เจนสันย่นขมูกของเขาแน่นแล้วเบะปาก เขาจะมีท่าทางน่ารักแบบนี้เสมอเมื่อเขาไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง"เล่น" เจนสันพูดออกมาหลังจากใช้เวลาคิดเจย์ปิดตาอย่างเสียใจอย่างที่สุด 'ฉันเข้าใจร็อบบี้น้อยผิด!'เจย์กอดร็อบบี้น้อยด้วยความรู้สึกผิดอย่างควบคุมไม่ได้"ผมอยากกลับบ้าน" ร็อบบี้น้อยพลันสะอื้น เขาถูกโทษในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไขว้คว้าความสบายใจ"ร็อบบี้น้อย นี่คือบ้านของลูก" เจย์พยายามแก้ไขสิ่งที่เขาทำผิดไปและพยายามอ่อนโยนเป็นพิเศษเมื่อโน้มน้าวเด็กน้อย"ผมคิดถึงคุณแม่" น้ำตาจากดวงตาของร็อบบี้น้อยไม่หยุดไหล หากใครมาเห็นเขา ทุกคนคงรู้สึกสงสารกับสภาพของเขาเจย์แข็งค้างตรงนั้นและไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อโจเซฟินเดินมาแล้วเอื้อมมือออกไป "ร็อบบี้น้อย นอนที่ห้องของน้าโจเซฟินคืนนี้นะ"ร็อบบี้น้อยโผเข้าหาโจเซฟินอย่างไม่ต้องคิด เจย์ตะลึง สายตาของเขามืดมนลงหลังจากที่โจเซฟินอุ้มร็อบบี้น้อยออกไป เจย์ก็อยู่กับเจนสันเพียงลำพัง เจนสันจับมือของพ่อเขา ดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวมองที่เจย์ใคร ๆ ก็บอกได้ว่าอารมณ์ของเจย์ตอนนี้กำลังแย่"เจนสัน บอกพ่อ ทำไมพวกลูกถึงสู้กันหลั
เจย์ค้นหาบันทึกจากกล้องวงจรปิดของอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน เพื่อหาว่าร็อบบี้น้อยที่แอบออกไปจากพื้นที่ในคืนฝนตก เขาเดาว่าร็อบบี้น้อยต้องกลับไปที่เมืองงอกงามเพื่อหาแม่เขา ดังนั้นเขาจึงโทรหาโรส มือถือดังขึ้น แต่ไม่มีใครรับเจย์รู้สึกไม่สบายใจเมื่อไม่ได้ข่าวของร็อบบี้น้อย เขาพาโจเซฟินและเจนสัน ผู้ซึ่งเป็นห่วงร็อบบี้น้อยไม่น้อยไปกว่ากัน แล้วเร่งกลับไปที่ใจกลางเมืองหลังจากทั้งคืนที่ฝนโปรยปรายลงมาชะล้างฝุ่นและความพลุกพล่านจากความวุ่นวายของเมือง สภาพแวดล้อมจึงดูสดใสและสวยงามขึ้นเมื่อเช้าปรากฏ โรสก็ได้ยินเสียงประตูนิรภัยถูกทุบหลายครั้ง เธอขมวดคิ้วอย่างตื่นตัว เธอเดินไปที่ประตูและเห็นร็อบบี้น้อยที่อยู่ในสภาพน่าสงสาร ตัวของเขาปกคลุมด้วยโคลนและยืนอยู่หน้าเธอ โรสงุนงง"ร็อบบี้น้อย เกิดอะไรขึ้น?"ดวงตาของร็อบบี้น้อยแดงก่ำในขณะที่เขาสะอื้น เขาพยายามฝืนไม่ให้ร้องไห้ออกมาเพื่อไม่ให้โรสกังวลเรื่องเขา แต่เมื่อเขาเห็นคุณแม่ ความเจ็บปวดที่ซ่อนไว้ก็พรั่งพรูออกมา เขาโผเข้าหาอ้อมกอดของแม่ แล้วคร่ำครวญออกมา"คุณแม่ คุณพ่อไม่ได้รักผมอีกแล้ว" ร็อบบี้น้อยร้องไห้อย่างเจ็บปวดในระหว่างที่สะอึกสะอื้นไปด้วย
เซ็ตตี้เอื้อมมือไปที่ประตูต้องการจะปิดใส่เจย์ แต่โรสก็ปรากฏตัวในตอนนั้น"ให้เขาเข้ามา"เซ็ตตี้ได้ยินคำสั่งของแม่เธอ แต่เธอยังทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจ เธอยอมปล่อยมือจากประตูอย่างไม่ยินยอมนักแล้วเดินกลับไปที่มุมเล่นของเธอ"ร็อบบี้น้อยอยู่ไหน?" เจย์ถามเรื่องร็อบบี้น้อยทันทีที่เขาเข้ามาโรสเสิร์ฟน้ำผลไม้และบอกให้เขานั่ง เจย์นั่งลงบนโซฟาโรสเดินไปหาเซ็ตตี้แล้วโน้มน้าวเธอ "เซ็ตตี้น้อย แม่มีเรื่องต้องปรึกษากับคุณลุง ลูกไปเล่นในห้องได้ไหม?"เซ็ตตี้ถือตัวต่อของเธอแล้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "โอเคค่ะคุณแม่" จากนั้น เธอก็หายไปจากห้องของแม่เธอเจย์ขมวดคิ้ว เซ็ตตี้นั้นเหมือนปีศาจน้อยป่าเถื่อนต่อหน้าเขา แต่เธอกลับกลายเป็นเด็กน้อยที่เชื่อฟังและน่ารักต่อหน้าโรส นั่นไม่คาดคิดเลยโรสไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ ข้างโซฟาของเจย์ ท่าทางปกติของเธอในตอนแรกถูกแทนที่ด้วยชั้นน้ำแข็งเมื่อเธอมองเจย์ด้วยความโกรธ"ท่านอาเรส ถ้านายไม่ชอบร็อบบี้น้อยของฉัน งั้นก็ไม่ควรจะลดตัวลงมานับญาติแม้สักนาทีเดียว"เส้นเลือดบนหน้าผากเจย์แทบระเบิด เขามักอยู่เหนือสุด เป็นที่เคารพของทุกคน การจะหาผู้หญิงแบบโรสที่กล้า
โรสงุนงง เจย์ไม่ได้ลงโทษร็อบบี้น้อยเพราะเครื่องปั้นราคาแพง และไม่ใช่เพราะปราสาทที่เป็นของเจนสันด้วย? เธอรีดสมองทุกส่วนที่เธอมี แต่เธอก็เดาเหตุผลที่แท้จริงไม่ออก"ถ้างั้นทำไมนายต้องลงโทษร็อบบี้น้อยด้วย? เขาเป็นเด็ก นายไม่กังวลเหรอว่าเขาจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บจากเศษคม ๆ ของเครื่องปั้นที่แตกในตอนที่นายให้เขาทำความสะอาด? ท่านอาเรส อย่าโทษร็อบบี้น้อยเพราะความเข้าใจผิดของนาย แม้แต่ผู้ใหญ่ ฉันก็ยังเดาไม่ออกถึงความตั้งใจในการลงโทษร็อบบี้น้อย" โรสกล่าวอย่างโมโหคิ้วบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเจย์ขมวดแน่น สายตาของเขามีความโรกธกระหายเลือดโรสมองดูชายที่เปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวอันตรายในฉับพลัน สัมผัสที่หกของเธอเตือนว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี"ฉันมีเหตุผลของฉัน สรุปก็คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ฉันรักร็อบบี้น้อยมากเท่ากับที่รักเจนสัน ถ้าเธอตั้งใจจะใช้เหตุการณ์เมื่อวานมาแบล็คเมลฉันให้ยอมแพ้เรื่องร็อบบี้น้อย ฉันจะไม่มีวันยินยอม ถ้าเธอเอาเหุตการณ์เมื่อวานมายุให้เกิดปัญหาระหว่างพ่อลูก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่" เจย์พลันยืนขึ้นโรสเยาะเย้ยตัวเองในใจ 'ในหัวใจของหมอนี่ ฉันเป็นคนที่จะ
”เหมือนนักเรียนที่ทำผิดที่โรงเรียน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร คุณครูก็ต้องดัดนิสัยพวกเขา ความผิดเล็กน้อยก็จะถูกลงโทษเล็กน้อย หากความผิดมาก บทลงโทษก็จะมากตาม นี่เป็นวิธีสั่งสอนนักเรียน ลูกจะบอกไม่ได้ว่าที่คุณครูลงโทษนักเรียนนั้นเป็นเพราะครูไม่ชอบนักเรียน ใช่ไหม?"ร็อบบี้น้อยดูเหมือนจะเข้าใจมุมมอง เขาพยักหน้าเหมือนลูกไก่จิกอาหารของมัน จากนั้น ความไร้ชีวิตชีวาและหดหู่ของเขาก็เริ่มได้รับความสดใสกลับมา "คุณแม่ คุณแม่หมายความว่าคุณพ่อยังรักผมเหมือนที่รักเจนสัน ผมพูดถูกไหม?"โรสเห็นว่าในที่สุดลูกของเธอก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า ความหนักใจได้ถูกยกออกจากอกของเธอแล้ว "ความรักของแม่ไร้ขอบเขต ความรักของพ่อเองก็เหมือนภูผาแข็งแกร่ง ร็อบบี้น้อย ความรักของแม่อาจจะอ่อนโยนและมีเมตตา แต่มันก็ง่ายที่จะทำให้ลูกหลงทาง ความรักของคุณพ่ออาจจะเข้มงวดและลำบาก แต่มันจะทำให้ลูกเดินในทางที่ถูก ความรักทั้งสองแบบไม่สามารถขาดได้ในชีวิตของลูก"เสียงของร็อบบี้น้อยดูมีความสุขขึ้น "คุณแม่ คุณพ่อจะยอมรับคำขอโทษของผมไหม? เขาสัญญาไหมว่าเขาจะรอจนผมโตกว่านี้แล้วหาเงินมาจ่ายค่าเสียหาย?"ร็อบบี้น้อยวางมือบนหัวร็อบบี้น้อย "เด็กโง่ ในหัวใจขอ
ฝนพลันสาดลงมา ขจัดหน้าร้อนอบอ้าวให้หายไปทันที ลมเย็นพัดส่งสัญญาณของฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังมาถึง และพัดเข้าสู่คฤหาสน์ที่หรูหราและอบอุ่น เจย์ยืนอย่างนิ่งเงียบที่หน้าต่าง มองดูฟ้ากระจ่างใสด้านนอกหัวใจของเขารู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนคำแนะนำของปู่ของเขายังดังอยู่ในหู 'ในเมื่อแกไม่สามารถแต่งกับผู้หญิงที่แกอีกตลอดชีวิต และในเมื่อแกเลือกที่จะใช้ชีวิตเพื่อลูก งั้นปู่ขอถามหน่อย ใครจะเป็นแม่ที่เหมาะสมกับเจนสันและร็อบบี้น้อยไปมากกว่าโรส?'เจย์หยิบมือถือแล้วโทรหาเกรย์สัน"ท่านประธาน!" เสียงสั่น ๆ ของเกรย์สันได้ยินผ่านมาตามสายเจย์ขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติ เขาไม่เคยพิจารณาในเรื่องนี้เลยที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันกลับรบกวนจิตใจเขาเสียแล้ว 'ทุกคนรอบข้างมักจะกลัวเราเสมอ พวกเขามักจะให้ฉายาเราลับหลังว่า 'ทรราช' ไม่ก็ 'อสุรา' แต่ทำไมผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างโรสถึงกล้าโกรธเราขนาดนั้น?'"เกรย์สัน ไปสืบใครบางคนให้ฉัน!" เจย์ดูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ"ระบุชื่อมาได้เลยครับท่านประธาน!""ฉันอยากรู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสามีคนปัจจุบันของโรส"หลังจากเจย์ออกคำสั่ง ปลายสายก็เงียบไปเป็นเวลานานดวงตาของเกร
เจนสันเข้าไปในห้องของเขาแล้วล็อกประตูทันที"ร็อบบี้น้อย นายเห็นดวงตาคู่นั้นไหม?" ความกลัวปรากฏอยู่ในน้ำเสียงของเจนสันร็อบบี้น้อยคิดเรื่องนั้นอยู่ครู่หนึ่ง "นายหมายถึงดวงตาของช้างที่หน้าต่าง?"เจนสันรีบตะโกน "อยู่ให้ห่างจากมัน"ร็อบบี้น้อยเห็นด้วย "โอเค" เขาไม่รู้ว่าทำไมเจนสันถึงอยากให้เขาอยู่ให้ห่างจากดวงตาคู่นั้นในปราสาท เขาคิดว่าเจนสันคงดีใจมากกว่าหากเขาตอบแบบนี้"เจนสัน ดวงตาคู่นั้นมันอะไรกัน?""มันมีผีสิง!"ร็อบบี้น้อยเบะปาก "ผีสิง?" จากนั้นเขาก็นึกถึงตอนที่เขาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังอยู่ในปราสาทแล้วเข้าใจทันที "โอ้ ไม่แปลกว่าทำไมฉันถึงได้ยินเสียงแปลก ๆ นั่นคือผีเหรอ? มันน่ากลัวไหม? ไม่ใช่ว่าคุณครูบอกว่าผีไม่มีในโลกเหรอ?""ร็อบบี้น้อย อยู่ให้ห่างจากปราสาทนั้น""โอเค เข้าใจแล้ว"เจนสันเริ่มกระวนกระวาย 'งั้นเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นก็เริ่มเข้าหาร็อบบี้น้อยแล้ว' เจนสันพลันปามือถือใส่กระจกหน้าต่างจนมันสร้าเสียงดังปังชั้นล่าง เจย์ได้ยินเสียงมาจากชั้นบน เขารีบวางแก้วชาเคลือบสีน้ำเงินขาวลงบนโต๊ะหินอ่อนแล้ววิ่งขึ้นข้างบน"เจนส์!"เมื่อเจย์ดันประตู มันก็ไม่เปิดออก จากนั้น
แต่ละครั้งที่เจนสันตกใจ เขาจะดูอ่อนล้าและเปราะบาง ตอนนี้เขากำลังพิงอยู่บนไหล่ของเจย์ ดวงตาเขาเปิดเพียงครึ่งเดียว เขาดูไร้ชีวิตชีวาพอ ๆ กับความเพลียโรสมองดูเจนส์ แต่เจย์มองดูโรสเธอสวมชุดอยู่บ้านผ้าฝ้าย ซึ่งมันดูเหมือนชุดนอน ชุดนอนของเธอมีเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เสื้อนอกคือแจ็คเก็ตตัวเล็ก ด้วยการมองครั้งเดียว เขาก็บอกได้ว่าเธอรีบออกมาดูเจนสันจนไม่มีเวลาแต่งตัวเจย์แปลกใจมากทีเดียว ยังไงซะ ในความทรงจำของเขา ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขานั้นจะใช้เวลาและความพยายามในการทำให้พวกเธอดูดี พวกเธอจะใช้เวลาทุกนาทีในการดูแม้แต่เล็บของตัวเอง"เข้ามาสิ" ท่าทางของเขาดูเย็นชาและไร้อารมณ์ ยังไงซะ หัวใจของเขาก็เกิดระลอกคลื่นอย่างแปลกประหลาด"เจนส์เป็นอะไรไหม?" โรสถามอย่างกังวลเจย์ขยี้หัวของร็อบบี้น้อยอย่างอ่อนโยนแล้วตอบอย่างสบาย ๆ กับโรส "เด็กเดือดร้อนเพราะความกลัวเล็กน้อย"โรสมองดูเจนสันที่หลับไป เธอรู้สึกเหมือนหัวใจสลายในตอนนี้ เธอนึกไปถึงเรื่องร็อบบี้น้อยบอกเธอเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ โรสรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องบอกคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างเจย์"นั่งก่อน ฉันจะพาเจนสันไปที่เตียงเขา" เจ