หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลและได้พักฟื้นจนหายดีแล้ว เหมันต์ก็มาหาลมหนาวที่ร้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ เขาทำอาหารมาให้อีกฝ่ายด้วย พร้อมกับไปช่วยเปิดร้านจัดร้าน หยิบนั่นยกนี่ทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและปริปากบ่นเลยสักครั้ง
“ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เข้ามาในร้านได้ พี่เ
หลังจากที่ได้คุยกับคุณยายในวันนั้น ลมหนาวก็นำเรื่องนี้กลับมาคิด เขาจึงยอมกินอาหารที่เหมันต์ทำมาให้ และอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามาช่วยงานในร้าน แต่ก็ยังคงเว้นระยะห่าง ระหว่างกันเช่นเดิม ซึ่งทำให้เหมันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ ที่ในที่สุด ลมหนาวก็เริ่มที่ยอมเปิดใจมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลมหนาวก็ย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูล ตระกูลศิริพันธุ์วงษ์ เหมือนเดิม พร้อมกับรับน้องนิวเด็กชายตัวน้อยมาอยู่ด้วย ส่วนร้านขนมที่อยู่ปากช่อง เขาก็ยกให้แสงดาวและแสงเดือนดูแลต่อ เพื่อเป็นการตอบแทน ที่ครอบครัวของพวกเธอดูแลเขามาอย่างดี ตลอดช่วงเวลาที่เขาอาศัยอยู่ที่นั่น
และแล้วงานแต่งงานระหว่างเหมันต์และลมหนาวก็ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราใหญ่โต ภายในโรงแรมระดับห้าดาว ภายในเครือของบริษัทของตระกูล ศิริพันธุ์วงษ์ แขกภายในงาน พร้อมใจกันใส่ชุดสีขาวตามตรีมงานที่ทั้งคู่ได้แจ้งเอาไว้ ดอกไม้สีขาวนับพันดอก ถูกนำมาจัดเป็นซุ้มเล็กซุ้มใหญ่ ภายในงานได้อย่างลงตัว คุณยาย พร้อมกับหลานสาวคนสวยทั้งแสงเดือนและแสงดาวก็ได้รับเกียรติให้เข้ามาร่วมงานครั
หลังจากงานแต่งของเหมันต์และลมหนาววันนั้น คีรินกับแสงดาว ก็ได้สานสัมพันธ์กันต่อ โดยชายหนุ่มมักจะเดินทางไปหาหญิงสาวที่ปากช่องในทุกครั้งที่มีโอกาส หรือในบางครั้ง เขาก็จะไปรับเธอมาที่บ้านของคุณตาพินิจ และพาเธอไปพบพ่อกับแม่ของเขาที่ต่างประเทศ ในช่วงครบรอบที่คบกันได้หนึ่งปี แล้วก็ไปด้วยกันทุก ๆปี จนตอนนี้พวกเขาคบกันจะเข้าปีที่ สามแล้ว
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างเหมันต์ ศิริพันธุ์วงษ์ ชายหนุ่มที่จัดว่าเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาว ตาคม จมูกโด่ง แต่มักจะเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดค่อยจา หรือยุ่งกับใคร เขาเป็นหนุ่มนักเรียนนอกที่พึ่งเรียนจบและกลับมาช่วยที่บ้านดูแลธุรกิจ หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต เหมันต์ก็ถูกส่งให้ไปเรียนเมืองนอก ทั้ง ๆที่เขามีอายุเพียงแค่ 15 ปี เขาอาศัยอยู่กับญาติที่อเมริกานานหลายปี จนเขาเรียนจบปริญญาโท และทราบข่าวว่าพ่อของเขาแต่งงานใหม่ และพาผู้หญิงคนนั้นกับลูกชายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้าน แทนที่แม่ของเขา ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก จึงเดินทางกลับมา เพื่อปกป้องทุกอย่างที่มันควรจะเป็นของเขาและแม่ ลมหนาว อัครนิกุล หนุ่มน้อยหน้าใส รูปร่างผอมบาง แต่ก็สมส่วนตามมาตรฐานชายไทยทั่วไป ผิวขาวเนียน ดวงตากลมโต และมีแววตาหม่นเศร้าอยู่ในนั้น เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือรอบข้าง เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้า พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ๆ และได้รับการอุปการะจาก คุณวิภา อัครนิกุล รับมาเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งภายนอกก็เหมือนว่าเธอจะดูแล ลมหนาวเป็นอย่างดี ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรี มีเสื้อผ้าข้าวของดี ๆให้ใช้ แต่แท้ที่จริงแล้ว
ข่าวการแต่งงานระหว่างคุณธาดา ศิริพันธุ์วงษ์ เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ กับคุณวิภา อัครนิกุล นักแสดงรุ่นเก่ามากความสามารถ ถูกพูดถึงการเป็นวงกว้าง และมีการประโคมข่าวกันอย่างใหญ่โต ทั้งทางหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจ หรือแม้แต่หน้าบันเทิง รวมไปถึงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ต่างก็พากันประโคมข่าวเรื่องนี้ เพราะใครต่อใครต่างก็รู้ว่า คุณธาดาที่รวยอันดับต้น ๆของประเทศ และไม่ว่าเขาจะหยิบจับทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จไปซะทุกเรื่อง ซึ่งกำหนดการจะมีอีก 2เดือนข้างหน้า คุณธาดา ศิริพันธุ์วงษ์ เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว และภรรยาก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมันต์ ศิริพันธุ์วงษ์ ที่ถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศ ตั้งแต่อายุ15 และตอนนี้ก็เรียนจบปริญญาโทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เห็นข่าวของพ่อแล้วใช่ไหม เหม” เอมมี่ป้าของเหมันต์ถามหลานชายของเธอด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เดินเข้าภายในห้องนอนของเขา และเห็นเจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้ามองโทรศัพท์ อ่านข่าวของผู้เป็นพ่อที่สื่อกำลังประโคมข่าวอยู่ “ครับ” เหมันต์ตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะเงยหน้าออกจากโทรศัพท์ แ
ตอนนี้หนุ่มหล่อทั้งสองคนทั้งเหมันต์และคีริน ได้เดินทางมาถึงที่เมืองไทย บ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาเดินทางมากันอย่างเงียบ ๆโดยได้รับการช่วยเหลือ จากคุณพินิจ คุณตาแท้ ๆ ของเหมันต์และคีริน ที่ส่งคนไปรับพวกเขาถึงสนามบิน “ไม่ได้กลับมาซะนาน อะไรต่อมิอะไรเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ว่าไหมคีย์” ชายหนุ่มสุดหล่อที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้ารูป สวมทับด้วยเสื้อโค้ทหนัง และแว่นตาสีดำ พูดขึ้นทันทีที่พวกเขาเดินทางมาถึง “ผมเองก็แทบจำอะไรไม่ได้เหมือนกันครับพี่เหม เพราะผมไปอยู่ที่นู่นพร้อมป๋ากับแม่ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ” ชายหนุ่มสุดหล่อ ที่แต่งตัวสบาย ๆคล้ายกันพูดขึ้น ทั้งสองหนุ่มยืนคุยกันอยู่สักพัก ก็มีชายหนุ่มวัยประมาณ สามสิบกว่าเดินเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับบอกว่าคุณตาพินิจส่งให้เขามารับคนทั้งคู่ พวกเขาทั้งหมดจึงได้เดินทางออกจากสนามบินออกไปด้วยกัน เวลาผ่านไปไม่นานรถหรูสีดำสนิท ก็ขับเข้ามาจอด ณ.บริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะมีชายหนุ่มที่พึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศลงมาจากรถ แม่บ้านที่ยืนรออยู่หน้าบ้านออกมาต้อนรับ พร้อมกับช่วยพวกเขาขนกระเป๋าเข้าไปด้านใ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอก แล้วที่แกทำแบบนี้ในงาน แกต้องการจะฉีกหน้าป๋าหรือไง เจ้าเหม” คุณธาดาต่อว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเขาทันที ที่ทั้งหมดกลับถึงบ้าน หลังจากงานงานแต่งงานจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วถ้าผมบอกป๋าว่าผมจะกลับมา แล้วป๋าจะให้ผมกลับมาไหมล่ะครับ” เหมันต์ยังคงยังพาดขาไขว่ห้าง ที่โซฟากลางห้องโถงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ทุกร้อน พร้อมกับตอบกลับพ่อของเขาออกไป “แล้วฉันมีเหตุผลอะไร ถึงจะไม่ให้แกกลับมาล่ะ ในเมื่อแกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน และที่นี่ก็บ้านของแก” “ป๋าแน่ใจเหรอครับ แต่เท่าที่ผมจำได้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมไปอยู่นู่น ป๋าไปหาผมนับครั้งได้ แล้วเวลาผมจะกลับไทย ป๋าก็มักจะบ่ายเบี่ยง หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างตลอด” “ก็ฉันงานยุ่ง ไปเยี่ยมแกบ่อย ๆไม่ได้แกก็รู้ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว แล้วที่ไม่ให้แกกลับมา เพราะฉันกลัวว่าแกกลับมาแล้วจะทำให้แกคิดถึงแม่แกมากกว่าเดิมไง” “อย่างนั้นเหรอครับ นี่ป๋าจะบอกว่าที่ป๋าทำไปทั้งหมด ป๋าทำเพื่อผมสินะครับ” ทั้งสองพ่อลูกยังคงเถียงกันอย่างไม่ลดละ ทำให้วิภาที่นั่งฟังอยู่เริ่มจะหมดความอดทน ทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอแท้ ๆ แต่พอเหมันต์ปร
หลังจากงานแต่งของเหมันต์และลมหนาววันนั้น คีรินกับแสงดาว ก็ได้สานสัมพันธ์กันต่อ โดยชายหนุ่มมักจะเดินทางไปหาหญิงสาวที่ปากช่องในทุกครั้งที่มีโอกาส หรือในบางครั้ง เขาก็จะไปรับเธอมาที่บ้านของคุณตาพินิจ และพาเธอไปพบพ่อกับแม่ของเขาที่ต่างประเทศ ในช่วงครบรอบที่คบกันได้หนึ่งปี แล้วก็ไปด้วยกันทุก ๆปี จนตอนนี้พวกเขาคบกันจะเข้าปีที่ สามแล้ว
และแล้วงานแต่งงานระหว่างเหมันต์และลมหนาวก็ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราใหญ่โต ภายในโรงแรมระดับห้าดาว ภายในเครือของบริษัทของตระกูล ศิริพันธุ์วงษ์ แขกภายในงาน พร้อมใจกันใส่ชุดสีขาวตามตรีมงานที่ทั้งคู่ได้แจ้งเอาไว้ ดอกไม้สีขาวนับพันดอก ถูกนำมาจัดเป็นซุ้มเล็กซุ้มใหญ่ ภายในงานได้อย่างลงตัว คุณยาย พร้อมกับหลานสาวคนสวยทั้งแสงเดือนและแสงดาวก็ได้รับเกียรติให้เข้ามาร่วมงานครั
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลมหนาวก็ย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูล ตระกูลศิริพันธุ์วงษ์ เหมือนเดิม พร้อมกับรับน้องนิวเด็กชายตัวน้อยมาอยู่ด้วย ส่วนร้านขนมที่อยู่ปากช่อง เขาก็ยกให้แสงดาวและแสงเดือนดูแลต่อ เพื่อเป็นการตอบแทน ที่ครอบครัวของพวกเธอดูแลเขามาอย่างดี ตลอดช่วงเวลาที่เขาอาศัยอยู่ที่นั่น
หลังจากที่ได้คุยกับคุณยายในวันนั้น ลมหนาวก็นำเรื่องนี้กลับมาคิด เขาจึงยอมกินอาหารที่เหมันต์ทำมาให้ และอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามาช่วยงานในร้าน แต่ก็ยังคงเว้นระยะห่าง ระหว่างกันเช่นเดิม ซึ่งทำให้เหมันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ ที่ในที่สุด ลมหนาวก็เริ่มที่ยอมเปิดใจมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลและได้พักฟื้นจนหายดีแล้ว เหมันต์ก็มาหาลมหนาวที่ร้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ เขาทำอาหารมาให้อีกฝ่ายด้วย พร้อมกับไปช่วยเปิดร้านจัดร้าน หยิบนั่นยกนี่ทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและปริปากบ่นเลยสักครั้ง “ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เข้ามาในร้านได้ พี่เ
ช่วงบ่ายของวัน ที่อากาศค่อนข้างจะร้อนจัด แต่เหมันต์ก็ยังคงนั่งรออยู่ที่หน้าร้าน ตรงที่เดิมตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด จนถึงตอนนี้ก็น่าจะหลายชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะลุกไปไหน ยังคงนั่งชะเง้อคอคอย เพื่อหวังว่าคนภายในร้านจะใจอ่อน ยอมออกมาเจอเขาบ้างสักครั้ง รถคันหรูสีดำสนิท เข้ามาจอดที่หน้าร้านขนมเล็ก ๆ
เหมันต์ขับรถมาที่ร้านของลมหนาว เพื่อนั่งมองสุดที่รักของเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากวันนี้ไป เขาพยายามจะตัดใจ และปล่อยให้ลมหนาวได้ใช้ชีวิตกับลูกและเมียของตัวเองอย่างมีความสุข และเขาจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวาย ให้ลมหนาวได้รำคาญใจและเสียความรู้สึกอีกเลย “ขนมสูตรใหม่ที่พี่หนาวทำ
เหมันต์ขับรถมาถึงยังร้านขนมเล็ก ๆ ที่อยู่ในตัวอำเภอปากช่อง ของจังหวัดนครราชสีมา ตามที่คนของคุณตาของเขาบอกมา มันเป็นร้านขนมเล็ก ๆสีขาวสะอาดตา ตกแต่งได้อย่างน่ารักลงตัว ตามสไตล์เจ้าของร้าน และสิ่งที่ย้ำชัดว่าเหมันต์มาไม่ผิดที่ ก็คือชื่อร้าน “ขนมลมหนาว” ซึ่งชื่อนี้ก็คงจะมาจากชื่อของเจ้าของร้านที่แสนจะน่ารักนั่นเอง
หนุ่มน้อยหน้าหวาน ที่ตอนนี้ย้ายตัวเองมาอยู่ที่ อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับเปิดร้านขนมเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ลมหนาวดูมีความสุข และยิ้มได้มากขึ้น ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เพราะเขาได้เจอเพื่อนใหม่หลาย ๆ คน และทุกคนดูเป็นมิตร แล้วก็ใจดี ให้ความช่วยเหลือกับเขาตลอด