“จอร์แดน ทำไมพระเจ้าถึงไม่ยุติธรรมนักล่ะ? ฉันเคยมีอะไรกับคุณมาหลายครั้งแล้ว แต่เพียงครั้งเดียวกับชายคนนั้น แต่แล้วเด็กคนนี้เกิดมาโดยไม่ใช่กับคุณ” ด้วยน้ำเสียงของโคลอี้ติด ๆ ขัด ๆจอร์แดนรู้สึกหดหู่เช่นกัน “บางทีความยุติธรรมอาจแตกต่างในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า ท่านให้คุณกับผม แต่ท่านให้เด็กกับเขา”ทั้งคู่กอดกันด้วยความรู้สึกใจสลายและหดหู่ใจทันใดนั้น โคลอี้ได้ผลักจอร์แดนออกไปและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “จอร์แดน คุณคิดว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่เจย์เป็นลูกของเรา”จอร์แดนยิ้มอย่างขมขื่น “เป็นไปได้ยังไง? เวลาเกิดของเขาตรงกับเวลาที่ผู้ชายคนนั้นได้กระทำกับเธอนะ!”โคลอี้พูดต่อหน้าโดยกล่าวว่า “จอร์แดน ฟังฉันนะ การตั้งครรภ์ครบกำหนดได้ก็ต่อเมื่อถึง 10 เดือน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจย์ไม่ใช่ทารกครบกำหนดล่ะ?”จอร์แดนมองเชยชมกับความคาดหวังของโคลอี้ที่พูดออกมาทำให้เธอดูน่ารักเสียงของจอร์แดนแหบแห้ง “โคลอี้ เราต้องยอมรับความจริงนั้น ยิ่งคุณมีความหวังมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้สึกผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น”“จอร์แดน คุณไม่คิดว่าเจย์เหมือนคุณมาก ๆ บ้างเหรอ? พวกคุณทั้งคู่ดูเหมือนกัน แม้กระทั่งบุคลิกและท่าทางของพวกคุ
ในคราวนี้ เจย์ได้พาหมอมาถึงสองสามคนจากแกรนด์ เอเซียเขาขอให้พวกเขาเก็บตัวอย่างจากทารกในครรภ์ของเซร่า เพื่อทดสอบพันธุกรรม สำหรับตอนนี้เซร่าอยู่ในช่วงระยะเวลาตั้งครรภ์ใกล้จะคลอดแล้ว จึงไม่เหมาะที่จะทำการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดเธอเอง วิธีเดียวที่ใช้ได้ผลคือการเจาะน้ำคร่ำตรวจการเจาะน้ำคร่ำมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้นเซร่าจึงยืนกรานที่จะให้หมอออกไปห่าง ๆ จากตัวเธอ“พี่เจย์คะ ท่านปู่อาเรสบอกว่าเราจะได้รู้ถึงความเหมือนจากหน้าตาของเด็กเมื่อฉันคลอดออกมาอยู่แล้ว ทำไมคุณต้องมาบังคับสิ่งนี้กับฉัน” เซร่าตกใจกับสีหน้าที่ได้เห็นในเหตุการณ์ตรงหน้าเธอและเริ่มตัวสั่นสะท้านเจย์ที่ยังคงสงบและอดทนในขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้หวายด้วยสายตาเหม่อลอย เขามองไปที่เซร่าแล้วพูดว่า “เซร่า เซเวียร์ ฉันมีความเมตตามามากพอแล้วที่ทนปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เธอพยายามใส่ร้ายฉัน”สายตาของเขาเริ่มมืดลงขณะที่ดวงตาเย็นลงเหมือนน้ำแข็งที่ไม่ยอมละลายแม้ผ่านไปหลายศตวรรษ เขาสั่งต่ออีกว่า “จับเธอไว้!”เซร่ากำลังหันตัวหนีออกจากบ้าน แต่เมื่อชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนปรากฏต
แจ็คได้ตัดสินใจเด็ดขาดเมื่อคิดไตร่ตรองจากคำพูดของท่านปู่อาเรสและเดินจากไปด้วยท่าทางจริงจังในขณะเดียวกัน ที่หอท่าเรือหอมหวน หมอได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ใบหน้าที่น่ารักของเซร่าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเศร้า เธอลุกขึ้นจากเตียง ใบหน้าเธอซีดเผือด ร่างกายของเธออ่อนแอ แต่เธอก็ยังสามารถเดินออกจากห้องได้ตัวเธอสั่นขณะที่เธอเดินไปตรงหน้าเจย์ เธอร้องไห้ “พี่เจย์ พี่สาวที่ตายไปแล้วของฉันจะคิดยังไงถ้าเธอรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?”เจย์ขมวดคิ้วพลางยกมือของเขาขึ้นตบหน้าเซร่า ความเศร้าและความสิ้นหวังกับเซร่าตกอยู่ในการจ้องมองด้วยความโกรธของเขาเจย์พูดอย่างโกรธจัด “เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเอ่ยชื่อแองเจลีน!”ใบหน้าของเซร่าค่อย ๆ บูดบึ้ง มุมปากของเธอขดลง “พี่เขย พี่สาวของฉันจะไม่แสดงความเมตตาต่อคุณเด็ดขาด”เธอเริ่มตีโพยตีพายและตะคอกว่า “ถ้าเธอรู้เธอจะไม่มีวันปล่อยให้คุณมีชีวิตต่อไป!”เจย์นึกถึงการจากไปของแองเจลีน ใบหน้าที่เสียโฉมของเธอและดูไร้หนทาง เขาคิดว่าเขาไม่ได้รับข่าวใด ๆ จากเธอเลย ดูเหมือนเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว เจย์รู้สึกเหมือนอยู่ภายใต้คำสาปของเซร่า เขารู้สึกปวดร้าวลึก ๆ ขึ้นมาทันทีเซร่าหัวเ
ตลอดชีวิตของเขา จอร์แดนต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่ทว่า ในขณะนั้นภายใต้การจ้องมองจากความเย็นชาของเจย์แล้ว เขารู้สึกสูญเสียความสามารถในการคิดไปเสียแล้วหลังจากนั้นไม่นาน จอร์แดนก็ถอนหายใจเบา ๆ เขาเตือนเจย์ว่า “นายเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมแจ็คถึงปกป้องเซร่าได้ขนาดนี้?”เจย์หัวเราะเยาะ เขาไม่ได้เป็นคนโง่ แจ็คทำตัวแปลก ๆ เมื่อไม่นานมานี้ เบื้องหลังความรักและความเห็นอกเห็นใจของพ่อของเขามันช่างโหดร้าย เขารู้ว่าเซร่าเป็นแค่เบี้ยใช้งานที่พ่อให้มาอยู่ข้าง ๆ กายของเขาสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้คือวิธีที่พ่อของเขากลับมาแว้งกัดเขาเมื่อเห็นความสงสัยบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาในความคิดเจย์ จอร์แดนก็เดินเข้ามาหาเขาก่อนหน้านี้ เขามีชีวิตอยู่เพื่อโคลอี้เท่านั้น เขาหลีกเลี่ยงการเผชิญความลับที่ดำมืดของตระกูลอาเรสแต่ตอนนี้เขายังมีเจย์อยู่ในชีวิตอีกคน นี่คือลูกชายของเขาที่เขาเป็นหนี้บุญคุณมากมาย เขาไม่สามารถปล่อยให้เจย์ถูกคนหน้าซื่อใจคดในตระกูลอาเรสปล่อยให้อยู่ในความมืดมิดได้ ในท้ายที่สุด พวกเขาจะทิ้งเจย์และแทงข้างหลังเขาก็เท่านั้นจอร์แดนยืนอยู่ตรงหน้าเจย์ ความดุร้ายในดวงตา
“เจย์ คือฉัน…”“ผลพิสูจน์เป็นของผมหรือเปล่า?”จอร์แดนตกใจมาก“ไม่...”“ขอดูผลการทดสอบได้ไหม?”จอร์แดนหัวเราะออกมาและตอบอย่างแผ่วเบาว่า “ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไหม?”เจย์มองไปที่ชายที่ตื่นตระหนกต่อหน้าเขาและพูดด้วยความโกรธว่า “จอร์แดน อาเรส อย่าลืมว่าตอนนี้ผมเป็นคนดูแลทั้งหมดของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนและมีอำนาจเต็มที่ ผมสามารถตรวจสอบทุกสิ่งที่คุณทำได้”จอร์แดนเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “นายคิดผิด ถ้านายมีอำนาจเหนืออสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีนจริง ๆ นายไม่มีทางที่จะหมดหนทางช่วยในวันที่โรสมีปัญหา”สายตาที่เย็นชาของเจย์แข็งกระด้าง “คุณหมายความว่ายังไง?”จอร์แดนตอบว่า “ครั้งหนึ่งฉันเคยดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน ฉันรู้ว่าผู้รับผิดชอบมีอำนาจมากแค่ไหน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันสามารถอยู่ในวังใต้ดินกับโคลอี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้โดยที่นายไม่รู้ เจย์ นายมีอำนาจเพียงส่วนเล็ก ๆ ของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนเท่านั้น”หลังจากหยุดพูดไปชั่วคราว จอร์แดนกล่าวต่อว่า “คุณปู่อาเรสเป็นผู้รับผิดชอบอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนทุกการเคลื่อนไหวของเรา เขาตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่าง”เจย
ในเวลาเดียวกันนี้ ที่ฝึกเทควันโดในเมืองเอช ผู้ฝึกสอนของที่ฝึกแห่งนี้มีแปดคนยืนเรียงกันอยู่สองแถว ในกลุ่มพวกเขามีหญิงสาวร่างผอมเพรียวอยู่ด้วย แม้ว่าเธอจะสวมชุดเทควันโดที่ใหญ่และสายคาดสีดำถูกพันรอบเอวบาง ๆ ของเธอ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความงามของเธอได้“แองเจลีน เซเวียร์ แน่นอนว่าเธอกำลังดูทะนงตัว ไม่มีทางที่เธอจะเอาชนะผู้ฝึกสอนของเราทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกันหรอก” หนึ่งในผู้ฝึกสอนกล่าวด้วยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้หญิงสาวมีผมหางม้าสูง ยาว สีเข้มและเส้นผมธรรมชาติของเธอยาวลงมาถึงไหล่ ซึ่งมันเทียบให้เห็นอยู่บนใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ เธอมีผิวสีผ่องดูเรียบเนียนและใบหน้าที่งดงามเหมือนงานศิลปะแองเจลีนตอบอย่างมุ่งมั่นว่า “คุณไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเสียเหงื่อและน้ำตามามากแค่ไหนในการเตรียมตัวสำหรับวันนี้ เมื่อฉันเอาชนะพวกคุณทั้งหมดได้แล้ว ฉันจะบอกลาเมืองเอชและจะไม่กลับมาที่นี่อีก”เหล่าครูฝึกได้มองหน้ากัน “เรารู้ว่าเธอเสียเหงื่อไปมากแค่ไหนกับสิ่งนี้ แต่ที่เธอหมายถึงเมื่อกี้คือการเสียน้ำตาหรือเปล่า?”แองเจลีนตอบว่า “การที่ฉันมีโอกาสได้ทำอยู่ในทุกวันนี้ ฉันต้องทิ้งคนที่ฉันรักที่สุดไว้ มันเป็นความเจ็บปวดท
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ สำหรับเจเจ ที่ลูกให้เราไปเพราะไม่อยากเจอพ่ออีกแล้วใช่ไหม?”“ลูกเกลียดเขา แต่ลูกไม่รู้จะแก้แค้นแทนโรสได้ยังไง ด้วยวิธีนี้ ลูกเลยอยากให้เราออกไปจากที่นี่ ถ้านั่นจะทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น แม่ยินดีที่จะทำเพื่อแสดงเจตนาที่ดี เราจะออกไปทันที”จากนั้นโคลอี้ได้ดึงมือของจอร์แดนและเดินออกไปเจย์ยืนนิ่งในความเงียบอยู่ตรงนั้นจอร์แดนยังคงหันมามองเจย์ด้วยความรัก คำพูดที่อยากจะออกจากปากของเขาแต่ยังคงลังเลและไม่สามารถพูดได้นั่นก็คือคำว่า ‘ลูกชาย’ “เจย์ นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ตราบใดที่นายมีความสุข แม่ของนายและฉันก็จะมีความสุข” จอร์แดนรู้สึกราวกับว่ามีอะไรติดอยู่ที่คอของเขา เขาบังคับตัวเองให้พูดคำเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างอยู่ขณะที่จอร์แดนและโคลอี้เดินไปที่หน้าประตู เจย์ซึ่งเงียบอยู่พักหนึ่งกล่าวว่า “หากพวกคุณประสบปัญหาอะไรก็ตาม โทรหาผู้ช่วยของผมได้เลย อย่าพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”จอร์แดนได้ยินแล้วสะดุ้งทันที ใบหน้าเย็นชาของเขากลับกลายมีรอยยิ้มอันอบอุ่น“เราจะทำตามที่บอก” เขาตอบอย่างมีความสุขรถที่เจย์จองไว้สำหรับพวกเขาจอดอยู่ด้านนอกหอ
ณ หอท่าเรือหอมหวนเขากลับทำตัวเหมือนหมาหง่อย เขาจมดิ่งลงไปในความเหงาและความอ้างว้างในยามค่ำคืนนี้เจย์นั่งอยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืน ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของเขารู้สึกอ้างว้างเมื่อพ่อแม่ของเขาและโรสจากไปในตอนนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ดูเหมือนไร้ความหมายที่จะมีชีวิตต่อไป“ท่านอาเรส!” ประตูไม้มะฮอกกานีโบราณของบ้านถูกเปิดออก เกรย์สันตะโกนเรียก เขารีบจนเดินสะดุดเข้ามาในห้องขณะที่ตอนนี้ฟ้ายังคงร้องอยู่ข้างนอกเจย์มองด้วยความตกใจสายตาของเขาจ้องไปที่เกรย์สันที่หน้าซีดซึ่งมีเสียงสั่นเครือออกมา “ท่านอาเรส ผมเพิ่งได้รับเรื่องเกี่ยวกับเควนตินส์มาว่า… คำพูดสุดท้าย เขาบอกว่าพวงมาลัยของรถเริ่มทำงานผิดปกติประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่รถออกจาก อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน ผมเลยรีบวิ่งมาบอกทันทีแต่ช้าไปหนึ่งก้าว รถไถลลงไปในแม่น้ำแล้ว…”“นายว่าไงนะ?” เจย์ยืนขึ้นอย่างสั่นเทาเกรย์สันรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งในขณะที่เขาบังคับตัวเองให้พูดคำว่า “ท่านอาเรส คุณท่านและคุณนายหญิงได้จากไปแล้ว”ร่างกายของเจย์ยืนแกว่งไปมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพุ่งออกจากห้องไปราวกับปีศาจร้ายที่สูญเสียการ