หลังพูดจบ ปีศาจก็เปลี่ยนเรื่องและถามเด็กหนุ่มอย่างจริงจังทันทีว่า “นายยังจำกฎของหน่วยข่าวกรองทหารได้ไหม?”เด็กหนุ่มทวน “เมื่อสายลับออกไปทำงานข้างนอก ต้องไม่เปิดเผยตัวตน คนที่ฝ่าฝืนต้องโดนลงโทษถึงตาย“สายลับต้องเชื่อฟังคำสั่งขององค์กรอย่างไม่มีเงื่อนไข คนที่ฝ่าฝืนต้องโดนลงโทษถึงตาย“สายลับต้องทำภารกิจให้สำเร็จห้ามล้มเหลว คนที่ทำภารกิจผิดพลาดต้องโดนลงโทษถึงตาย…”ปีศาจยกมือให้หยุด “นายจำสามข้อนี้ก็พอแล้ว”เมื่อถึงเวลาที่ต้องไป ปีศาจก็ลังเลขึ้นมา“นายจำชื่อตัวเองได้ไหม?”“โรเบิร์ต อาเรส”“ลืมชื่อนั้นไปซะ จากนี้ไปฉันจะมอบชื่อรหัสให้นายเวลาที่นายออกไปทำภารกิจว่า สุดยอดปีศาจ”เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อน ๆ “แน่ใจเหรอครับนายท่าน? ชื่อนี้มันดูเหมือนท้าทายคุณเลย”ดวงตาปีศาจมืดครึ้มลง “อย่าพูดมากน่า ไปเตรียมตัวได้แล้ว”“รับทราบครับ”…ที่เมืองอิมพีเรียลวันนี้จะเป็นวันที่เจย์และแองเจลีนออกจากเมืองอิมพีเรียลเจย์สั่งให้ทีมภูตผีเก็บ “ของใช้ประจำวัน” ที่เขาเตรียมมาอย่างตั้งใจด้วยตัวเองเซย์นและโจเซฟินมองที่ของจำเป็นประจำวันหลากหลายชนิดพวกนั้น เช่นขวดและกระปุกเครื่องสำอาง แปรงสีฟัน กระเป๋าใบให
ทันทีที่แองเจลีนไป เซ็ตตี้น้อยก็คว้าแขนของเจนสันไว้แล้วถามว่า “เราจะไปกันตอนไหนพี่ชาย?”ตาเหยี่ยวของเจนสันฉายแววคมกล้า “ฉันติดตั้งระบบติดตามไว้ที่สร้อยคอกะโหลกของคุณพ่อแล้ว ไม่ต้องห่วง ฉันมีที่อยู่ของพ่อกับแม่แน่นอน ฉันจะพาเธอไปหาพวกเขาหลังจากที่ฉันจัดการเรื่องในแกรนด์ เอเซียแล้ว”เซ็ตตี้น้อยร้องออกมา “ไชโย”ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เจย์และแองเจลีนจะออกไปจากสวนไร้กังวล เซ็ตตี้น้อยและเจนสันต่างก็อำลาพวกเขาอย่างนิ่งสงบ“ไปดี ๆ นะคะ คุณแม่ คุณพ่อ”แองเจลีนปลื้มมาก “ลูกเราโตกันแล้ว และรู้ความไม่ต้องให้เราต้องเป็นกังวลเลย”แต่เจย์รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขามองสัมภาระที่กำลังขนออกไปแล้วกระซิบบอกเกรย์สันว่า “ตรวจดูกระเป๋าสัมภาระทีหลังด้วย ลองดูว่ามีอุปกรณ์ติดตามหรืออะไรแบบนั้นซ่อนอยู่ไหม”เกรย์สันตอบรับ “ครับ”เพื่อไม่ให้สะดุดตา พวกเขาแยกกันเดินทางเป็นสองกลุ่มและสองเส้นทาง สมาชิกทีมภูตผี 20 คนจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปลงอีกที่และไปพร้อมสัมภาระเพื่อตรวจสอบบริเวณชายแดนของเมืองคันทรี่ก่อนเจย์ แองเจลีน พี่เชอร์ลีย์ เกรย์สัน รวมถึงเซย์นและโจเซฟินจะแต่งกายเหมือนคู่แต่งงานที่ไปเที่ยวฮันน
ผู้ชายนั้นใส่เสื้อคลุมกันลม ร่างสูงระหงของเขารวมกับใบหน้าหมดจดทำให้เขาดูเด็กมากมีสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างชายคนนั้น เธอใส่แว่นกันแดด ถักเปียสไตล์ฮิปฮอป ใส่กางเกงตัวโคร่งและเสื้อเอวลอยพอดีตัว เธอดูเหมือนพวกสาวหัวขบถเซย์นจ้องคู่หนุ่มสาวนั้นอย่างอึ้ง ๆ ก่อนชมพวกเขาอย่างเรื่อยเปื่อย “หนุ่มหล่อนั้นดูดีมาก นอกจากปีศาจโอ๋เมียคนนั้นแล้ว เขาก็เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเป็นลำดับสองที่ฉันเคยเห็นเลย”ทันทีที่เขาพูดจบ คู่รักวัยรุ่นนั้นก็เดินเข้ามาหาเซย์น เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังกดข่มรุนแรงที่แผ่ออกมา“นายคิดจะทำอะไร?” เซย์นดึงโจเซฟินมาหลบไว้ด้านหลังและเดินไปเผชิญหน้า “ฉันก็แค่เรียกนายว่าหนุ่มหล่อแค่นั้นเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมกัน? ฉันเรียกว่าหนุ่มหล่อไม่ได้เหรอ?”“ดูให้ดี ๆ สิว่าฉันเป็นใคร” เจย์ชี้จมูกตัวเองเสียงที่คุ้นหูทำให้เซย์นตัวแข็งทื่อ “เวรเอ๊ย คุณเองเหรอ?”จากนั้นเขาก็หันไปมองแองเจลีน “งั้นสาวสวยตรงนี้ก็คือน้องสาวฉันเหรอ?”แองเจลีนวางมือเรียวงามของเธอบนบ่าของเซย์นก่อนที่จะเต้นแบบเซ็กซี่ไปรอบ ๆ ตัวเขาเมื่อเทียบกับแองเจลีนที่อ่อนโยนนุ่มนวล เธอดูผิดไปเป็นคนละคนเลยเจย์รู้สึกว่าขัดหูขัดตามาก เขาจึง
พ่อและลูกสาวคู่นั้นต่างก็ยังยืนโอ้เอ้อยู่ตรงทางเดินข้าง ๆ เจย์และเริ่มโต้เถียงกัน“หนูไม่อยากได้ลูกอม” เด็กหญิงตัวน้อยพูดกับพ่อของเธอเสียงเหี้ยมหากเจ้าหมอนี่อยากเล่นบทเป็นพ่อเธอนัก อย่างน้อยก็น่าจะหาดูหน่อยว่าเธอชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไรไหม?‘ชาย’ คนนั้นดูมีความอดทนเป็นเยี่ยม เขาคงจะเป็นพ่อที่อ่อนโยนที่สุดในโลก “พ่อดีใจที่หนูไม่ชอบลูกอม เพราะลูกอมมันไม่ดีสำหรับหนู กินมากไปก็ทำให้ฟันผุแล้วก็ทำให้ดูไม่ดี ถ้าเกิดลูกไม่ได้แต่งงาน พ่อก็ต้องเลี้ยงลูกนานไปอีกหลายปีน่ะสิ” เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ เขาก็ไอออกมาหลายครั้งเพื่อให้เห็นว่าเขานั้นแก่แล้วการเดินทางนี้เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก เพราะว่าไม่มีการพักเบรกระหว่างการเปลี่ยนเครื่องครั้งที่สอง แองเจลีนนั้นรู้สึกง่วงงุนและหลับตาลง ดูเหนื่อยล้าหมดแรงหลังจากที่เจย์รัดเข็มขัดให้เธอ เธอก็เอนหัวพิงไหล่ของเขาไว้และงีบหลับไปแต่ตรงที่นั่งฝั่งทางเดินตรงข้ามนั้น ทั้งพ่อและลูกสาวจู่ ๆ ก็เพิ่มเสียงดังขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยบอกกับพ่อด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “ไม่มีใครขอให้พ่อมาดูแลหนู ทำไมพ่อไม่ดูแลตัวเองก่อนล่ะ?”“ฟังที่ตัวเองพูดบ้างไหมเนี่ย? พ่อเป็นพ่อ
เด็กหญิงอายจนหน้าแดงแต่เมื่อเธอคิดถึงตัวตนของตัวเอง เธอก็รู้สึกว่าตนควรจะสามารถต่อสู้ผ่านความลำบากทุกอย่างได้“ฉันจะยอมให้นายจูบหน้าผากกับแก้มฉันแค่นั้น”“แบบนั้นมันไม่ใช่การแสดงความรักระหว่างพ่อกับลูกหรอกเหรอ? นี่แปลว่าลึก ๆ เธอยังชอบเป็นลูกสาวของฉันอยู่ล่ะสิ”เด็กหญิงไม่มีอะไรจะเถียง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงหันหน้าหนีไปอีกด้านและไม่สนใจเขาชายผู้นั้นถอนใจเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการพาเธอออกมาข้างนอกจะไม่ช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้นแต่อย่างใดขณะที่เครื่องบินออกตัว บรรดาผู้โดยสารต่างก็งีบหลับหรือไม่ก็เล่นโทรศัพท์ ทั้งห้องโดยสารนั้นเงียบสนิทหลังจากเที่ยวบินยาวสี่ชั่วโมง เครื่องก็ลงจอดยังที่หมายเจย์สะพายกระเป๋าเดินทางไว้บนหลังและมืออีกข้างจูงแองเจลีน ขณะที่มีคนอื่น ๆ เดินผ่านไปรอบตัวเธอ เขาดึงเธอเข้ามาโอบไว้แบบนี้แองเจลีนก็จะรู้สึกปลอดภัยภายใต้การปกป้องของเขาแม้ว่าเธอจะตาบอดก็ตามหลังจากที่คู่พ่อลูกลงจากเครื่อง ดวงตาล้ำลึกของคนพ่อก็จ้องเจย์และแองเจลีน ตาคู่งามของเขาดูลุ่มลึกและเขาเงียบไปเด็กหญิงดึงมือเขา “ดูอะไรอยู่น่ะ?”“พวกเขาเหมือน…” ก่อนที่จะได้พูดจบประโยค เสียงเ
เจย์กอดแองเจลีนไว้ในอ้อมแขนและไม่นานพวกเขาก็มาถึงท่ารถนอกเหนือไปจากการเดินทางโดยรถส่วนตัวเแล้ว การไปประเทศพีชบลอสซั่มนั้นพวกเขาต้องต่อรถสาธารณะที่ท่ารถการเดินทางจากท่ารถไปที่ประเทศพีชบลอสซั่มนั้นใช้เวลาอีกหกชั่วโมง อีกอย่างเส้นทางก็คดเคี้ยวไม่ปลอดภัย การนั่งรถสะเทือนไปมาทำให้โจเซฟินเวียนหัวเพราะว่าเธอไม่เคยโดยสารรถสาธารณะมาก่อน“สามี ฉันจะตายอยู่แล้ว อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม…” โจเซฟินร้องออกมาหลังจากนั้นเธอก็อาเจียนออกมา เซย์นลูบหลังเธอพร้อมร้องโหยหวน “ที่รัก เธอเป็นอะไรไหม? อย่าทำให้ฉันกลัวสิ”เจย์มองพวกเขาอย่างรังเกียจ “มันก็แค่อาการเมารถ เธอไม่ตายหรอก หยุดทำตัวโอเวอร์ได้แล้ว”เซย์นถือถุงขยะที่ใส่อาเจียนของโจเซฟินไว้และไม่รู้ว่าจะเอาไปทิ้งที่ไหน เจย์หน้าดำทะมึนเหมือนถ่านเพราะความขยะแขยง “โยนทิ้งไปซะที ให้ตายเถอะ นายจะเก็บไว้ใช้ตอนคริสต์มาสเหรอไง?”เซย์นรีบเปิดหน้าต่างและโยนถุงขยะลงหน้าผาไปหลังจากนั่งรถสั่นสะเทือนมานานหนึ่งชั่วโมง แองเจลีนก็บอกว่า “เจย์… สามี ฉันคิดว่าฉันก็เวียนหัวเหมือนกัน”แองเจลีนนั้นเคยชินกับการเรียกเขาว่าเจย์บี้ ดังนั้นเธอจึงยังไม่ชินกับการที่จู
เจย์พูดกับเซย์น “ไปเดินถามรอบ ๆ สิแล้วหาว่าโรงแรมฟลาวเวอร์ ซิตี้อยู่ไหน”เซย์นชี้หน้าตัวเองและถาม “ทำไมต้องเป็นผม?”เจย์ตอบ “เพราะว่านายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่สุดในหมู่พวกเราไง นายต้องโดนฝึกไว้”เซย์นร้องครวญครางและเดินหายไปกลางฝูงชนในที่สุดเซย์นก็เข้าใจบางเรื่องแล้วว่าการทะเลาะกับเจย์นั้นเสียเวลาไปเปล่า ๆเซย์นเจอสาวสวยสามคนและเข้าไปถามทางพวกเธอ แต่เขาก็ไม่ได้เรื่องอะไรจากพวกเธอดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับมาอย่างสิ้นหวังเขายักไหล่และโบกมือให้เจย์ “พวกเธอเข้าใจว่าผมพูดอะไร แต่ผมไม่เข้าใจสักนิดว่าพวกเธอพูดอะไร”เจย์รำคาญใจ “ทำไม่นายไม่เรียนภาษาถิ่นทางเหนือไว้บ้างก่อนที่เราจะมาที่นี่?”เซย์นเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ “นี่มันตรรกะอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าผมต้องไปเรียนทุกภาษาในโลกก่อนที่เราจะเดินทางน่ะ?”เจย์ส่งสายตาให้เกรย์สันและเกรย์สันก็ออกไปถามทางคนอื่น เขาพูดภาษาถิ่นทางตอนเหนือได้อย่างคล่องแคล่วและไม่นานเขาก็ได้คำตอบที่ต้องการเกรย์สันรีบจ้ำกลับมาและบอกว่า “โรงแรมฟลาวเวอร์ ซิตี้นั้นอยู่ที่ตีนเขาจันทร์กระจ่างห่างจากที่นี่ไปหกไมล์ เรานั่งรถแท็กซี่ไปได้ครับ”เซย์นอับจนคำพ
เจย์หน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินเช่นนั้น แองเจลีนไม่สามารถรับความกังวลใจมากเกินไปได้ ไม่เช่นนั้นอาการของเธอจะแย่ลงเจย์พูดอย่างกระวนกระวาย “แองเจิลที่รัก ถ้าเธอกลัวเราเปลี่ยนไปโรงแรมอื่นก็ได้นะ?”แองเจลีนยิ้มและส่ายหน้า “ตราบใดที่ได้อยู่กับคุณ ฉันไม่กลัวหรอก”เจย์รู้สึกว่าน้ำหนักที่กดทับอยู่ถูกยกออกไป เขาหันไปจ้องเซย์นเขม็งอย่างดุดันที่ทำให้เขาต้องตกใจเซย์นสะอื้นและบอกว่า “พี่ใหญ่… ผมกลัวนี่ ช่วยใส่ใจความรู้สึกผมบ้าง ผมก็เป็นแค่ชายอ่อนแอ ผมสู้เอาชีวิตรอดไม่ได้หรอก ที่สำคัญอีกเรื่องนะผมเองก็เพิ่งแต่งงานกับภรรยาสวยขนาดนี้ ถ้าต้องตายก่อนได้ใช้ชีวิตมันไม่น่าเศร้าไปหน่อยเหรอ?”เจย์เมินเขาและบอกกับพนักงานต้อนรับว่า “ขอให้พวกเราสามห้องครับ”พนักงานต้อนรับต้องพ่ายแพ้กับความกล้าหาญของพวกเขา เธอตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะก่อนที่จะส่งคีย์การ์ดสามใบให้เจย์ชำเลืองมองเซย์นที่ตัวสั่นด้วยความกลัวและบอกกับพนักงานต้อนรับว่า “ขอเหล้าดี ๆ ให้เขาสักสองสามขวดด้วย”จากนั้นเขาก็ขึ้นไปชั้นบนพร้อมคีย์การ์ดในมือห้องนั้นอยู่สุดทางเดินบนชั้นสอง แสงไฟบริเวณนี้สลัว อีกอย่างโรงแรมนี้ก็ไม่มีคนมากนัก ดังนั้นเมื่อพวกเขา