหมดหล่อกันพอดี พี่รบกวนด้วยนะคะ”
ดาราสาวในชุดเจ้าสาวบอกกับพนักงานเมื่อสักครู่ พร้อมกับยิ้มให้อย่างใจดี ทำให้พนักงานสาวรีบรับปาก และรีบร้อนออกจากห้องแต่งตัวและทำตามที่เจ้าสาวในงานบอกกับเธอ เวลาผ่านไปสักพักพิธีกรในงาน ก็ได้ขึ้นไปบนเวที และเริ่มเข้าสู่พิธีการ คุณธาดาที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีดำ เดินควงคู่มากับเจ้าสาวแสนสวยที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวถูกประดับประดาไปด้วยคริสตัลทั่วตัวนับพันเม็ด ขึ้นสู่เวทีเพื่อเริ่มพิธี แขกที่อยู่ในงานต่างพากันปรบมือ และโห่ร้องแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่“เรียนเชิญคุณธาดาเจ้าบ่าวของานกล่าวอะไรกับแขกในงานด้วยครับ” พิธีกรภายในงานบอกกับคุณธาดาผู้ที่เป็นเจ้าบ่าวในงาน
“ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนนะครับ ที่มาร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งงานระหว่างผมกับคุณวิภา ผู้หญิงที่ผมรัก และตกลงที่จะใช้ชีวิตด้วยกันในวันนี้” เจ้าบ่าวของงานบอกกับแขกในงานพร้อมกับใช้มืออีกข้างกุมมือเจ้าสาวของเขาเอาไว้
“งานแต่งงานของป๋าทั้งที ไม่คิดจะเชิญลูกชายเพียงคนเดียวอย่างผมมาร่วมงานเลยนะครับ คุณป๋าที่รัก”
เสียงประชดประชันของใครคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของเสียงที่เป็นชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีดำ จะปรากฏตัว ท่ามกลางวงล้อมคนมากมายเดินตรงดิ่งไปที่หน้าเวที พร้อมยืนกอดอกมองเจ้าบ่าวของงานด้วยสีหน้ายียวนกวนประสาท ทำให้แขกที่มาร่วมงานต่างพากันมองมาที่เขาเป็นตาเดียว พร้อมกับเสียงดังอื้ออึง จนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่อยู่ในงานถึงกับหน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน“ว่าไงล่ะครับป๋า เอาแต่ยืนอึ้งอยู่ได้ ผมมาร่วมงานทั้งที่ไม่ได้รับเชิญแบบนี้ ป๋าไม่คิดจะเชิญผมขึ้นเวทีหน่อยเหรอครับ”
เหมันต์ยังคงยืนกอดอกมองหน้าผู้เป็นพ่ออยู่ที่หน้าเวที จนทำให้อีกฝ่ายถึงกับมีอาการโกรธจัด แต่ก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ และควบคุมสติ เชิญให้ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาขึ้นไปบนเวที ที่เขาและเจ้าสาวของเขายืนอยู่“ทุกท่านครับ ผมขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะครับ นี่คือนายเหมันต์ ศิริพันธุ์วงษ์ ลูกชายเพียงคนเดียวของผม ตอนนี้จบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่ อเมริกาเรียบร้อยแล้วครับ”
เจ้าบ่าวภายในงานแนะนำลูกชายเพียงคนเดียวของเขาให้ทุกคนรู้จัก หลังจากที่ให้คนเชิญเจ้าตัวขึ้นไปบนเวที แขกทุกคนต่างพากันให้ความสนใจกับชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่บนเวที แทนที่จะโฟกัสคู่บ่าวสาว เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคุณธาดาส่งลูกชายของเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่ลูกชายของเขาอายุได้เพียง15 ปี หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียไปไม่นาน โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ลูกชายของเขาไปฟื้นฟูสภาพจิตใจ และไม่อยากให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ แล้วก็ผ่านมานานหลายปี และทุกคนก็แทบจะไม่ได้ข่าวคราวของเหมันต์อีกเลย แต่วันนี้เขากลับมาปรากฏตัวในงานแต่งงานครั้งที่สองของพ่อของเขา โดยที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน ทำให้วิภาถึงกับไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะแทนที่ทุกคนจะให้ความสนใจเธอ ที่เป็นเจ้าสาวในงาน แต่พอเหมันต์ปรากฏตัวขึ้น ก็ดึงความสนใจทุกคนจากเธอไปจนหมด แต่ ณ.เวลานี้ เธอจะแสดงท่าทีแบบนั้นออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ ปรบมือและยิ้มให้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยงอย่างเป็นมิตร*******************************************************************************************
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
ช่วงบ่ายของวันลมหนาว ก็ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาเยี่ยมตอนนี้นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งหลังจากที่ได้กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักแล้ว เขาก็รู้สึกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเ
ช่วงดึกของวัน เหมันต์กลับมาบ้านด้วยอาการเมามายแทบไม่ได้สติ และสาเหตุที่เขาต้องกินเหล้าจนเมามายขนาดนี้ ก็เพราะเขาโมโหภรรยาใหม่ของพ่อเขาที่กล้าหยิบของส่วนตัวของแม่เขามาใช้ แล้วก็เกือบจะได้จัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้สาสมแล้ว แต่ดันมีหนุ่มน้อยหน้าหวานมาขอร้องเขาเอาไว้เสียก่อน จนเขาต้องออกจากงานและมาดื่มเหล้าดับความโมโหจนเมามายแทบไม่ได้สติแบบนี้ คีรินเป็นคนขับรถมาส
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ลมหนาวก็ขออนุญาตคุณธาดาและแม่บุญธรรมของเขาย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเล็ก โดยให้เหตุผลว่า มันเงียบสงบ และสะดวกเวลาที่เขาจะไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหาร ซึ่งในตอนแรกวิภาก็มีอาการขัดใจที่อยู่ ๆลมหนาวก็จะย้ายลงไป แต่เพราะคุณธาดาออกปากอนุญาต เธอจึงขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห รอเวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง เธอก็จะจัดการลูกบุญธรรมของเธอให้หนัก ให้สมกับที่กล้าขัดใจเธอ
ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน “
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็กภายในโรงเรียนขึ้น ซึ่งในวันนี้มีทั้งบุคลากร ครูนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ภายในงานวันนี้มีทั้งการแสดงของเด็ก ๆแต่ละห้อง กิจกรรมตอบคำถามชิงของรางวัล และกิจกรรมตามซุ้มต่าง ๆที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ อีกหลายกิจกรรม เด็ก ๆ ทุกคนดูจะมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ๆ รวมถึงผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ก็ดูจะพอใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่น้อย
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน “
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ลมหนาวก็ขออนุญาตคุณธาดาและแม่บุญธรรมของเขาย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเล็ก โดยให้เหตุผลว่า มันเงียบสงบ และสะดวกเวลาที่เขาจะไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหาร ซึ่งในตอนแรกวิภาก็มีอาการขัดใจที่อยู่ ๆลมหนาวก็จะย้ายลงไป แต่เพราะคุณธาดาออกปากอนุญาต เธอจึงขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห รอเวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง เธอก็จะจัดการลูกบุญธรรมของเธอให้หนัก ให้สมกับที่กล้าขัดใจเธอ
ช่วงดึกของวัน เหมันต์กลับมาบ้านด้วยอาการเมามายแทบไม่ได้สติ และสาเหตุที่เขาต้องกินเหล้าจนเมามายขนาดนี้ ก็เพราะเขาโมโหภรรยาใหม่ของพ่อเขาที่กล้าหยิบของส่วนตัวของแม่เขามาใช้ แล้วก็เกือบจะได้จัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้สาสมแล้ว แต่ดันมีหนุ่มน้อยหน้าหวานมาขอร้องเขาเอาไว้เสียก่อน จนเขาต้องออกจากงานและมาดื่มเหล้าดับความโมโหจนเมามายแทบไม่ได้สติแบบนี้ คีรินเป็นคนขับรถมาส
ช่วงบ่ายของวันลมหนาว ก็ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาเยี่ยมตอนนี้นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งหลังจากที่ได้กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักแล้ว เขาก็รู้สึกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเ
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร