ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน
“
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็กภายในโรงเรียนขึ้น ซึ่งในวันนี้มีทั้งบุคลากร ครูนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ภายในงานวันนี้มีทั้งการแสดงของเด็ก ๆแต่ละห้อง กิจกรรมตอบคำถามชิงของรางวัล และกิจกรรมตามซุ้มต่าง ๆที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ อีกหลายกิจกรรม เด็ก ๆ ทุกคนดูจะมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ๆ รวมถึงผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ก็ดูจะพอใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่น้อย
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างเหมันต์ ศิริพันธุ์วงษ์ ชายหนุ่มที่จัดว่าเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาว ตาคม จมูกโด่ง แต่มักจะเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดค่อยจา หรือยุ่งกับใคร เขาเป็นหนุ่มนักเรียนนอกที่พึ่งเรียนจบและกลับมาช่วยที่บ้านดูแลธุรกิจ หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต เหมันต์ก็ถูกส่งให้ไปเรียนเมืองนอก ทั้ง ๆที่เขามีอายุเพียงแค่ 15 ปี เขาอาศัยอยู่กับญาติที่อเมริกานานหลายปี จนเขาเรียนจบปริญญาโท และทราบข่าวว่าพ่อของเขาแต่งงานใหม่ และพาผู้หญิงคนนั้นกับลูกชายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน แทนที่แม่ของเขา ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก จึงเดินทางกลับมา เพื่อปกป้องทุกอย่างที่มันควรจะเป็นของเขาและแม่ ลมหนาว อัครนิกุล หนุ่มน้อยหน้าใส รูปร่างผอมบาง แต่ก็สมส่วนตามมาตรฐานชายไทยทั่วไป ผิวขาวเนียน ดวงตากลมโต และมีแววตาหม่นเศร้าอยู่ในนั้น เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือรอบข้าง เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้า พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ๆ และได้รับการอุปการะจาก คุณวิภา อัครนิกุล รับมาเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งภายนอกก็เหมือนว่าเธอจะดูแล ลมหนาวเป็นอย่างดี ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรี มีเสื้อผ้าข้าวของดี ๆให้ใช้ แต่แท้ที่จริงแล้ว
ข่าวการแต่งงานระหว่างคุณธาดา ศิริพันธุ์วงษ์ เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ กับคุณวิภา อัครนิกุล นักแสดงรุ่นเก่ามากความสามารถ ถูกพูดถึงการเป็นวงกว้าง และมีการประโคมข่าวกันอย่างใหญ่โต ทั้งทางหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจ หรือแม้แต่หน้าบันเทิง รวมไปถึงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ต่างก็พากันประโคมข่าวเรื่องนี้ เพราะใครต่อใครต่างก็รู้ว่า คุณธาดาที่รวยอันดับต้น ๆของประเทศ และไม่ว่าเขาจะหยิบจับทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จไปซะทุกเรื่อง ซึ่งกำหนดการจะมีอีก 2เดือนข้างหน้า คุณธาดา ศิริพันธุ์วงษ์ เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว และภรรยาก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมันต์ ศิริพันธุ์วงษ์ ที่ถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศ ตั้งแต่อายุ15 และตอนนี้ก็เรียนจบปริญญาโทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เห็นข่าวของพ่อแล้วใช่ไหม เหม” เอมมี่ป้าของเหมันต์ถามหลานชายของเธอด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เดินเข้าภายในห้องนอนของเขา และเห็นเจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้ามองโทรศัพท์ อ่านข่าวของผู้เป็นพ่อที่สื่อกำลังประโคมข่าวอยู่ “ครับ” เหมันต์ตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะเงยหน้าออกจากโทรศัพท์ แ
ตอนนี้หนุ่มหล่อทั้งสองคนทั้งเหมันต์และคีริน ได้เดินทางมาถึงที่เมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาเดินทางมากันอย่างเงียบ ๆโดยได้รับการช่วยเหลือ จากคุณพินิจ คุณตาแท้ ๆ ของเหมันต์และคีริน ที่ส่งคนไปรับพวกเขาถึงสนามบิน “ไม่ได้กลับมาซะนาน อะไรต่อมิอะไรเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ว่าไหมคีย์” ชายหนุ่มสุดหล่อที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้ารูป สวมทับด้วยเสื้อโค้ทหนัง และแว่นตาสีดำ พูดขึ้นทันทีที่พวกเขาเดินทางมาถึง “ผมเองก็แทบจำอะไรไม่ได้เหมือนกันครับพี่เหม เพราะผมไปอยู่ที่นู่นพร้อมป๋ากับแม่ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ” ชายหนุ่มสุดหล่อ ที่แต่งตัวสบาย ๆคล้ายกันพูดขึ้น ทั้งสองหนุ่มยืนคุยกันอยู่สักพัก ก็มีชายหนุ่มวัยประมาณ สามสิบกว่าเดินเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับบอกว่าคุณตาพินิจส่งให้เขามารับคนทั้งคู่ พวกเขาทั้งหมดจึงได้เดินทางออกจากสนามบินออกไปด้วยกัน เวลาผ่านไปไม่นานรถหรูสีดำสนิท ก็ขับเข้ามาจอด ณ.บริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะมีชายหนุ่มที่พึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศลงมาจากรถ แม่บ้านที่ยืนรออยู่หน้าบ้านออกมาต้อนรับ พร้อมกับช่วยพวกเขาขนกระเป๋าเข้าไปด้านใ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันเด็กภายในโรงเรียนขึ้น ซึ่งในวันนี้มีทั้งบุคลากร ครูนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย ภายในงานวันนี้มีทั้งการแสดงของเด็ก ๆแต่ละห้อง กิจกรรมตอบคำถามชิงของรางวัล และกิจกรรมตามซุ้มต่าง ๆที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ อีกหลายกิจกรรม เด็ก ๆ ทุกคนดูจะมีความสุขกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ๆ รวมถึงผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ก็ดูจะพอใจกับกิจกรรมที่จัดขึ้นไม่น้อย
“แหม...ช่วงนี้หายไปนานเลยนะครับคุณวิภาสุดสวย ผมนึกว่าคุณจะไม่มาที่บ่อนเล็ก ๆของผมซะแล้ว” เสี่ยชัต หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อนกาสิโน เอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีสุดสวยของเขาอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องมาทำเป็
หลังจากที่คุณธาดาและเหมันต์เดินทางกลับมาถึงบ้าน คุณวิภาก็รีบแต่งเนื้อแต่ตัวสวยจัดเต็มไว้รอรับสามีพร้อมกับสั่งให้จัดเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้ต้อนรับ เมื่อคืนเธอเลือกที่จะไม่ไปเข้าบ่อน เพราะกลัวว่าเธอจะกลับมาไม่ทันต้อนรับสามีของเธอในช่วงเช้า ส่วนลมหนาวที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าไปที่เรือนหลังเล็ก เพื่อเตรียมเอกสารไว้สอนเด็กนักเรียน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องไปทำงาน “
ช่วงนี้คุณธาดาต้องเดินทางไปคุยงานที่ต่างประเทศนานหลายวัน เป็นโอกาสทองที่วิภาจะได้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเข้าบ่อน เหมือนอย่างที่เธอเคยไป หลังจากที่เธอพยายามทำตัวดี เพื่อให้สามีของเธอเชื่อใจและไว้ใจมานาน ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้ว คุณธาดาก็อยากให้เธอไปด้วย เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา แต่เธอก็ให้เหตุผลอ้างว่า มีงานละครที่ต้องคุยรายละเอียดจึงทำให้เธอไปด้วยไม่ได้ คุณธาดาจึงเดินทางไปกับเหมันต์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาแค่สองคน “
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น ลมหนาวก็ขออนุญาตคุณธาดาและแม่บุญธรรมของเขาย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเล็ก โดยให้เหตุผลว่า มันเงียบสงบ และสะดวกเวลาที่เขาจะไปช่วยแม่บ้านเตรียมอาหาร ซึ่งในตอนแรกวิภาก็มีอาการขัดใจที่อยู่ ๆลมหนาวก็จะย้ายลงไป แต่เพราะคุณธาดาออกปากอนุญาต เธอจึงขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห รอเวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง เธอก็จะจัดการลูกบุญธรรมของเธอให้หนัก ให้สมกับที่กล้าขัดใจเธอ
ช่วงดึกของวัน เหมันต์กลับมาบ้านด้วยอาการเมามายแทบไม่ได้สติ และสาเหตุที่เขาต้องกินเหล้าจนเมามายขนาดนี้ ก็เพราะเขาโมโหภรรยาใหม่ของพ่อเขาที่กล้าหยิบของส่วนตัวของแม่เขามาใช้ แล้วก็เกือบจะได้จัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้สาสมแล้ว แต่ดันมีหนุ่มน้อยหน้าหวานมาขอร้องเขาเอาไว้เสียก่อน จนเขาต้องออกจากงานและมาดื่มเหล้าดับความโมโหจนเมามายแทบไม่ได้สติแบบนี้ คีรินเป็นคนขับรถมาส
ช่วงบ่ายของวันลมหนาว ก็ได้รับแจ้งจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาเยี่ยมตอนนี้นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งหลังจากที่ได้กินข้าวกินยาแล้วก็นอนพักแล้ว เขาก็รู้สึกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นจัดการตัวเ
ในที่สุดเหมันต์ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานของพ่อของเขาที่บริษัท โดยมีคีรินเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งข่าวการกลับมาสืบทอดกิจการในฐานะลูกชายเพียงคนเดียวของประธานบริษัทของเหมันต์ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากในวงการ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าธาดา ศิริพันธุ์วงษ์
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร