หลังจากที่พ่อของโรสหย่ากับแม่ เขาก็แต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นแม่ของซิดนีย์แม้ว่าจะดูเหมือนการแต่งงานใหม่ทั่วไป แต่ซิดนีย์ก็อายุน้อยกว่าโรสเพียงสองปีเมื่อพ่อของโรสหย่ากับอดีตภรรยา โรสอายุได้ห้าขวบ จากมุมมองดังกล่าวดูเหมือนว่าพ่อของโรสจะนอกใจแม่ของเธอในขณะที่พวกเขาแต่งงานกันแล้วตอนนั้นแม่ของโรสอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลและไม่รู้ว่าจะปกป้องตัวเองอย่างไรในศาลหย่าร้างเมื่อโรสอายุสิบห้าแม่ของเธอทำงานหนักมากจนถึงขั้นล้มป่วย ความกลัวที่สุดของเธอคือไม่มีใครดูแลลูกสาวของเธอหากเธอเสียชีวิต เธอให้ลูกสาวออกเดินทางไกลไปยังเมืองเพื่อตามหาญาติของเธออย่างไรก็ตามพ่อของเธอได้แนะนำโรสซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองกับทุกคนในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายตั้งแต่วันนั้นแม้ว่าโรสจะย้ายเข้ามาอยู่กับครอบครัวลอยล์ แต่เธอก็ใช้ชีวิตอย่างน่าสังเวชและต่ำต้อยทั้งซิดนีย์และแม่ของเธอมักจะทำให้โรสอับอายเพราะมาจากพื้นเพที่ต่ำกว่า เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะดุและทุบตีโรสเมื่อพ่อของเธอไม่อยู่บ้าน ครั้งหนึ่งโรสไม่สามารถหยุดตัวเองและตอกกลับทำให้แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่ถอดเสื้อผ้าของเธอออกและขังเธอไว้ในห้องน้ำตลอดทั้งคื
เจนสันหยุดเดินและจ้องมองไปที่เด็กที่ทำร้ายเขาแววตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่และทรงพลังในแววตาของเจนสันคือดวงตาของผู้ใหญ่ที่พร้อมจะลงมือฆ่าได้เด็กขี้ขลาดตกใจกลัวรีบซ่อนตัวอยู่ในอ้อมอกแม่เมื่อผู้ปกครองเห็นที่มาของความกลัวของลูกเธอจึงตะโกนใส่เจนสันว่า "เธอจ้องอะไร? แม่ของเธอไม่เคยสอนเลยหรือว่าการจ้องคนอื่นนั้นหยาบคาย?"ผู้ช่วยรู้สึกเสียใจกับเจนสันและก้าวไปข้างหน้าเพื่อกันตัวเขาออกไปแนนซี่ดึงเธอกลับมาและพูดว่า "อีโก้ของเด็กคนนั้นใหญ่เกินไป มันจะเป็นเรื่องดีที่จะให้เขาเรียนรู้บางอย่าง ถ้าไม่อย่างนั้นอารมณ์ของเขาจะไม่เปลี่ยนไป ถ้าเขายังคงเป็นแบบนั้นฉันจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อฉันแต่งงานกับตระกูลอาเรส”โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจนสันเกลียดคนพูดไม่ดีเกี่ยวกับแม่ของเขา แม่ของเด็กคนนั้นเหยียบกับระเบิดเข้าเเล้ว“คุณอย่ามาพูดถึงแม่ของฉันเชียวนะ!” เจนสันส่งเสียงคำรามราวกับหมาป่าตัวเล็กที่คลั่งไปหาผู้หญิงที่พูด"เด็กคนนี้เป็นบ้าเหรอ? ใครคือพ่อแม่ของเขา? พ่อแม่เขาดูแลลูกของตัวเองไม่ได้เหรอ?" หญิงสาวคว้ามือของเจนสัน เพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตีของเขาเมื่อไม่มีใครตอบกลับเธอก็ผลักเจนสันลงไปที่พื้น ศีรษ
หลังจากนั้น ผู้คนต่างเริ่มพากันหันมากล่าวต่อว่าหญิงสาว “จริง ๆ เลย เธอโตแล้วนะ ยังจะกลั่นแกล้งเด็กตัวเล็ก ๆ ได้ลงคออีกเหรอ?”เมื่อสถาณการณ์เริ่มบานปราย เธอจึงกระวนกระวายใจรีบหันไปพูดกับเจนสันด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “ฉันขอโทษ”ทว่าเจนสันกลับตอบกลับอย่างแน่วแน่ว่า “พวกคุณหยุดต่อว่าคุณแม่ของผมได้แล้ว”โรสชายตามองไปยังเด็กน้อยเจนสัน พร้อมแววตาคู่นั้นของเธอที่รื่นรินไปด้วยหยดน้ำสำหรับเจนสันแล้ว ในหัวใจของเด็กน้อยนั้น แม่ เปรียบเสมือนนางฟ้าเทพธิดาที่คอยอยู่เคียงข้างตนเสมอ ซึ่งความรู้สึกติดค้างเหล่านี้ ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจร่างบางรีบพยักหน้าพลางเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้เมื่อผ่านพ้นปัญหาเมื่อครู่ หญิงสาวจึงจับไหล่ของเด็กน้อยไว้ พร้อมกระซิบถามอย่างแผ่วเบาคล้ายขอร้อง “เจน ให้ฉันไปส่งเธอที่ห้องเรียนได้ไหมจ๊ะ?”ร่างของเด็กน้อยค่อย ๆ หยุดเดิน เจนสันหันหน้ามองตรงไปยังประตูทางเข้าของโรงเรียน สายตาของเด็กน้อยนั้นเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงฝืนใจเมื่อต้องก้าวผ่านประตูโรสจึงเอื้อมมือไปขว้าเจนสันตัวน้อยมาไว้ในอ้อมแขน‘เด็กคนนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวที่จะเดินเข้าไป อะไรที่ทำให้เจนสันรู้สึกแย่กันนะ
”เพราะอะไรคะ?” โรสถามกลับไปอย่างรวดเร็ว“ทะเลาะกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียน แถมยังพาเจนสันหนีเรียนไปเที่ยวเล่น… เธอยังจะมีหน้ามาถามฉันกลับอีกเหรอ?” ร่างสูงขบฟันแน่น ความโกรธที่อัดอั้นมาทั้งวีนกำลังจะปะทุออกมาในที่สุดโรสเริ่มที่จะมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง สงสัยว่าคุณแนนซี่จอมขี้ฟ้องคนนั้นคงจะเอ่ยออกมาหมดเปลือกแล้วสินะหญิงสาวเริ่มหน้าตึง “ท่านอาเรสคะ ท่านรู้เหตุผลที่ดิฉันปะทะคารมณ์กับผู้ปกครองท่านนั้นไหมคะ? ทำไมดิฉันต้องพาเจนสันออกไป? นั้นก็เพราะ—”พลันร่างสูงกลับเอ่ยขัดทันควัน “ไม่ว่าเหตุผลของเธอจะเป็นอะไร แค่สิ่งที่เธอทำลงไปมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันรู้ถึงความไร้สำนึกคิดของเธอ!”หล่อนเถียงกลับทันควัน “ฉันเผชิญหน้ากับผู้ปกครองแย่ ๆ พวกนั้นก็เพราะเขาทำร้ายเจนสัน พร้อมยังวิจารณ์ถึงการเลี้ยงลูกของคุณ คุณคิดบ้างไหมว่ามันจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อเจนขนาดไหน?”“ท่านอาเรส คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันจนกว่าคุณจะรู้และเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”เจย์ยังคงจ้องมองไปยังใบหน้าที่ยืนกรานหนักแน่นของหญิงสาว พลางยักคิ้วอย่างประหลาดใจ หลังจากที่เขาไม่ได้พบเธอประมาณห้าปี จากผู้หญิงที่พูดไม่คิดกลับแปรเปลี่ยนเป็
ถึงแม้ว่าโรสจะรีบมุ่งไปยังคฤหาสน์โฮไรซอน คอลเลอร์ แล้วแต่เพราะการจราจรที่แอดอัดในช่วงเวลาเร่งรีบก็ทำให้เธอมาสายอีกครั้งร่างสูงของเจย์ที่ยืนอยู่บริเวณระเบียงชั้นสองของคฤหาสน์เพ่งมองความรีบร้อนของหญิงสาวจากด้านบน รอยยิ้มแสยะปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง“คุณโรส คุณสายนะ”โรสได้ยินเสียงบ่นเบา ๆ มาจากด้านบนหัวของเธอ ทันทีที่เห็นเจ้าของเสียงนั้นวิญญาณของเธอแทบออกจากร่าง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม เธอกลับได้รับรอยยิ้มคล้ายสาปสมเป็นการต้อนรับร่างบางหอบเหนื่อย พยายามที่จะผ่อนลมหายใจเข้าออก สิ่งที่เธอต้องทำเพื่อแก้ไขสถานการ์ตรงหน้าคงมีเพียงแค่การรวบรวมคำพูดเพื่อแก้ต่าง “ท่าน—อาเรสคะ—พอดีว่าถนน—การจราจร…” เพียงพูดไม่กี่คำก็หอบเสียแล้ว ‘ท่าน อาเรส ถนน จราจร อะไรนะ? ข่างเป็นประโยคที่เพ้อเจ้อจริง ๆ’ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มแสดงถึงความมึงตึง“เธอช่วยพูดให้ฉันเข้าใจอีกทีสิ?” เจย์คำรามในลำคอเธอพยายามอธิบายไปพร้อมกับหอบหายใจไปด้วย “ท่านอาเรสคะ—บนถนนรถติดมาก—เพราะแบบนั้น—ดิฉัน—จึงมาสายค่ะ” ชายหนุ่มยังคงนิ่ง ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างไม่นานนักร่างสูงกำยำนั่งลงบนโซฟาตัวเก่ง ขายาวเรียวไขว้
เจ้าตัวแสบทั้งคู่ค่อย ๆ ย่องแอบไปยังหลบด้านหลังของบันไดชั้นสอง พลางลอบมองสถานการณ์ด้านล่างระหว่างโรสและเจย์ส่วนทางด้านของโรสนั้น หญิงสาวพยายามอดทนในการโต้วาทีครั้งนี้ง“ท่านอาเรสคะ คุณมักจะจับผิดทุกการกระทำของฉันและไม่เคยพอใจเลยซักครั้ง ไม่ว่าฉันจะทำอะไร แล้วตัวคุณล่ะคะ? คุณปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ไปรับไปส่งลูกของคุณอย่างหน้าตาเฉย คุณเคยคิดบ้างไหมคะ ว่ามันจะส่งผลอย่างไรต่อลูกของคุณบ้าง?”“โรส แนวคิดของฉันมันเหมาะสมแล้ว ฉันไม่ต้องการความคิดเห็นของเธอ แล้วก็นะ ผู้หญิงเหล่านั้นที่เธอพูดถึง ก็คือคนที่เจนสันรู้จักทั้งนั้น เธอต่างหากคือคนที่มีแต่ความคิดแย่ ๆ ไม่ใช่หรือไง?” ร่างสูงกล่าวอย่างโมโห“แล้วแนนซี่คือใคร? เธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับเจนสัน?”“โรส เธอไม่มีสิทธ์ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของฉัน”“ฉันไม่สนใจว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยช่วยคิดซักนิดก่อนจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่หาแม่เลี้ยงคู่กรรมให้เจนสัน แล้วถ้าคุณคิดอยากจะมีทายาทอีกซักคน คุณจะอดทนจนกว่าจะถึงเวลาที่เจนสันพร้อมสำหรับ ลูกอีกคน ของคุณได้ไหม?”คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย “ใครบอกเธอว่าฉันจะมีลูกกับแนนซี่?”โรส
”ได้เลย” เจนสันเอ่ยพลางพนักหน้าเด็กน้อยร็อบบี้เดินลงไปยังชั้นล่าง เมื่อโรสและเจย์ได้ยินเสียงฝีเท้าน้อย ๆ การโต้เถียงที่เกิดขึ้นพลันเงียบหายไปในทันควันเด็กน้อยเดินไปยืนหยุดท่ายกลางผู้ใหญ่ทั้งสอง เขามองไปที่ดวงตาคู่สวยที่แดงเรื่อของแม่ พร้อมหันกลับมามองชายที่ได้ชื่อว่าพ่อ ร่างเล็กจึงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศคลุกกรุ่นที่แผ่ออกมาจากผู้เป็นพ่อร็อบบี้ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านายตัวร้ายที่คอยกลั่นแกล้งแม่ของเขาจะกลายเป็น คุณพ่อที่ตัวเขานั้นถวิลหาอยู่ทุกวันทุกคืนแม้ว่าคุณพ่อจะดูน่าภูมิฐาน หล่อเหลาและร่ำรวย แต่คนที่เอาใจใส่เลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุดในโลกกลับกลายเป็นคุณแม่ เขาไม่มีวันยอมให้ใครมากลั่นแกล้งแม่ของเขาเป็นแน่ แม้กระทั่งพ่อก็ตาม“เจนสัน ลูกมาทำอะไรข้างล่างนี่? รีบขึ้นไปด้านบนซะ คุณแนนซี่จะเป็นคนพาลูกไปโรงเรียน” เจย์ปรายตามองก่อนจะเอ่ยกับเจนสัน ก่อนจะขมวดคิ้ว เขาคิดว่าเขาเห็นการต่อต้านเกิดขึ้นภายในแววตาของลูกชายตัวน้อย แค่แวบเดียวในแววตานั้นซึ่งนั้น คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนร็อบบี้น้อยเดินตรงไปยังผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจย์ชะงักในทันทีเจนสันมักจะสามารถควบคุมอารมณ์ของตั
เจย์และโรสได้แต่จ้องมองไปที่ “เจนสัน” อย่างตกใจคำพูดเหล่านั้นที่หนูน้อย “เจนสัน” เอ่ยออกมาเปรียบเสมือนเสียงระเบิดเวลาสำหรับชายหนุ่มและหญิงสาวโรสจ้องมองชายหนุ่มด้วยความวิตกกังวล พลางกลัวว่าร่างสูงนั้นจะจับพิรุธของเธอได้ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างคุมเชิง ก่อนที่ริมฝีปางบางสวยจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันพร้อมเอ่ยถาม “โรส เธอว่า เป็นอย่างเจนสันพูดหรือเปล่า?”โรสบอกได้อย่างแน่ชัดว่าตอนนี้เธอกำลังเห็นเปลวไฟคลุกกรุ่นภายในดวงตาของร่างสูง และนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องต่าง ๆ เริ่มจะไม่ง่ายแล้วสิถ้าให้เลือกระหว่างการที่ปล่อยให้ร่างสูงได้เค้นความจริงจากเธอ เธอเลือกที่จะบอกความจริงเพียงครึ่งเดียวให้เจย์ได้รู้จะดีต่อตัวเธอกว่า “ฉันมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน” เธอบอกอย่างช้า ๆ “อายุน้อยกว่าเจนสันหนึ่งปี… สองสามวันมานี้เธอป่วยเป็นไข้หวัด ที่ฉันมาทำงานสายก็เพราะว่าฉันต้องดูแลเธอ”เจย์เริ่มขมวดคิ้วเขากำลังโดนไล่ต้อนจากความคิดที่ว่า ร่างบางตรงหน้าไปมีลูกกับชายอื่นหลังจากที่ทิ้งเขาไปเจย์ขัดเธอขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ฉันไม่สนเรื่องครอบครัวของเธอ แต่ถ้าเธอไม่มีเวลาดูแลเจนสันอย่างจริงจัง เธอก็ไม่ควรรับ