ทุกคนบอกว่าพี่ชายของเธอเป็นคนเลือดเย็น แต่เมื่อพูดถึงสิ่งที่เขาทำกับพี่สะใภ้ของเธอนั้นห่างไกลจากความเป็นจริงที่คนอื่นได้รับรู้เลย“พี่ใหญ่ อย่าเศร้าไปเลย! หมอบอกว่าพี่สะใภ้ทำศัลยกรรมได้...”เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น เจย์ก็บ่นว่า “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอผ่านความทุกข์แบบนั้น ฉันแค่อยากให้เธอมีสุขภาพที่แข็งแรง”โจเซฟินกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เนื่องจากใบหน้าของพี่สะใภ้เสียโฉม ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไปบ้าง เพราะมักจะมีคนบางคนจ้องมองหรือพูดถึงใบหน้าของเธออยู่ข้างหลังเธอเสมอ เธอรับรู้แต่เธออาจจะไม่พูดถึงมัน แต่ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกรำคาญกับมันมาก ถ้าการผ่าตัดสามารถช่วยให้เธอปรับความมั่นใจขึ้นมาได้ แล้วทำไมจะไม่ทำล่ะ?”เจย์กอดโรสแน่นขึ้น “ไม่เป็นไร ฉันจะปล่อยเธอให้มีความสุขมากขึ้นในทุก ๆ วันเอง”จากนั้น เขาจ้องไปที่โจเซฟินและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เธอมีร่างกายที่อ่อนแอ หยุดโน้มน้าวให้เธอต้องผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมทีนะ”โจเซฟินได้แต่ตอบอย่างหดหู่ใจว่า “ตกลงค่ะ”ภายในใจของเธอ เธอบ่นและพูดว่า “การทำศัลยกรรมให้สวยขึ้นไม่ใช่เรื่องแย่สักหน่อย”‘ผู้หญิงคนไหนก็มีความสไตล์ความชอบในแบบของพวกเธอเองทั้งนั้นแห
เจย์ดูเหมือนจะคาดการณ์ความคิดของเขาและหยุดเดินอย่างกะทันหัน “เกรย์สัน นายรู้ไหมว่าทำไมในคำพูดที่ว่า ‘แต่งงานแล้วและเริ่มมีหน้าที่’ นายต้องแต่งงานก่อนแล้วจะมีหน้าที่จริงไหม?”เกรย์สันส่ายหัว“นายควรจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใครสักคน” เจย์กล่าวเกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ท่านประธาน ผมยังหนุ่มอยู่เลยครับ”เมื่อเกรย์สันเห็นว่าเจ้านายที่ห้าวหาญและกระฉับกระเฉงกังวลเรื่องภรรยาตัวน้อยของเขาอยู่เสมอ เกรย์สัน ผู้ซึ่งกำลังตั้งตารอที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความรัก ตอนนี้เขาก็รู้สึกหวาดกลัวไปแล้วเมื่อรับรู้เรื่องราวความรักของเจ้านายเจย์จ้องไปที่เกรย์สันและพูดด้วยความหมายที่ซ่อนเร้นว่า “นายใช้ชีวิตที่ไม่มีเรื่องต้องกังวล ไม่เหมือนกับแองเจลีนของฉันที่ใช้ชีวิตที่ยากลำบากแม้ว่าเธอจะอายุเท่ากันกับนายก็ตาม”เกรย์สัน “...”เจย์ถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันเป็นคนสร้างปัญหาให้เธอเอง”ณ แผนกการแพทย์ของแกรนด์ เอเซียเจย์ได้รวบรวมพนักงานทั้งหมดและเตือนทุกคนอย่างเข้มงวดว่า “แผนกการแพทย์ได้ว่าจ้างพนักงานใหม่จำนวนหนึ่ง ภรรยาของฉันอยู่ท่ามกลางพวกเขา ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะดีกับเธอ...”เมื่อถึงจุดนั้น น้ำเสี
หัวหน้าพยาบาลรู้สึกค่อนข้างจะตกตะลึง เธอคาดหวังว่าอารมณ์ของนายหญิงจะแปรปรวนมากกว่าที่เห็นเพราะหลังจากที่เข้าใจจากเรื่องราวประสบการณ์ก่อนหน้านี้และเข้าใจว่าจะเป็นคนที่ทำให้พอใจได้ยาก เธอไม่คิดว่าโรสจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและพูดจานุ่มนวลขนาดนี้หัวหน้าพยาบาลยิ้ม “คุณยินดีที่จะตามฉันไปเดินดูรอบ ๆ หอผู้ป่วยกับฉันไหม?”โรสเดินตามเธอไปอย่างมีความสุขเธอกลับมาสวมใส่หน้ากากอีกครั้งเมื่อเธอเดินออกไป เธอเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินของโรงพยาบาลและเดินตามหญิงชราไปที่หอผู้ป่วยหัวหน้าพยาบาลเดินไปข้างหน้าและแนะนำโดยกล่าวว่า “ผู้ป่วยที่นี่มักจะเข้ารับการรักษาเพราะอาการของพวกเขาน่าจะไปไม่รอด(พยากรณ์โรคไม่ดี)และเกือบจะสูญเสียความอยากจะมีชีวิตอยู่ คุณลอยล์ ถ้าคุณสามารถปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยรอยยิ้ม บางทีพวกเขาอาจจะได้รับพลังงานบวกจากคุณที่จะอดทนดำเนินชีวิตต่อไปได้นะ”โรสยิ้มอย่างใจเย็น“ถ้ามีโอกาส ฉันก็ยินดีช่วยค่ะ”เมื่อหัวหน้าพยาบาลมองดูดวงตาที่ใสซื่อและไร้เดียงสาของโรส ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมท่านประธานจึงพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับการมาถึงของโรสเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่เป็นอัน
จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ว่า ‘เธออยากเจอเขาทุกวันไหม?’โรสตอบโดยไม่ต้องคิดมากว่า ‘แน่นอน!’จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง ตอบว่า ‘ฉันอธิษฐานขอให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง!’โรสพิมพ์ว่า ‘ขอบคุณ!’‘เธอไม่จำเป็นต้องคืนเงิน ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ของฉัน’โรสอึ้งไป หลังจากที่ได้อ่านคำตอบนั้น ‘ในเมื่อนนายไม่ได้มาเพื่อขอเงินคืน แล้วทำไมนายถึงขอฉันดวลเกมอีกล่ะ?’จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง พิมพ์ว่า ‘ถ้าเธอไม่มีความสุขกับงานของเธอ เข้ามาคุยกับพี่ชายสุดที่รักที่นี่ได้นะ ฉันจะเป็นท่่ปรึกษาให้!’...โรสเบิกตากว้างและออกจากเกมอย่างโกรธเคืองโจเซฟินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ชิงช้าที่ระเบียงข้างนอก เมื่อเธอเห็นการเปลี่ยนแปลงในท่าทางของโรส เธอคายแอปเปิ้ลที่เคี้ยวไปแล้วครึ่งหนึ่งลงในถังขยะ“พี่แองเจลีน เกิดอะไรขึ้น?ความโกรธของโรสยังคงดูไม่สงบในขณะที่เธอส่งเสียงฮึดฮัด โดยกล่าวว่า “จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดงแค่อยากจะเจ้าชู้กับฉันและพยายามเรียกตัวเองว่าพี่ชายสุดที่รักของฉัน!”เมื่อได้ยินแบบนั้น โจเซฟินเกือบสำลักน้ำลาย...‘พี่ชายเป็นคนรอบคอบ แต่เขาก็มีช่วงเวลาที่เขาจะล้มเหลวได้เช่นกัน
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้านที่แปลกประหลาด พลันหายใจแรงออกมาเมื่อเขาลุกขึ้นนั่งในยามเช้า พระอาทิตย์เริ่มทักทายขอบฟ้าเขาหมดความอยากที่จะนอนต่อ เขาจึงตื่นขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปทำงาน เขาโกนหนวดเคราอย่างรอบครอบและเรียบร้อยเพราะเขาจะไปพบเธอในวันนี้เขาต้องการแสดงตัวกับเธออย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เธอกังวลเกี่ยวกับเขาแผนกการแพทย์ของแกรนด์ เอเซียโรสมาถึงที่ทำงานของหัวหน้าพยาบาลแต่เช้าตรู่เธอยืนต่อหน้าหัวหน้าพยาบาลอย่างนอบน้อมและโค้งคำนับ “ขอบคุณที่อดทนสอนฉันนะคะ”หัวหน้าพยาบาลแอบเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง แววของความไม่เชื่อฉายในดวงของเธอคนงานคนอื่นอาจจะเพิ่งลุกจากเตียง แต่ผู้หญิงคนนี้ที่เป็นแก้วตาดวงใจของประธานกลับรีบมาทำงานเร็วกว่าใคร ๆ“มากับฉัน”หัวหน้าพยาบาลพาโรสไปที่ห้องของท่านปู่เซเวียร์และอธิบายเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย “แขนขาทั้งสี่ของเขาไม่มีแรง รวมถึงกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจด้วย ทางโรงพยาบาลได้สรุปผลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาวินิจฉัยกันว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ หลังจากการพูดคุยแบบสหสาขาวิชาชีพในโรงพยาบาลของเราหลายครั้ง เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป
หัวหน้าพยาบาลได้รับโทรศัพท์ด่วน เธอจึงรีบพูดกับโรสว่า “คุณลอยล์ ฉันมีผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ารับการรักษาในอาการวิกฤต และฉันต้องไปจัดการมัน ฉันจะให้ท่านประธานอยู่ภายใต้การดูแลของคุณนะ”โรสพยักหน้าทันที “ได้ค่ะ”หลังจากที่หัวหน้าพยาบาลเดินจากไป มีเพียงโรสและเจย์ที่อยู่ในห้องขนาดใหญ่นั้นโรสรู้สึกว่าการตัดสินใจของเธอค่อนข้างจะรีบร้อนตอบไปหน่อยเธอกังวลว่าเจย์จะเริ่มโวยวายอย่างไร้เหตุผลเมื่อเขารู้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาที่เสียโฉมของเธอเจย์มองโรสเดินไปรอบ ๆ กลางห้อง เขาได้เห็นความไม่สงบ ความกังวล และความกลัวในการแสดงออกของเธอ“ดิฉันเป็นผู้ดูแลคนใหม่ที่นี่และขาดประสบการณ์ ดิฉันควรขอให้เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์จากสถานีกลางพยาบาลดูแลคุณดีไหมคะ?” โรสเดินเข้าไปหาเขาและแกล้งทำเสียงแหบแห้งเจย์มองเธอด้วยสายตาที่ไม่กะพริบ ริมฝีปากเย้ายวนของเขาพลันแยกจากความประหลาดใจเล็กน้อยที่เขารู้สึกเขาจงใจทำให้เกิดอาการแพ้เพียงเพื่อมาหาเธอ แต่เธอต้องการหลบหลีกเขาเพราะความไม่มั่นใจของเธอหรือ?“สถานการณ์อาการของฉันไม่ได้รุนแรงเกินไป ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับมือใหม่อย่างคุณ” เขากล่าวโรสดึงหน้ากากของเธอออกท
เจย์กล่าวว่า “ฉันต้องรักษารูปร่างของฉันไว้ ไม่อย่างนั้น ภรรยาของฉันจะรังเกียจฉันน่ะสิ”ความรู้สึกแสบซ่าได้ปกคลุมจมูกของโรส ‘ฉันกลัวว่านายจะเป็นคนที่รังเกียจฉันมากกว่านะ…’“ฉันไม่คิดว่าภรรยาของคุณเป็นคนที่ตัดสินคนจากภายนอกหรอกนะ” โรสปกป้องตัวเองเจย์ตอบกลับด้วยความมั่นใจ “มีครั้งหนึ่งเธอเคยบ่นว่าฉันแก่”เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยดังนั้น เธอจึงช่วยพยุงเขาลุกจากเตียง แขนของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอในขณะที่เขาถ่ายเทน้ำหนักทั้งหมดของเขาบนตัวเธอโรสรู้สึกได้ว่ามันต้องใช้พละกำลังของเธอมาก “ท่านประธาน คุณคิดว่าจะออกไปเดินเล่นนานแค่ไหนคะ?”“ครึ่งชั่วโมง!”“ฉันคิดว่าภรรยาของคุณคงไม่ว่าอะไรแม้ว่าคุณจะดูแก่ แต่เธอคงคิดได้ก็ต่อเมื่อคุณดูน่ารำคาญเกินไปเสียมากกว่า” เธอพูดออกมาอย่างกะทันหันเจย์ถึงกับอ้าปากค้าง!หลังจากเดินไปรอบหนึ่ง โรสพบว่ามันยากที่จะเดินต่อไปได้ถึงครึ่งชั่วโมง“เธอนี่ มีความอดทนต่ำมากเลยนะ” เจย์พูดด้วยความไม่พอใจโรสตอบว่า “น้ำหนักของคุณเกือบสองเท่าของดิฉัน ฉันรู้สึกไม่สามารถขยับได้เพราะคุณทิ้งให้น้ำหนักของคุณอยู่กับฉันหมดเลยเนี่ย”“ฉันเป็นคนไข้
เจย์อธิบายว่า “แกรนด์ เอเซียลบป้ายออกเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของฉัน”โรสพบความไม่ชอบมาพากล 'ความเจ็บป่วยของชายคนนี้ไม่ใช่โรคที่น่าอับอาย ทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้ด้วยนะ?’หลังจากที่เจย์ทานยา เขาก็เริ่มทำงานอยู่บนเตียงในระหว่างนั้น โรสก็นั่งที่โต๊ะกลมตรงมุมห้อง ขณะที่เธอจดจ่ออยู่กับหนังสือเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองมันช่างเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบไม่รู้ว่าวิญญาณของแองเจลีนได้กลายร่างเป็นนักเรียนเส็งเคร็งและได้รับอิทธิพลจากวิญญาณนั้นอย่างเกินควรหรือไม่ แต่เธอรู้สึกง่วงนอนทุกครั้งที่อ่านหนังสือผ่านไปครึ่งชั่วโมง โรสหลับสนิทโดยฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ เจย์ได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอและนุ่มนวลของเธอ เขาลุกออกจากเตียง นำผ้าห่มมาคลุมให้เธอแล้วกลับไปที่เตียงของเขาเขาไม่มีอารมณ์อยากทำงาน แค่อยากนั่งมองเธอเท่านั้นตอนเที่ยงแม่ของเจย์มาเยี่ยมพร้อมกับเด็กสาวหน้าหวานคนหนึ่งเมื่อเห็นผู้ดูแลงีบหลับในที่ทำงาน เธอก็ระเบิดความโกรธออกมา“นี่มัน ผู้ดูแลประเภทไหนกัน? เธอกล้าดียังไง มาแอบงีบหลับในห้องคนไข้ฮะ?”โรสสะดุ้งตื่นจากความโกรธเคืองที่เกิดอย่างกะทันหัน เธอลืมตาที่ง่วงนอนขึ้น เ