เกรย์สันเดินตามพวกเขาออกไปนอกทางเดินด้วยความรู้สึกหดหู่ใจเปรียบได้ว่าในบรรดากลุ่มคนตาบอด ชายตาเดียวคือผู้ที่มีความบกพร่องน้อยที่สุดมักจะได้เป็นผู้นำให้กับคนอื่น ๆ!แจ็คหยุดตรงหน้าตึกเพื่อสั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโรงพยาบาล “เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโรงพยาบาล ขอเอกสารการเคลื่อนย้ายลูกของฉันให้ฉันหน่อย ฉันต้องการย้ายโรงพยาบาล!”เกรย์สันก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวังอย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ประตูลิฟต์ก็เปิดออกอย่างกะทันหัน น้ำหอมกลิ่นกุหลาบอบอวลไปในอากาศ ดึงดูดสายตาทุกคู่ไปรอบ ๆเสียงรองเท้าส้นสูงสีดำก้าวออกมาพร้อมกับออร่าที่กดขี่ ตามมาด้วยหุ่นที่สวยงามในชุดเดรสยาวสีแดง แม้คนคนนั้นใส่ชุดที่มีเสน่ห์และผ้าบาง ๆ สีดำที่ปกปิดใบหน้าของเธออย่างลึกลับ แต่ออร่าที่มีอำนาจดูเหนือกว่าสิ่งอื่นใดของเธอได้ปล่อยออกมาโดยไม่ได้ถูกขัดขวางขณะที่กำลังเดินตัดผ่านบรรยากาศรอบ ๆ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้เดินถอยไปชิดกำแพงโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเปิดทางให้เธอเดินไปตามทางแต่ทว่า เธอหยุดอยู่ตรงหน้าเกรย์สันและส่ายหัวอย่างผิดหวังขณะที่เธอมีสีหน้าซีดเผือกจากนั้นเธอก็ยกผ้าบาง ๆ สีดำขึ้นเพื่อยิงสายตาไปที่เขาด้วยท่าทางที่หยอ
“เธอไม่สามารถเป็น แองเจลีน เซเวียร์ได้หรอก ว่าไหม?” แจ็คพล่ามออกมาทันที “แองเจลีน เซเวียร์ เสียชีวิตไปเมื่อเก้าปีที่แล้ว”เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมีท่าทางสงสัย สายตาของพวกเขาจ้องมองระหว่างแจ็คและแองเจลีนอยู่ชั่วขณะ“พวกคุณสองคนกำลังพูดโกหก”แจ็คชี้ไปที่แองเจลีน “มันคือเธอ เธอเป็นคนโกหก เธอไม่ใช่ แองเจลีน เซเวียร์ คุณสามารถตรวจสอบไฟล์ข้อมูลของเธอได้เลย เจ้าหน้าที่”ทันทีที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากแผนกอื่น แองเจลีนก็รีบลุกขึ้นเพื่อขัดจังหวะเมื่อเธอเข้าใกล้คาร์เตอร์ซึ่งยืนอยู่ข้างแจ็ค แองเจลีนก็เอื้อมมือไปหยิบไฟล์ข้อมูลภาพในมือของเขา แล้วเธอก็หยิบใบทะเบียนสมรสแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่“ฉันจะตัดปัญหาให้คุณ ดูวันที่ในทะเบียนสมรสของสามีและฉันสิ นั่นจะบอกคุณว่าฉันเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอาเรสจริงหรือเปล่า”จากนั้น เธอก็เปิดหน้าแรกของใบรับรองเอกสารซึ่งเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสามารถเห็นรอยยิ้มที่สวยงามของหญิงสาวที่มีดวงตาเป็นประกาย ในภาพเธอยืนใกล้ชิดกับเจย์และรูปร่างหน้าตาของเธอก็เหมือนกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาบนใบรับรองมีคำว่า 'แองเจลีน
เมื่อเห็นท่านปู่เซเวียร์ แจ็คก็เดินเข้ามาใกล้ ๆ ทันที ด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้าของเขา “เร็ว ๆ หน่อย ลุงเซเวียร์ มาดูผู้หญิงคนนี้ที่แกล้งทำเป็นหลานสาวแสนล้ำค่าของคุณสิ แค่มองดูไปที่เธอ เธอเป็นหลานสาวของคุณได้ยังไงว่าไหม?”ท่านปู่เซเวียร์เงยหน้าขึ้นมองแองเจลีนที่อยู่ข้างหน้าเขาแองเจลีนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจขณะที่เธอมองดูคุณปู่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมด้วยมือทั้งสองข้างของเขาจับที่วางแขนของรถเข็น“คุณปู่” เธอเดินเข้ามาช้า ๆ เพื่อคุกเข่าต่อหน้าท่านปู่เซเวียร์ด้วยน้ำตาในดวงตาของเธอท่านปู่เซเวียร์เอื้อมมือที่สั่นเพื่อลูบแก้มที่ได้รับการฟื้นฟูสภาพของเธอ ขณะที่น้ำตาเริ่มไหลจากดวงตาของเขา “เจ็บไหม?”บางทีสำหรับผู้ชายอย่างท่านปู่เซเวียร์ที่มีประสบการณ์ชีวิตมามาก เขาใช้เวลามามากกับการเห็นรูปร่างหน้าตานี้ในการระบุตัวบุคคล เพราะดวงตาของบุคคลนั้นบอกอะไรได้มากมายการปรากฏตัวของแองเจลีนที่มีใบหน้าสยดสยองเมื่อสองปีก่อน เธออาจใช้เวลาทุกวันในการยิ้มต่อหน้าปู่ของเธอ แต่ท่านปู่เซเวียร์จะไม่เข้าใจความทุกข์ยากของหลานสาวของเขาได้ยังไง?หลานสาวคนโตของตระกูลเซเวียร์จะยิ่งใหญ่และสูงส่งได้ยังไง
สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความสง่างามที่ไม่มีใครเทียบได้กลับกลายเป็นความโกลาหลวุ่นวายแองเจลีนจ้องไปที่เขาด้วยความตกใจขณะที่น้ำตายังคงไหลรินออกมาไม่หยุดหย่อนเธอรู้สึกคร่ำครวญอย่างมากจนต้องเอามือมาปิดปากเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นของเธอหลุดออกมาให้ได้ยินเธอใช้เวลา 18 ชั่วโมงอยู่ข้างในกับเขา เฝ้าดูเขาอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ดื่มน้ำหรือทานอาหารอะไรเลยหมอได้เดินเข้ามากระตุ้นบอกเธอให้หาอะไรทานหลายครั้ง แต่หมอได้รับคำตอบที่ไม่สบายใจจากแองเจลีนทุกครั้ง “ฉันขออยู่กับเขาต่ออีกนาน ๆ นะ”เธอไม่เคยคิดที่จะฟังเขาเลยในชีวิตนี้ เขาคิดแผนการที่จะผูกเธอไว้กับเขา ในขณะที่เธอคิดที่จะหาข้อแก้ตัวเพื่อหาข้ออ้างที่จะทิ้งเขาไปเสมอเช่นกันบางทีเขาอาจจะไม่ต้องทนทุกข์กับการถูกซุ่มโจมตีแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะพฤติกรรมที่ดื้อรั้นและหุนหันพลันแล่นของเธอ แม้ว่าจะไม่มีทางรอดจากการถูกซุ่มโจมตี อย่างน้อยถ้าหากเธอยังอยู่เคียงข้างเขาในเวลาแบบนั้นได้และเขาจะไม่ต้องเดินบนเส้นทางนี้เพียงลำพังผลของยาชาเริ่มหมดฤทธิ์และเจย์เริ่มรู้สึกว่าจิตใจของเขาค่อย ๆ ปลอดโปร่งจากการหลับใหลเป็นเวลานาน สติของเขายังคงมึนงงและเขายังคงรู้สึกสะ
“ฉันอยากเจอเกรย์สัน” เจย์ไม่ใช่คนที่จะยอมเสียพลังงานไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ถ้าหากขาของเขาไม่กลับมาเป็นปกติ เขาก็คงจะยอมรับตามที่มันเป็นมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่เขาต้องทำในขณะนั้นหมอได้ส่งข้อความของท่านประธานไปถึงเกรย์สัน ซึ่งทำให้เขารีบเข้ามาในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วเมื่อได้ถูกกล่าวถึง“ฉันต้องการออกจากโรงพยาบาล”ดวงตาของเกรย์สันเบิกกว้างตามคำขอของท่านประธาน “ตอนนี้เลยเหรอครับ ท่านประธาน? หมอบอกว่าขาของคุณยังต้องรับการรักษา แล้วคุณยังต้องเข้ารับการบำบัดทางกายภาพบำบัดเป็นเวลานานอีกด้วย”เจย์อาจจะดูร่างกายอ่อนแอในขณะนั้น แต่แววตาอันแหลมคมในดวงตาของเขาไม่ได้ลดเลือนลงเลยในขณะที่เขาส่งประกายแสงแห่งความตายไปที่เกรย์สัน “ทำไมนายถึงต้องเสียเวลาที่ไม่มีค่ากับบางสิ่งที่อาจไม่ได้ผลลัพธ์อะไรเลย?”เกรย์สันตอบว่า “อย่างน้อยเราก็ต้องลองครับ ท่านประธาน”“เกรย์สัน!” เจย์ตะโกนอย่างดุเดือด “ตอนนี้นายกำลังขัดขืนคำสั่งของฉันอยู่งั้นเหรอ?”เกรย์สันถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด “ไม่ครับท่าน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง”“งั้นก็ออกไปจัดการซะ”“แน่นอนครับ ท่านประธาน”เกรย์สันหันหลังเดินจากไปทว
แองเจลีน เซเวียร์ เริ่มเกลี้ยกล่อมเกรย์สันด้วยวิธีการว่าด้วยเหตุผลและอารมณ์ “นายเห็นไหม เกรย์สัน เจ้านายของนายอาจดูเข้าไม่ถึงด้วยท่าทางที่ไม่แยแสของเขาและทั้งหมดที่เขาเป็น แต่ฉันเข้าใจเขามากที่สุด เขาไม่ได้รู้สึกไร้ความรู้สึกอย่างที่เห็น อันที่จริงเขาห่วงใยมากและเป็นห่วงพวกนายทุกคนมากด้วยซ้ำ”คำพูดของแองเจลีนเข้าไปถึงส่วนลึกของหัวใจของเกรย์สัน ท่านประธานอาจเข้มงวดกับพวกเขามาก แต่เขายังให้เกียรติและพวกเขาได้เรียนรู้มากมายจากเขาในขณะที่เขาดูเลือดเย็นต่อบุคคลภายนอก การแสดงออกที่ไม่มีใครแตะต้องได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้าที่ที่เขาต้องทำต่อไปเมื่อต้องพูดถึงต่อหน้าลูกน้องของเขาแองเจลีนยังพูดเสริมเรื่องดี ๆ ขึ้นมาอีก “บางครั้งฉันสงสัยว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความเงียบของเขานั้นเกิดจากความคิดที่ไม่ได้รับการพัฒนาตั้งแต่อายุยังน้อยของเขาหรือเปล่า เขาอาจให้ภาพลวงตาแก่พวกนายว่าเขาต้องดูดุร้ายมาก แต่ฉันรับประกันกับนายเลยว่าทุกอย่างที่เขาทำเป็นเพียงการเก่งแต่ดุว่าคนอื่นแต่พอถึงเวลาจริงกลับไม่ทำร้าย ใคร มันไม่มีอะไรต้องกลัวเลย นายต้องมีความกล้าหาญและเข้าไปเถอะ เกรย์สัน”ดวงตาของเกรย์สันเบิกกว้
“ฉันไม่สนหรอกว่าเป็นใคร ฉันต้องการออกจากโรงพยาบาลและไม่มีใครจะมาหยุดฉันได้”ดวงตาสีแดงก่ำด้วยความโกรธจ้องไปที่เกรย์สัน “นายจะต้องไปเอาใบรับรองออกจากโรงพยาบาลมา หากนายต้องการทำงานกับฉันต่อ”เกรย์สันรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ได้ครับ ได้ แน่นอน ท่านประธาน ผมจะทำให้เดี๋ยวนี้”เกรย์สันลุกขึ้นแล้วรีบตะกายออกไปจากห้องและกลับพบกับแองเจลีนแบบประจันหน้ากัน“เป็นไงบ้าง? ท่านประธานเปลี่ยนใจหรือเปล่า?”อาการตกใจยังคงอยู่บนใบหน้าของเกรย์สันขณะที่เขาส่ายหัวอย่างงุนงง “ท่านประธานตัดสินใจแล้ว นายหญิง ไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้”เมื่อมองไปที่แองเจลีน เกรย์สันอ้อนวอนอย่างน่าสมเพชว่า “ท่านประธานรับฟังคุณเสมอ นายหญิง ผมแน่ใจว่าเขาจะเปลี่ยนใจถ้าคุณเป็นคนโน้มน้าวเขา”แองเจลีนรู้สึกหวั่นไหว “ช่างเป็นคนหัวรั้นจริง ๆ ทำไมเขาไม่ฟังเหตุผลบ้าง? บางทีฉันควรต้องเข้าไปเกลี้ยกล่อมเขาแทนแล้วใช่ไหม?”เกรย์สันถอนหายใจอย่างโล่งอกแองเจลีนเดินเข้ามาใกล้ประตูห้องอย่างช้า ๆ แม้จะเป็นระยะทางเพียงไม่กี่ก้าว แต่การเดินนั้นก็รู้สึกเหมือนนานแสนนานด้วยเหตุผลที่เธอไม่รู้ในความต้องการที่รุนแรงของเจย์ อาเรสนั้นสะท้อนอยู่ในใจ
ประตูห้องพักฟื้นเริ่มเปิดออกพร้อมเสียงเอี๊ยดอ๊าดฟังดูเหมือนเสียงคนผายลมออกมา เป็นหนึ่งเดียวกับความเฉื่อยชาเจย์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ อารมณ์ร้อนรนที่เขารู้สึกอยู่ได้เพิ่มขึ้นในทันทีเขาส่งสายตาเย็นชาและหมดความอดทนไปที่ประตูห้อง เขามองดูช่องว่างที่กำลังเปิดกว้างเพียงนิดเดียวของประตูขณะที่มันเปิดออกอย่างช้า ๆหลังจากนั้นไม่นาน มันก็เปิดกว้างขึ้นจนกว้างเท่าฝ่ามือเจย์รู้สึกอารมณ์ของเขาค่อย ๆ แย่ลงด้วยเสียงลั่นดังเอี๊ยดที่ประตูด้วยอารมณ์ที่ควบคุมได้ เขาระงับความโกรธที่เดือดพล่านอยู่ภายในและรอใครบางคนที่ประตูเข้ามาด้วยความอดทนอย่างร้ายกาจเขากำลังจะได้ไปชำระเงินสำหรับเครื่องมือทรมานเหล่านี้เพื่อออกจากโรงพยาบาลในขณะนั้นเองจู่ ๆ มือที่สวมถุงมือผ่าตัดสีขาวได้ปรากฏขึ้นในทางเข้าช่องประตูนั่น มือที่มีขนาดเล็กบ่งบอกได้ถึงว่าเธอคือผู้หญิงเจย์ยืนยันกับสิ่งที่เห็นได้ทันทีว่าเป็นพยาบาลผู้ดูแลเขาเลื่อนสายตาเพื่อจ้องไปที่เพดาน รูปหน้าด้านข้างที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของเขาส่องประกายไปด้วยความสิ้นหวังเมื่อเธอเข้ามาในห้องเดินอย่างเบา ๆ แองเจลีนพบว่าเจย์นอนอยู่บนเตียงโดยเอาแขนทั้งสองข้างหนุนอยู่ใต้หัว