เจย์และโรสได้แต่จ้องมองไปที่ “เจนสัน” อย่างตกใจคำพูดเหล่านั้นที่หนูน้อย “เจนสัน” เอ่ยออกมาเปรียบเสมือนเสียงระเบิดเวลาสำหรับชายหนุ่มและหญิงสาวโรสจ้องมองชายหนุ่มด้วยความวิตกกังวล พลางกลัวว่าร่างสูงนั้นจะจับพิรุธของเธอได้ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างคุมเชิง ก่อนที่ริมฝีปางบางสวยจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันพร้อมเอ่ยถาม “โรส เธอว่า เป็นอย่างเจนสันพูดหรือเปล่า?”โรสบอกได้อย่างแน่ชัดว่าตอนนี้เธอกำลังเห็นเปลวไฟคลุกกรุ่นภายในดวงตาของร่างสูง และนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องต่าง ๆ เริ่มจะไม่ง่ายแล้วสิถ้าให้เลือกระหว่างการที่ปล่อยให้ร่างสูงได้เค้นความจริงจากเธอ เธอเลือกที่จะบอกความจริงเพียงครึ่งเดียวให้เจย์ได้รู้จะดีต่อตัวเธอกว่า “ฉันมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน” เธอบอกอย่างช้า ๆ “อายุน้อยกว่าเจนสันหนึ่งปี… สองสามวันมานี้เธอป่วยเป็นไข้หวัด ที่ฉันมาทำงานสายก็เพราะว่าฉันต้องดูแลเธอ”เจย์เริ่มขมวดคิ้วเขากำลังโดนไล่ต้อนจากความคิดที่ว่า ร่างบางตรงหน้าไปมีลูกกับชายอื่นหลังจากที่ทิ้งเขาไปเจย์ขัดเธอขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ฉันไม่สนเรื่องครอบครัวของเธอ แต่ถ้าเธอไม่มีเวลาดูแลเจนสันอย่างจริงจัง เธอก็ไม่ควรรับ
ร่างสูงของเจย์จ้องมองไปยังหญิงสาวอย่างเชือดเฉือน ดวงตาคู่คงเต็มไปด้วยประกายไฟที่พร้อมจะระเบิดออกมาแต่ทว่าเขาต้องชื่นชมลูกน้อยตรงหน้าเสียก่อน “ทำได้ดีมาก” เจย์กล่าวเมื่อเด็กน้อยได้ยินคำชมจากผู้เป็นพ่อ เจ้าตัวจึงรีบถามต่ออย่างมีความสุข “แล้วคุณโรสจะได้อยู่ต่อไหมครับ?”“ไม่” เจย์ตอบอย่างหนักแน่นโรสรู้ถึงสิ่งที่ร่างสูงตระหนักอยู่ตอนนี้ เธอจึงรีบเอ่ย “ฉันไม่ได้เป็นคนสอนกลอนสองบทนั่น”เจย์คงจะคิดว่าเธอนั้นพยายามอย่างหนักที่จะใช้ความรักของแม่อันยิ่งใหญ่นี้มาเป็นเครื่องมือในการคืนสัมพันธ์แม่ลูกของเธอและเจนสันในอนาคตทว่าเมื่อเด็กน้อยรับรู้ได้ว่าแม่ของเขากำลังเครียด ทำให้ตนเข้าใจว่าตัวเองคงทำอะไรผิดเป็นแน่‘กลอนสองบทนั้นเกี่ยวกับความรักของแม่’‘ไม่แปลกที่คุณพ่อจะไม่ชอบใจ’ร็อบบี้น้อยรีบเอ่ยอย่างลกลน “คุณพ่ออย่างเพิ่งตัดสินสิครับ จะทดสอบผมเรื่องอีกก็ได้ นะครับ?”ผู้เป็นพ่อมองไปยัง “เจนสัน” ร่างสอง ก่อนจะถาม “ช่วงนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรอีกบ้าง?”เด็กน้อยมองไปยังเปียโนด้านข้าง ก่อนจะเดินไปยังเปียโนพร้อมจรดนิ้วมือเล็ก ๆ เพื่อบรรเลงเพลงที่มีชื่อว่า พ่อของฉันเจย์ยืนฟังอย่างไม่คาดคิดว่าหน
ร็อบบี้น้อยทั้งตกใจทั้งกังวลก่อนจะลนลานคลานเข้าไปซ่อนตัวใต้เตียงนอนหลังจากเห็นว่าร็อบบี้เข้าไปหลบเรียบร้อยแล้ว เจนสันจึงเดินไปเปิดประตูห้อง ใบหน้าหล่อเหล่าแต่กลับเรียบนิ่งจ้องมองไปยังพ่อของตนเจย์ปรายตามองไปยังลูกชายจอมเย็นชาของตัวเองอย่างสงสัย ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างงงวย ความน่ารักออดอ้อนเมื่อสักครู่หายไปไหนหมดแล้วร่างสูงขยี้กลุ่มผมดำของลูกชายอย่างรักใคร่ ก่อนจะเอ่ยเพื่อไปทำงาน“พ่อจะไปทำงานแล้ว เพราะฉะนั้นพี่เลี้ยงจะเป็นคนพาลูกไปโรงเรียน ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”แม้ว่าดวงตาคู่ใสนั้นแสดงออกถึงความดื้อรั้นเมื่อได้ยินคำว่าโรงเรียน ทว่าเขาก็พยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะเอ่ยตอบสั้น ๆ “คะ—ครับ!”ร่างสูงรับรู้ได้ถึงความลังเลใจของเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนที่คำพูดของโรสจะผลุบเข้ามาในหัวเขา บางทีเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่โรงเรียนอาจจะไม่ได้เป็นมิตรกับเจนสันขนาดนั้น เสียงติ๊งดังเตือนขึ้นภายในจิตใจของเจย์กรอบบทบาทอันสูงส่งแทบพังทลายลงตรงหน้า หลังจากนั้นคนเป็นพ่อจึงเอ่ยปากถามลูกอย่างจริงจัง ‘’เจนสันบอกพ่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียนจริง ๆ ใช่ไหม?”เด็กน้อยส่ายหัวไปมาก่อนจะเงียบลงเจย์ถอนหายใจแผ่วเบา ทุกครั้งที่
ครั้งนี้เจนสันรีบพยักหน้าโดยปราศจากวามลังเลทันควัน!ก็เขาไม่อยากให้คุณแม่คิดว่าเขาเป็นเด็กดื้อนี่นาหลังจากนั้นที่โรสพาเจนสันไปส่งที่โรงเรียน ทว่าวันนี้เด็กน้อยกลับเดินผ่านเข้าประตูไปอย่างง่ายได้ ไร้ซึ่งอาการมึนตึงขัดขืนเชกเช่นวันวาน หญิงสาวมองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ทำไมวันนี้เด็กน้อยของเธอถึงทำตัวดีขนาดนี้? หรือลึก ๆ แล้วเจนสันก็ฟังเธออยู่ตลอดเวลาแต่เพียงแค่ไม่ทำตามกัน?บ่ายของวันนั้น โรสเดินทางไปรับเจนสันกลับคฤหาสน์ดั่งเคยวินาทีที่เด็กชายก้าวออกมาจากโรงเรียน หญิงสาวแทบหลังน้ำตาของเธอกับภาพที่เห็นเสื้อขาวสะอาดของเด็กน้อยเต็มไปด้วยคราบสกปรกและหมึกปากกา ใบหน้าหล่อเหลาถูกขีดเขียนแต้มรอยสีจากการกลั่นแกล้งของเพื่อน ๆ นอกจากรอยจากน้ำหมึกแล้วยังมีรอยเล็บมือแดง ๆ ขูดเป็นทางยาว และรอยคราบเลือดสดที่ไหลซึมออกมาบริเวณริมฝีปากของเด็กน้อยเมื่อเจนสันเห็นโรส เด็กน้อยรีบหันหนี ก่อนจะพยายามหลบไม่ให้เธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นโรสรีบวิ่งเข้าไปหาพลางดึงเจนสันเข้ามากอดไว้แน่น “เจนสัน!”เธอกอดร่างของเจนสันไว้ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาด้วยความเสียใจเจนสันจ้องมองไปที่หญิงสาว มันมีหลายครั้งที่เขากล
หลังจากที่โรสอุ้มเจนสันกลับคฤหาสน์ เธอเลือกที่จะโทรหาเจย์เพื่อบอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“สวัสดีค่ะท่านอาเรส เจนสันกลับมาถึงคฤหาสน์แล้วนะคะ เจนอยากจะบอกคุณว่า วันนี้เจนสันโดนเพื่อนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ฉันหวังว่าคุณควรจะรู้ถึงเหตุผลที่เจนสันไม่อยากไปโรงเรียน—”หญิงสาวพยายามที่จะอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่ม ทว่ายังไม่ทันจะได้พูดจบ เจย์กลับเอ่ยแทรกเธอทันที “คุณลอยล์ จะให้ผมเตือนคุณอีกกี่ครั้งว่า คุณไม่มีสิทธิ์มาสอนผมว่าผมจะเลี้ยงลูกตัวเองแบบไหน”คำพูดเหล่านั้นบ่งบอกถึงสิทธิ์ต่างๆที่เจย์มี และเธอไม่มี อย่างชัดเจนโรสถอนหายใจอย่างหมดหวัง“เธอกลับไปได้แล้ว ฉันจะถึงคฤหาสน์ในไม่ช้า” เสียงเข้มกล่าวก่อนวางสายเจย์หันไปสั่งเกรย์สัน “จอดรถไว้ข้างทาง”และในไม่กี่นาทีต่อมา โรสเดินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลอาเรสพร้อมกระเป๋าข้าวของของเธอ เธอดูเร่งรีบขณะเดินไปที่ป้ายรถเมย์ขณะเดียวกันมือหนากำลังจะเปิดประตูออกไป แต่กลับเปลี่ยนใจในเสี้ยววิให้เกรย์สันขับรถตามเธอไปแทน “ตามเธอไป” เจย์กล่าวเกือบจะสี่สิบถึงห้าสิบนาทีต่อมา รถเมย์ของหญิงสาวได้จอดอยู่ที่หน้าประตูของโรงเรียนสาธิตซีตี้นอร์ทโรลว์-รอย
เด็กน้อยเซ็ตตี้ผงะถอยหลังด้วยความตกใจ มือเล็กกำเงินเหล่านั้นไว้อย่างงุนงง“ฉันรวยมาก” เจย์เอ่ยพลางโมโห พร้อมแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหลอกเด็กเซ็ตตี้ยื่นเงินคืนให้ร่างสูง ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษแผ่วเบา “หนูขอโทษค่ะ หนูจะไม่เรียกคุณว่าแก๊งลักเด็กอีกแล้ว และหนูก็ไม่ต้องการเงินพวกนี้”ชายหนุ่มแปลกใจ ถึงแม้เด็กน้อยจะยังเด็ก แต่ว่าเธอกลับรู้ที่จะไม่รับของจากคนแปลกหน้าหรือสิ่งที่จะส่งผลเสียต่อเธอการปรากฏตัวของเจย์ต่อหน้าโรสและลูกของเธอทำให้เธอรู้สึกหายใจแทบไม่ออก “เซ็ตตี้จ๊ะ คุณผู้ชายคนนี้คือเจ้านายใหม่ของแม่” เธอกระแอมบอก “ลูกไปเล่นรอแม่ก่อนนะ แม่ขอคุยกับเขาก่อน”เมื่อเด็กน้อยรู้ถึงสถานะของชายตรงหน้ากับแม่ของเธอ เซ็ตตี้น้อยเริ่มต่อรองเจรจาทันที “คุณผู้ชายคะ คุณช่วยลดงานให้คุณแม่ได้ไหมคะ? คุณแม่เหนื่อยมากเลยนะ”ถึงจะไม่อยากยอมรับเธอ เจย์ก็หยุดตัวเองไม่ให้รู้สึกอิจฉาหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ โรสมีลูกสาวที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอ ช่างหน้าอิจฉาจริง ๆ อย่างไรก็ตาม อารมณ์ครุกกรุ่นที่มีอยู่ในใจกลับเป็นสิ่งที่ไม่เคยลดลง ชายหนุ่มปฏิเสธคำขอของเซ็ตตี้น้อยอย่างไร้เยื้อใย “จำนวนของงานที่ได้ไปมันเหมา
หญิงสาวได้แต่มองตามโรลว์-รอยซ์คันสวยขับผ่านไป ฝุ่นกระจายไปตามถนนเมื่อรถแล่นผ่าน พร้อมทั้งหยดน้ำตาที่เอ่อไหลรื่นออกมาจากนัยน์ตากลมสวยจนเต็มไปทั้งดวงหน้า เจย์เข้าใจเธอผิดทั้งหมด ปิดกั้นเธอและเจนสันโดยไม่ให้เธอได้เจอเจนสันไปตลอดชีวิตคือการตัดความสัมพันธ์แม่ลูกที่โหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณีเมื่อเด็กน้อยร็อบบี้เดินออกมาจากโรงเรียน เขาเห็นไหล่ของผู้เป็นแม่สั่นคลอนและน้ำตามากมายที่พรั่งพรูออกมาเด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาเธอทันที “คุณแม่ เกิดอะไรขึ้นครับ?”เซ็ตตี้ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบรายงานคนเป็นพี่ทันควัน “ร็อบบี้ เมื่อกี้เจ้านายของคุณแม่มาที่นี่ เขาไล่คุณแม่ออก คุณแม่ตกงานแล้วแน่เลย”ใบหน้าของเด็กชายแปรเปลี่ยนเป็นซีดจาง เพราะเขารู้ ว่าเจ้านายของคุณแม่คือคุณพ่อของเจนสันถ้าโดนไล่ออก ก็แสดงว่าคุณแม่จะไม่มีโอกาสเจอเจนสันอีกต่อไปเหรอ?ไม่แปลกใจเลย ทำไมคุณแม่ของเขาถึงร้องไห้หนักขนาดนี้หญิงสาวเดินจูงมือลูกสองคนของเธอผ่านเมืองสเปลนดิดไปเรื่อย ๆ อย่างไร้ซึ่งวิญญาณร็อบบี้น้อยมองไปดวงตาของคนเป็นแม่ที่แดงเรื่อก่ำเลือดจากการร้องไห้หนัก พลางคิดว่าภาพความฝันสวยงามเกี่ยวกับคุณพ่อที่เขาเคยคิดน
เจนสันมองไปยังร่างสูงตรงหน้า “แล้วพ่อจะให้เธอมาไหมครับ?”เจย์ลุกขึ้นพลางเดินเข้าไปหาลูกชาย เขาอธิบายกับเจนสัน “เจนสัน คุณลอยล์เธอมีลูกที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นเป็นเด็กดีเจนสัน พ่อจะหาพี่เลี้ยงที่ดีกว่านี้ให้ลูก โอเคไหม?”เจนสันส่ายหัวด้วยความโกรธ “ผมไม่ต้องการแบบนั้น” ดวงตาของเด็กน้อยเริ่มคลอไปด้วยหยดน้ำตาร่างสูงกอดเด็กน้อยไว้อย่างปรอบโยนจิตใจและความรู้สึกของเจนสันที่กำลังใกล้จะพังลง “เจน พ่อจะหาแม่ให้ลูก ตกลงไหม?”“ไม่เอา” เจนสันตอบอีกครั้ง ทว่าเด็กชายกลับผลักเจย์ออกไปก่อนจะเดินหันกลับไปทางสวนที่เขาได้เจอกับร็อบบี้ตลอดชีวิตของชายหนุ่ม นี่เป็นครั้งแรกที่เจย์ผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกตกต่ำถึงเพียงนี้เจนสันต้องการแม่ ถ้าโรสคือคนที่เหมาะสมจริง ๆ บางทีเขาคงจะโน้มน้าวตัวเองให้เลือกแค้นเคืองเพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจนสันต้องการ แต่ว่าโรสนั้นคือจอมโกหกหลอกลวงที่เต็มไปด้วยมลทิน เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงแบบนั้นเข้าใกล้เจนสันได้อย่างไร?เจนสันนั่งลงบนชิงช้าอย่างเฉื่อยชา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าค่อย ๆ ไหลผ่านแก้มลงเรื่อย ๆ ไม่หยุดเมื่อเห็นสภาพที่น่าสงสารของลูกชาย ร่างสูงได้แต่ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาขณะเดียวกัน