หัวหน้าพยาบาลรู้สึกค่อนข้างจะตกตะลึง เธอคาดหวังว่าอารมณ์ของนายหญิงจะแปรปรวนมากกว่าที่เห็นเพราะหลังจากที่เข้าใจจากเรื่องราวประสบการณ์ก่อนหน้านี้และเข้าใจว่าจะเป็นคนที่ทำให้พอใจได้ยาก เธอไม่คิดว่าโรสจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและพูดจานุ่มนวลขนาดนี้หัวหน้าพยาบาลยิ้ม “คุณยินดีที่จะตามฉันไปเดินดูรอบ ๆ หอผู้ป่วยกับฉันไหม?”โรสเดินตามเธอไปอย่างมีความสุขเธอกลับมาสวมใส่หน้ากากอีกครั้งเมื่อเธอเดินออกไป เธอเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินของโรงพยาบาลและเดินตามหญิงชราไปที่หอผู้ป่วยหัวหน้าพยาบาลเดินไปข้างหน้าและแนะนำโดยกล่าวว่า “ผู้ป่วยที่นี่มักจะเข้ารับการรักษาเพราะอาการของพวกเขาน่าจะไปไม่รอด(พยากรณ์โรคไม่ดี)และเกือบจะสูญเสียความอยากจะมีชีวิตอยู่ คุณลอยล์ ถ้าคุณสามารถปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยรอยยิ้ม บางทีพวกเขาอาจจะได้รับพลังงานบวกจากคุณที่จะอดทนดำเนินชีวิตต่อไปได้นะ”โรสยิ้มอย่างใจเย็น“ถ้ามีโอกาส ฉันก็ยินดีช่วยค่ะ”เมื่อหัวหน้าพยาบาลมองดูดวงตาที่ใสซื่อและไร้เดียงสาของโรส ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมท่านประธานจึงพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับการมาถึงของโรสเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่เป็นอัน
จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ว่า ‘เธออยากเจอเขาทุกวันไหม?’โรสตอบโดยไม่ต้องคิดมากว่า ‘แน่นอน!’จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง ตอบว่า ‘ฉันอธิษฐานขอให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง!’โรสพิมพ์ว่า ‘ขอบคุณ!’‘เธอไม่จำเป็นต้องคืนเงิน ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ของฉัน’โรสอึ้งไป หลังจากที่ได้อ่านคำตอบนั้น ‘ในเมื่อนนายไม่ได้มาเพื่อขอเงินคืน แล้วทำไมนายถึงขอฉันดวลเกมอีกล่ะ?’จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดง พิมพ์ว่า ‘ถ้าเธอไม่มีความสุขกับงานของเธอ เข้ามาคุยกับพี่ชายสุดที่รักที่นี่ได้นะ ฉันจะเป็นท่่ปรึกษาให้!’...โรสเบิกตากว้างและออกจากเกมอย่างโกรธเคืองโจเซฟินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ชิงช้าที่ระเบียงข้างนอก เมื่อเธอเห็นการเปลี่ยนแปลงในท่าทางของโรส เธอคายแอปเปิ้ลที่เคี้ยวไปแล้วครึ่งหนึ่งลงในถังขยะ“พี่แองเจลีน เกิดอะไรขึ้น?ความโกรธของโรสยังคงดูไม่สงบในขณะที่เธอส่งเสียงฮึดฮัด โดยกล่าวว่า “จักรวรรดิไร้อาทิตย์อัสดงแค่อยากจะเจ้าชู้กับฉันและพยายามเรียกตัวเองว่าพี่ชายสุดที่รักของฉัน!”เมื่อได้ยินแบบนั้น โจเซฟินเกือบสำลักน้ำลาย...‘พี่ชายเป็นคนรอบคอบ แต่เขาก็มีช่วงเวลาที่เขาจะล้มเหลวได้เช่นกัน
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้านที่แปลกประหลาด พลันหายใจแรงออกมาเมื่อเขาลุกขึ้นนั่งในยามเช้า พระอาทิตย์เริ่มทักทายขอบฟ้าเขาหมดความอยากที่จะนอนต่อ เขาจึงตื่นขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปทำงาน เขาโกนหนวดเคราอย่างรอบครอบและเรียบร้อยเพราะเขาจะไปพบเธอในวันนี้เขาต้องการแสดงตัวกับเธออย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เธอกังวลเกี่ยวกับเขาแผนกการแพทย์ของแกรนด์ เอเซียโรสมาถึงที่ทำงานของหัวหน้าพยาบาลแต่เช้าตรู่เธอยืนต่อหน้าหัวหน้าพยาบาลอย่างนอบน้อมและโค้งคำนับ “ขอบคุณที่อดทนสอนฉันนะคะ”หัวหน้าพยาบาลแอบเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง แววของความไม่เชื่อฉายในดวงของเธอคนงานคนอื่นอาจจะเพิ่งลุกจากเตียง แต่ผู้หญิงคนนี้ที่เป็นแก้วตาดวงใจของประธานกลับรีบมาทำงานเร็วกว่าใคร ๆ“มากับฉัน”หัวหน้าพยาบาลพาโรสไปที่ห้องของท่านปู่เซเวียร์และอธิบายเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย “แขนขาทั้งสี่ของเขาไม่มีแรง รวมถึงกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจด้วย ทางโรงพยาบาลได้สรุปผลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาวินิจฉัยกันว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ หลังจากการพูดคุยแบบสหสาขาวิชาชีพในโรงพยาบาลของเราหลายครั้ง เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป
หัวหน้าพยาบาลได้รับโทรศัพท์ด่วน เธอจึงรีบพูดกับโรสว่า “คุณลอยล์ ฉันมีผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ารับการรักษาในอาการวิกฤต และฉันต้องไปจัดการมัน ฉันจะให้ท่านประธานอยู่ภายใต้การดูแลของคุณนะ”โรสพยักหน้าทันที “ได้ค่ะ”หลังจากที่หัวหน้าพยาบาลเดินจากไป มีเพียงโรสและเจย์ที่อยู่ในห้องขนาดใหญ่นั้นโรสรู้สึกว่าการตัดสินใจของเธอค่อนข้างจะรีบร้อนตอบไปหน่อยเธอกังวลว่าเจย์จะเริ่มโวยวายอย่างไร้เหตุผลเมื่อเขารู้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาที่เสียโฉมของเธอเจย์มองโรสเดินไปรอบ ๆ กลางห้อง เขาได้เห็นความไม่สงบ ความกังวล และความกลัวในการแสดงออกของเธอ“ดิฉันเป็นผู้ดูแลคนใหม่ที่นี่และขาดประสบการณ์ ดิฉันควรขอให้เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์จากสถานีกลางพยาบาลดูแลคุณดีไหมคะ?” โรสเดินเข้าไปหาเขาและแกล้งทำเสียงแหบแห้งเจย์มองเธอด้วยสายตาที่ไม่กะพริบ ริมฝีปากเย้ายวนของเขาพลันแยกจากความประหลาดใจเล็กน้อยที่เขารู้สึกเขาจงใจทำให้เกิดอาการแพ้เพียงเพื่อมาหาเธอ แต่เธอต้องการหลบหลีกเขาเพราะความไม่มั่นใจของเธอหรือ?“สถานการณ์อาการของฉันไม่ได้รุนแรงเกินไป ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับมือใหม่อย่างคุณ” เขากล่าวโรสดึงหน้ากากของเธอออกท
เจย์กล่าวว่า “ฉันต้องรักษารูปร่างของฉันไว้ ไม่อย่างนั้น ภรรยาของฉันจะรังเกียจฉันน่ะสิ”ความรู้สึกแสบซ่าได้ปกคลุมจมูกของโรส ‘ฉันกลัวว่านายจะเป็นคนที่รังเกียจฉันมากกว่านะ…’“ฉันไม่คิดว่าภรรยาของคุณเป็นคนที่ตัดสินคนจากภายนอกหรอกนะ” โรสปกป้องตัวเองเจย์ตอบกลับด้วยความมั่นใจ “มีครั้งหนึ่งเธอเคยบ่นว่าฉันแก่”เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยดังนั้น เธอจึงช่วยพยุงเขาลุกจากเตียง แขนของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอในขณะที่เขาถ่ายเทน้ำหนักทั้งหมดของเขาบนตัวเธอโรสรู้สึกได้ว่ามันต้องใช้พละกำลังของเธอมาก “ท่านประธาน คุณคิดว่าจะออกไปเดินเล่นนานแค่ไหนคะ?”“ครึ่งชั่วโมง!”“ฉันคิดว่าภรรยาของคุณคงไม่ว่าอะไรแม้ว่าคุณจะดูแก่ แต่เธอคงคิดได้ก็ต่อเมื่อคุณดูน่ารำคาญเกินไปเสียมากกว่า” เธอพูดออกมาอย่างกะทันหันเจย์ถึงกับอ้าปากค้าง!หลังจากเดินไปรอบหนึ่ง โรสพบว่ามันยากที่จะเดินต่อไปได้ถึงครึ่งชั่วโมง“เธอนี่ มีความอดทนต่ำมากเลยนะ” เจย์พูดด้วยความไม่พอใจโรสตอบว่า “น้ำหนักของคุณเกือบสองเท่าของดิฉัน ฉันรู้สึกไม่สามารถขยับได้เพราะคุณทิ้งให้น้ำหนักของคุณอยู่กับฉันหมดเลยเนี่ย”“ฉันเป็นคนไข้
เจย์อธิบายว่า “แกรนด์ เอเซียลบป้ายออกเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของฉัน”โรสพบความไม่ชอบมาพากล 'ความเจ็บป่วยของชายคนนี้ไม่ใช่โรคที่น่าอับอาย ทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้ด้วยนะ?’หลังจากที่เจย์ทานยา เขาก็เริ่มทำงานอยู่บนเตียงในระหว่างนั้น โรสก็นั่งที่โต๊ะกลมตรงมุมห้อง ขณะที่เธอจดจ่ออยู่กับหนังสือเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองมันช่างเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบไม่รู้ว่าวิญญาณของแองเจลีนได้กลายร่างเป็นนักเรียนเส็งเคร็งและได้รับอิทธิพลจากวิญญาณนั้นอย่างเกินควรหรือไม่ แต่เธอรู้สึกง่วงนอนทุกครั้งที่อ่านหนังสือผ่านไปครึ่งชั่วโมง โรสหลับสนิทโดยฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ เจย์ได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอและนุ่มนวลของเธอ เขาลุกออกจากเตียง นำผ้าห่มมาคลุมให้เธอแล้วกลับไปที่เตียงของเขาเขาไม่มีอารมณ์อยากทำงาน แค่อยากนั่งมองเธอเท่านั้นตอนเที่ยงแม่ของเจย์มาเยี่ยมพร้อมกับเด็กสาวหน้าหวานคนหนึ่งเมื่อเห็นผู้ดูแลงีบหลับในที่ทำงาน เธอก็ระเบิดความโกรธออกมา“นี่มัน ผู้ดูแลประเภทไหนกัน? เธอกล้าดียังไง มาแอบงีบหลับในห้องคนไข้ฮะ?”โรสสะดุ้งตื่นจากความโกรธเคืองที่เกิดอย่างกะทันหัน เธอลืมตาที่ง่วงนอนขึ้น เ
คุณนายอาเรส ช่วยเซร่าคลี่คลายสถานการณ์ทันที “เจย์ เซร่าเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ตอนแรกเธอมาที่แกรนด์เอเชีย เพื่อไปเยี่ยมคุณท่านเซเวียร์และบังเอิญพบกับฉัน ฉันก็เลยพาเธอมาเยี่ยมนาย นายไม่คิดว่ามันเป็นพรหมลิขิตเหรอ?”สีหน้าของเจย์ยังคงเย็นชา ดูราวกับว่าเขาไม่สนใจจะฟังอะไรทั้งนั้นคุณนายอาเรสมีเจตนาอื่น “นายรู้จักเซร่าตั้งแต่ยังเด็ก นายรู้ไหมว่าเซร่ามีความสามารถ และดีพอ ๆ กับแองเจลีน เนื่องจากแองเจลีนต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายและไม่สามารถรับความรักจากนายได้ ทำไมไม่ลองกับเซร่าดูล่ะ ?”โรสรู้สึกเจ็บใจ เมื่อเห็นคุณนายอาเรสพยายามอย่างหนัก เพื่อพาเจย์และเซร่ามาอยู่ด้วยกันเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาเหลือบมองไปที่โรส ซึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้องและรู้สึกกังวลว่าเธอจะคิดมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงให้งานบางอย่างกับเธอ “รินน้ำให้ฉันสักแก้วสิ”โรสลุกขึ้นไปหยิบน้ำหนึ่งแก้วและเมื่อเธอส่งให้เจย์ เซร่าก็คว้าแก้วน้ำจากเธอทันที “พี่เจย์ ให้ฉันช่วยเองนะ”เจย์กล่าวว่า “ฉันมีมือและเท้าฉันไม่ต้องการให้เธอช่วยฉันหรอกนะ”จากนั้นเขาก็พูดกับโรสว่า “ขอน้ำใหม่ให้ฉันสักแก้วทีนะ”โรสเดินไปหยิบแก้วอีกใบเมื่อเธอนำมันมา
โรสผลักมือของเจย์กลับไป “ดิฉันไม่ต้องการให้ใครมาเป็นหนูทดลองของฉันนะ”ถ้าเธอต้องการฝึกฝน เธอจะลองมันด้วยตัวเองเธอกลับไปที่มุมห้อง หยิบเข็มที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมา แล้วพับแขนเสื้อขึ้น จากนั้นเธอก็เริ่มฝึกบนมือของเธอเองเจย์ตกใจมากเมื่อเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่'เธอไม่กลัวเข็มเหรอ'?มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่และเขาต้องการพาเธอไปโรงพยาบาล แต่เธอคว้าตัวเขาเอาไว้ขณะที่ร้องไห้อย่างหนัก “เจย์บี้ ได้โปรดเถอะ ฉันขอร้องล่ะ อย่าพาฉันไปโรงพยาบาลเลยนะ ฉันไม่อยากโดนฉีดยา...”เธอเป็นหญิงสาว ถึงกระนั้นเธอก็ร้องไห้ฟูมฟายแบบไม่เหลือศักดิ์ศรีเอาเสียเลยหัวใจของเจย์เจ็บปวด หลายปีมานี้ ไม่มีใครให้ความรักกับเธอ นั่นส่งผลให้เธอแข็งแกร่งและกล้าหาญมากขึ้นโรสเพิกเฉยต่อสายตาของเจย์และเพ่งความสนใจไปที่เข็มที่กำลังจะถูกแทงเข้าไปในมือของเธอการลองครั้งแรก เข็มแฉลบไปด้านข้างเล็กน้อยและทำให้เธอกระตุกอย่างรวดเร็วด้วยความเจ็บปวดเปลือกตาของเจย์กระตุกตามไปด้วยในการลองครั้งที่สอง เธอแทงเส้นเลือดดำของเธอ แต่เลือดไม่หยุดไหล เธอเอาสำลีก้อนหนึ่งมาห้ามเลือดอย่างใจเย็น!"หยุด!" เจย์ทนดูเธอทรมา