เซ็ตตี้น้อยอึ้งไป หลังจากเงียบไปนาน เธอก็ถอนหายใจพร้อมพูด “พี่ไม่คิดว่าพ่อเราโอ๋แม่มากไปหน่อยเหรอ?”เจนสันตอบ “เธอยังไม่เห็นเรื่องที่ยิ่งกว่านี้”เจนสันรู้จักนิสัยพ่อของเขาดี ดังนั้นหลังจากที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เขาก็เริ่มเดินย่องบนปลายเท้าอย่างเงียบ ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเสียงดังส่วนเซ็ตตี้น้อยนั้น เธอร้องตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น “คุณแม่ขา คุณพ่อขา เรากลับมาแล้วค่า!”เจย์ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองในชุดนอนสีดำ ใบหน้าเย็นชาของเขาดำทะมึนยิ่งกว่าก้นหม้อ แม้แต่เสียงของเขาก็กดต่ำจนเหมือนดังมาจากธารน้ำแข็ง “ชู่วว แม่กำลังนอนหลับอยู่”พอพูดจบเขาก็กลับเข้าห้องไป ทิ้งให้พวกเด็ก ๆ มองแต่แผ่นหลังของเขาเซ็ตตี้น้อยรู้สึกไม่คุ้นชินและบ่นงึมงำ “คุณพ่อไม่ชอบเราอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?”เจนสันรินชาให้เซ็ตตี้ก่อนเอ่ยปลอบใจเธอ “เธอต้องทำตัวให้ชินนะ”เซ็ตตี้น้อยตอบ “ก่อนหน้านี้เขาเคยดีกับเรามากเลย”เจนสันบอกว่า “นั้นเพราะว่าเธอมองไม่ทะลุน่ะสิ ในสายตาพ่อ ภรรยาน่ะเป็นเหมือนสมบัติของเขา ขณะที่พวกลูก ๆ ก็เป็นเหมือนของแถมที่ติดมาด้วยกัน”เซ็ตตี้น้อยถอนใจ “ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเศร้าดี”เจนสันต
เจย์วางแองเจลีนลงบนโซฟาอย่างนุ่มนวล เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วด้วยท่าทางแบบนั้นการประชุมครอบครัวเล็ก ๆ ก็เริ่มขึ้นเจย์พูดกับลูก ๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง “เพราะว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็จะใช้ทั้งเวลาและแรงกายเพื่อดูแลคุณแม่ต่อไปในอนาคต คุณพ่อต้องขอโทษที่คงไม่สามารถจะให้เวลาดูแลลูก ๆ ได้”เจนสันเข้าใจและยอมรับเหตุผลนั้น “ผมไม่ว่าอะไรครับคุณพ่อ”เซ็ตตี้น้อยพยายามคว้าโอกาสทอง “ไหน ๆ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่มีเวลาจะดูแลหนู ทำไมไม่ให้หนูไปอยู่กับพี่ฟินน์ล่ะคะ?”เจย์ได้เตรียมการเรื่องที่จำเป็นต่าง ๆ สำหรับเด็ก ๆ ไว้แล้ว “เจนส์ คุณพ่อตัดสินใจว่าจะส่งมอบแกรนด์ เอเซียให้ลูก จากนี้ไปลูกจะเป็นประธานน้อยของแกรนด์ เอเซีย”เจนสันอึ้งไปเล็กน้อย ในดวงตาล้ำลึกของเขามีแววไม่ยินยอมเล็กน้อยเจนสันนั้นมีแผนเตรียมเอาไว้ในหัวแล้ว เขาอยากที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเองขึ้นมาเหมือนพ่อแทนที่จะมารับช่วงต่อความยิ่งใหญ่แล้วเก็บเกี่ยวผลประโยชน์งดงามที่พ่อแม่บุกเบิกไว้แล้วแต่เมื่อเขาเห็นว่าแม่อ่อนแอและบอบบางแค่ไหน เจนสันก็เก็บความคิดของตัวเองไปแล้วพยักหน้าอย่างไม่เห็นแก่ตัว “ไม่ต้องห่วงครับ คุณพ่อ คุณแม่ ผมจะดูแ
”เร็วเข้า รีบส่งข้อความหาอาโจเซฟินบอกเธอว่า…”เซ็ตตี้น้อยเบิกตากว้างและพูดว่า “คุณแม่คะ คุณพ่อไม่อนุญาตนี่”“เพราะฉะนั้นเราจะให้คุณพ่อรู้เรื่องนี้ไม่ได้ไงคะ ช่วยคุณแม่เก็บเป็นความลับด้วยนะ”เซ็ตตี้น้อยพยักหน้าอย่างกังวล “ก็ได้ค่ะ”ทางด้านบน เจย์ก็พูดเปิดอกกับเจนสันว่า “ลูกเป็นผู้ชาย คุณพ่อไม่สนใจหรอกว่าก่อนแต่งงานลูกจะไปชอบสาวสักกี่คน แต่คุณพ่อต้องเตือนให้ลูกจำไว้ว่า… อย่าแตะต้องพวกเธอเด็ดขาด”เจนสันพยักหน้าอย่างเย็นชา “อืม”เจย์พูดต่อ “เจนส์ ลูกใช้เวลาแค่สามปีก็สามารถเรียนจบจากสถาบันสถาบันเยาวชนแห่งตำนานได้ นี่พิสูจน์ได้ว่าความสามารถของลูกนั้นโดดเด่นมาก พ่อคิดว่าลูกมีความสามารถมากพอที่จะรับช่วงต่อของแกรนด์ เอเซียได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ลูกมีเวลาว่างก็ช่วยเราดูแลน้องสาวของลูกได้”เจนสันตอบ “ครับ”“น้องสาวลูกเรียนรู้เรื่องความรักตั้งแต่อายุยังน้อย คุณพ่อเลยห่วงว่าน้องจะต้องมาเสียใจทีหลัง แต่คุณแม่ของลูกก็อยู่ข้างคุณพ่อตลอดเวลา เลยมีบางเรื่องที่คุณพ่อไม่กล้าพูดกับน้องเพราะกลัวว่าคุณแม่จะโมโห ลูกเป็นพี่ชายของเซ็ตตี้น้อยแล้วลูกสองคนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะ เพราะงั้นตอนที่ลูกมีเวลาว่
เซ็ตตี้น้อยและเจนสันต่างก็ทานมื้อเช้ากันด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเซย์น เกรย์สันและฟินน์ต่างก็ก้มหน้านิ่ง พวกเขาไม่กล้ามองสบตาเจย์“แองเจลีนอยู่ไหน?” เจย์ถาม น้ำเสียงเขาเยียบเย็นเสียดแทงกระดูกไม่มีใครกล้าเอ่ยปากตอบ“แองเจลีนอยู่ที่ไหน?” เจย์คำรามก้องเสียงเขาดังก้องราวฟ้าผ่า ทำให้ทุกคนตกใจจนตัวสั่นเทาตอนนั้นเองที่ทุกคนต่างก็มองเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัวเจนสันถอนใจก่อนอธิบาย “คุณพ่อครับ อาโจเซฟินพาแม่ไปที่โรงพยาบาลแกรนด์ เอเซีย”เจย์นึกขึ้นได้ทันทีว่าวันนี้คือวันผ่าตัดของเชอร์ลีย์ แองเจลีนต้องกังวลใจเรื่องหล่อนดังนั้นจึงแอบขอให้โจเซฟินพาเธอไปที่โรงพยาบาลเรื่องต่าง ๆ ที่เธอคุยกับโจเซฟินเมื่อวานเป็นเพียงตัวเบี่ยงเบนความสนใจทำให้เขาเชื่อว่าเธอจะยอมอยู่บ้านเจย์หันหลังกลับเดินขึ้นไปชั้นบนและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจจะพูดคุยหรือทักทายใครสักคำขณะที่รีบผลุนผลันออกจากบ้านไปเซย์นรุดเข้าไปห้ามเขา “นายท่านอาเรส ปล่อยให้แองเจลีนไปเถอะครับ”เจย์หันมาจ้องเซย์นอย่างเป็นเดือดเป็นแค้นราวกับว่าเซย์นไปฆ่าล้างครอบครัวของเขามา“นายก็รู้ดีว่าตอนนี้อาการของแองเจลีนเป็นยังไง ตอนที่เชอร์ลีย์
แองเจลีนไม่คาดคิดว่าเจย์จะมาถึงเร็วขนาดนี้ ร่างบอบบางและใบหน้างดงามของเธอปรากฎร่องรอยของความรู้สึกผิด“เจย์บี้เหรอคะ?” เธอร้องเรียกเสียงสั่นตอนนี้เจย์โมโหเดือดดาลมาก โทสะแผ่ออกมารอบกายเขาแต่เขาก็ไม่สามารถโกรธแองเจลีนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะเก็บความโกรธเอาไว้ก่อนเมื่อเขาสามารถระงับความเดือดได้แล้ว เจย์ก็เดินเข้าไปหาแองเจลีนช้า ๆ ก่อนย่อตัวลงนั่งและกอดเธอ“ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าเธอจะมาโรงพยาบาล? เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน?” เสียงเขาฟังดูเหมือนเด็กที่โดนบังคับให้กินผักขม ๆแองเจลีนลูบศีรษะเขาและตอบด้วยความรู้สึกผิดว่า “เจย์บี้ ก็เพราะฉันกลัวว่าคุณจะเป็นห่วง ฉันก็เลยขอให้เกรย์สันกับเซย์นมาอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณ เผื่อว่าพวกเขาจะช่วยลดความกังวลและภาระของคุณได้”เจย์ตอบ “ระหว่างฉันกับพวกนั้นจะมีอะไรให้คุยกันล่ะ?”โจเซฟินรู้สึกถึงลางไม่ดี เธอยืนขึ้นเงียบ ๆเจย์นั้นดีกับแองเจลีน แต่เขามองเธออย่างโกรธขึ้งและดุร้าย เขาชี้มือไปที่พื้นเป็นสัญญาณให้เธอคุกเข่าลงตอนนั้นโจเซฟินก็สะอื้นออกมาแต่ไร้น้ำตาแองเจลีนเป็นคนฉลาดเธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอเลยพูดว่า “
ทางด้านของโจเซฟินนั้นมีแต่ความหนาวเหน็บเย็นชาเท่านั้นส่วนทางด้านของแองเจลีนนั้นทุกอย่างราบรื่นเป็นไปด้วยดีสายตาของเจย์ทำให้เซย์นโมโหเมื่อเขามองโจเซฟินที่เอนกายพิงเขาอยู่อย่างไร้เรี่ยวแรง เขาบอกเธอว่า “ไม่ต้องกลัวไปหรอก ถ้าพี่ชายของเธออยากจะมาสะสางกับเธอ เธอก็โบ้ยไปให้แองเจลีนนู่นสิ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะโกรธแองเจลีนได้ ใช่ไหมล่ะ?”โจเซฟินมองเจย์ที่คลั่งรักหวานใส่แองเจลีน ดวงตาของเจย์ทั้งนุ่มนวลอ่อนโยนจนเธอไม่รู้เลยว่าแววตาคมกล้าทิ่มแทงที่เขามีนั้นมันจางหายไปไร้ร่องรอยได้อย่างไรกันโจเซฟินตระหนักขึ้นมาว่า สิ่งที่เซย์นพูดนั้นมีเหตุผลที่มีแองเจลีนคอยหนุนหลัง โจเซฟินรวบรวมความมั่นใจและยืดหลังตรง“พี่แองเจลีน ขอโทษนะ ฉันต้องขายพี่เพื่อเอาตัวรอดจริง ๆ” โจเซฟินพูดเจนสันกลอกตาใส่เธอ “หน้าไม่อายจริง ๆ”โจเซฟิน “...”ตอนนั้นเองจู่ ๆ เจย์ก็ส่งเสียงเรียก “เจนส์”เจนสันขยับขา มือเขาซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงขณะที่เดินเข้าไปหาเจย์ด้วยท่าทีเกียจคร้านแต่ดูสง่างาม“ครับคุณพ่อ”“ช่วยดูคุณแม่ก่อน คุณพ่อจะไปเยี่ยมอาเทมเพสแล้วเดี๋ยวจะกลับมา”เจนสันพยักหน้า “ครับ”เมื่อเจย์จากไป ความกดดันในห้อง
พวกเธอจะคุยกันได้ยังไงถ้านั่งห่างกันขนาดนี้?ด้านบนที่ห้องพักของเทมเพสเมื่อเจย์เปิดประตูเข้าไป เขาก็ได้เห็นสายระโยงระยางนับไม่ถ้วนจากร่างของเทมเพสที่มีสัญญาณชีพแผ่วเบา หัวใจของเจย์เจ็บปวดเมื่อได้เห็นเช่นนั้นเขาเดินเข้าไปใกล้และนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง เขาลูบแขนเทมเพสซึ่งเต็มไปด้วยเข็มเบา ๆความเจ็บปวดท่วมท้นในใจของเจย์และสะท้อนออกมาในดวงตา “เทมเพส ขอบคุณนะที่ใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องฉัน ขอบคุณมาก ๆ”เมื่อหมอเดินเข้าห้องมา เขาก็อธิบายอาการของเทมเพสให้เจย์ฟัง “สัญญาณชีพของเขาคงที่แล้ว แต่ว่าผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงยังไม่ฟื้น”สีหน้าของเจย์เคร่งเครียด เขาบีบมือเทมเพสอย่างแรงเพราะว่าเขาคุมอารมณ์ไม่ได้เล็กน้อยนิ้วของเทมเพสกระดิกเล็กน้อยในอุ้งมือของเจย์เจย์รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยนั้น เขาถามอย่างตื่นเต้นว่า “เทมเพส นายได้ยินฉันไหม?”ขนตาของเทมเพสกระตุกจากนั้นเจย์ก็สั่งเขา “เทมเพส ฉันขอสั่งให้นายตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้”หมอรู้สึกตะลึง “ท่านประธาน เทมเพสมีสติขึ้นมาบ้างแล้วนี่เป็นข่าวดีมาก ผมคิดว่าอีกไม่นานเขาน่าจะฟื้น”เจย์พยักหน้าเมื่อเจย์กลับมาหาแองเจลีนเขาก็สังเ
แองเจลีนรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอถามอย่างสงสัย “มีอะไรคะ เจย์บี้?”เจย์ตอบเธอด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก “ไม่มีอะไรหรอก แค่มีหมาจรจัดสองตัวมาขวางทางเราน่ะ”หญิงชราก้มตัวไปข้างหน้าราวกับว่าหล่อนกำลังกวาดใบไม้บนพื้นอยู่ หล่อนตัวสั่นเทาและสะท้านเมื่อดวงตาของหล่อนเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอตอนนั้นเองเจนสันก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “คุณพ่อครับ พาคุณแม่ไปจากตรงนี้เถอะ ผมจัดการเอง”“อืม”เจย์เดินจากไปพร้อมแองเจลีนในอ้อมแขนเซร่าหลบหน้าหลบตาด้วยความรู้สึกผิดและอับอายที่ท่วมท้น จนตอนนี้เธอถึงจะกล้าเงยหน้าขึ้นมองเจย์จากไปพร้อมแองเจลีนเมื่อเธอเห็นเจย์โอบอุ้มแองเจลีนไว้อย่างแนบชิด เซร่าก็หวนคิดถึงวันแรกที่เธอได้พบเจย์ขึ้นมาทันทีวันนั้นเจย์มาเยี่ยมแองเจลีนที่เมืองนางแอ่นเธอเห็นเขาครั้งแรกในสวน เขายังเด็ก ดูมุ่งมั่น และมีกลิ่นอายเย็นชาปกคลุมทั่วร่าง เธอหลงเสน่ห์ความสูงส่งและงดงามของเขาตอนนั้นแอนก็กระซิบบอกเธอว่า “นั่นคือหลานชายคนโตของตระกูลอาเรส ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองอิมพีเรียล เมื่อแองเจลีนคว้าเขามาได้ เธอก็ต้องอยู่อันดับหนึ่งของโลกในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย”เซร่ากำหมัดแน่นอย