โรสงุนงง เจย์ไม่ได้ลงโทษร็อบบี้น้อยเพราะเครื่องปั้นราคาแพง และไม่ใช่เพราะปราสาทที่เป็นของเจนสันด้วย? เธอรีดสมองทุกส่วนที่เธอมี แต่เธอก็เดาเหตุผลที่แท้จริงไม่ออก"ถ้างั้นทำไมนายต้องลงโทษร็อบบี้น้อยด้วย? เขาเป็นเด็ก นายไม่กังวลเหรอว่าเขาจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บจากเศษคม ๆ ของเครื่องปั้นที่แตกในตอนที่นายให้เขาทำความสะอาด? ท่านอาเรส อย่าโทษร็อบบี้น้อยเพราะความเข้าใจผิดของนาย แม้แต่ผู้ใหญ่ ฉันก็ยังเดาไม่ออกถึงความตั้งใจในการลงโทษร็อบบี้น้อย" โรสกล่าวอย่างโมโหคิ้วบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเจย์ขมวดแน่น สายตาของเขามีความโรกธกระหายเลือดโรสมองดูชายที่เปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวอันตรายในฉับพลัน สัมผัสที่หกของเธอเตือนว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี"ฉันมีเหตุผลของฉัน สรุปก็คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ฉันรักร็อบบี้น้อยมากเท่ากับที่รักเจนสัน ถ้าเธอตั้งใจจะใช้เหตุการณ์เมื่อวานมาแบล็คเมลฉันให้ยอมแพ้เรื่องร็อบบี้น้อย ฉันจะไม่มีวันยินยอม ถ้าเธอเอาเหุตการณ์เมื่อวานมายุให้เกิดปัญหาระหว่างพ่อลูก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่" เจย์พลันยืนขึ้นโรสเยาะเย้ยตัวเองในใจ 'ในหัวใจของหมอนี่ ฉันเป็นคนที่จะ
”เหมือนนักเรียนที่ทำผิดที่โรงเรียน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร คุณครูก็ต้องดัดนิสัยพวกเขา ความผิดเล็กน้อยก็จะถูกลงโทษเล็กน้อย หากความผิดมาก บทลงโทษก็จะมากตาม นี่เป็นวิธีสั่งสอนนักเรียน ลูกจะบอกไม่ได้ว่าที่คุณครูลงโทษนักเรียนนั้นเป็นเพราะครูไม่ชอบนักเรียน ใช่ไหม?"ร็อบบี้น้อยดูเหมือนจะเข้าใจมุมมอง เขาพยักหน้าเหมือนลูกไก่จิกอาหารของมัน จากนั้น ความไร้ชีวิตชีวาและหดหู่ของเขาก็เริ่มได้รับความสดใสกลับมา "คุณแม่ คุณแม่หมายความว่าคุณพ่อยังรักผมเหมือนที่รักเจนสัน ผมพูดถูกไหม?"โรสเห็นว่าในที่สุดลูกของเธอก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า ความหนักใจได้ถูกยกออกจากอกของเธอแล้ว "ความรักของแม่ไร้ขอบเขต ความรักของพ่อเองก็เหมือนภูผาแข็งแกร่ง ร็อบบี้น้อย ความรักของแม่อาจจะอ่อนโยนและมีเมตตา แต่มันก็ง่ายที่จะทำให้ลูกหลงทาง ความรักของคุณพ่ออาจจะเข้มงวดและลำบาก แต่มันจะทำให้ลูกเดินในทางที่ถูก ความรักทั้งสองแบบไม่สามารถขาดได้ในชีวิตของลูก"เสียงของร็อบบี้น้อยดูมีความสุขขึ้น "คุณแม่ คุณพ่อจะยอมรับคำขอโทษของผมไหม? เขาสัญญาไหมว่าเขาจะรอจนผมโตกว่านี้แล้วหาเงินมาจ่ายค่าเสียหาย?"ร็อบบี้น้อยวางมือบนหัวร็อบบี้น้อย "เด็กโง่ ในหัวใจขอ
ฝนพลันสาดลงมา ขจัดหน้าร้อนอบอ้าวให้หายไปทันที ลมเย็นพัดส่งสัญญาณของฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังมาถึง และพัดเข้าสู่คฤหาสน์ที่หรูหราและอบอุ่น เจย์ยืนอย่างนิ่งเงียบที่หน้าต่าง มองดูฟ้ากระจ่างใสด้านนอกหัวใจของเขารู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนคำแนะนำของปู่ของเขายังดังอยู่ในหู 'ในเมื่อแกไม่สามารถแต่งกับผู้หญิงที่แกอีกตลอดชีวิต และในเมื่อแกเลือกที่จะใช้ชีวิตเพื่อลูก งั้นปู่ขอถามหน่อย ใครจะเป็นแม่ที่เหมาะสมกับเจนสันและร็อบบี้น้อยไปมากกว่าโรส?'เจย์หยิบมือถือแล้วโทรหาเกรย์สัน"ท่านประธาน!" เสียงสั่น ๆ ของเกรย์สันได้ยินผ่านมาตามสายเจย์ขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติ เขาไม่เคยพิจารณาในเรื่องนี้เลยที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันกลับรบกวนจิตใจเขาเสียแล้ว 'ทุกคนรอบข้างมักจะกลัวเราเสมอ พวกเขามักจะให้ฉายาเราลับหลังว่า 'ทรราช' ไม่ก็ 'อสุรา' แต่ทำไมผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างโรสถึงกล้าโกรธเราขนาดนั้น?'"เกรย์สัน ไปสืบใครบางคนให้ฉัน!" เจย์ดูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ"ระบุชื่อมาได้เลยครับท่านประธาน!""ฉันอยากรู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสามีคนปัจจุบันของโรส"หลังจากเจย์ออกคำสั่ง ปลายสายก็เงียบไปเป็นเวลานานดวงตาของเกร
เจนสันเข้าไปในห้องของเขาแล้วล็อกประตูทันที"ร็อบบี้น้อย นายเห็นดวงตาคู่นั้นไหม?" ความกลัวปรากฏอยู่ในน้ำเสียงของเจนสันร็อบบี้น้อยคิดเรื่องนั้นอยู่ครู่หนึ่ง "นายหมายถึงดวงตาของช้างที่หน้าต่าง?"เจนสันรีบตะโกน "อยู่ให้ห่างจากมัน"ร็อบบี้น้อยเห็นด้วย "โอเค" เขาไม่รู้ว่าทำไมเจนสันถึงอยากให้เขาอยู่ให้ห่างจากดวงตาคู่นั้นในปราสาท เขาคิดว่าเจนสันคงดีใจมากกว่าหากเขาตอบแบบนี้"เจนสัน ดวงตาคู่นั้นมันอะไรกัน?""มันมีผีสิง!"ร็อบบี้น้อยเบะปาก "ผีสิง?" จากนั้นเขาก็นึกถึงตอนที่เขาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังอยู่ในปราสาทแล้วเข้าใจทันที "โอ้ ไม่แปลกว่าทำไมฉันถึงได้ยินเสียงแปลก ๆ นั่นคือผีเหรอ? มันน่ากลัวไหม? ไม่ใช่ว่าคุณครูบอกว่าผีไม่มีในโลกเหรอ?""ร็อบบี้น้อย อยู่ให้ห่างจากปราสาทนั้น""โอเค เข้าใจแล้ว"เจนสันเริ่มกระวนกระวาย 'งั้นเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นก็เริ่มเข้าหาร็อบบี้น้อยแล้ว' เจนสันพลันปามือถือใส่กระจกหน้าต่างจนมันสร้าเสียงดังปังชั้นล่าง เจย์ได้ยินเสียงมาจากชั้นบน เขารีบวางแก้วชาเคลือบสีน้ำเงินขาวลงบนโต๊ะหินอ่อนแล้ววิ่งขึ้นข้างบน"เจนส์!"เมื่อเจย์ดันประตู มันก็ไม่เปิดออก จากนั้น
แต่ละครั้งที่เจนสันตกใจ เขาจะดูอ่อนล้าและเปราะบาง ตอนนี้เขากำลังพิงอยู่บนไหล่ของเจย์ ดวงตาเขาเปิดเพียงครึ่งเดียว เขาดูไร้ชีวิตชีวาพอ ๆ กับความเพลียโรสมองดูเจนส์ แต่เจย์มองดูโรสเธอสวมชุดอยู่บ้านผ้าฝ้าย ซึ่งมันดูเหมือนชุดนอน ชุดนอนของเธอมีเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เสื้อนอกคือแจ็คเก็ตตัวเล็ก ด้วยการมองครั้งเดียว เขาก็บอกได้ว่าเธอรีบออกมาดูเจนสันจนไม่มีเวลาแต่งตัวเจย์แปลกใจมากทีเดียว ยังไงซะ ในความทรงจำของเขา ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขานั้นจะใช้เวลาและความพยายามในการทำให้พวกเธอดูดี พวกเธอจะใช้เวลาทุกนาทีในการดูแม้แต่เล็บของตัวเอง"เข้ามาสิ" ท่าทางของเขาดูเย็นชาและไร้อารมณ์ ยังไงซะ หัวใจของเขาก็เกิดระลอกคลื่นอย่างแปลกประหลาด"เจนส์เป็นอะไรไหม?" โรสถามอย่างกังวลเจย์ขยี้หัวของร็อบบี้น้อยอย่างอ่อนโยนแล้วตอบอย่างสบาย ๆ กับโรส "เด็กเดือดร้อนเพราะความกลัวเล็กน้อย"โรสมองดูเจนสันที่หลับไป เธอรู้สึกเหมือนหัวใจสลายในตอนนี้ เธอนึกไปถึงเรื่องร็อบบี้น้อยบอกเธอเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ โรสรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องบอกคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างเจย์"นั่งก่อน ฉันจะพาเจนสันไปที่เตียงเขา" เจ
โรสเงยหน้ามองเขา 'ทำไมหมอนี่ถึงได้พูดกับเราดีนัก? หรือว่าเขาวางแผนอะไรอยู่รึเปล่า?'"เธอต้องการมาที่นี่แล้วเป็น… พี่เลี้ยงไหม?" เขาถามโรสพูดไม่ออก'ฉันดูเหมือนพี่เลี้ยงรึไง?'เธอตั้งใจจะปฏิเสธในทันที แต่เมื่อเธอนึกไปถึงสภาพที่อ่อนล้าและเพลียของเจนสันแล้ว... เมื่อเธอคิดถึงแต่ละครั้งที่ร็อบบี้น้อยกับเซ็ตตี้คอยถามว่าจะเจอพ่อของพวกเขาได้อีกเมื่อไหร่...หัวใจอันทะนงของโรสพังทลายลงอีกครั้งถ้าเป็นเมื่อก่อน เจย์จะต้องคิดว่าโรสนั้นคงจะยิ่งกว่าดีใจในการตอบตกลงคำขอของเขายังไงซะ เธอก็จะได้เงินเดือนที่สูงและเป็นพี่เลี้ยงที่ตระกูลอาเรสอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจย์รู้แล้วว่าโรสนั้นมีทักษะแฮ็คเกอร์และเธอก็มีความทะเยอทะยานจะสร้างจักรวรรดิธุรกิจของตัวเองขึ้นมา เจย์ไม่มั่นใจนักว่าเธอจะตอบรับข้อเสนอเขารึเปล่าโรสคิดอยู่พักหนึ่งแล้วเงยหน้ามองเจย์ เธอกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว "ถ้านายคิดถึงประโยชน์ของเด็ก ๆ จริง ๆ นายก็ไม่ควรเสนอให้ฉันเป็นพี่เลี้ยง ฉันเป็นแม่ของพวกเขา ฉันต้องสั่งสอนและเลี้ยงพวกเขาอยู่แล้ว ท่านอาเรส ฉันเชื่อว่านายจะเข้าใจความหมายของการสั่งสอนและเลี้ยงดู""ท่านอาเรส ถ้านายจำกัดหน้าที่ของ
'อาศัยด้วยกัน?'คิ้วของเจย์ขมวดเล้กน้อยเมื่อเขาเห็นความมั่นใจของโรสเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวอ่อนแอและต้อยต่ำต่อหน้าเขา อย่างไรก็ตาม โรสนั้นจองหองจนถึงกับมองเขาเป็นคนไม่สำคัญ นั่นทำให้เขาไม่พอใจมาก"ฉันคิดว่าเธอควรจะค้นหาราคาตลาดของคฤหาสน์ใน โฮไรซอน คอลเลอร์ แบบนั้น แล้วเธอจะไม่เสนออะไรเพ้อเจ้อและเป็นไปไม่ได้อีก" เสียงของเจย์เต็มไปด้วยความยะโสที่กดคนอื่นให้ต่ำลงโรสกัดริมฝีปากของเธอ '-ัคยู นี่ไอ้หมอนี่ว่าฉันว่าจนเหรอ?'"ท่านอาเรส บอกราคามา" ลักษณะสำคัญที่สุดของโรสคือความหัวรั้นและปฏิเสธการยอมแพ้จนวินาทีสุดท้ายเจย์แสยะยิ้มและชูหนึ่งนิ้ว นิ้วของเขาทั้งเรียว ยาว และเรียบเนียน ข้อต่อของเขารูปร่างสวย ทั้งดูเซ็กซี่และล่อลวงสายตาของโรสมองตามนิ้วเขา ในตอนนั้น เธอก็งุนงงเธอนึกไปถึงในสมัยเด็ก ตอนที่เขาจับมือเธอเพื่อสอนให้เธอพิมพ์คีย์บอร์ดมันจินตนาการออกได้ยากว่านิ้วของเด็กชายจะเร็วได้ขนาดไหน เหมือนกับนักเต้นมืออาชีพกำลังเต้นบนแป้นพิมพ์ ความเร็วนั้นทำให้รู้สึกเวียนหัวเลยทีเดียวเจย์มองโรสผู้กำลังงุนงงและมองนิ้วของเขาอย่างเพ้อฝัน เขารีบเก็บนิ้วแล้วเย้ยออกมาอย่างเย็นชา "โรส เธอจ่าย 1 แ
เซ็ตตี้ไม่มีห้องส่วนตัวของเธอ ดังนั้นเธอจึงแบ่งห้องกับแม่ของเธอเมื่อเธอเห็นว่าร็อบบี้น้อยนั้นมีห้องใหญ่โตสวยงาม เธอก็ซ่อนความเศร้าไม่ได้และกระซิบบอกแม่ของเธอ "ทำไมคุณพ่อไม่ให้ห้องสวย ๆ กับหนูด้วยคะ?"โรสไม่รู้ว่าจะตอบยังไงคืนนั้น อารมณ์ของเซ็ตตี้ค่อนข้างตกต่ำโรสเพียงแค่กอดเซ็ตตี้และปลอบเธอไปเรื่อย ๆ "เซ็ตตี้ ลูกเป็นผู้หญิง ลูกจึงต้องอยู่กับแม่จนกว่าลูกจะเป็นสาวเต็มตัว แต่ร็อบบี้น้อยเป็นผู้ชาย และเขาก็ค่อย ๆ โตขึ้น มันมีความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เขาจึงต้องอยู่ในห้องอื่น ลูกเข้าใจไหม?"เซ็ตตี้ดีขึ้นในที่สุดห้องใหม่ของพวกเธอเป็นห้องที่โทรมที่สุดในคฤหาสน์ แต่มันก็ยังหรูหราสำหรับสองแม่ลูกอยู่ดีมันอาจจะเป็นแค่ห้อง แต่มันก็ใหญ่โต ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของห้องนี้ก็คือการตกแต่งภายในนั้นดูสวยงามจนเกินไป วอลล์เปเปอร์แนวตั้งสีเงินไม่ใช่ห้องในฝันของเด็กหญิงแบบเซ็ตตี้นักดังนั้น โรสจึงตัดสินใจจะเปลี่ยนสภาพห้อง เธอเข้าเว็บไซต์และซื้อวอลล์เปเปอร์สีชมพูมาหกปีก่อน โรสเคยคิดว่าชะตาของเธอและเจย์ถึงจุดจบแล้วเธอไม่เคยคิดเลยว่าพวกเธอจะจบลงด้วยการใช้ชีวิตภายใต้ชายคาเดียวกันอีกครั้ง