สำหรับคู่พ่อลูกที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เสียงโครมครามวุ่นวายพวกนั้นนับว่าเป็นข่าวร้ายขั้นสุดเจย์ตะโกน “ล้างฝาด้วย โจเซฟิน”โจเซฟินมองดูฝาด้วยตา แล้วก็บอกว่า “มันยังสะอาดอยู่ ไม่เปื้อนเลยสักนิด”เจนสันยืนขึ้นอย่างตื่นตระหนก เขาอยากจะหนีออกไปให้พ้นตรงนี้แทบตาย “คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ ผมจะไปรับเซ็ตตี้น้อยที่โรงเรียนนะ”แองเจลีนถามอย่างสงสัย “ตอนนี้ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ โรงเรียนของน้องยังไม่เลิกเลยมั้ง?”เขารู้ว่าเจนสันไม่กินอาหารข้างนอกและเขาไม่มีทางลองชิมอาหารฝีมือเซย์นและโจเซฟินแน่ เจย์ช่วยให้เขาพ้นจากสถานการณ์อึดอัดใจโดยบอกว่า “เมื่อวานนี้เจนส์วุ่นวายจัดการเรื่องของบริษัททั้งวันเลย เขายังไม่ได้เจอน้องสาวเลย ให้เขาไปเถอะ”แองเจลีนตอบ “งั้นก็ได้”ในห้องครัว ขณะที่เซย์นล้างหม้อชั้นในของหม้อตุ๋นอยู่ โจเซฟินก็เทน้ำลงไปในหม้อตุ๋นโดยที่ไม่มีหม้อชั้นในและเสียบปลั๊ก…เมื่อเซย์นหันมาหลังจากที่ล้างหม้อชั้นในเสร็จและเห็นว่ามีน้ำในนั้น ทั้งสองก็ยืนจ้องหน้ากันเงียบโจเซฟินหลุดหัวเราะออกมาแต่เซย์นรีบปิดปากเธอไว้ “อย่าหัวเราะสิ ถ้าพวกบ้ารักสะอาดสองคนนั้นรู้ว่าเราทำอะไรลงไป มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู
แม้ว่าอาหารจานผัดจะดูไหม้ไปหน่อย แต่ก็เป็นอาหารที่พวกเขาตั้งใจทำอย่างเหนื่อยยาก ดังนั้นทั้งโจเซฟินและเซย์นต่างก็หวังว่าพวกเขาทั้งคู่จะได้รับคำชื่นชมผลงานบ้างอย่างไรก็ตาม เจย์นั้นปฏิเสธที่จะทานอาหารของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง โจเซฟินจึงไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปหาแองเจลีนผู้งดงามและอ่อนโยนว่า “ลองทานกะหล่ำดอกนี่สิคะ พี่แองเจลีน”ทันทีที่แองเจลีนตักดอกกะหล่ำขึ้นมา เจย์ก็เลี่ยงเจ้าอาหารนี่เหมือนเป็นเชื้อโรค เขายกจานขึ้นและกะหล่ำก็หล่นลงไปกองกับโต๊ะ“ฉันใช้แรงใช้เวลาทำไปตั้งเยอะนะพี่” โจเซฟินพูดด้วยท่าทางเจ็บปวดเจย์ไม่ยอมเคลิ้ม เขาตักซุปมาป้อนให้แองเจลีนแทนแองเจลีนรู้สึกประหลาดใจ “ฉันอยากลองทานอาหารที่โจเซฟินทำนะคะ เจย์บี้”โจเซฟินมองเจย์ด้วยท่าทางมีชัย แต่เจย์ก็ปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง “แองเจลีน อาหารพวกเขามันไม่สุกดี แล้วพวกเขาก็เอาน้ำยาล้างจานมาใช้ผัดผักด้วย มันกินไม่ได้หรอก”แองเจลีนถึงกับงมโง่ไปเลยโจเซฟินยังไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ามีอะไรผิดพลาดไปตรงไหน เธอประท้วงอย่างดื้อดึง “น้ำยาล้างจานมันผิดตรงไหนล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะทานน้ำยาล้างจานไม่ได้สักหน่อยนี่นา? ถ้าหากว่ามันทานไม่ได้แล้วพี
”เขาเลี่ยงไม่ไปเจอเธออยู่หลายปีเพราะกลัวว่าเขาจะกลายเป็นภาระให้เธอ ต่อมาสุขภาพของฉันก็ทรุดลง ดังนั้นเซย์นก็เลยอยากทำตามความปรารถนาสุดท้ายของฉันก่อนตาย”“การที่ต้องโตมาในบ้านเด็กกำพร้า ฉันอยากมีบ้านมีครอบครัวมาตลอด เซย์นเขาแต่งงานกับฉันเพียงเพื่อจะตอบแทนบุญคุณเท่านั้น”“ต่อมาเซย์นก็ฟื้นตัวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ฉันคิดว่าเขาไม่ได้ยกเรื่องการหย่าขึ้นมาพูดก็เพราะเขากังวลเกี่ยวกับสุขภาพของฉัน เขาเป็นเด็กที่จิตใจดีมากจริง ๆ”“โจเซฟิน ระหว่างเราทั้งสองคนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”โจเซฟินร้องไห้โฮ “ฉันรู้ค่ะ พี่เชอร์ลีย์ ฉันรู้หมดทุกอย่างแล้ว”เชอร์ลีย์รู้สึกโล่งใจอย่างมาก “ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ”ขณะที่พวกเธอกุมมือกันแน่น โจเซฟินก็ยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกล่าวว่า “พี่แองเจลีนบอกฉันหมดทุกอย่างแล้ว จากนี้ไปฉันก็จะเรียกพี่เป็นพี่สาวเหมือนกันกับพี่แองเจลีน ไม่ว่าพี่จะพูดยังไงนะคะพี่เชอร์ลีย์ จากนี้พี่จะเป็นพี่สาวที่ฉันรักคนหนึ่ง”เชอร์ลีย์พยักหน้าพร้อมรู้สึกเต็มตื้น “อื้ม”เมื่อโจเซฟินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เธอก็เห็นเซย์นยืนพิงกำแพงใกล้ประตูอยู่พอเขาเห็นโจเซฟิน เซย์นก็อ้าปากจะพูดบางอย่างแต่
เธอรู้ว่าเจนสันจะสู้เด็กพวกนี้ไม่ได้ เซ็ตตี้จึงกางแขนออกทันทีและไปยืนอยู่ข้างหน้าเจนสันเพื่อปกป้องเขาเซ็ตตี้น้อยเริ่มทำท่าเล่นใหญ่แล้วตอนนี้ เธอเปลี่ยนทีท่าทันทีและเริ่มเยินยอพวกเด็กชาย “แฟนของฉันสู้ไม่ได้หรอก ได้โปรดอภัยให้ฉันเถอะนะ พวกนายแค่อยากให้ฉันไปที่บาร์ด้วยใช่ไหม? ตกลง ฉันจะไปกับพวกนายทันทีเลย”เจนสันงงงันเขาจ้องเซ็ตตี้น้อย “นี่เธอทำอะไรน่ะ?”เซ็ตตี้กระซิบบอกเขา “คนฉลาด ๆ เขาจะไม่สู้เวลาที่เสียเปรียบหรอก เจนส์รีบหนีไปเร็วเข้า ฉันหนังหนาเพราะงั้นฉันไม่เจ็บเท่าไรหรอก เร็วเข้า รีบไปสิ"เจนสัน “...”กลายเป็นว่าเจ้าตัวแสบน้อย ๆ นี่กำลังพยายามปกป้องเขาอยู่เจนสันยกตัวเซ็ตตี้ขึ้นด้วยการจับคอเสื้อในท่าทางของผู้ที่เหนือกว่าแล้วให้เธอยืนอยู่ด้านหลังเขาราวกับว่าเธอเป็นเพียงลูกไก่ แล้วบอกวว่า “เธอก็รู้ว่าฉันเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เพราะงั้นถ้าเธอมีแผลที่หน้า รอบหน้าก็อย่าวิ่งมาหาฉันแล้วกัน”เซ็ตตี้รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเธอต้องเจ็บตัวมีบาดแผลแน่ถ้าเธอสู้กับพวกเด็กเกเรพวกนี้แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเจนสันเริ่มลงมือเขาเตะอย่างว่องไว ร่างสูงของเขาพุ่งเข้าใส่พวกนักเลงนั่นทีละคน
เมื่อเจนสันขับรถมุ่งไปขึ้นทางด่วน เขาก็เห็นว่ามีตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจอยู่ เจนสันจึงขับรถไปต่อท้ายรถคันอื่น ๆ อย่างสงบแต่ทางเซ็ตตี้น้อยนั้น เธอกระวนกระวายอย่างมาก “พี่ยังอายุไม่ถึง 18 เลย นี่มันถือว่าขับรถอย่างผิดกฎหมายนะ”เจนสันยกใบขับขี่ขึ้นมาทำให้เซ็ตตี้ทำตาโตอย่างตกใจ บนบัตรระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘เจนสัน อาเรส อายุ 18 ปี’เห็นชัด ๆ ว่านี่เป็นใบขับขี่ปลอม!แต่เซ็ตตี้น้อยก็ยังคงกังวลใจ “ใครมันจะไปเชื่อลงว่าพี่อายุ 18?”เจนสันตอบ “เดี๋ยวเราก็รู้”ตอนนั้นเองตำรวจจราจรก็เดินเข้ามาและเคาะที่กระจกรถด้านเจนสัน“ขออนุญาตตรวจดูใบขับขี่หน่อยครับ”เจนสันส่งใบขับขี่ให้ตำรวจนายนั้น ตำรวจจราจรมองเจนสันก่อนกวาดตามองไปทั่วภายในตัวรถ เมื่อไม่เห็นว่ามีสิ่งใดผิดปกติ เขาก็โบกมือให้สัญญาณเจนสันขับรถไปต่อได้“ไปได้ครับ”เซ็ตตี้น้อยถึงกับอึ้งไปรถโรสรอยซ์ขับขึ้นไปบนทางด่วนอย่างนิ่งสงบ แต่เซ็ตตี้น้อยก็ยังตะลึงไม่หายเธอถอนใจ “ต้องเป็นเพราะหน้าแสนเย็นชาของพี่แน่เลย ทำให้พี่ดูแก่กว่าอายุจริง พี่ถึงหลอกให้คนอื่นเชื่อได้ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว”เจนสันแค่นเสียง “ไม่ใช่เพราะความสูงของฉันหรอกเหรอ? ฉันว่าน
เซ็ตตี้น้อยอึ้งไป หลังจากเงียบไปนาน เธอก็ถอนหายใจพร้อมพูด “พี่ไม่คิดว่าพ่อเราโอ๋แม่มากไปหน่อยเหรอ?”เจนสันตอบ “เธอยังไม่เห็นเรื่องที่ยิ่งกว่านี้”เจนสันรู้จักนิสัยพ่อของเขาดี ดังนั้นหลังจากที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เขาก็เริ่มเดินย่องบนปลายเท้าอย่างเงียบ ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเสียงดังส่วนเซ็ตตี้น้อยนั้น เธอร้องตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น “คุณแม่ขา คุณพ่อขา เรากลับมาแล้วค่า!”เจย์ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองในชุดนอนสีดำ ใบหน้าเย็นชาของเขาดำทะมึนยิ่งกว่าก้นหม้อ แม้แต่เสียงของเขาก็กดต่ำจนเหมือนดังมาจากธารน้ำแข็ง “ชู่วว แม่กำลังนอนหลับอยู่”พอพูดจบเขาก็กลับเข้าห้องไป ทิ้งให้พวกเด็ก ๆ มองแต่แผ่นหลังของเขาเซ็ตตี้น้อยรู้สึกไม่คุ้นชินและบ่นงึมงำ “คุณพ่อไม่ชอบเราอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?”เจนสันรินชาให้เซ็ตตี้ก่อนเอ่ยปลอบใจเธอ “เธอต้องทำตัวให้ชินนะ”เซ็ตตี้น้อยตอบ “ก่อนหน้านี้เขาเคยดีกับเรามากเลย”เจนสันบอกว่า “นั้นเพราะว่าเธอมองไม่ทะลุน่ะสิ ในสายตาพ่อ ภรรยาน่ะเป็นเหมือนสมบัติของเขา ขณะที่พวกลูก ๆ ก็เป็นเหมือนของแถมที่ติดมาด้วยกัน”เซ็ตตี้น้อยถอนใจ “ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเศร้าดี”เจนสันต
เจย์วางแองเจลีนลงบนโซฟาอย่างนุ่มนวล เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วด้วยท่าทางแบบนั้นการประชุมครอบครัวเล็ก ๆ ก็เริ่มขึ้นเจย์พูดกับลูก ๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง “เพราะว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็จะใช้ทั้งเวลาและแรงกายเพื่อดูแลคุณแม่ต่อไปในอนาคต คุณพ่อต้องขอโทษที่คงไม่สามารถจะให้เวลาดูแลลูก ๆ ได้”เจนสันเข้าใจและยอมรับเหตุผลนั้น “ผมไม่ว่าอะไรครับคุณพ่อ”เซ็ตตี้น้อยพยายามคว้าโอกาสทอง “ไหน ๆ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่มีเวลาจะดูแลหนู ทำไมไม่ให้หนูไปอยู่กับพี่ฟินน์ล่ะคะ?”เจย์ได้เตรียมการเรื่องที่จำเป็นต่าง ๆ สำหรับเด็ก ๆ ไว้แล้ว “เจนส์ คุณพ่อตัดสินใจว่าจะส่งมอบแกรนด์ เอเซียให้ลูก จากนี้ไปลูกจะเป็นประธานน้อยของแกรนด์ เอเซีย”เจนสันอึ้งไปเล็กน้อย ในดวงตาล้ำลึกของเขามีแววไม่ยินยอมเล็กน้อยเจนสันนั้นมีแผนเตรียมเอาไว้ในหัวแล้ว เขาอยากที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเองขึ้นมาเหมือนพ่อแทนที่จะมารับช่วงต่อความยิ่งใหญ่แล้วเก็บเกี่ยวผลประโยชน์งดงามที่พ่อแม่บุกเบิกไว้แล้วแต่เมื่อเขาเห็นว่าแม่อ่อนแอและบอบบางแค่ไหน เจนสันก็เก็บความคิดของตัวเองไปแล้วพยักหน้าอย่างไม่เห็นแก่ตัว “ไม่ต้องห่วงครับ คุณพ่อ คุณแม่ ผมจะดูแ
”เร็วเข้า รีบส่งข้อความหาอาโจเซฟินบอกเธอว่า…”เซ็ตตี้น้อยเบิกตากว้างและพูดว่า “คุณแม่คะ คุณพ่อไม่อนุญาตนี่”“เพราะฉะนั้นเราจะให้คุณพ่อรู้เรื่องนี้ไม่ได้ไงคะ ช่วยคุณแม่เก็บเป็นความลับด้วยนะ”เซ็ตตี้น้อยพยักหน้าอย่างกังวล “ก็ได้ค่ะ”ทางด้านบน เจย์ก็พูดเปิดอกกับเจนสันว่า “ลูกเป็นผู้ชาย คุณพ่อไม่สนใจหรอกว่าก่อนแต่งงานลูกจะไปชอบสาวสักกี่คน แต่คุณพ่อต้องเตือนให้ลูกจำไว้ว่า… อย่าแตะต้องพวกเธอเด็ดขาด”เจนสันพยักหน้าอย่างเย็นชา “อืม”เจย์พูดต่อ “เจนส์ ลูกใช้เวลาแค่สามปีก็สามารถเรียนจบจากสถาบันสถาบันเยาวชนแห่งตำนานได้ นี่พิสูจน์ได้ว่าความสามารถของลูกนั้นโดดเด่นมาก พ่อคิดว่าลูกมีความสามารถมากพอที่จะรับช่วงต่อของแกรนด์ เอเซียได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ลูกมีเวลาว่างก็ช่วยเราดูแลน้องสาวของลูกได้”เจนสันตอบ “ครับ”“น้องสาวลูกเรียนรู้เรื่องความรักตั้งแต่อายุยังน้อย คุณพ่อเลยห่วงว่าน้องจะต้องมาเสียใจทีหลัง แต่คุณแม่ของลูกก็อยู่ข้างคุณพ่อตลอดเวลา เลยมีบางเรื่องที่คุณพ่อไม่กล้าพูดกับน้องเพราะกลัวว่าคุณแม่จะโมโห ลูกเป็นพี่ชายของเซ็ตตี้น้อยแล้วลูกสองคนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะ เพราะงั้นตอนที่ลูกมีเวลาว่