“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป
“แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก”
“ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด”
“ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง”
“อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ”
ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปรากฏตัว ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจลูกชายของเจ้าบ่าวในงาน แทนที่จะให้ความสนใจเจ้าสาวอย่างเธอ แล้วนี่เสร็จพิธีแล้ว แทนที่เธอจะได้มีเวลากับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี แต่กลับต้องมานั่งดูทั้งสองพ่อถูกเถียงกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครอีก“ใจเย็น ๆนะคะคุณธาดา คุณเหมันต์เขาก็คงแค่อยากมาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเราเท่านั้นเอง อย่าโกรธลูกเลยนะคะ แม่ขอบคุณคุณเหมนะคะ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเราในงานวันนี้”
วิภาพยายามปรับสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยปากห้ามสามีป้ายแดงของเธอ และหันไปยิ้มและพูดกับลูกเลี้ยงของเธออย่างเป็นมิตร“แม่เหรอ อย่าสำคัญตัวเองผิด ถึงเธอจะเป็นเมียของป๋า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีสิทธิ์เป็นแม่ของฉัน แม่ของฉันมีคนเดียว ชื่อแม่กานดา ที่เสียไปแล้ว กรุณาจำไว้ด้วย” เหมันต์บอกกับภรรยาใหม่ของพ่อเขาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่บ่งบอกให้รู้ถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ดิฉันขอโทษค่ะ คุณเหมันต์ ขอโทษนะคะคุณธาดา ที่วิภาสำคัญตัวเองผิดไป” วิภาเริ่มบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสารจากสามี
“อย่าคิดมากเลยนะคุณวิ ยังไงคุณก็คือภรรยาของผม เป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ อย่าเสียใจไปเลยนะ เจ้าเหมเขารักแม่ของเขามาก ให้เวลาเขาหน่อยแล้วกันนะครับ ส่วนแกก็พูดกับคุณวิเขาแรงไปนะ แกควรจะให้เกียรติเขาบ้าง อย่างน้อยก็ในฐานะเมียของป๋า” สุดท้ายผู้ชายก็แพ้น้ำตามารยาหญิงอย่างที่ดาราดังอย่างวิภาคิด เพราะคุณธาดารีบเข้าไปกอดปลอบภรรยาป้ายแดงที่กำลังบีบน้ำตาร้องไห้อยู่ ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขา
“แค่นี้ก็ถือว่าผมให้เกียรติมากแล้วครับป๋า ถ้าจะมากกว่านี้ ผมคงทำให้ไม่ได้หรอก”
“ค่ะ วิเข้าใจค่ะ วิจะอยู่ในที่ของตัวเอง จะไม่ไปยุ่งวุ่นวาย ทำให้คุณเหมันต์ต้องรำคาญอีกค่ะ” วิภายังคงแกล้งบีบน้ำตาต่อ ซึ่งก็สามารถเรียกคะแนนสงสารของสามีของเธอไปเต็ม ๆ
“เออ...แล้วนี่ น้องลมหนาวไปไหน ให้คนไปตามน้องลมหนาวที” คุณธาดาที่ยังกอดปลอบภรรยาป้ายแดงของเขาอยู่ พูดขึ้นหลังจากมองหาลูกบุญธรรมของภรรยาป้ายแดงของเขาไม่เจอ
ไม่นานหนุ่มน้อยหน้าใส ดวงตากลมโต แต่แฝงไปด้วยความหม่นเศร้าก็เดินเข้ามาภายในห้องโถง พร้อมกับยืนก้มหน้า ไม่กล้าสบตากับคนที่อยู่ก่อนหน้า“คนนี้น้องลมหนาวนะเจ้าเหม เป็นลูกบุญธรรมของคุณวิ รู้จักกันไว้นะ เพราะตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” คุณธาดาแนะนำให้คนทั้งคู่รู้จักกัน
“สวัสดีครับคุณเหมันต์” ลมหนาวยกมือไหว้ คนที่นั่งหน้าตึงอยู่บนโซฟา พร้อมกับก้มหน้าหลบ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง
ด้านเหมันต์เองก็ได้แต่มองคนมาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่ยกมือไหว้เขาเมื่อสักครู่ โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ห้องนอนของธาดาและวิภา อยู่ทางด้านปีกขวา ส่วนของลมหนาวถูกตัดให้อยู่ทางด้านปีกซ้ายบนตึกใหญ่ฝั่งเดียวกันกับเหมันต์ ทั้ง ๆที่ตอนแรกลมหนาวของไปอยู่เรือนหลังเล็กที่แยกออกไปจากตัวบ้าน แต่วิภาก็บังคับให้เขาย้ายข้าวของขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ เพราะเวลาเธอเรียกใช้งานจะได้สะดวก และลมหนาวเอง ก็ไม่สามารถขัดใจแม่บุญธรรมของเขาได้ จึงจำใจต้องย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ที่ห้องนั้นตามคำสั่งของเธอ และนั่นก็ยิ่งทำให้เหมันต์ไม่พอใจและไม่ชอบขี้หน้าสองแม่ลูกนี้มากขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะปกติแล้ว ปีกซ้ายของบ้านจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา แต่ตอนนี้ กลับมีลมหนาวเข้ามาใช้พื้นที่ด้วย ซึ่งในความรู้สึกของเขา เหมือนวิภากำลังจะเริ่มที่จะเข้ามาล้ำเส้นเขาอยู่ โดยใช้ลมหนาว ลูกบุญธรรมของตัวเองเป็นเครื่องมือ ในช่วงเช้าของวันถัดมา ลมหนาวตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพื่อลงไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารเช้า เพราะปกติแล้วตอนที่เขาอยู่ที่บ้านเดิม เขาก็จะทำหน้าที่นี้ประจำนั่นคือการตื่นขึ้นมาแต่เช้าแต่อาหารเช้าและเสื้อผ้าไว้ให้แม่บุญธรรมของเขา ก่อนที่จะกลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะออกไปทำงานประจำของตัวเอง นั่นคือการเป็นคุณครูอนุบาล ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง คุณธาดา คุณวิภา และเหมันต์ลงมาทางอาหารเช้าด้วยกันในเวลาต่อมา ซึ่งอาหารวันนี้ดูหน้าตาแปลกไปกว่าทุกครั้ง จนธาดาต้องเอ่ยปากถามแม่บ้านที่ทำอาหารให้เขาเป็นประจำ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ลมหนาวตื่นมาเตรียมอาหารให้ทุกคน เขาจึงมองหาแม่ครัว แต่ก็ไร้เงาของเจ้าตัว จนธาดาต้องเอ่ยปากถามแม่บ้านของเขา ซึ่งแม่บ้านก็รายงานว่า ลมหนาวออกไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ด้วยมอเตอร์ไซต์คู่ใจ ที่เขาขี่ไปทำงานเป็นประจำทุกวัน ทำให้ธาดาเกิดอาการเป็นห่วง เขาจึงตัดสินใจที่จะซื้อรถคันเล็ก ๆ ไว้ให้ลูกเลี้ยงของเขาเอาไว้ขับไปทำงาน วิภาถึงกับรีบขอบคุณสามีของเธอยกใหญ่ ที่รักและเมตตาลมหนาว ทั้งที่ลมหนาวก็ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ทั้งของเธอและธาดา เหมันต์ที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยถึงกับฟิวส์ขาด กระแทกช้อนลงจานอาหารเช้าโครมใหญ่ ก่อนจะลุกออกไปจากโต๊ะ โดยที่ไม่ได้แต่ต้องอะไรที่อยู่บนโต๊ะเลยแม้แต่น้อย มาอยู่แค่วันเดียว วิภาก็ออดอ้อนจนพ่อของเขาซื้อรถใหม่ให้ลูกบุญธรรมของตัวเอง ถ้าอยู่ต่อไปก็คงเป็นเครื่องเพชร หรือไม่ก็หุ้นบริษัทแน่ เขาต้องรีบจัดการอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะเสียทุกอย่างไปแม่ลูกจอมลวงโลกนี่*********************************************************************************************************
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
ช่วงบ่ายของวันลมหนาว ก็ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาเยี่ยมตอนนี้นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งหลังจากที่ได้กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักแล้ว เขาก็รู้สึกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเ
ช่วงดึกของวัน เหมันต์กลับมาบ้านด้วยอาการเมามายแทบไม่ได้สติ และสาเหตุที่เขาต้องกินเหล้าจนเมามายขนาดนี้ ก็เพราะเขาโมโหภรรยาใหม่ของพ่อเขาที่กล้าหยิบของส่วนตัวของแม่เขามาใช้ แล้วก็เกือบจะได้จัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้สาสมแล้ว แต่ดันมีหนุ่มน้อยหน้าหวานมาขอร้องเขาเอาไว้เสียก่อน จนเขาต้องออกจากงานและมาดื่มเหล้าดับความโมโหจนเมามายแทบไม่ได้สติแบบนี้ คีรินเป็นคนขับรถมาส
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ลมหนาวก็ขออนุญาตคุณธาดาและแม่บุญธรรมของเขาย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเล็ก โดยให้เหตุผลว่า มันเงียบสงบ และสะดวกเวลาที่เขาจะไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหาร ซึ่งในตอนแรกวิภาก็มีอาการขัดใจที่อยู่ ๆลมหนาวก็จะย้ายลงไป แต่เพราะคุณธาดาออกปากอนุญาต เธอจึงขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห รอเวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง เธอก็จะจัดการลูกบุญธรรมของเธอให้หนัก ให้สมกับที่กล้าขัดใจเธอ
ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน “
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็กภายในโรงเรียนขึ้น ซึ่งในวันนี้มีทั้งบุคลากร ครูนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ภายในงานวันนี้มีทั้งการแสดงของเด็ก ๆแต่ละห้อง กิจกรรมตอบคำถามชิงของรางวัล และกิจกรรมตามซุ้มต่าง ๆที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ อีกหลายกิจกรรม เด็ก ๆ ทุกคนดูจะมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ๆ รวมถึงผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ก็ดูจะพอใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่น้อย
วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็กภายในโรงเรียนขึ้น ซึ่งในวันนี้มีทั้งบุคลากร ครูนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ภายในงานวันนี้มีทั้งการแสดงของเด็ก ๆแต่ละห้อง กิจกรรมตอบคำถามชิงของรางวัล และกิจกรรมตามซุ้มต่าง ๆที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ อีกหลายกิจกรรม เด็ก ๆ ทุกคนดูจะมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ๆ รวมถึงผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ก็ดูจะพอใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่น้อย
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน “
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ลมหนาวก็ขออนุญาตคุณธาดาและแม่บุญธรรมของเขาย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเล็ก โดยให้เหตุผลว่า มันเงียบสงบ และสะดวกเวลาที่เขาจะไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหาร ซึ่งในตอนแรกวิภาก็มีอาการขัดใจที่อยู่ ๆลมหนาวก็จะย้ายลงไป แต่เพราะคุณธาดาออกปากอนุญาต เธอจึงขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห รอเวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง เธอก็จะจัดการลูกบุญธรรมของเธอให้หนัก ให้สมกับที่กล้าขัดใจเธอ
ช่วงดึกของวัน เหมันต์กลับมาบ้านด้วยอาการเมามายแทบไม่ได้สติ และสาเหตุที่เขาต้องกินเหล้าจนเมามายขนาดนี้ ก็เพราะเขาโมโหภรรยาใหม่ของพ่อเขาที่กล้าหยิบของส่วนตัวของแม่เขามาใช้ แล้วก็เกือบจะได้จัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้สาสมแล้ว แต่ดันมีหนุ่มน้อยหน้าหวานมาขอร้องเขาเอาไว้เสียก่อน จนเขาต้องออกจากงานและมาดื่มเหล้าดับความโมโหจนเมามายแทบไม่ได้สติแบบนี้ คีรินเป็นคนขับรถมาส
ช่วงบ่ายของวันลมหนาว ก็ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาเยี่ยมตอนนี้นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งหลังจากที่ได้กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักแล้ว เขาก็รู้สึกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเ
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร