ในขณะนั้นเองเด็ก ๆ ก็หยุดเดินแล้วถามเธอว่า “คุณพยาบาล คุณพ่อของเราอยู่ไหน?”เจย์ที่กำลังนั่งอยู่ในสวนแก้วที่ชั้นหนึ่ง เมื่อเขามองผ่านกระจกใส เขาเห็นเด็ก ๆ มองหาเขาทุกหนทุกแห่ง แต่เขาไม่สามารถวิ่งออกไปพบเด็ก ๆ ได้ในทันทีดวงตาของเขาจับจ้องไปที่แองเจลีนซึ่งยืนอยู่กลางห้องอย่างพูดไม่ออก เขาสัมผัสได้ถึงความสุขและความตึงเครียดของเธอแม้มองดูจากระยะไกลก็ตามเด็กทั้งสามรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนและจากนั้นก็ลงบันไดมา แต่พวกเขาไม่เห็นพ่อของพวกเขาเลย ในเวลานี้ พวกเขาทั้งหมดล้อมรอบแองเจลีน “คุณน้าครับ คุณพ่อของเราอยู่ไหน?”แองเจลีนมองดูเด็ก ๆ และเห็นว่าพวกเขาดูสูงขึ้นมาก ร่างกายของพวกเขาบางลง ใบหน้าของพวกเขาผอมลง และพวกเขาก็ทิ้งความน่ารักแบบเด็ก ๆ ไว้เบื้องหลังไปหมดแล้ว เธอไม่สามารถหยุดน้ำตาในดวงตาของเธอได้น่าเสียดายที่เธอพลาดการเติบโตของลูก ๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา“คุณน้าครับ คุณร้องไห้ทำไม? เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ?” เซ็ตตี้น้อยก็เริ่มร้องไห้ดวงตาของร็อบบี้น้อยและเจนส์เปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งคู่แองเจลีนรีบปาดน้ำตาและปลอบพวกเขาโดยพูดว่า “อย่าร้องนะ อย่าร้อง คุณพ่อสบายดี เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาไม่สะดวกที
เจย์เข็นรถเข็นออกมาจากห้องกระจกแองเจลีนรีบสวมหน้ากากกลับทันที เจนสันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของแองเจลีน“คุณพ่อ” ร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้น้อยวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาเห็นว่าพ่อของพวกเขามีปัญหาในการเคลื่อนไหว ดวงตาของพวกเขาก็แดงและเริ่มมีน้ำตาไหลแองเจลีนปลอบเด็ก ๆ ว่า “อย่าเศร้าไปเลยนะ เดี๋ยวขาของคุณพ่อก็จะหายดี”เจย์จ้องไปที่แองเจลีน โดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนั้น เขาจึงเปิดเผยความจริงราวกับว่าเขาสามารถข่มอารมณ์ตัวเองได้ “มันไม่หายหรอก หมอบอกขาของพ่อจะเป็นแบบนี้ตลอดไป”แองเจลีนกล่าวว่า “จะมีปาฏิหาริย์”“จะไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทั้งนั้น” เจย์พูดอย่างไม่ยอมแพ้แองเจลีนตกใจเล็กน้อย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงพูดต่อต้านเธอ? ทำไมเขาถึงต้องการทำให้เด็ก ๆร้องไห้?“มันไม่สำคัญว่าขาของเขาจะดีขึ้นหรือไม่ พ่อของพวกคุณรังแกคนอื่นด้วยการใช้สมองของเขา ไม่ใช่ใช้ขา” แองเจลีนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่โค้งขึ้นสีหน้าของเจย์เริ่มมืดลงการแสดงออกของเด็กยิ่งแย่มากขึ้น“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต ฉันสามารถดูแลคุณได้ตลอดชีวิต” เธอกล่า
แองเจลีนเดินถอยกลับมาและโพล่งออกไปว่า “ฉันขอขึ้นเงินเดือนได้ไหม?”เมื่อได้ยินแบบนั้น หลังของเจย์แข็งทื่อเล็กน้อยและดวงตาของเขาแสดงออกอย่างเย็นชาสองปีที่เธอหนีจากไป ตอนนี้เขาให้โอกาสเธอได้อยู่ร่วมกับเด็ก ๆ เขาเคยเข้าหาเธออย่างช้า ๆ แต่เธอกลับต้องการไกลห่างผู้หญิงคนนี้ได้ทิ้งศักดิ์ศรีและศีลธรรมของเธอไปไกลถึงเกาะชวาเลยหรือไง?“ทำหน้าที่นี้ให้ดี แล้วค่อยมาคุยกับฉันเรื่องขึ้นเงินเดือน”“โอ้”แองเจลีนรู้สึกดีใจที่สุด เธอหันกลับไปและกระโดดขึ้นไปชั้นบน เมื่อขึ้นมาที่ห้องใต้หลังคาพื้นที่บริเวณนั้นเริ่มสั่นจากการกระโดดของเธอ“แผ่นดินไหวเหรอเนี่ย?” เด็ก ๆ เปิดประตูห้องเรียนและวิ่งออกไปพวกเขาเห็นแองเจลีนกระโดดเข้าหาพวกเขาเหมือนกระต่าย“สวัสดี!” แองเจลีนโบกมือทักทายที่ประตู เธอมีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นครูติวเตอร์สอนการบ้านของพวกหนูนะ”ร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้น้อยตกตะลึง“คุณครูอะไรก็ได้ คุณนะเหรอ…แน่ใจแล้วนะ … คุณจะช่วยสอนพวกเราได้จริง ๆ เหรอ?”แองเจลีนพยักหน้า “แน่นอนสิ ฉันทำได้ดีมากด้วยกับการทำการบ้านของฉันตอนที่ฉันยังเด็ก”ร็อบบี้น้อยและเซ็ตต
เซ็ตตี้น้อยวิ่งกลับขึ้นไปชั้นบนและยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องเรียนของเธอ เธอแสดงด้วยท่าทีที่เอามือเล็ก ๆ ของเธอจับไปที่สะโพกขณะมองแองเจลีนอย่างมีจุดประสงค์แรงกล้า “คุณพ่อของหนุบอกให้คุณลงไป เขาต้องการคุยกับคุณ”แองเจลีนกลืนน้ำลาย “คุยเรื่องอะไร?”การแสดงออกที่เย่อหยิ่งของเซ็ตตี้น้อยบอกเธอว่าเจย์จะทำให้เธอเจอเรื่องยุ่งยากอย่างแน่นอนแองเจลีนลุกขึ้นยืนด้วยความรำคาญใจและเดินลงบันไดไปอย่างเศร้าใจเซ็ตตี้น้อยเอามือเช็ดน้ำตาของเธอออกจากดวงตาทันทีและอวดร็อบบี้น้อยอย่างภาคภูมิใจ “ลองเดาดูสิ คุณน้าอะไรก็ได้คนนี้ จะอยู่ได้กี่วัน?”ร็อบบี้น้อยกล่าวว่า “ดูจากกรณีก่อนหน้านี้แล้ว ฉันขอเดาว่าสามวัน”ในส่วนของเจนสันกำลังหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือราวกับว่าเขาไม่สนใจกับเกมคาดเดานี้“เจนส์ เดามาเร็ว!” เซ็ตตี้น้อยเร่งเร้าเจนสันเงยหน้าขึ้นมองเธอ “เธอคิดไว้ว่ากี่วัน?”เซ็ตตี้น้อยยกนิ้วขึ้น “ฉันอยากให้เธอเก็บของแล้วออกไปพรุ่งนี้เลย”เจนสันส่ายหัว “ฉันเดาว่าเธอจะไม่ออกไป”ทั้งร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้น้อยไม่พอใจอย่างมากกับคำตอบของเจนสัน“เจนส์ นายลืมแม่ของเราไปแล้วเหรอ? เพราะผู้หญิงคนนี้สวยและมีบุคลิกแบบ
“เจนสัน ฉันเกลียดนาย” นี่คือเสียงที่ขุ่นเคืองของร็อบบี้น้อย“เจนสัน ฉันก็เกลียดนายเหมือนกัน” นี่คือเสียงโกรธของเซ็ตตี้น้อยเจนสันตอบอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่อยากคุยกับพวกคนโง่”ใบหน้าที่หล่อเหลาของเจย์เปลี่ยนเป็นมืดมนทันทีแองเจลีนวิ่งออกไปด้วยความกลัวและพบเด็กน้อยสามคนในสวน“พวกหนูกำลังทำอะไรกันอยู่?”“ไม่เห็นเหรอไง? เรากำลังทะเลาะกันอยู่” เซ็ตตี้น้อยพูดกับแองเจลีนอย่างฉุนเฉียว“ทะเลาะกันทำไม?” แองเจลีนถาม“เพราะคุณ” ดวงตาของเซ็ตตี้น้อยเป็นสีแดงและความรู้สึกผิดของแองเจลีนก็ปรากฏขึ้นในทันที “เราหวังว่าคุณจะออกไปจากที่นี่ แต่เจนสันไม่เห็นด้วยกับเรา”แองเจลีนอ้าปากเล็กน้อยด้วยความตกใจ“ฉันเป็นผู้ดูแลพ่อของพวกหนูนะ และยังเป็นครูติวเตอร์ส่วนตัวของพวกหนูด้วย ฉันออกไปไม่ได้หรอก” แองเจลีนป่าวประกาศเสียงดังพร้อมกับท่าทางวางมือไว้ที่เอวของเธอเอง“บอกมาสิว่า อะไรที่เธอเต็มใจอยากให้ฉันออกไปนัก?” เซ็ตตี้น้อยเดินไปหาแองเจลีน เธอเอามือจับเอวของเธอไว้ขณะที่เธอจ้องไปที่แองเจลีนด้วยความโกรธแองเจลีนกล่าวว่า “เอาล่ะใจเย็น ๆ นะ ถ้าหากเธอสามารถทำการบ้านทั้งหมดได้และเมื่อวันหนึ่งฉันไม่มีอะไรจะสอนเ
ร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้น้อยใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการหาสิ่งที่ยากให้แองเจลีน พวกเขาได้รวบรวมคำถามที่ยากที่สุดสิบข้อที่จะถามแองเจลีนเมื่อเซ็ตตี้น้อยยื่นหนังสือคำถามให้แองเจลีน เธอยังเตือนหล่อนอย่างจริงจังและพูดว่า “คุณน้าอะไรก็ได้คะ หนูหวังว่าคุณจะสามารถตอบคำถามทั้งสิบข้อนี้ได้ด้วยตัวเอง คุณห้ามถามคุณพ่อของหนูเด็ดขาด”แองเจลีนหยิบหนังสือเล่มเล็กมาดู และเอ่อ คำถามสิบข้อเกี่ยวกับฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์ ชีววิทยา ดนตรีและกีฬา สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือมีคำถามเกี่ยวกับทักษะการออกเดทด้วยแองเจลีนตบหน้าอกของเธอเองและพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย คำถามเหล่านี้ง่ายสำหรับฉัน สำหรับพ่อของเธอแล้วล่ะก็ ในเรื่องอีคิวของเขานั่นต่ำมาก บางทีเขาอาจต้องถามคำถามข้อสุดท้ายกับฉันด้วยซ้ำ”เซ็ตตี้น้อยกลอกตาไปมามองไปที่เธอโดยไม่พูดอะไรมากนัก “คนหลงตัวเอง”“นี่เรียกว่าความมั่นใจต่างหาก!” แองเจลีนแก้ไขเซ็ตตี้น้อยโต้เถียงด้วยเหตุผลว่า “คุณพ่อของหนูดีที่สุด การเปรียบเทียบคุณกับคุณพ่อของหนูก็เหมือนการเปรียบเทียบกบกับหงส์ขาว”แองเจลีนยิ้ม “ฉันคือหงส์ขาว ส่วนพ่อของเธอคือกบ ใช่ไหม?”เซ็ตตี้น้อยไม่ต้องการคุยก
เจย์กล่าวว่า “ถ้าเธอตอบคำถามถูกต้องได้หนึ่งข้อ ฉันจะช่วยข้อที่เหลือเธอเอง”แองเจลีนมองคำถามสิบข้ออย่างจริงจัง ยกเว้นคำถามข้อสุดท้ายที่ทำได้ เพราะคำถามอื่น ๆ นั้นยากเกินไปแองเจลีนบ่น “ใครก็ตามที่ตั้งคำถามเหล่านี้ต้องเป็นคนบ้าไปแล้ว มันยากแค่ไหนสำหรับอัจฉริยะอย่างฉันรู้ไหม? ตามคำกล่าวที่ว่า มีเส้นบาง ๆ ระหว่างอัจฉริยะกับคนบ้า อัจฉริยะและคนบ้าคือคนของสองโลกสองความคิดนั่นแหละ”เจย์พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันเองที่เป็นคนคิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมา”แองเจลีนกลืนน้ำลาย การสนทนาเปลี่ยนจากการดูถูกเป็นการเยินยอทันที “ท่านอาเรส ไอคิวของคุณสูงเสียจนคนธรรมดาอย่างฉันด้อยกว่าไปเลยเมื่อเปรียบเทียบแล้ว! ไม่น่าแปลกใจที่ฉันไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ท่านอาเรส ทำไมไม่สอนฉันหน่อยล่ะ?”เจย์พูดว่า “หืม? เมื่อกี้เธอไม่ได้บอกเหรอว่าฉันเป็นคนบ้า?”“ท่านอาเรส คนบ้ามีความหมายเหมือนกันกับคนอัจฉริยะนะ”เจย์เข็นรถเข็นออกไปด้วยสีหน้ามืดมนแองเจลีนถอนหายใจยาว!ในคืนนั้น แองเจลีนอยู่ดึกโดยเฉพาะเพื่อทำโจทย์นี้ ในขณะที่เจย์นั่งอ่านหนังสือบนรถเข็นและเขาสังเกตมองเธอไปด้วยเมื่อนาฬิกาผ่านไปถึงเวลเที่ยงคืน เจย์ทนไม่ไหวแล้
“ถ้าอย่างนั้น ฉันแค่หลับตาก็พอแล้วใช่ไหม?” หลังจากที่แองเจลีนพูดจบ เธอก็ตั้งใจที่จะหลับตาลงเจย์หาเหตุผลที่จะให้เธอออกไปไม่ได้ เขาจึงปล่อยเธอทำแบบนั้นไปแองเจลีนเข็นเขาเข้าไปในห้องน้ำและได้ยินเสียงถอนหายใจของเจย์แองเจลีนรู้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าเขาจะถอดเสื้อได้อย่างแน่นอน แต่เขาถอดกางเกงออกไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงพูดออกไปอย่างเกรงใจว่า “ท่านอาเรส ให้ฉันช่วยถอดเสื้อผ้าให้คุณดีกว่านะ”แววตารังเกียจตัวเองปรากฏขึ้นในดวงตาของเจย์ เสียงที่ไม่เต็มใจเล็ดลอดออกมาจากลำคอของเขา “อืม”แองเจลีนหลับตาและเดินเข้าไปหาเขาในขณะที่แตะ ๆ ไปตรงรถเข็นการถอดเสื้อผ้าเป็นไปอย่างราบรื่นโดยไม่คาดคิดอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอกำลังจะถอดกางเกงของเขา มือของเธอได้ไปสัมผัสที่ที่เธอไม่ควรแตะ ดังนั้นเธอจึงรีบดึงมือของเธอออกด้วยความตกใจเจย์ใช้โอกาสนี้มองเธออย่างใกล้ชิดโดยไม่กระพริบตา ในตอนแรก เขาคิดว่าใบหน้าของเธอต้องทนบาดแผลมากมาย เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ก็น่าจะมีรอยแผลเป็นอีกมาก ถึงอย่างนั้น รูปลักษณ์ของเธอแทบจะไม่มีข้อบกพร่องหลงเหลืออยู่เลยแองเจลีนเอื้อมมือออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้ เธอระมัดระวังเป็นพิเศษ เธอสัมผัสหน้าท