“เด็ก ๆ ไม่ควรสบถ” โรสตำหนิเจนสันอย่างติเตือนเจนสันจ้องมองเธอและเดินขึ้นไปชั้นบนล็อคประตูห้องของเขาข้างหลังเขาโรสจ้องไปที่ประตูที่ปิดอยู่และถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ‘ฉันจะทำอย่างไรกับเจนสันดี?’เขาเป็นลูกที่เธอเป็นติดค้างมากที่สุดเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรเพื่อชดเชยความรักของมารดาที่เขาถูกปฏิเสธมาหลายปีเธอเหลือบมองนาฬิกาและตระหนักว่ามันกำลังจะสายแล้วโรสเดินไปที่ห้องครัวและตัดสินใจที่จะปรุงอาหารกลางวันแสนอร่อยให้กับเจนสันตู้เย็นเต็มไปด้วยส่วนผสมต่าง ๆ แต่โรสไม่รู้ว่าเจนสันต้องการอะไร ในขณะนั้นเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจกับเจนสันมากขึ้น—เธอล้มเหลวในฐานะแม่ของเขาในตอนสุดท้ายเธอทำอาหารสองสามอย่างที่ร็อบบี้น้อยน่าจะชอบ ‘เนื่องจากร็อบบี้น้อยและเจนสันมียีนที่เหมือนกันพวกเขาอาจมีสัมผัสรสชขาติที่เหมือนกันก็ได้!’ เธอคิดอย่างมีความหวังโรสเตรียมอาหารคาวประกอบด้วยซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน เนื้อตุ๋นน้ำแดง“มดไต่ต้นไม้” บะหมี่มันเทศหมูสามชั้นและซุปไข่ใส่สาหร่ายโดยทั่วไปอาหารเหล่านี้ทำในบ้านที่ต่ำต้อยโดยปกติแล้วครัวเรือนที่มีฐานะร่ำรวยเช่นตระกูลอาเรสจะไม่ค่อยมีอาหารประเภทนี้ให้กับพวกเขา
ปีนั้นเธออายุสิบขวบเธอเดินทางไปกับคุณปู่จากเมืองนางแอ่นไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิเพื่อไปเยี่ยมดีแลน อาเรส เพื่อนที่ดีของเขาในตอนนั้นเจย์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในเมืองหลวงจักรพรรดิอยู่แล้ว เขาเป็นแฮ็กเกอร์ที่น่าทึ่ง งดงามและมีชื่อเสียงระดับโลกเมื่อพบกันครั้งแรกเขาทำเหมือนว่าเธอเป็นแค่ญาติห่าง ๆ คนนอก กลัวว่าเด็กผู้หญิงจะรบกวนเขาตอนที่เขาเรียน เขาขุดเลโก้เก่า ๆ หลายกล่องวางลงตรงหน้าเธอแล้วประกาศว่า "ของเล่นพวกนี้น่าจะอยู่กับเธอได้ในวันนี้ ฉันหวังว่าเธอจะไม่รบกวนฉันนะ"อย่างไรก็ตามเธอทำเสร็จในเวลาไม่นานและเมื่อเธอรีบวิ่งกลับไปหาเขาพร้อมกับเลโก้ ทีประกอบเข้าด้วยกัน เจย์ก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ‘สาวน้อยคนนี้สร้างเลโก้ได้เร็วเท่าฉันเหรอเนี่ย?’เขาไม่สามารถขัดขวางไสายตาของเขาไม่ให้จับจ้องไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีพรสวรรค์คนนั้นได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่บริสุทธิ์และบอบบาง เธอดูเหมือนจิตวิญญาณในโลกอื่นด้วยดวงตาแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยแสงคู่นั้นของเธอที่ใสราวกับน้ำทะเล เธอมองไปที่เจย์และวิงวอนอย่างน่าสงสาร "พี่ใหญ่ พี่เล่นกับฉันได้ไหม?"เจย์รู้สึกถึงความรักของเขาที่มีต่อเธอเป็
ในเวลาตอนเย็น เจย์กลับมาโรสนั่งบนโซฟาใบหน้าบวมและจมูกเขียวในขณะที่เธอถือหนังสือบทกวีไว้ในมือ มีผ้ากอซหนาพันรอบมือขวาของเธอ เธอจ้องมองเจย์อย่างขมขื่น“ดูเหมือนว่าคุณจะคิดมากเมื่อคุณขอให้ฉันทำความสะอาดชามในตู้ด้านล่าง” โรสกล่าวอย่างไม่พอใจเจย์เดินมาหาเธอแบบลวก ๆ ถอดเสื้อสูทที่ตัดเย็บพิเศษด้วยมือ ปลดเนกไทสีดำของเขาและจ้องมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ บนโซฟา“ทำหน้าแบบนั้นคืออะไร? คุณพยายามแบล็กเมล์ฉันเพื่อเงินหรือเปล่า” ริมฝีปากที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์พ่นคำที่ฟังเเล้วขัดหูออกมาอีกครั้งผิวของโรสซีดมาก ดูเหมือนว่าการทุบเพียงเล็กน้อยจะทำให้เธอช้ำได้อย่างง่ายดายด้วยความที่เจนสันดึงตัวเธอออกไปด้วยความรุนแรงขนาดนี้นอกจากเขาจะเขวี้ยงบล็อกของเล่นใส่หน้าเธอแล้ว ใคร ๆ ก็นึกได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอับอายแค่ไหนโรสลุกขึ้นยืนทันที เงยหน้าขึ้นมอองไปที่เจย์ เธอดีดนิ้วกลางของเธอและคำรามว่า "ท่านอาเรสถ้าคุณต้องการแก้แค้นฉันอย่าได้ลังเล แต่อย่างน้อยโปรดใช้สมองของคุณด้วย เมื่อคุณทำมันก็อย่าเกี่ยวข้องกับเด็กที่ไร้เดียงสา"รูม่านตาของเจย์ขยายออก—ทันใดนั้นเขาก็คว้ามือเล็ก ๆ ของเธอไว้ โรสอ้าปากค้างด้วยความเจ
หลังจากที่พ่อของโรสหย่ากับแม่ เขาก็แต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นแม่ของซิดนีย์แม้ว่าจะดูเหมือนการแต่งงานใหม่ทั่วไป แต่ซิดนีย์ก็อายุน้อยกว่าโรสเพียงสองปีเมื่อพ่อของโรสหย่ากับอดีตภรรยา โรสอายุได้ห้าขวบ จากมุมมองดังกล่าวดูเหมือนว่าพ่อของโรสจะนอกใจแม่ของเธอในขณะที่พวกเขาแต่งงานกันแล้วตอนนั้นแม่ของโรสอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลและไม่รู้ว่าจะปกป้องตัวเองอย่างไรในศาลหย่าร้างเมื่อโรสอายุสิบห้าแม่ของเธอทำงานหนักมากจนถึงขั้นล้มป่วย ความกลัวที่สุดของเธอคือไม่มีใครดูแลลูกสาวของเธอหากเธอเสียชีวิต เธอให้ลูกสาวออกเดินทางไกลไปยังเมืองเพื่อตามหาญาติของเธออย่างไรก็ตามพ่อของเธอได้แนะนำโรสซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองกับทุกคนในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายตั้งแต่วันนั้นแม้ว่าโรสจะย้ายเข้ามาอยู่กับครอบครัวลอยล์ แต่เธอก็ใช้ชีวิตอย่างน่าสังเวชและต่ำต้อยทั้งซิดนีย์และแม่ของเธอมักจะทำให้โรสอับอายเพราะมาจากพื้นเพที่ต่ำกว่า เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะดุและทุบตีโรสเมื่อพ่อของเธอไม่อยู่บ้าน ครั้งหนึ่งโรสไม่สามารถหยุดตัวเองและตอกกลับทำให้แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่ถอดเสื้อผ้าของเธอออกและขังเธอไว้ในห้องน้ำตลอดทั้งคื
เจนสันหยุดเดินและจ้องมองไปที่เด็กที่ทำร้ายเขาแววตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่และทรงพลังในแววตาของเจนสันคือดวงตาของผู้ใหญ่ที่พร้อมจะลงมือฆ่าได้เด็กขี้ขลาดตกใจกลัวรีบซ่อนตัวอยู่ในอ้อมอกแม่เมื่อผู้ปกครองเห็นที่มาของความกลัวของลูกเธอจึงตะโกนใส่เจนสันว่า "เธอจ้องอะไร? แม่ของเธอไม่เคยสอนเลยหรือว่าการจ้องคนอื่นนั้นหยาบคาย?"ผู้ช่วยรู้สึกเสียใจกับเจนสันและก้าวไปข้างหน้าเพื่อกันตัวเขาออกไปแนนซี่ดึงเธอกลับมาและพูดว่า "อีโก้ของเด็กคนนั้นใหญ่เกินไป มันจะเป็นเรื่องดีที่จะให้เขาเรียนรู้บางอย่าง ถ้าไม่อย่างนั้นอารมณ์ของเขาจะไม่เปลี่ยนไป ถ้าเขายังคงเป็นแบบนั้นฉันจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อฉันแต่งงานกับตระกูลอาเรส”โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจนสันเกลียดคนพูดไม่ดีเกี่ยวกับแม่ของเขา แม่ของเด็กคนนั้นเหยียบกับระเบิดเข้าเเล้ว“คุณอย่ามาพูดถึงแม่ของฉันเชียวนะ!” เจนสันส่งเสียงคำรามราวกับหมาป่าตัวเล็กที่คลั่งไปหาผู้หญิงที่พูด"เด็กคนนี้เป็นบ้าเหรอ? ใครคือพ่อแม่ของเขา? พ่อแม่เขาดูแลลูกของตัวเองไม่ได้เหรอ?" หญิงสาวคว้ามือของเจนสัน เพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตีของเขาเมื่อไม่มีใครตอบกลับเธอก็ผลักเจนสันลงไปที่พื้น ศีรษ
หลังจากนั้น ผู้คนต่างเริ่มพากันหันมากล่าวต่อว่าหญิงสาว “จริง ๆ เลย เธอโตแล้วนะ ยังจะกลั่นแกล้งเด็กตัวเล็ก ๆ ได้ลงคออีกเหรอ?”เมื่อสถาณการณ์เริ่มบานปราย เธอจึงกระวนกระวายใจรีบหันไปพูดกับเจนสันด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “ฉันขอโทษ”ทว่าเจนสันกลับตอบกลับอย่างแน่วแน่ว่า “พวกคุณหยุดต่อว่าคุณแม่ของผมได้แล้ว”โรสชายตามองไปยังเด็กน้อยเจนสัน พร้อมแววตาคู่นั้นของเธอที่รื่นรินไปด้วยหยดน้ำสำหรับเจนสันแล้ว ในหัวใจของเด็กน้อยนั้น แม่ เปรียบเสมือนนางฟ้าเทพธิดาที่คอยอยู่เคียงข้างตนเสมอ ซึ่งความรู้สึกติดค้างเหล่านี้ ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจร่างบางรีบพยักหน้าพลางเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้เมื่อผ่านพ้นปัญหาเมื่อครู่ หญิงสาวจึงจับไหล่ของเด็กน้อยไว้ พร้อมกระซิบถามอย่างแผ่วเบาคล้ายขอร้อง “เจน ให้ฉันไปส่งเธอที่ห้องเรียนได้ไหมจ๊ะ?”ร่างของเด็กน้อยค่อย ๆ หยุดเดิน เจนสันหันหน้ามองตรงไปยังประตูทางเข้าของโรงเรียน สายตาของเด็กน้อยนั้นเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงฝืนใจเมื่อต้องก้าวผ่านประตูโรสจึงเอื้อมมือไปขว้าเจนสันตัวน้อยมาไว้ในอ้อมแขน‘เด็กคนนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวที่จะเดินเข้าไป อะไรที่ทำให้เจนสันรู้สึกแย่กันนะ
”เพราะอะไรคะ?” โรสถามกลับไปอย่างรวดเร็ว“ทะเลาะกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียน แถมยังพาเจนสันหนีเรียนไปเที่ยวเล่น… เธอยังจะมีหน้ามาถามฉันกลับอีกเหรอ?” ร่างสูงขบฟันแน่น ความโกรธที่อัดอั้นมาทั้งวีนกำลังจะปะทุออกมาในที่สุดโรสเริ่มที่จะมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง สงสัยว่าคุณแนนซี่จอมขี้ฟ้องคนนั้นคงจะเอ่ยออกมาหมดเปลือกแล้วสินะหญิงสาวเริ่มหน้าตึง “ท่านอาเรสคะ ท่านรู้เหตุผลที่ดิฉันปะทะคารมณ์กับผู้ปกครองท่านนั้นไหมคะ? ทำไมดิฉันต้องพาเจนสันออกไป? นั้นก็เพราะ—”พลันร่างสูงกลับเอ่ยขัดทันควัน “ไม่ว่าเหตุผลของเธอจะเป็นอะไร แค่สิ่งที่เธอทำลงไปมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันรู้ถึงความไร้สำนึกคิดของเธอ!”หล่อนเถียงกลับทันควัน “ฉันเผชิญหน้ากับผู้ปกครองแย่ ๆ พวกนั้นก็เพราะเขาทำร้ายเจนสัน พร้อมยังวิจารณ์ถึงการเลี้ยงลูกของคุณ คุณคิดบ้างไหมว่ามันจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อเจนขนาดไหน?”“ท่านอาเรส คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันจนกว่าคุณจะรู้และเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”เจย์ยังคงจ้องมองไปยังใบหน้าที่ยืนกรานหนักแน่นของหญิงสาว พลางยักคิ้วอย่างประหลาดใจ หลังจากที่เขาไม่ได้พบเธอประมาณห้าปี จากผู้หญิงที่พูดไม่คิดกลับแปรเปลี่ยนเป็
ถึงแม้ว่าโรสจะรีบมุ่งไปยังคฤหาสน์โฮไรซอน คอลเลอร์ แล้วแต่เพราะการจราจรที่แอดอัดในช่วงเวลาเร่งรีบก็ทำให้เธอมาสายอีกครั้งร่างสูงของเจย์ที่ยืนอยู่บริเวณระเบียงชั้นสองของคฤหาสน์เพ่งมองความรีบร้อนของหญิงสาวจากด้านบน รอยยิ้มแสยะปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง“คุณโรส คุณสายนะ”โรสได้ยินเสียงบ่นเบา ๆ มาจากด้านบนหัวของเธอ ทันทีที่เห็นเจ้าของเสียงนั้นวิญญาณของเธอแทบออกจากร่าง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม เธอกลับได้รับรอยยิ้มคล้ายสาปสมเป็นการต้อนรับร่างบางหอบเหนื่อย พยายามที่จะผ่อนลมหายใจเข้าออก สิ่งที่เธอต้องทำเพื่อแก้ไขสถานการ์ตรงหน้าคงมีเพียงแค่การรวบรวมคำพูดเพื่อแก้ต่าง “ท่าน—อาเรสคะ—พอดีว่าถนน—การจราจร…” เพียงพูดไม่กี่คำก็หอบเสียแล้ว ‘ท่าน อาเรส ถนน จราจร อะไรนะ? ข่างเป็นประโยคที่เพ้อเจ้อจริง ๆ’ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มแสดงถึงความมึงตึง“เธอช่วยพูดให้ฉันเข้าใจอีกทีสิ?” เจย์คำรามในลำคอเธอพยายามอธิบายไปพร้อมกับหอบหายใจไปด้วย “ท่านอาเรสคะ—บนถนนรถติดมาก—เพราะแบบนั้น—ดิฉัน—จึงมาสายค่ะ” ชายหนุ่มยังคงนิ่ง ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างไม่นานนักร่างสูงกำยำนั่งลงบนโซฟาตัวเก่ง ขายาวเรียวไขว้